กระดังงาลนไฟ
ถึงเธอจะผ่านผู้ชายร้อยคน ฉันก็จะทนรักษาหัวใจเธอ
บทนำ ความเสียใจที่ไม่อาจลืมเลือน
แม้สามีของ 'กินรี' จะเสียชีวิตไปได้เกือบหกเดือนแล้ว แต่เธอก็ยังไม่หยุดอาลัยอาวรณ์หาชายผู้ที่เคยเป็นที่รัก ถึงแม้แม่สามีจะพยายามปลอบใจเธอและบอกกับเธอเสมอว่าให้เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่าจมปรักอยู่กับสิ่งเดิมๆก็ไม่ได้ผล เธอยังคงละเมอเหม่อหา 'ชาติชาย' อยู่ตลอดเวลา จนทุกคนต้องพาเธอไปตรวจสุขภาพกายและจิตใจอยู่หลายต่อหลายครั้ง
"เป็นยังไงบ้างลูก สบายใจขึ้นรึยัง ถ้ายังไม่ดีขึ้นแม่จะให้ตาหมายพาเราไปสปาอบสมุนไพร ไปอบหน้า อบผิวให้สบายตัว แม่รับรองนะว่ารินจะต้องประทับใจแน่นอน" คำพูดของ 'คุณหญิงนวลแจ่ม' แม่ของกินรี เอยถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับเสนอแนะในสิ่งที่จะทำให้ลูกสาวมีความสุข
"หนูรู้สึกดีขึ้นแล้วละคะคุณแม่ แค่หนูได้มาทำบุญอุทิตส่วนกุศลให้กับชายหนูก็มีความสุขแล้วแหละคะ แต่ถ้าคุณแม่อยากไปทำสปาเดี่ยวหนูจะไปเป็นเพื่อนก็ได้" กินรีตอบรับแม่แต่ดูเหมือนว่าเธอยังไม่อยากไปทำสปาในเวลาอย่างนี้ เวลาที่เธอจะไปเยี่ยมชาติชาย
"แม่ยอมรับก็ได้ว่าแม่อยากไปทำสปา แล้วทำไมหนูถึงไม่อยากทำละลูก มันจะได้เป็นการผ่อนคลายร่ายกายแล้วก็จิตใจเราไปด้วยไงลูก" คุณหญิงนวลแจ่มยอมรับความจริงทั้งๆที่เธอเป็นคนไม่ยอมคนแต่นี้ก็คือลูกสาวที่กำลังช้ำใจอย่างหนัก จากความรักที่ผ่านมา แต่เธอยังไม่หยุดแค่นั้น เธอพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวสุดที่รักไปทำสปาด้วยกันแต่นั้นก็ไม่ได้ผล
"หนูรู้ค่ะว่ามันทำให้ผ่อนคลาย แต่ในเวลานี้หนูอยากไปเยี่ยมชาติชายมากกว่า ถ้าคุณแม่อยากทำจริงๆ คุณแม่ก็ไปทำก่อนก็ได้เดี่ยวหนูจะตามไปที่หลัง"
"หนูอยากไปเยี่ยมตาชาติก็ไม่บอกแม่ แต่แม่ขอบายนะ เพราะแม่รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยากไปลงอ่างสปาให้สบาย ถ้าหนูเยี่ยมตาชาติเสร็จแล้วรีบตามแม่ไปเลยนะ เดี่ยวแม่จะรออยู่ที่ร้านประจำของเรา"
"ได้ค่ะ งั้นคุณแม่ไปรอที่ร้านก่อนเลยนะค่ะ แล้วหนูจะรีบตามไป"
"จ๊า แล้วรีบตาแม่มานะ" คุณหญิงนวลแจ่มลาลูกสาว แล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถที่จอดเตรียมไว้
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
กินรีเดินก้มหน้าถือกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรูตรงไปยังโกศใส่กระดูกที่ตั้งเรียงรายกันเป็นแถว เธอเดินตรงไปยังโกศลายหินอ่อนที่มีดอกไม้แห้งวางไว้ หน้าโกศติดรูปและชื่อของชาติชายไว้ หญิงสาวนั่งคุกเข่าลงมือยื่นไปจับที่โกศแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"ฉันมาหาคุณแล้วนะชาย ฉันคิดถึงคุณเหลือเกิน ฉันอยากจะตายตามคุณไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ฉันก็ทำไม่ได้ เพราะฉันยังมีแม่
ที่ต้องดูแล มีน้องที่ต้องห่วงใย แล้วก็ยังมีบริษัทที่คุณพ่อที่ทิ้งไว้ ทำไม่คุณไม่อยู่กับฉัน ทำไมคุณต้องจากไปเร็วอย่างนี้ คุณรู้มั้ย ว่าฉันคิดถึงคุณมากแค่ไหน" กินรีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาไหลอาบลงตรงแก้มของเธอ
เธอรู้ว่าถึงแม้เธอจะพูดยังไงชาติชายก็ไม่มีวันที่จะตื่นฟื้นขึ้นมาจากความตายได้ เธอจึงยิบดอกกระดังงา ดอกไม้ที่ชาติชายชอบและเค้าก็ให้มันเป็นสัญลักษณ์แทนกินรี เธอหยิบมันขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วเอามาดมก่อนจะวางลงไว้ที่หน้าโกศของชาติชาย
......................................................
*สวัสดีครับวันนี้ผมมาลงนิยายเรื่องใหม่ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
ผมชื่อโอมนะครับ ติชมได้นะครับจะได้เอาไปปรับปรุงในเรื่องต่อไป
นามปากกา ฟ้ากระจ่าง นะครับ
กระดังงาลนไฟ บทนำ ความเสียใจที่ไม่อาจลืมเลือน
แม้สามีของ 'กินรี' จะเสียชีวิตไปได้เกือบหกเดือนแล้ว แต่เธอก็ยังไม่หยุดอาลัยอาวรณ์หาชายผู้ที่เคยเป็นที่รัก ถึงแม้แม่สามีจะพยายามปลอบใจเธอและบอกกับเธอเสมอว่าให้เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่าจมปรักอยู่กับสิ่งเดิมๆก็ไม่ได้ผล เธอยังคงละเมอเหม่อหา 'ชาติชาย' อยู่ตลอดเวลา จนทุกคนต้องพาเธอไปตรวจสุขภาพกายและจิตใจอยู่หลายต่อหลายครั้ง
"เป็นยังไงบ้างลูก สบายใจขึ้นรึยัง ถ้ายังไม่ดีขึ้นแม่จะให้ตาหมายพาเราไปสปาอบสมุนไพร ไปอบหน้า อบผิวให้สบายตัว แม่รับรองนะว่ารินจะต้องประทับใจแน่นอน" คำพูดของ 'คุณหญิงนวลแจ่ม' แม่ของกินรี เอยถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับเสนอแนะในสิ่งที่จะทำให้ลูกสาวมีความสุข
"หนูรู้สึกดีขึ้นแล้วละคะคุณแม่ แค่หนูได้มาทำบุญอุทิตส่วนกุศลให้กับชายหนูก็มีความสุขแล้วแหละคะ แต่ถ้าคุณแม่อยากไปทำสปาเดี่ยวหนูจะไปเป็นเพื่อนก็ได้" กินรีตอบรับแม่แต่ดูเหมือนว่าเธอยังไม่อยากไปทำสปาในเวลาอย่างนี้ เวลาที่เธอจะไปเยี่ยมชาติชาย
"แม่ยอมรับก็ได้ว่าแม่อยากไปทำสปา แล้วทำไมหนูถึงไม่อยากทำละลูก มันจะได้เป็นการผ่อนคลายร่ายกายแล้วก็จิตใจเราไปด้วยไงลูก" คุณหญิงนวลแจ่มยอมรับความจริงทั้งๆที่เธอเป็นคนไม่ยอมคนแต่นี้ก็คือลูกสาวที่กำลังช้ำใจอย่างหนัก จากความรักที่ผ่านมา แต่เธอยังไม่หยุดแค่นั้น เธอพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวสุดที่รักไปทำสปาด้วยกันแต่นั้นก็ไม่ได้ผล
"หนูรู้ค่ะว่ามันทำให้ผ่อนคลาย แต่ในเวลานี้หนูอยากไปเยี่ยมชาติชายมากกว่า ถ้าคุณแม่อยากทำจริงๆ คุณแม่ก็ไปทำก่อนก็ได้เดี่ยวหนูจะตามไปที่หลัง"
"หนูอยากไปเยี่ยมตาชาติก็ไม่บอกแม่ แต่แม่ขอบายนะ เพราะแม่รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอยากไปลงอ่างสปาให้สบาย ถ้าหนูเยี่ยมตาชาติเสร็จแล้วรีบตามแม่ไปเลยนะ เดี่ยวแม่จะรออยู่ที่ร้านประจำของเรา"
"ได้ค่ะ งั้นคุณแม่ไปรอที่ร้านก่อนเลยนะค่ะ แล้วหนูจะรีบตามไป"
"จ๊า แล้วรีบตาแม่มานะ" คุณหญิงนวลแจ่มลาลูกสาว แล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถที่จอดเตรียมไว้
กินรีเดินก้มหน้าถือกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรูตรงไปยังโกศใส่กระดูกที่ตั้งเรียงรายกันเป็นแถว เธอเดินตรงไปยังโกศลายหินอ่อนที่มีดอกไม้แห้งวางไว้ หน้าโกศติดรูปและชื่อของชาติชายไว้ หญิงสาวนั่งคุกเข่าลงมือยื่นไปจับที่โกศแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"ฉันมาหาคุณแล้วนะชาย ฉันคิดถึงคุณเหลือเกิน ฉันอยากจะตายตามคุณไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ฉันก็ทำไม่ได้ เพราะฉันยังมีแม่
ที่ต้องดูแล มีน้องที่ต้องห่วงใย แล้วก็ยังมีบริษัทที่คุณพ่อที่ทิ้งไว้ ทำไม่คุณไม่อยู่กับฉัน ทำไมคุณต้องจากไปเร็วอย่างนี้ คุณรู้มั้ย ว่าฉันคิดถึงคุณมากแค่ไหน" กินรีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาไหลอาบลงตรงแก้มของเธอ
เธอรู้ว่าถึงแม้เธอจะพูดยังไงชาติชายก็ไม่มีวันที่จะตื่นฟื้นขึ้นมาจากความตายได้ เธอจึงยิบดอกกระดังงา ดอกไม้ที่ชาติชายชอบและเค้าก็ให้มันเป็นสัญลักษณ์แทนกินรี เธอหยิบมันขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วเอามาดมก่อนจะวางลงไว้ที่หน้าโกศของชาติชาย
*สวัสดีครับวันนี้ผมมาลงนิยายเรื่องใหม่ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
ผมชื่อโอมนะครับ ติชมได้นะครับจะได้เอาไปปรับปรุงในเรื่องต่อไป
นามปากกา ฟ้ากระจ่าง นะครับ