เล่ม 1
เล่ม 2
บทนำ
บทที่
1 2 3 4 5 6 7
เห็นยอดขายแผ่นอนิเมแล้วหมดแรงเล็กๆ แต่ก็เข้าใจได้อยู่ เพราะเทียบกับภาคแรกแล้วสนุกน้อยกว่าจริงๆ
(รอดูตอนสุดท้ายซิว่าจะช่วยอะไรได้มั้ย

)
ต่อกันเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ 8 อย่าหวังเรื่องรัก
恋願うな
หมายความว่าไงกันล่ะเนี่ย…..?
ทำไมมันถึงมาอยู่ในที่แบบนี้ได้กัน……?
ผมหันหลังกลับไป ……ถาม……ต้องถาม……ไม่ถามไม่ได้แล้ว
แล้วผมก็ถามออกไปด้วยเสียงที่สั่นเครือ
“เอ่อคือ กระเป๋านี่น่ะ…..มันอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรเหรอ……?”
“เอ๊ะ?”
ทั้ง 3 คนอุทานและหันมาทางผมพร้อมๆ กัน
แล้วคนที่ตอบคำถามของผมก็คือมิโยชิ
“ก็ตั้งแต่ก่อนหน้านี้นานแล้วล่ะมั้งนะ? พอมารอชินกะตรงนี้ก็เห็นมันอยู่ตรงนี้อยู่แล้วน่ะ จะว่าไป ก็ตั้งแต่ชั้นมาถึงที่นี่เมื่อ 30 นาทีก่อนมันก็อยู่ตรงนี้แล้วล่ะ ชั้นก็เลยคิดว่าคงเป็นของใครซักคนแล้วคนคนนั้นก็คงจะไปเข้าห้องน้ำก็เลยมาวางทิ้งไว้ตรงนี้ก่อน จนตอนนี้มันก็ยังอยู่ตรงนี้อยู่เลย”
“หมายความว่าตั้งแต่ก่อนหน้า 30 นาทีที่ว่านั่นอีกเหรอ……..?”
ริกกะน่ะกลับบ้านไปก่อนตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ…..?
ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องมันจะร้ายแรงเพิ่มขึ้นเข้าไปอีก ได้ยินเสียงหัวใจเต้นดังยิ่งกว่าเสียงรอบๆ ซะอีก
ยังไงก็ตาม นี่มันรู้สึกเหมือนเดจาวูเลย เพราะริกกะเองก็มีประวัติในเรื่องทำนองนี้อยู่เหมือนกัน ทั้งการที่จู่ๆ ก็หายตัวไปตอนที่ไปทริปกัน แล้วยังมีที่จู่ๆ ก็ไม่มาโรงเรียนแถมติดต่อไม่ได้นั่นอีกด้วย เป็นคนที่ชอบหายตัวไปแบบกะทันหัน
แต่ว่า–––
แต่ว่า แบบนี้มันแปลกชัดๆ เลย เหตุผลที่จะทิ้งแต่กระเป๋าไว้แล้วเจ้าตัวก็หายไปแบบนี้น่ะ–––ไม่มีเลย
“เดี๋ยวสิ นี่มันหมายความว่ายังไงกันงั้นเหรอ?”
นิบุทานิพูดขึ้นมา
ทำยังไงดี? จะพูดออกไปดีมั้ย?
ไม่สิ บางทีผมอาจจะด่วนสรุปไปเองก็ได้ นิบุทานิยิ่งชอบเป็นห่วงคนอื่นอยู่ด้วย แถมไม่ควรทำให้ซาสะกับมิโยชิต้องพลอยเป็นห่วงไปด้วยน่าจะดีกว่า
ไม่ต้องพูดไป……น่าจะดีกว่า
“เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ เมื่อ 30 นาทีก่อนเหรอ มีความเป็นไปได้สูงนะที่จะถูกลืมทิ้งไว้นะเนี่ย งั้นเดี๋ยวชั้นเอาไปไว้ที่ห้องพักครูซักหน่อยละกัน”
“อื๋อ? อ๊ะ นั่นสินะ งั้นชั้นไปเองดีกว่ามั้ย? เพราะยังไงชั้นก็เป็นคนที่พบมันคนแรกนี่นา”
มิโยชิยื่นมือมาเหมือนกับจะบอกว่า ‘เอามาให้ชั้นก็ได้’
“ไม่เป็นไรน่า ชั้นเองก็ว่างอยู่แล้วด้วย นี่มันก็มืดแล้ว ทั้ง 3 คนรีบกลับบ้านกันจะดีกว่านะ งั้นก็ ไว้เจอกันนะ”
ผมพูดเสร็จ ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติ แล้วก็รีบหยิบกระเป๋าขึ้นมา พร้อมแยกกับทั้ง 3 คนมาทันที
เอาล่ะ ถึงจะยืนยันไม่ได้ 100% ก็เถอะ แต่ผมคงไม่มีเวลาไปเอ้อระเหยแน่ๆ
……นี่มันหมายความว่าไงกัน?
……หรือริกกะจะเล่นอะไรแผลงๆ อีก?
……หรือว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นกับริกกะ?
……ดูยังไงก็คิดได้แค่แบบนั้นเองไม่ใช่เหรอ….?
ไม่สิ เมื่อกี้ก็พึ่งจะบอกเองว่าด่วนสรุปไปหน่อยนี่นะ……
ก่อนอื่น ผมเลยรีบเดินไปทางอาคารเรียน เพราะตรงนั้นยังพอมีแสงไฟอยู่นิดหน่อย น่าจะพอช่วยให้มองเห็นว่าในกระเป๋ามีอะไรอยู่บ้าง อาจจะมีเบาะแสอะไรก็ได้
พอถึงตรงที่มีแสงไฟผมก็ลองตรวจดูในกระเป๋า มีมือถืออยู่ข้างในด้วย นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรพอจะเป็นเบาะแสได้เลย
บ้าจริง…..แบบนี้ไม่ใช่แค่รู้สึกไม่ดีแล้ว……
ดูยังไงก็ไม่รู้สึกว่าจะเป็นการหนีหายไป หรือไปตามหาโลกปีศาจอะไรแบบนั้นเลยซักนิด……
แบบนี้มัน–––
“นี่ นั่นน่ะ ของทาคานาชิซังงั้นเหรอ?”
เสียงที่ไม่คาดคิดดังมาจากข้างหลัง
นิบุทานินั่นเอง

“เอ๊ะ?......นี่ไม่ได้กลับไปแล้วหรอกเหรอ…..?”
“เฮ้อ เป็นเพราะ Gerzoni แท้ๆ พวกจินัตสึเลยเข้าใจผิดกันแบบแปลกๆ เลย พากันพูดว่า ‘เอ๋ นี่เธอชอบ Gerzoni งั้นเหรอ–?’ เลย แล้วนี่นายจะรับผิดชอบยังไง?” [Note: อ้างอิงจากเล่มแรก กับเล่มนี้บทแรกด้วย ผมคิดว่าแก๊งค์หน้าร้อน จินัตสึ กับ นัตสึโนะ ที่นิบุทานิพูดถึงก็คือซาสะกับมิโยชิล่ะมั้งครับ]
“ให้รับผิดชอบที่ว่านั่น…..ไม่สิ แล้วจะให้ทำไงกันล่ะ…..”
“ไม่ใช่แบบนั้นสิ อย่างนายน่ะต้องตอบกลับมาว่า ‘เฮ้ แล้วทำไมพวกนั้นถึงพากันเรียกว่า Gerzoni ด้วยล่ะ!?’ ไม่ใช่เหรอ? นายดูผิดปกติไปจริงๆ นั่นแหละ ส่วนเรื่องที่พวกนั้นเข้าใจผิดนั่น ชั้นก็ตอบกลับไปว่า ‘มะ ไม่ได้ชอบซักหน่อยนี่!’ แล้วพวกนั้นก็ตอบกลับมาว่า ‘ก็นั่นสินะ–’ เพราะงั้นไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้วล่ะ”
“ประโยคแบบพวกซึนเดเระกลับไม่ถูกมองว่าเป็นประโยคของพวกซึนเดเระเหรอเนี่ย!?”
“ดีล่ะ ในเมื่อสามารถตบมุกกลับมาได้แล้วก็แปลว่ากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว งั้นก็ ช่วยบอกให้ฟังได้มั้ยว่ามีอะไรเกิดขึ้นน่ะ?”
พอลองสังเกตดู ผมกลับมาใจเย็นลงได้โดยไม่คาดคิด ต้องขอบคุณนิบุทานิจริงๆ
หรือก็คือ นิบุทานิอาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ว่านี่มันเกี่ยวข้องกับริกกะงั้นเหรอ…..?
คิดว่าคงไม่ใช่เพราะความรู้สึกเป็นห่วงอะไรหรอก แต่ที่ความแตกออกมาแบบนี้นี่ เป็นเพราะเธอเห็นท่าทางผิดปกติของผมเองนี่แหละ เทียบไม่ติดเลยแฮะ ต้องยอมให้กับเธอเลยจริงๆ
“….ยังไงก็ ขอโทษด้วยนะ”
“ไม่เอาน่า อย่าขอโทษกันเลย นะ? ชั้นเองก็ชอบและรู้สึกสนุกที่ Gerzoni ชอบแสดงออกมาทางสีหน้ามากจนเกินไปเหมือนกัน แต่การที่มันมากเกินไปจนทำให้ความแตกง่ายๆ แบบนี้ก็ไม่ค่อยดีเท่าไรเลยนะ แล้ว เกิดอะไรขึ้นล่ะ?”
“…..ริกกะหายไปน่ะ”
“อีกแล้วเหรอ?”
นิบุทานิทำหน้ายุ่ง จากนั้น
“พอจะนึกอะไรออกบ้างรึเปล่า?”
ก็ถามมาที่ผม
สิ่งที่นึกออก
พูดถึงสิ่งที่นึกออกชัดๆ เลยก็คือเรื่องที่ทะเลาะกัน นอกจากนั้นแล้วก็นึกอะไรไม่ออกเลย
แต่ว่า ถ้าเป็นเพราะเรื่องที่ทะเลาะกันแล้วล่ะก็ ไม่น่าจะทิ้งกระเป๋าไว้ให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้นี่
แล้ว ถ้านี่ไม่ใช่เพราะตัวริกกะเองแล้ว จะเป็นอะไรไปได้อีก
ขณะที่คิดแบบนั้น อะไรบางอย่างก็ผ่านเข้ามาในหัว
อะไรนั่นก็คือ–––เรื่องตอนที่เราไปเดทกัน
จะว่าไปแล้ว–––ตอนนั้น ก็มีผู้ชายแปลกๆ มายุ่งกับริกกะนี่นา
“หรือว่า ผู้ชายเมื่อตอนนั้นงั้นเหรอ…..?”
“ผู้ชายเหรอ……? จะว่าไปแล้วเมื่อเช้านี้ นัตสึโนะก็มีพูดมาว่า ‘มีผู้ชายท่าทางแปลกๆ อยู่ที่หน้าโรงเรียนล่ะ–’ ด้วยน่ะนะ”
“ท่าทางเป็นแบบไหนเหรอ!?”
“อื๋อ? ก็ไม่ได้ฟังมาละเอียดอะไรหรอกนะ แต่เห็นว่าเหมือนท่าทางคนโรคจิตที่ใช้สายตาคอยสอดส่องแทะโลมสาวม.ปลายประมาณนั้นน่ะ ว่ากันว่าถ้าถูกมองด้วยสายตาแบบนั้นตั้งแต่เช้าแล้วล่ะก็จะทำให้รู้สึกแย่ไปเลยทั้งวันล่ะ”
…..เป็นไปได้
จริงสิ ตอนนั้นริกกะเองก็บอกนี่นะว่า–––บอกชื่อตัวเองกับชื่อโรงเรียนไปนี่ ก็แปลว่าคงมีเป้าหมายที่ริกกะ อาจจะซุ่มคอยอยู่หน้าโรงเรียนจนถึงตอนเลิกเรียนที่ไม่ค่อยมีคน แล้วก็ลักพาตัวไปก็เป็นได้
แบบนั้นดูจะสมเหตุผลที่สุด
คงจะคอยมองดูว่าริกกะอยู่ที่นี่จริงรึเปล่าในตอนเช้า แล้วก็ลงมือทำการในตอนหลังเลิกเรียนที่ไม่ค่อยมีคนเห็นยังงั้นสินะ ถ้างั้นแล้วกระเป๋านี่ล่ะ? คิดได้ว่าคงจะทำการอย่างเร่งรีบ เลยไม่ทันได้หยิบไปด้วย หรือไม่ก็ไม่มีเวลาที่จะหยิบไปด้วยก็เป็นได้
แล้วมีจุดประสงค์อะไรกัน? คิดหาแรงจูงใจที่ลักพาตัวไปไม่ออกเลย จริงอยู่ว่าตอนนั้นเจ้านั่นมันหมายตาริกกะเอาไว้ แต่นั่นจะเป็นสาเหตุให้ต้องลักพาตัวจริงเหรอ?
ไม่สิ เรื่องนั้นถ้าไม่ใช่ตัวคนร้ายเองคงไม่เข้าใจหรอก…. ถึงการนึกหาแรงจูงใจจะเป็นเรื่องสำคัญก็จริง แต่มันไม่ใช่สิ่งที่จะมาทำในเวลานี้ซะหน่อยนะ….
บ้าจริง…..ทำไมเราถึงต้องมาทะเลาะกันด้วยนะ……
ถ้าเราไม่ได้ทะเลาะกันละก็……เรื่องแบบนี้น่ะ…..
เป็นเพราะผม…..ริกกะก็เลย……
ผมรู้สึกสำนึกผิด เสียใจ รู้สึกเสียใจมากจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว…..
“นี่? ถึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้แต่ชั้นคิดว่า…..อาจเป็นการลักพาตัว…..รึเปล่า?”
“…..ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่า นั่นก็มีความเป็นไปได้อยู่”
“แบบนั้นมันแย่เลยไม่ใช่เหรอ!? สาเหตุล่ะ!?”
“นั่นก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถึงแม้จะไม่รู้เหตุผลก็จริง แต่ว่าเมื่อตอนที่ชั้นไปเที่ยวเล่นกับริกกะก็มีไปยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายท่าทางแปลกๆ อยู่ด้วย น่าจะเป็นผู้ชายเมื่อตอนนั้นนั่นแหละ เพราะหมอนั่นก็เคยหมายตาริกกะเอาไว้ด้วย”
“ดะ เดี๋ยวสิ! ถ้างั้นก็รีบติดต่อหาตำรวจซะเลยสิ!”
“นะ นั่นสินะ…...”
ความร้อนรน ความตื่นตระหนก เหมือนเรื่องพวกนั้นจะไม่อยู่ในหัวนิบุทานิเลยแม้แต่น้อย มีนิบุทานิอยู่ด้วยนี่ช่วยผมได้มากเลยจริงๆ
ถ้าเป็นผมตัวคนเดียวละก็ คงจะมัวแต่หัวปั่นจนทำอะไรไม่ได้เลยก็ได้
ผมรีบเอามือถือออกมา พยายามคุมนิ้วมือที่กำลังสั่นอยู่ กดหมายเลข 1 1 ลงไป
ขณะที่กำลังจะกดเลข 0 เป็นตัวสุดท้ายนั้น
มือถือก็สั่นขึ้นมา ถึงจะไม่มีเสียงริงโทนดัง แต่หน้าจอก็สว่างขึ้นมา แล้วก็มีหมายเลขที่ไม่รู้จักโชว์อยู่ที่หน้าจอ
…..จะรับดีมั้ย?
แต่ว่า จังหวะเวลามันดีเกินไปจนรู้สึกไม่ดีเอาเลย ถึงจะไม่อยากกดปุ่มรับก็จริง แต่ผมก็ตัดสินใจรับสายด้วยความหวาดหวั่น
(Chunibyou LN Vol 2) บทที่ 8 อย่าหวังเรื่องรัก
เล่ม 2
บทนำ
บทที่ 1 2 3 4 5 6 7
เห็นยอดขายแผ่นอนิเมแล้วหมดแรงเล็กๆ แต่ก็เข้าใจได้อยู่ เพราะเทียบกับภาคแรกแล้วสนุกน้อยกว่าจริงๆ
(รอดูตอนสุดท้ายซิว่าจะช่วยอะไรได้มั้ย
ต่อกันเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้