ชื่อบท ของหนังสือ สัจธรรมแห่งจักรวาล
“ชีวพุทธ” กฎแห่งกรรมทำงานผ่านพันธุกรรม และวิบากกรรม โดยวิบากกรรมได้รับอิทธิพลจากจิตและเจตสิก ส่วนพันธุกรรมเกิดจากยีนและดีเอ็นเอ ซึ่งสัมพันธ์กับลักษณะของตัวจิตเองที่เลือกมาปฏิสนธิในพันธุกรรมแบบนั้น
“ธรรมะเคมี” ถ้าเทียบจิตเดิมแท้เป็นน้ำใสบริสุทธิ์ จิตของมนุษย์แต่ละคนมีสิ่งที่ตกตะกอนอยู่มากมาย เช่นน้ำที่มีเกลือนอนก้นอยู่ ถ้าจิตกระเพื่อมหรือน้ำถูกเขย่าก็จะทำให้เกลือละลายเข้าและเปลี่ยนคุณสมบัติของน้ำทันที พระพุทธองค์ทรงพบว่าสิ่งที่ตกตะกอนนอนก้นในจิตของมนุษย์มีอยู่ทั้งหมด 52 ชนิด
“สัจธรรมฟิสิกส์” ตราบใดที่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่า ความรัก โลภ ตระหนี่ อิจฉาริษยา ความเมตตา ฯลฯ เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งๆที่เห็นกันอยู่ทุกวัน ก็คงอีกห่างไกลกว่าวิทยาศาสตร์จะเข้าใจในเรื่องชาติ ภพที่มองไม่เห็น
“คณิตจิตวิญญาณ” ถ้าสมมติว่า x คือ มโนกรรม y คือวจีกรรม และ z คือกายกรรม ถ้าผลที่ออกมาคือ xู^2 +2y +3xz^3 =วิบาก ปัญญาในระดับที่จะถอดสมการกรรมได้ว่าเหตุแห่ง x ,y,z คืออะไร ต้องเป็น ภาวนามยปัญญาเท่านั้น
“พุทธเศรษฐศาสตร์” พุทธศาสนายอมรับว่าไม่มีทางทำให้ทุกคนเท่ากันได้ เพราะแต่ละคนก็มีวิบากกรรม อนุสัยกิเลส อุปนิสัย ความคิด ความรู้สึกแตกต่างกันตามแต่กรรมเก่าที่สร้างสมมา ดังนั้นพุทธศาสนาจึงไม่ต่อต้านทุนนิยม แต่ปรารถนาให้ประชาชนลดกิเลส ตัณหา การแย่งชิงลง รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีเมตตากรุณากับคนที่ด้อยโอกาสกว่า
”ธรรมะรัฐศาสตร์” คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ปกครอง คือความรักประชาชน ความรักช่วยสกัดการทำงานของอกุศลเจตสิก นักการเมืองที่รักประชาชนย่อมมี อิทธิบาท 4 พรหมวิหาร 4 สังควัตถุ 4 หิริโอตัปปะ ฯลฯ ตามมาโดยอัตโนมัติ
นอกจากนั้น ยังมีบท นิติธรรม ธรรมะศึกษาศาสตร์ ฯลฯ เป็นการนำศาสตร์ต่างๆมาอธิบายพุทธศาสนา ในมุมมองที่บางคนเรียกว่า จับแพะชนแกะ
ชีวพุทธ สัจธรรมฟิสิกส์ คณิตจิตวิญญาณ ธรรมะเคมี
“ชีวพุทธ” กฎแห่งกรรมทำงานผ่านพันธุกรรม และวิบากกรรม โดยวิบากกรรมได้รับอิทธิพลจากจิตและเจตสิก ส่วนพันธุกรรมเกิดจากยีนและดีเอ็นเอ ซึ่งสัมพันธ์กับลักษณะของตัวจิตเองที่เลือกมาปฏิสนธิในพันธุกรรมแบบนั้น
“ธรรมะเคมี” ถ้าเทียบจิตเดิมแท้เป็นน้ำใสบริสุทธิ์ จิตของมนุษย์แต่ละคนมีสิ่งที่ตกตะกอนอยู่มากมาย เช่นน้ำที่มีเกลือนอนก้นอยู่ ถ้าจิตกระเพื่อมหรือน้ำถูกเขย่าก็จะทำให้เกลือละลายเข้าและเปลี่ยนคุณสมบัติของน้ำทันที พระพุทธองค์ทรงพบว่าสิ่งที่ตกตะกอนนอนก้นในจิตของมนุษย์มีอยู่ทั้งหมด 52 ชนิด
“สัจธรรมฟิสิกส์” ตราบใดที่วิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่า ความรัก โลภ ตระหนี่ อิจฉาริษยา ความเมตตา ฯลฯ เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งๆที่เห็นกันอยู่ทุกวัน ก็คงอีกห่างไกลกว่าวิทยาศาสตร์จะเข้าใจในเรื่องชาติ ภพที่มองไม่เห็น
“คณิตจิตวิญญาณ” ถ้าสมมติว่า x คือ มโนกรรม y คือวจีกรรม และ z คือกายกรรม ถ้าผลที่ออกมาคือ xู^2 +2y +3xz^3 =วิบาก ปัญญาในระดับที่จะถอดสมการกรรมได้ว่าเหตุแห่ง x ,y,z คืออะไร ต้องเป็น ภาวนามยปัญญาเท่านั้น
“พุทธเศรษฐศาสตร์” พุทธศาสนายอมรับว่าไม่มีทางทำให้ทุกคนเท่ากันได้ เพราะแต่ละคนก็มีวิบากกรรม อนุสัยกิเลส อุปนิสัย ความคิด ความรู้สึกแตกต่างกันตามแต่กรรมเก่าที่สร้างสมมา ดังนั้นพุทธศาสนาจึงไม่ต่อต้านทุนนิยม แต่ปรารถนาให้ประชาชนลดกิเลส ตัณหา การแย่งชิงลง รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีเมตตากรุณากับคนที่ด้อยโอกาสกว่า
”ธรรมะรัฐศาสตร์” คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ปกครอง คือความรักประชาชน ความรักช่วยสกัดการทำงานของอกุศลเจตสิก นักการเมืองที่รักประชาชนย่อมมี อิทธิบาท 4 พรหมวิหาร 4 สังควัตถุ 4 หิริโอตัปปะ ฯลฯ ตามมาโดยอัตโนมัติ
นอกจากนั้น ยังมีบท นิติธรรม ธรรมะศึกษาศาสตร์ ฯลฯ เป็นการนำศาสตร์ต่างๆมาอธิบายพุทธศาสนา ในมุมมองที่บางคนเรียกว่า จับแพะชนแกะ