เล่ม 1
เล่ม 2
บทนำ
บทที่
1 2 3
้
ข้อดีของการตัดสินใจลงหลังอนิเมฉายคือ ศัพท์บางคำที่ไม่รู้จะแปลยังไงก็ได้รู้
ภาพที่จะเอามาใส่ก็มีให้เลือกจากอนิเม
ตอนนี้อยู่ในอนิเมตอนที่ 3 ซะส่วนใหญ่ครับ เกือบทั้งตอนเลยแหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทที่ 4 จูนิเบียว VS จูนิเบียว
中二病 VS 中二病
ชิชิมิยะ ซาโตเนะ เป็นเพื่อนของผมเมื่อตอนเรียนชั้นม. ต้น
ถ้าเอาให้เป๊ะเลยก็คือ เราเป็นเพื่อนกันเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ตั้งแต่เริ่มเรียนชั้นม.ต้นปี 1 จนถึงปี 2 เท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าใจในตัวผม และในทางกลับกัน ผมเองก็คิดว่าผมอาจจะเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าใจในตัวชิชิมิยะเหมือนกันก็ได้
ใช่แล้ว –––– เมื่อครั้งที่ผมยังเป็นจูนิเบียวเต็มขั้นอยู่นั้น ชิชิมิยะเองก็เป็นจูนิเบียวเหมือนกัน
พอมาคิดดูตอนนี้แล้ว จะบอกว่าการที่ผมกลายเป็นจูนิเบียวนั้นก็เพราะได้รับอิทธิพลมาจากชิชิมิยะมาเยอะก็คงได้ แล้วถึงส่วนนึงจะเป็นเพราะผมมีศักยภาพในตัวอยู่แล้วด้วย แต่ผมคงไม่อาจจะปลดปล่อยพลังเนตรมารออกมาได้ถ้าหากไม่ได้เจอกับชิชิมิยะ
ในตอนที่ผมเจอกับเธอนั้น ชิชิมิยะเธอเป็นจูนิเบียวอยู่ก่อนแล้ว เธอมักจะสวมผ้าคลุม แถมสะพายดาบปลอมเอาไว้ด้วย เป็นอะไรที่เท่สุดๆ ไปเลยล่ะ
ผมชื่นชมในตัวเธอมาก มากสุดๆ เลย
และแน่นอนว่า การที่ผมได้พูดคุย เป็นเพื่อนกับชิชิมิยะที่เป็นแบบนั้น ก็ได้ทำให้ผมกลายเป็นผู้ป่วยจูนิเบียวเนตรมารในที่สุด
เรื่องราวเกี่ยวกับ Dark Flame Master ของผมนั่น ที่จริงก็เป็นเรื่องที่รับเอาแนวคิดมาจากชิชิมิยะเหมือนกัน
แต่ก็นะ หลังจากนั้นก็มีเรื่องราวที่แต่งแยกย่อยออกมาอีกเยอะแยะเลย
นอกจากนั้นก็ยังมี สมุดโน้ตความมืด เรื่อง Gerzoniansas นั่นก็ด้วย ทั้งหมด เป็นเรื่องที่เราพูดคุยเพ้อเจ้อแต่งขึ้นมาด้วยกันทั้งนั้น
เราสองคนเล่นด้วยกัน ต่อสู้ด้วยกัน หยอกล้อแกล้งกัน แล้วก็มีโกรธกันด้วย
ช่วงเวลานั้นเป็นอะไรที่สนุกเกินห้ามใจจริงๆ จนผมเคยคิดไว้ว่าอยากให้ทุกๆ วัน เป็นแบบนั้นไปนานๆ


แต่แล้ว –––– ชิชิมิยะก็จากไป
เธอย้ายโรงเรียนอย่างกะทันหัน
โดยที่ผมไม่เคยได้ยิน ไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องนั้นมาก่อนเลย ทำให้ยากที่ผมในตอนนั้นจะยอมรับความจริงได้
ไม่มีการติดต่อกัน ไม่รู้ว่าจะติดต่อไปหายังไง ไม่รู้ว่าเธอย้ายไปที่ไหน ถ้าพูดให้ดูเวอร์ไปเลยคือผมไม่รู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ด้วยรึเปล่า ลาจากกันไปโดยสมบูรณ์
หลังจากนั้น ก็เหลือผมเป็นจูนิเบียวต่อไปตามลำพัง
แต่มาจนถึงตอนนี้ ผมก็ไม่ได้เป็นจูนิเบียวอีกต่อไปแล้ว
นี่ถ้าหากว่า ชิชิมิยะไม่ได้จากไปละก็ ผมอาจจะยังคงเป็นจูนิเบียวอยู่ก็ได้
––– พอมาตอนนี้ ผมเลยไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องอะไรออกไปดี
ต่อหน้าเธอที่อยู่ตรงหน้า จะให้ข่มซ่อนความรู้สึกร้อนรนใจเอาไว้มันก็ยังยากเลย
ความสับสนพุ่งพล่านในหัวผมเต็มไปหมด
–––ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่?
–––ไม่สิ ทำไมถึงไม่ติดต่ออะไรมาบ้างเลย?
–––ไม่ใช่สิ ทำไมถึงมาปรากฏตัว–––ตอนนี้?
“อึ่ก ผู้กล้า ดูเหมือนตอนนี้ ชั้นกำลังโดนตามล่าโดยพวกนักฆ่าขององค์กรอยู่ มีตัวเลือกให้คือ ผู้กล้าจะร่วมมือกับชั้น จัดการเจ้าพวกที่ตามล่ามานั่น หรือผู้กล้าจะช่วยซ่อนตัวชั้นจากพวกนั้น”
“เอ๊ะ?”
“ชิ พวกที่ตามล่ามานี่มีมากมายจริงๆ ผู้กล้า ฝากด้วยนะ!”
ผมยังไม่ทันได้ทำความเข้าใจสถานการณ์ว่ามันเป็นยังไงเลย แต่พอชิชิมิยะพูดเสร็จ เธอก็พุ่งเข้าไปซ่อนในตู้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อ
ผ่านไปไม่กี่วินาทีหลังจากที่ชิชิมิยะพูดจบ คนที่ตามมาก็เข้ามาในห้องเรียนอย่างรวดเร็ว ดูแล้วคงเป็นพวกชมรมกระจายเสียง
“นี่นายตรงนั้นน่ะ มีคนแปลกๆ เข้ามาที่นี่รึเปล่า? คนที่พันผ้าพันคอ แต่งตัวดูเหมือนกับศัตรูของพวกสาวน้อยเวทมนตร์น่ะ!”
“อะ เอ้อ จากที่ได้ยินเสียงดังที่ตรงระเบียงนั่นแล้ว คนที่แต่งตัวดูเหมือนกับศัตรูของพวกสาวน้อยเวทมนตร์ อาจจะวิ่งไปทางนั้นล่ะมั้ง”
“หนีเร็วจริงๆ! ถ้านายเจอละก็ช่วยจับเอาไว้ให้หน่อยนะ เพราะเป็นบุคคลที่กำลังต้องการตัวอยู่เลย”
“เอ่อ คือ เสียงทางประกาศเมื่อกี้นี้ คือเสียงของคนคนนั้นเหรอ?”
“ใช่ ตกใจกันหมดเลยล่ะ! ก็คงจะลอบเข้ามาน่ะนะ เอาล่ะ ฝากด้วยละกัน!”
ทันทีที่พูดเสร็จ ก็พากันออกไปที่ระเบียงด้วยความรวดเร็วไม่แพ้ริกกะเลย
โรงเรียนนี้มันมีแต่พวกจ้าวลมกรดรึไงกันเนี่ย…..?
แต่ไม่ควรที่จะวิ่งที่ระเบียงกันนะ –– ถึงคิดอยากจะพูดแบบนั้น แต่ก็ดีแล้วที่ไม่ได้พูดอะไรออกไป แล้วผมก็เลื่อนสายตามองไปที่ตู้เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดโดยไม่พูดอะไร
เอาล่ะ จะพูดอะไรกันดี
“ท่าทาง คงไม่เป็นไรแล้วล่ะ”
พอพูดเสร็จ ร่างเล็กๆ นั่นก็โผล่ออกมาจากตู้
“นี๊ฮะฮ่า! สมเป็นผู้กล้า! ใช้เพลิงทมิฬจัดการพวกนักฆ่าซะเรียบร้อยเลย!”
“ไม่ได้ใช้ซะหน่อย!”
“หืม.....? นี่หรือว่า….ผู้กล้า….ปิดผนึกพลังแห่งความมืดไปแล้วงั้นเหรอ…..?”
“เอ่อ ถึงจะพูดว่าปิดผนึกก็เถอะ…. ว่าแต่ว่า ไม่เจอกันนานเลยนะ นานจนไม่รู้ว่าจะพูดคุยอะไรกันดีเลย…. ก่อนอื่นก็ –––– ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ล่ะเนี่ย?”
“ชั้นมาก็เพื่อที่จะทำสงครามกับนางฟ้าไงล่ะ!”
พูดจาเสียงดังฉะฉานทำเอาผมงงเป็นไก่ตาแตกเลย จากนั้น
“แล้วก็ ผู้กล้า ไม่เจอนานเลยนะ!”
เธอพูดออกมา
ยังไม่เปลี่ยนไป –––– จริงๆ ด้วยแฮะ
รูปร่าง ผมเผ้าหน้าตาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
เมื่อตอนม.ต้น เธอมีผมตรงยาวเสมอไหล่ แต่ตอนนี้ผมเธอยาวมากกว่าเดิมแล้ว ถ้าจะให้บอกว่าเป็นทรงอะไรก็คงต้องบอกว่าเป็นทรงทวินริงก์ ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เอาเป็นว่า เหมือนกับม้วนปลายผมเก็บเข้าด้วยกันไม่ให้มันดูยาวนั่นแหละนะ
อย่างอื่นก็ดูจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเป็นพิเศษเลย ยังคงมีผนึกรูปหัวใจตรงหางตาอยู่ ซึ่งมันสามารถปรับแต่งเพื่อ Mode Change ได้หลากหลายเป็นอย่างดีเลย ลักษณะโดยรวมก็ยังคงเหมือนเมื่อตอนม.ต้น ไม่ได้ดูโตขึ้นมาเลยซักนิด ยังดูเหมือนเมื่อตอนนั้นเปี๊ยบเลย
เครื่องแบบนั่นดูเหมือนเป็นของโรงเรียนอื่น แต่จากที่พวกชมรมกระจายเสียงอธิบายไว้เมื่อกี้ มันมีตรงไหนเหมือนพวกศัตรูของสาวน้อยเวทมนตร์กันล่ะเนี่ย หรือว่าเพราะนั่น เป็นเครื่องแบบที่ดัดแปลงมางั้นเหรอ ไม่สิ อาจจะมีเครื่องแบบแบบนี้ใช้ที่โรงเรียนไหนซักแห่งก็ได้ นอกจากนั้นยังมี ผ้าพันคอยาวที่ให้กลิ่นอายของราชาปีศาจนั่นอยู่ด้วย ผ้าพันคอนั่นเธอไม่ได้สวมมันไว้เมื่อตอนม.ต้น คงเพราะผ้าคลุมมันเกิดวิวัฒนาการออกมาเป็นจนเป็นแบบนี้ล่ะมั้ง แล้วก็ยังมีของประจำกายอยู่ด้วย เป็นกระเป๋าสะพายเล็กๆ รูปแมวเหมือนเมื่อก่อนเลย
เทียบกับริกกะแล้ว เป็นจูนิเบียวที่มีสไตล์ต่างกันเล็กน้อย สิ่งที่เหมือนกับริกกะก็เช่นถุงเท้ายาวเหนือเข่าสีดำ ส่วนสูงก็สูงกว่าริกกะนิดหน่อยเท่านั้น

แต่คงไม่ใช่แค่ภายนอกหรอก ดูจากท่าทางแล้วภายในเธอเองก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย
ไม่มีการเกรงกลัวต่อพระเจ้า –––– ไม่สิ ถ้าพูดให้เข้ากับเรื่องของวันนี้ ต้องบอกว่าไม่มีความเกรงกลัวต่อนางฟ้าแม้แต่น้อย
มีความมุ่งมั่นกล้าหาญอย่างล้นเหลือ ไม่ว่าจะทำอะไร จะพูดอะไร ก็ดูเท่ ดูเจ๋งไปหมด
จะเรียกว่าเป็นคนมีความกระตือรือร้นมากจนยากที่คนทั่วไปจะเอาอยู่ก็ได้
แล้วก็ยัง เป็นจูนิเบียวถึงแก่นอย่างสมบูรณ์แบบด้วย
เรื่องราวที่แต่งขึ้นเองมีความรัดกุมในทุกรายละเอียด หลายๆ อย่างก็ต้องบอกว่าสุดตรีนเลยจริงๆ แถมยังรู้ตัวเองอีกด้วยว่าเป็นผู้ป่วยจูนิเบียว เป็นการคงอยู่ขั้นสุดยอดเลยจริงๆ
นั่นล่ะคือชิชิมิยะ ซาโตเนะล่ะ
เรื่องที่ชิชิมิยะแต่งขึ้นมีอยู่มากมายก่ายกอง จะเรียกว่าเป็นมหากาพย์ชิชิมิยะยังได้เลย เยอะจนไม่รู้จะเล่ายังไงหมดจริงๆ
(Chunibyou LN Vol 2) บทที่ 4 จูนิเบียว VS จูนิเบียว
เล่ม 2
บทนำ
บทที่ 1 2 3
้
ข้อดีของการตัดสินใจลงหลังอนิเมฉายคือ ศัพท์บางคำที่ไม่รู้จะแปลยังไงก็ได้รู้
ภาพที่จะเอามาใส่ก็มีให้เลือกจากอนิเม
ตอนนี้อยู่ในอนิเมตอนที่ 3 ซะส่วนใหญ่ครับ เกือบทั้งตอนเลยแหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้