หลายๆท่านพอจะเข้าใจกับคำว่า "จิตอาสา" นะค่ะ
ส่วนตัวแล้วทำจิตอาสาโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนบ่อยนะค่ะ แต่เรื่องนี้สุดๆจริงๆ มาแชร์นะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้ทำโครงการกับเพื่อนๆที่มหาลัยอยู่ค่ะ เป็นโครงการต่อเนื่องมาปีนี้ปีที่3แล้วค่ะ
เราได้ไปสำรวจโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี โดยทำหนังสือไปและในวันสำรวจก็มีอาจารย์ไปด้วย
จุดประสงค์ของเราจริงๆเลย คือการไปสร้างสันทนาการให้น้องๆ นำสิ่งของที่บริจาคได้ไปให้น้องๆ และเครื่องเล่นส่วนหนึ่ง(ชิงช้า ม้าหมุน)
ซึ่งบอกเลยว่ากำลัง(เงิน)พวกเราไม่เยอะค่ะ ถือกล่องบ้างอะไรบ้าง ไปเพราะอยากไปกันจริงๆ
ในตอนแรกพวกเราคุยกับครูท่านหนึ่งที่สอนอยู่ที่โรงเรียนค่ะ ครูดีมากค่ะ(มีครูแค่สองคน)
แต่พอมาคุยกับผอ.โรงเรียน คำถามแรกเลยคือ
พวกเรามีเงินมาเท่าไร?? มาทำอะไรกันบ้าง?? บลาๆๆๆ
หงึเลยค่ะ พูดเลยว่า สภาพโรงเรียนช่างยากจน แตกต่างกับผอ.ที่เหมือนอาเสี่ย ใส่แหวนเพรช มีรถขับ ห้องทำงานที่โรงเรียนของผอ.ดีที่สุด ดีกว่าห้องเรียนของเด็กๆ มีแอร์
นั่นยังไม่ทำให้พวกเรายอมแพ้ค่ะ เพราะเราได้เจอกับน้องๆที่โรงเรียนและน้องๆดีใจกันมากค่ะที่พวกเราจะมากัน
แต่!!!!นั่นยังไม่พอค่ะ...เนื่องจากพวกเราเป็นปีสุดท้ายในรั้วมหาวิทยาลัย งานเยอะ เวลาไม่ค่อยมีไหนจะปั่นงาน สอบ ปัจฉิม กิจกรรม สมัครงาน บลาๆๆ
เราจึงเลื่อนวันไปในวันที่เราสะดวกกันทุกคนค่ะ เมื่อเราได้โทรไปแจ้งเลื่อนกับทางผอ. ผอ.บอกว่าจะมาทำอะไรกันไม่ให้ทำแล้ว ไม่ต้องมา หงึอีกรอบค่ะ
นี่เป็นสิ่งที่พวกเราคิดค่ะ.....
1. พวกเราเป็นแค่กลุ่มนศ.กลุ่มเล็กๆค่ะ เหมือนผอ.ไม่ได้หน้ามั้งค่ะ ไม่มีการประกาศ ออกทีวี มีแค่แชร์กันทางเฟสบุคเท่านั้น
2.จับสังเกตได้ว่าเราไปโดยไม่ได้ให้เป็นตัวเงินค่ะ แต่เป็นสิ่งของบริจาคและเครื่องเล่นให้กับเด็กๆมากกว่า(ซึ่งจริงๆแล้วแค่ค่าเครื่องเล่นในสนาม หากท่านใดเคยซื้อจะทราบดีว่าราคาแพงขนาดไหน)
สรุปสุดท้าย..พวกเราต้องหาโรงเรียนใหม่ค่ะ ซึ่งเสียใจมากค่ะ กับการพูดและตัดสินใจแบบนั้นของผอ.
น้องๆก็เจอกันแล้ว แต่คงไม่ได้ไปอีก สิ่งที่รับปากไว้กับน้องๆ พี่ต้องขอโทษด้วย พี่ๆมีศักยภาพแค่นี้ ไม่สามารถต่อรองอะไรได้มาก
//เข้าใจว่าในสังคม มีทั้งคนที่ดีและไม่ดีค่ะ แต่อยากฝากหากท่านทำงานเกี่ยวกับการศึกษาของเด็กๆเช่นนี้ เปิดโอกาสให้พวกเราเข้าไปทำกิจกรรมให้กับน้องๆเถอะค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้มากด้วยแรงคน แรงทรัพย์ แต่พวกเราไปด้วยใจนะคะ..ขอบคุณที่อ่านจบครับบบบ
จิตอาสาต้องถอย เมื่อเจอกับผอ.โรงเรียนแบบนี้
ส่วนตัวแล้วทำจิตอาสาโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนบ่อยนะค่ะ แต่เรื่องนี้สุดๆจริงๆ มาแชร์นะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้ทำโครงการกับเพื่อนๆที่มหาลัยอยู่ค่ะ เป็นโครงการต่อเนื่องมาปีนี้ปีที่3แล้วค่ะ
เราได้ไปสำรวจโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี โดยทำหนังสือไปและในวันสำรวจก็มีอาจารย์ไปด้วย
จุดประสงค์ของเราจริงๆเลย คือการไปสร้างสันทนาการให้น้องๆ นำสิ่งของที่บริจาคได้ไปให้น้องๆ และเครื่องเล่นส่วนหนึ่ง(ชิงช้า ม้าหมุน)
ซึ่งบอกเลยว่ากำลัง(เงิน)พวกเราไม่เยอะค่ะ ถือกล่องบ้างอะไรบ้าง ไปเพราะอยากไปกันจริงๆ
ในตอนแรกพวกเราคุยกับครูท่านหนึ่งที่สอนอยู่ที่โรงเรียนค่ะ ครูดีมากค่ะ(มีครูแค่สองคน)
แต่พอมาคุยกับผอ.โรงเรียน คำถามแรกเลยคือ พวกเรามีเงินมาเท่าไร?? มาทำอะไรกันบ้าง?? บลาๆๆๆ
หงึเลยค่ะ พูดเลยว่า สภาพโรงเรียนช่างยากจน แตกต่างกับผอ.ที่เหมือนอาเสี่ย ใส่แหวนเพรช มีรถขับ ห้องทำงานที่โรงเรียนของผอ.ดีที่สุด ดีกว่าห้องเรียนของเด็กๆ มีแอร์
นั่นยังไม่ทำให้พวกเรายอมแพ้ค่ะ เพราะเราได้เจอกับน้องๆที่โรงเรียนและน้องๆดีใจกันมากค่ะที่พวกเราจะมากัน
แต่!!!!นั่นยังไม่พอค่ะ...เนื่องจากพวกเราเป็นปีสุดท้ายในรั้วมหาวิทยาลัย งานเยอะ เวลาไม่ค่อยมีไหนจะปั่นงาน สอบ ปัจฉิม กิจกรรม สมัครงาน บลาๆๆ
เราจึงเลื่อนวันไปในวันที่เราสะดวกกันทุกคนค่ะ เมื่อเราได้โทรไปแจ้งเลื่อนกับทางผอ. ผอ.บอกว่าจะมาทำอะไรกันไม่ให้ทำแล้ว ไม่ต้องมา หงึอีกรอบค่ะ
นี่เป็นสิ่งที่พวกเราคิดค่ะ.....
1. พวกเราเป็นแค่กลุ่มนศ.กลุ่มเล็กๆค่ะ เหมือนผอ.ไม่ได้หน้ามั้งค่ะ ไม่มีการประกาศ ออกทีวี มีแค่แชร์กันทางเฟสบุคเท่านั้น
2.จับสังเกตได้ว่าเราไปโดยไม่ได้ให้เป็นตัวเงินค่ะ แต่เป็นสิ่งของบริจาคและเครื่องเล่นให้กับเด็กๆมากกว่า(ซึ่งจริงๆแล้วแค่ค่าเครื่องเล่นในสนาม หากท่านใดเคยซื้อจะทราบดีว่าราคาแพงขนาดไหน)
สรุปสุดท้าย..พวกเราต้องหาโรงเรียนใหม่ค่ะ ซึ่งเสียใจมากค่ะ กับการพูดและตัดสินใจแบบนั้นของผอ.
น้องๆก็เจอกันแล้ว แต่คงไม่ได้ไปอีก สิ่งที่รับปากไว้กับน้องๆ พี่ต้องขอโทษด้วย พี่ๆมีศักยภาพแค่นี้ ไม่สามารถต่อรองอะไรได้มาก
//เข้าใจว่าในสังคม มีทั้งคนที่ดีและไม่ดีค่ะ แต่อยากฝากหากท่านทำงานเกี่ยวกับการศึกษาของเด็กๆเช่นนี้ เปิดโอกาสให้พวกเราเข้าไปทำกิจกรรมให้กับน้องๆเถอะค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้มากด้วยแรงคน แรงทรัพย์ แต่พวกเราไปด้วยใจนะคะ..ขอบคุณที่อ่านจบครับบบบ