สวัสดีค่ะ วันนี้มีบทเรียนจากการทำธุรกรรมทางการเงิน ที่เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆ มาแชร์ให้เพื่อนๆสมาชิกอ่านเป็นบทเรียนค่ะ
วันนี้ เราต้องการที่จะไปโอนเงินมัดจำ ให้มหาวิทยาลัยที่เรากำลังจะไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษค่ะ
เนื่องจากพ่อเราเองก็บอกว่า เดี๋ยวนี้ธนาคารแต่ละสาขามาตรฐานเท่ากันแล้ว พ่อเรากับเราจึงตัดสินใจไปโอนเงินระหว่างประเทศที่ธนาคารสาขาย่อยแถวบ้านค่ะ
เรื่องก็คือ เมื่อเราไปถึงธนาคาร ทางพนักงานธนาคารก็ให้เรากรอกใบโอนเงินเป็นภาษาอังกฤษอย่างละเอียด
ซึ่งจากข้อมูลที่ทางมหาวิทยาลัยให้เรามา มีทั้ง Sort code, IBAN Number, Account ฯลฯ
ยอมรับเลยว่าไม่เข้าใจความหมายของศัพท์เฉพาะพวกนี้เลยค่ะ
คาดหวังไว้ว่าคงไม่มีอะไรยากเกินกว่าการเติมตัวเลขลงช่องที่ถูกต้อง
เนื่องจากใบโอนเงินของธนาคารมีช่องให้เรากรอกน้อยกว่าข้อมูลที่ทางมหาวิทยาลัยให้มา
เราจึงสอบถามพนักงานธนาคารว่าเลขไหนสมควรใส่ หรือเลขไหนควรจะอยู่ตรงไหน
ซึ่งพนักงาน
ไม่มีความรู้และไม่สามารถตอบคำถามได้ บ่ายเบี่ยงอยู่หลายครั้ง
สุดท้ายเราจึงตัดสินใจ google ใน iphone เพื่อหาข้อมูลเอง
ส่วนตัวเราเองก็คิดว่า ถ้าใส่ไม่ครบเงินไม่ถึงจะทำอย่างไร เงินเป็นแสนต้องรอบคอบที่สุด
พอกรอกใบโอนเงินให้พนักงานเสร็จหมด พนักงานก็เริ่มคีย์ข้อมูลเข้าระบบ เรามาเริ่มเอะใจตอนที่ เขาถามเราว่า หัวกระดาษใบ invoice ของเรานี่ใช่ชื่อมหาวิทยาลัยแน่หรอ เขาบอกว่ามันไม่มีคำว่า university เราก็ตะลึงพร้อมทั้งแจ้งเขาว่า มันมีคำว่า College แปลว่ามหาวิทยาลัยค่ะ
เขาคีย์เบอร์โทรศัพท์มือถือเราลงไป เนื่องจากเราเห็นว่าเขาให้เขียนภาษาอังกฤษ เราเลยให้เบอร์โทรศัพท์ในลักษณะมีรหัสประเทศ เผื่อธนาคารฝั่งนู้นอาจจะต้องติดต่อเรา เช่น (66)81-234-5678 พนักงานธนาคารถามเราย้ำหลายรอบ ว่าเบอร์โทรศัพท์อยู่ไหน เราชี้ให้ดู เขาถามว่าเบอร์ในไทยสิ เราก็บอกเนี่ยค่ะ 66 รหัสประเทศไทย เขาบอกย้ำอีกว่าเอาเป็นเบอร์ไทยสิ เราเลยต้องไล่ทีละตัวให้เขาว่า 081-234-5678 นะคะ
หลังจากนั้นก็มีอีกหลายเคส เช่น ถามว่ามหาวิทยาลัยเราอยู่ประเทศอะไร
ซึ่งจริงๆชื่อ มหาวิทยาลัยเรามีคำว่า London แต่ไม่เป็นไรถามมา เราก็ตอบเขาว่าอังกฤษ
เขาก็ถามว่านั่นแหละประเทศอะไร ตามองไปในจอ เราก็เข้าใจว่า อ้อกำลังหาในระบบอยู่ เราจึงตอบไปว่า United Kingdom ค่ะ
เขาเงียบไปซักพักแล้วหันมาถามว่า United States นี่อันเดียวกันใช่ไหม ในระบบไม่มี United Kingdom
เรางี้ไปต่อไม่ถูก เราเลยบอกว่า พี่ลองเสิช England นะคะ
ปรากฏว่าหันมาถามเราว่า ค่ะ United England นะคะ ป้าดดด เกิดมานอกจากจะไม่เคยเจอเคสแยก UK กับ US ไม่ออกแล้ว ยังคิดชื่อประเทศใหม่เองด้วย
สรุปว่า ชีต้องโทรถามสำนักงานใหญ่ ซึ่งบอกให้ชีเสิชคำว่า Great Britain ค่ะ
ส่วนตัวเราก็ไม่รู้ว่าตามหลักธนาคารเขาแบ่งประเทศอังกฤษตามพื้นที่แบบนี้
มีอยู่ช่องหนึ่ง เขาแจ้งให้หรอก Account / IBAN Number เนื่องจากมหาวิทยาลัยเราให้มาทั้งสองเลข
เราจึงเขียนไปว่า Account no.: xxxxxxxx, IBAN No.: GBxxxxxxxxxxx
สรุปว่าพนักงานไม่รู้จักเครื่องหมาย : หรือยังไงไม่ทราบ ในช่องที่ควรใส่รหัส IBAN เขาจึงเขียนไปว่า IBANNOGBxxxxxxxxxx
ผลคือใช่ค่ะ รหัสมันเกินจำนวน! และแผนกต่างประเทศที่สาขาใหญ่ที่เป็นตัวกรองก่อนอนุมัติ ตีกลับมา พร้อมพนักงานโทรมาหาเราว่า เราให้เลขเขาผิดค่ะ
พร้อมทั้งบอกว่าเลข Account น้องก็ผิด ให้กลับไปแก้ ซึ่งเรายอมรับว่าไอเลข Account ที่เราเขียนใส่กระดาษแยกไปเนี่ย อาจมีข้อผิดพลาดได้เนื่องจากเป็นการเขียนผ่านมืออีกที แต่เลขที่เราจดมาตรงกับเลขบัญชีที่มหาวิทยาลัยแจ้งไว้บนใบ invoice ซึ่งทางส่วนนี้ ไม่ควรจะเป็นข้อมูลที่ผิดพลาดอยู่แล้ว เนื่องจากใบ invoice เป็นหลักฐานสำคัญ เราจึงสงสัยว่าพนักงานคงแปลภาษาอังกฤษไม่ออกเช่นเคย
เริ่มยาวแล้ว นอกจากนั้น ช่อง detail เรากรอกไปว่า เป็น deposit for MSc ......... พร้อมทั้งวงเล็บชื่อ ตัวเองและรหัสประจำตัว (สำคัญมาก)
พนักงานบอกว่ายาวเกิน ย่อได้ไหม เราจึงบอกว่า ค่ะงั้นเขียนแต่ชื่อกับรหัสไป
เขาบอกไม่ได้สิ deposit ก็สำคัญ
เราจึงบอกว่า งั้นเขียนว่า deposit from xxชื่อเราxxx และรหัสก็พอค่ะ
แทนที่พนักงานจะเชื่อ กลับถามว่างั้นตัดแค่นี้ได้ไหม แล้วจิ้มให้เราดู ซึ่งชื่อโปรแกรมเรายาวมาก แต่ตัดเหลือคำเดียว มันไม่ใส่ดีกว่านะคะในความคิดเรา
นอกจากนั้นเล็กๆน้อย เช่น สะกดคำผิดบ่อยมาก ต้องแก้เป็นประจำ พิมพ์ภาษาอังกฤษบนคีย์บอร์ดไม่คล่อง เมื่อต้องตามผู้จัดการมาตรวจสอบ ก็ได้ยินแว่วๆว่าต้องไปปลุก (เพราะนอนในห้องทำงานอยู่ตอน 11 โมง!!) แต่มันคงไม่มีอะไรร้ายแรงไปกว่าการแยกประเทศไม่ออก
ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยให้พ่อนำใบ invoice ไปถามเรทค่าธรรมเนียมเพื่อเทียบระหว่างธนาคาร ได้รับคำตอบว่า 1,300 บาท ซึ่ง ณ วันนี้เขาบอกว่า 1,700 บาท เพราะตอนแรกคิดว่าอยู่แถวเอเชีย ถ้าอยู่แถบยุโรปต้องแพงขึ้น ซึ่งใบ invoice แจ้งชัดเจนว่าของประเทศอะไร เราจึงไม่เข้าใจว่า นอกจากไม่ทราบชื่อประเทศแล้ว ยังไม่ทราบอีกว่าอังกฤษอยู่ทวีปไหน ไม่รู้ว่า UK เป็นตัวย่อของประเทศอะไร
ท้ายสุดท้ายเราไม่ทราบว่าพนักงานคนนี้ มารับหน้าที่เป็นคนรับโอนเงินระหว่างประเทศได้อย่างไร เนื่องจากความรู้เบื้องต้นของระบบการโอนงานไม่มีเลยด้วยซ้ำ รวมไปถึงความรู้ภาษาอังกฤษเบื้องต้น เช่น คำว่า Road, Building, Campus ฯลฯ
เราเองก็หวังเล็กๆ ว่าถึงมีปัญหาขนาดนี้ ก็คงส่งผ่านแหละ
ผลสรุปแล้ว คือ โอนไม่ผ่าน เราแจ้งให้เขาโอนกลับเข้าบัญชีเราทุกบาท และทำการยกเลิกรายการทั้งหมด ส่วนพ่อเราแจ้งขอปิดบัญชี
.
.
.
.
เล่ามาซะยาว จึงขอให้เป็นบทเรียนของพี่น้องสมาชิกที่ต้องการโอนเงินระหว่างประเทศ หรือโอนเงินก้อนใหญ่/ ก้อนสำคัญ ให้พิจราณาธนาคารและสาขาก่อนการทำธุรกรรม ลงทุนถ่อไปไกลหน่อยเพื่อให้ไปเจอสาขาที่มีประสบการณ์มากกว่า จะได้ไม่เสียทั้งเวลาและความรู้สึก ไม่รวมทั้งอาจจะเงินหายกลางทางและไม่มีใครรับผิดชอบ ขอบคุณค่ะ
[กระทู้บทเรียน] เมื่อต้องใช้บริการโอนเงินระหว่างประเทศกับพนักงานธนาคารที่ไม่รู้ว่า US กับ UK ต่างกัน
วันนี้ เราต้องการที่จะไปโอนเงินมัดจำ ให้มหาวิทยาลัยที่เรากำลังจะไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษค่ะ
เนื่องจากพ่อเราเองก็บอกว่า เดี๋ยวนี้ธนาคารแต่ละสาขามาตรฐานเท่ากันแล้ว พ่อเรากับเราจึงตัดสินใจไปโอนเงินระหว่างประเทศที่ธนาคารสาขาย่อยแถวบ้านค่ะ
เรื่องก็คือ เมื่อเราไปถึงธนาคาร ทางพนักงานธนาคารก็ให้เรากรอกใบโอนเงินเป็นภาษาอังกฤษอย่างละเอียด
ซึ่งจากข้อมูลที่ทางมหาวิทยาลัยให้เรามา มีทั้ง Sort code, IBAN Number, Account ฯลฯ
ยอมรับเลยว่าไม่เข้าใจความหมายของศัพท์เฉพาะพวกนี้เลยค่ะ
คาดหวังไว้ว่าคงไม่มีอะไรยากเกินกว่าการเติมตัวเลขลงช่องที่ถูกต้อง
เนื่องจากใบโอนเงินของธนาคารมีช่องให้เรากรอกน้อยกว่าข้อมูลที่ทางมหาวิทยาลัยให้มา
เราจึงสอบถามพนักงานธนาคารว่าเลขไหนสมควรใส่ หรือเลขไหนควรจะอยู่ตรงไหน
ซึ่งพนักงาน ไม่มีความรู้และไม่สามารถตอบคำถามได้ บ่ายเบี่ยงอยู่หลายครั้ง
สุดท้ายเราจึงตัดสินใจ google ใน iphone เพื่อหาข้อมูลเอง
ส่วนตัวเราเองก็คิดว่า ถ้าใส่ไม่ครบเงินไม่ถึงจะทำอย่างไร เงินเป็นแสนต้องรอบคอบที่สุด
พอกรอกใบโอนเงินให้พนักงานเสร็จหมด พนักงานก็เริ่มคีย์ข้อมูลเข้าระบบ เรามาเริ่มเอะใจตอนที่ เขาถามเราว่า หัวกระดาษใบ invoice ของเรานี่ใช่ชื่อมหาวิทยาลัยแน่หรอ เขาบอกว่ามันไม่มีคำว่า university เราก็ตะลึงพร้อมทั้งแจ้งเขาว่า มันมีคำว่า College แปลว่ามหาวิทยาลัยค่ะ
เขาคีย์เบอร์โทรศัพท์มือถือเราลงไป เนื่องจากเราเห็นว่าเขาให้เขียนภาษาอังกฤษ เราเลยให้เบอร์โทรศัพท์ในลักษณะมีรหัสประเทศ เผื่อธนาคารฝั่งนู้นอาจจะต้องติดต่อเรา เช่น (66)81-234-5678 พนักงานธนาคารถามเราย้ำหลายรอบ ว่าเบอร์โทรศัพท์อยู่ไหน เราชี้ให้ดู เขาถามว่าเบอร์ในไทยสิ เราก็บอกเนี่ยค่ะ 66 รหัสประเทศไทย เขาบอกย้ำอีกว่าเอาเป็นเบอร์ไทยสิ เราเลยต้องไล่ทีละตัวให้เขาว่า 081-234-5678 นะคะ
หลังจากนั้นก็มีอีกหลายเคส เช่น ถามว่ามหาวิทยาลัยเราอยู่ประเทศอะไร
ซึ่งจริงๆชื่อ มหาวิทยาลัยเรามีคำว่า London แต่ไม่เป็นไรถามมา เราก็ตอบเขาว่าอังกฤษ
เขาก็ถามว่านั่นแหละประเทศอะไร ตามองไปในจอ เราก็เข้าใจว่า อ้อกำลังหาในระบบอยู่ เราจึงตอบไปว่า United Kingdom ค่ะ
เขาเงียบไปซักพักแล้วหันมาถามว่า United States นี่อันเดียวกันใช่ไหม ในระบบไม่มี United Kingdom
เรางี้ไปต่อไม่ถูก เราเลยบอกว่า พี่ลองเสิช England นะคะ
ปรากฏว่าหันมาถามเราว่า ค่ะ United England นะคะ ป้าดดด เกิดมานอกจากจะไม่เคยเจอเคสแยก UK กับ US ไม่ออกแล้ว ยังคิดชื่อประเทศใหม่เองด้วย
สรุปว่า ชีต้องโทรถามสำนักงานใหญ่ ซึ่งบอกให้ชีเสิชคำว่า Great Britain ค่ะ
ส่วนตัวเราก็ไม่รู้ว่าตามหลักธนาคารเขาแบ่งประเทศอังกฤษตามพื้นที่แบบนี้
มีอยู่ช่องหนึ่ง เขาแจ้งให้หรอก Account / IBAN Number เนื่องจากมหาวิทยาลัยเราให้มาทั้งสองเลข
เราจึงเขียนไปว่า Account no.: xxxxxxxx, IBAN No.: GBxxxxxxxxxxx
สรุปว่าพนักงานไม่รู้จักเครื่องหมาย : หรือยังไงไม่ทราบ ในช่องที่ควรใส่รหัส IBAN เขาจึงเขียนไปว่า IBANNOGBxxxxxxxxxx
ผลคือใช่ค่ะ รหัสมันเกินจำนวน! และแผนกต่างประเทศที่สาขาใหญ่ที่เป็นตัวกรองก่อนอนุมัติ ตีกลับมา พร้อมพนักงานโทรมาหาเราว่า เราให้เลขเขาผิดค่ะ
พร้อมทั้งบอกว่าเลข Account น้องก็ผิด ให้กลับไปแก้ ซึ่งเรายอมรับว่าไอเลข Account ที่เราเขียนใส่กระดาษแยกไปเนี่ย อาจมีข้อผิดพลาดได้เนื่องจากเป็นการเขียนผ่านมืออีกที แต่เลขที่เราจดมาตรงกับเลขบัญชีที่มหาวิทยาลัยแจ้งไว้บนใบ invoice ซึ่งทางส่วนนี้ ไม่ควรจะเป็นข้อมูลที่ผิดพลาดอยู่แล้ว เนื่องจากใบ invoice เป็นหลักฐานสำคัญ เราจึงสงสัยว่าพนักงานคงแปลภาษาอังกฤษไม่ออกเช่นเคย
เริ่มยาวแล้ว นอกจากนั้น ช่อง detail เรากรอกไปว่า เป็น deposit for MSc ......... พร้อมทั้งวงเล็บชื่อ ตัวเองและรหัสประจำตัว (สำคัญมาก)
พนักงานบอกว่ายาวเกิน ย่อได้ไหม เราจึงบอกว่า ค่ะงั้นเขียนแต่ชื่อกับรหัสไป
เขาบอกไม่ได้สิ deposit ก็สำคัญ
เราจึงบอกว่า งั้นเขียนว่า deposit from xxชื่อเราxxx และรหัสก็พอค่ะ
แทนที่พนักงานจะเชื่อ กลับถามว่างั้นตัดแค่นี้ได้ไหม แล้วจิ้มให้เราดู ซึ่งชื่อโปรแกรมเรายาวมาก แต่ตัดเหลือคำเดียว มันไม่ใส่ดีกว่านะคะในความคิดเรา
นอกจากนั้นเล็กๆน้อย เช่น สะกดคำผิดบ่อยมาก ต้องแก้เป็นประจำ พิมพ์ภาษาอังกฤษบนคีย์บอร์ดไม่คล่อง เมื่อต้องตามผู้จัดการมาตรวจสอบ ก็ได้ยินแว่วๆว่าต้องไปปลุก (เพราะนอนในห้องทำงานอยู่ตอน 11 โมง!!) แต่มันคงไม่มีอะไรร้ายแรงไปกว่าการแยกประเทศไม่ออก
ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยให้พ่อนำใบ invoice ไปถามเรทค่าธรรมเนียมเพื่อเทียบระหว่างธนาคาร ได้รับคำตอบว่า 1,300 บาท ซึ่ง ณ วันนี้เขาบอกว่า 1,700 บาท เพราะตอนแรกคิดว่าอยู่แถวเอเชีย ถ้าอยู่แถบยุโรปต้องแพงขึ้น ซึ่งใบ invoice แจ้งชัดเจนว่าของประเทศอะไร เราจึงไม่เข้าใจว่า นอกจากไม่ทราบชื่อประเทศแล้ว ยังไม่ทราบอีกว่าอังกฤษอยู่ทวีปไหน ไม่รู้ว่า UK เป็นตัวย่อของประเทศอะไร
ท้ายสุดท้ายเราไม่ทราบว่าพนักงานคนนี้ มารับหน้าที่เป็นคนรับโอนเงินระหว่างประเทศได้อย่างไร เนื่องจากความรู้เบื้องต้นของระบบการโอนงานไม่มีเลยด้วยซ้ำ รวมไปถึงความรู้ภาษาอังกฤษเบื้องต้น เช่น คำว่า Road, Building, Campus ฯลฯ
เราเองก็หวังเล็กๆ ว่าถึงมีปัญหาขนาดนี้ ก็คงส่งผ่านแหละ
ผลสรุปแล้ว คือ โอนไม่ผ่าน เราแจ้งให้เขาโอนกลับเข้าบัญชีเราทุกบาท และทำการยกเลิกรายการทั้งหมด ส่วนพ่อเราแจ้งขอปิดบัญชี
.
.
.
.
เล่ามาซะยาว จึงขอให้เป็นบทเรียนของพี่น้องสมาชิกที่ต้องการโอนเงินระหว่างประเทศ หรือโอนเงินก้อนใหญ่/ ก้อนสำคัญ ให้พิจราณาธนาคารและสาขาก่อนการทำธุรกรรม ลงทุนถ่อไปไกลหน่อยเพื่อให้ไปเจอสาขาที่มีประสบการณ์มากกว่า จะได้ไม่เสียทั้งเวลาและความรู้สึก ไม่รวมทั้งอาจจะเงินหายกลางทางและไม่มีใครรับผิดชอบ ขอบคุณค่ะ