อ่านจากเว็บข่าวหนังสือพิมพ์ฝรั่งมาก็น่าสนใจดีครับ และกระทบกับแผนการวางตารางฟุตบอลทั่วโลกแน่นอน แผนการนี้ของพลาตินี่คือการรวบเกมกระชับมิตร เกมคัดเลือกฟุตบอลระดับทวีปและฟุตบอลโลกเข้ามาเป็นทัวร์นาเมนต์สั้นๆ เตะแบบต่อเนื่องกันทีเดียว 6 - 8 เกมในช่วงเวลา 2 เดือน หนึ่งครั้งในช่วงกลางปี (มิถุนายน-กรกฎาคม) และอีกหนึ่งครั้งในช่วงปลายปี (ธันวาคม-มกราคม) ใน 2 รูปแบบ
สำหรับ UEFA Nations Cup ทีมในยุโรปทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 3 Division Division ละ 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม เตะแบบเหย้า-เยือนทั้งหมด 6 นัด แชมป์ของ 4 กลุ่มใน Division I จะไปเจอกันในรอบ 4 ทีมสุดท้ายในสนามเป็นกลางเพื่อหาทีมแชมป์ต่อไป ส่วนทีมในอันดับสุดท้ายของทุกกลุ่มจะถูกแทนที่ด้วยแชมป์ของ 4 กลุ่มใน Division II และเช่นเดียวกันกับระหว่าง Division II และ III นั่นคือฟุตบอลระดับชาติจะมีการขึ้นชั้นและตกชั้นเหมือนระบบลีกครับ และโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลทีมชาติจะถูกแพ็กอัดกันเข้ามาในช่วงเดียว บังคับให้ลีกต้องหยุดโดยอัตโนมัติ ลีกไหนที่มีโปรแกรมช่วงเบรกหนีหนาวยาวๆ แบบเยอรมัน สเปนอยู่แล้วก็สบายไป หรือลีกไหนที่ปกติไม่ได้เตะช่วงนั้นอยู่แล้ว (เช่นลีกสแกนดิเนเวีย) ก็สบายไป แต่ลีกที่ปกติไม่ได้หยุดอยู่แล้ว เช่นอังกฤษ โดนแน่นอนครับ Boxing Day เลิก เตะปีใหม่ เลิก ไม่มีแล้วครับ ไปเตะทีมชาติกันให้หมด อ้อ ไม่ใช่แค่เตะกระชับมิตรกันเปล่าๆ นะครับ มีโควต้า European Championship เป็นรางวัลให้ด้วย (นั่นคือยุบรอบคัดเลือกยูโร/บอลโลกไปเลย) ส่วนวิธีการเดี๋ยวทั่นพลาตินี่จะไปคิดมาให้อีกทีครับ
และด้วยเหตุผลนั้น จะทำให้เกิด Uniform FIFA Calendar ขึ้น ทุกลีกทั่วโลกจะต้องใช้โปรแกรมแบบเดียวกันทั้งโลก นั่นคือเตะกัน 2 ช่วง ช่วงหนึ่งคือช่วงต้นปี กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม และช่วงปลายปี สิงหาคม - พฤศจิกายน (แต่ลีกไหนจะเปิดต้นปิดปลายสไตล์เอเชีย/อเมริกา หรือเปิดปลายปิดต้นสไตล์ยุโรป/แอฟริกา ก็แล้วแต่จะเลือกกันเองในแต่ละสหพันธ์ระดับทวีป) และช่วงปิดลีกนั้นจะเป็นช่วงเตะกระชับมิตร/คัดเลือกบอลโลก/บอลระดับทวีปแบบต่อเนื่องทีเดียว 6 นัด 8 นัด กันไปเลย หมายความว่าทีมชาติก็จะไม่ต้องเสียเวลารวมทีมกัน 3 วัน 5 วัน แล้วมาเตะ 1-2 นัด ไม่มีโปรแกรมทีมชาติแทรกกลางระหว่างบอลลีกแบบเป็นหย่อมๆ อีกแล้ว แต่ว่าจะรวมทีมกันแล้วใช้ทีเดียวเป็นเดือนเลย และอาจจะมีกติกาเรื่องของการส่งชื่อคล้ายๆ กับบอลทัวร์นาเมนต์ นั่นคือส่งได้ทีเดียว 23 คนใน 1 ช่วงเวลา จะเจ็บหรือแบนก็ต้องใช้เท่าที่มีอยู่ใน 23 คนนี้ จะเปลี่ยนตัวคัดออกหรืออะไรไม่ได้แล้ว ส่วนปีที่มีบอลโลก หรือบอลระดับทวีป ก็ตามเดิมตามปกติครับ ทีมที่ไม่ได้เล่นก็นอนอยู่บ้าน หรืออยากกระชับมิตรก็แล้วแต่ท่าน
ดังนั้น ถ้าทีมชาติไหนทะลึ่งไปเตะบอลลีกในช่วงเวลา FIFA Days ก็จะตกขบวนไม่ได้เตะกระชับมิตร/คัดเลือกทีมชาติกับเขาเลยทีเดียว 6 - 8 เกม เป็นการบีบคอสมาคมฟุตบอลของทุกประเทศให้ต้องมาเล่น เพราะถ้าขาดเว้นไปเกมเดียว ก็จะหายไปหมดเลย ตายแน่นอนครับ ดีสำหรับประเทศที่การจัดการห่วยแตกอย่างบางประเทศที่ต้องให้ฟีฟ่าเขามาบีบคอให้เล่นกันแบบนี้ เนาะ
อ้อ นโยบายนี้จะเริ่มใช้หลังบอลโลก 2018 นะครับ มีเสียงร่ำลือว่าทั่นพลาตินี่ออกนโยบายนี้มาเพื่อให้สามารถจัดบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ในช่วงปลายปี-ต้นปี แทนที่จะเป็นช่วงกลางปีเหมือนอดีตที่ผ่านมาได้ ส่วนทั่นพลาตินี่จะทำด้วยความปรารถนาดีหรือเพราะได้รับบางสิ่งบางอย่างมาเหมือนสมาคมบางประเทศ อันนี้ไม่ทราบครับ ไปถามกันเอาเอง
Cr.
http://www.dailymail.co.uk/sport/article-2589313/Platinis-secret-plan-alienate-England-faithful-plot-change-way-YOU-watch-football-doesnt-care.html
สุดยอดนวัตกรรมฟุตบอลจากทั่นพลาตินี่ UEFA Nations Cup + Uniform FIFA Calendar
สำหรับ UEFA Nations Cup ทีมในยุโรปทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็น 3 Division Division ละ 4 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม เตะแบบเหย้า-เยือนทั้งหมด 6 นัด แชมป์ของ 4 กลุ่มใน Division I จะไปเจอกันในรอบ 4 ทีมสุดท้ายในสนามเป็นกลางเพื่อหาทีมแชมป์ต่อไป ส่วนทีมในอันดับสุดท้ายของทุกกลุ่มจะถูกแทนที่ด้วยแชมป์ของ 4 กลุ่มใน Division II และเช่นเดียวกันกับระหว่าง Division II และ III นั่นคือฟุตบอลระดับชาติจะมีการขึ้นชั้นและตกชั้นเหมือนระบบลีกครับ และโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลทีมชาติจะถูกแพ็กอัดกันเข้ามาในช่วงเดียว บังคับให้ลีกต้องหยุดโดยอัตโนมัติ ลีกไหนที่มีโปรแกรมช่วงเบรกหนีหนาวยาวๆ แบบเยอรมัน สเปนอยู่แล้วก็สบายไป หรือลีกไหนที่ปกติไม่ได้เตะช่วงนั้นอยู่แล้ว (เช่นลีกสแกนดิเนเวีย) ก็สบายไป แต่ลีกที่ปกติไม่ได้หยุดอยู่แล้ว เช่นอังกฤษ โดนแน่นอนครับ Boxing Day เลิก เตะปีใหม่ เลิก ไม่มีแล้วครับ ไปเตะทีมชาติกันให้หมด อ้อ ไม่ใช่แค่เตะกระชับมิตรกันเปล่าๆ นะครับ มีโควต้า European Championship เป็นรางวัลให้ด้วย (นั่นคือยุบรอบคัดเลือกยูโร/บอลโลกไปเลย) ส่วนวิธีการเดี๋ยวทั่นพลาตินี่จะไปคิดมาให้อีกทีครับ
และด้วยเหตุผลนั้น จะทำให้เกิด Uniform FIFA Calendar ขึ้น ทุกลีกทั่วโลกจะต้องใช้โปรแกรมแบบเดียวกันทั้งโลก นั่นคือเตะกัน 2 ช่วง ช่วงหนึ่งคือช่วงต้นปี กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม และช่วงปลายปี สิงหาคม - พฤศจิกายน (แต่ลีกไหนจะเปิดต้นปิดปลายสไตล์เอเชีย/อเมริกา หรือเปิดปลายปิดต้นสไตล์ยุโรป/แอฟริกา ก็แล้วแต่จะเลือกกันเองในแต่ละสหพันธ์ระดับทวีป) และช่วงปิดลีกนั้นจะเป็นช่วงเตะกระชับมิตร/คัดเลือกบอลโลก/บอลระดับทวีปแบบต่อเนื่องทีเดียว 6 นัด 8 นัด กันไปเลย หมายความว่าทีมชาติก็จะไม่ต้องเสียเวลารวมทีมกัน 3 วัน 5 วัน แล้วมาเตะ 1-2 นัด ไม่มีโปรแกรมทีมชาติแทรกกลางระหว่างบอลลีกแบบเป็นหย่อมๆ อีกแล้ว แต่ว่าจะรวมทีมกันแล้วใช้ทีเดียวเป็นเดือนเลย และอาจจะมีกติกาเรื่องของการส่งชื่อคล้ายๆ กับบอลทัวร์นาเมนต์ นั่นคือส่งได้ทีเดียว 23 คนใน 1 ช่วงเวลา จะเจ็บหรือแบนก็ต้องใช้เท่าที่มีอยู่ใน 23 คนนี้ จะเปลี่ยนตัวคัดออกหรืออะไรไม่ได้แล้ว ส่วนปีที่มีบอลโลก หรือบอลระดับทวีป ก็ตามเดิมตามปกติครับ ทีมที่ไม่ได้เล่นก็นอนอยู่บ้าน หรืออยากกระชับมิตรก็แล้วแต่ท่าน
ดังนั้น ถ้าทีมชาติไหนทะลึ่งไปเตะบอลลีกในช่วงเวลา FIFA Days ก็จะตกขบวนไม่ได้เตะกระชับมิตร/คัดเลือกทีมชาติกับเขาเลยทีเดียว 6 - 8 เกม เป็นการบีบคอสมาคมฟุตบอลของทุกประเทศให้ต้องมาเล่น เพราะถ้าขาดเว้นไปเกมเดียว ก็จะหายไปหมดเลย ตายแน่นอนครับ ดีสำหรับประเทศที่การจัดการห่วยแตกอย่างบางประเทศที่ต้องให้ฟีฟ่าเขามาบีบคอให้เล่นกันแบบนี้ เนาะ
อ้อ นโยบายนี้จะเริ่มใช้หลังบอลโลก 2018 นะครับ มีเสียงร่ำลือว่าทั่นพลาตินี่ออกนโยบายนี้มาเพื่อให้สามารถจัดบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ในช่วงปลายปี-ต้นปี แทนที่จะเป็นช่วงกลางปีเหมือนอดีตที่ผ่านมาได้ ส่วนทั่นพลาตินี่จะทำด้วยความปรารถนาดีหรือเพราะได้รับบางสิ่งบางอย่างมาเหมือนสมาคมบางประเทศ อันนี้ไม่ทราบครับ ไปถามกันเอาเอง
Cr. http://www.dailymail.co.uk/sport/article-2589313/Platinis-secret-plan-alienate-England-faithful-plot-change-way-YOU-watch-football-doesnt-care.html