ผลโดยรวม
(8.5/10) [B+]
กลับมาอีกครั้งกับนักร้องดีว่า กับเจ้าของรางวัล Grammy และยอดขาย multi platinum อย่าง “Kelly Rowland” กับสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 4 ของเธอ ที่ใช้ชื่อว่า “Talk A Good Game” อัลบั้มนี้ เธอได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังหลายคนในอัลบั้ม ไม่ว่าจะเป็น Wiz Khalifa, Pharrell Williams และแน่นอนว่า KELLY ยังได้ชวน BEYONCE และ MICHELLE WILLIAMS เพื่อนสาวแห่งวง Destiny’s Child มาร่วมสร้างสีสันอีกด้วย นอกจากนี้เธอยังได้ทีมโปรดักชั่นฝีมือดีมาอยู่เบื้องหลังการทำอัลบั้มนี้ ทั้ง Mike Will, Harmony, The Runners, Pharrell Williams, The-Dream ในอัลบั้มนี้ อาจจะได้เห็นการพัฒนาของดนตรีมากกว่าแค่ความเป็น R&B หรือเพลง Hiphop หรือ Pop ธรรมดา เข้าไปเจาะตัวอัลบั้มกันเลยดีกว่า
1. Freak (9/10)
เปิดแทร็กได้ล้ำมากๆครับ เพลง Pop ตกแต่งเสียงเพลงด้วยอารมณ์ Electronic ล้วนๆ ซึ่งมันแหวกแนวมากๆ ถึงแม้ว่าตัวเนื้อหาของเพลงอาจจะมีคำ Explicit บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรเท่าไหร่ ตัวเพลงมันไม่น่าเบื่อครับ แต่ถ้าฟังตัวเนื้อหาแล้ว มันไม่ค่อยมีอะไร พอเอามารวมกัน มันก็ออกมาในประมาณที่ใช้ได้ ถือว่าเปิดตัวผ่านครับ ทำได้น่าติดตามมากครับ
2. Kisses Down Low (10/10)
Single แรกของอัลบั้มครับ เป็นเพลง R&B สไตล์ถนัดของนางคนนี้เค้าล่ะครับ ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยนะ ตัวเพลงทำออกมาได้ค่อนข้างดี เมื่อเอามาผสมกับ Electronic เพลงมีจุดสนใจค่อนข้างเยอะ ตัวดนตรีทำออกมาในสไตล์ออกสบายหู คือมันลื่นเลยล่ะ สรุปคือมันดีมาก
3. Gone (feat. Wiz Khalifa) (10/10)
เพลง R&B ที่ทำนองจะเน้นหนักไปในทาง Drum Beat ที่เห็นได้อย่างชัดเจน แล้วก็มีเสียงเปียโนคลอเบาๆ เพลงนี้เหมือนตัวป่วนในอัลบั้มตรงที่ว่า เพลงมันมีน้ำหนัก แล้วก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ ดูโดดเด่นในอัลบั้ม ซึ่งเพลงนี้ เป็นเพลงที่ผมชอบมากๆ ถึงแม้เพลงจะมาในสไตล์คล้ายๆเพลงข้างบน แต่รู้สึกเพลงนี้ มันให้ความรู้สึก มันให้พลังมากกว่า (อยากให้นางตัดเพลงนี้เป็น Single อ่ะ อิอิ)
4. Talk A Good Game (feat. Kevin Cossom) (7/10)
มาถึง Title Track สุดป่วงงง มันป่วงยังไงอ่ะหรอ ตั้งแต่ขึ้นเพลงมา รู้สึกว่ามันแปลกๆไงก็ไม่รู้ คือมันดีที่ลื่นหู แต่มันไม่ดีตรงเสียง Beat ที่มันดูเยอะ เยอะเกินไปจนทำให้ตัวเพลงมันดูน่าเบื่อ คือจริงๆเพลงมันก็มาในสไตล์เดิมๆอ่ะแหละ แต่รู้สึกไม่ปลื้มเท่าไหร่ ตอนหลังแอบชอบคนที่ร้องแร็พมากๆ
5. Down on Love (10/10)
กลิ่น Electronic ลอยมาแต่ไกลๆเลยนะ ท่อนแรกหรือท่อนเปิด ยอมรับเลยว่าฟังไม่รู้เท่าไหร่ พอลง Beat เท่านั้นก็พอเดาจังหวะ หรือพอเดาทางถูก เพลงของนางเป็นอะไรที่ลื่นหูมากๆ ฟังแล้วมีความสุข แอบยิ้มได้ ชอบจังหวะเพลงแบบนี้อ่ะ เพลงแอบคล้ายแม่บี (Beyonce) แต่โดยรวมแล้ว เพลงนี้มีลูกเล่นที่ดีนะ มีจุดสนใจเยอะ มีการเปลี่ยน Color แล้วก็โทนของเสียงได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงจังหวะหนักเบาของ Beat ต้องยอมรับเลยว่าเพลงมันดีมากๆ
6. Dirty Laundry (5/10)
มาถึงกับเพลงช้าๆกันบ้างล่ะ แน่นอนว่าต้องเป็น R&B ตามแบบฉบับของนาง (ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว) แปลกตรงที่ว่า ผมไม่ได้ติดใจเพลงนี้เลยด้วยซ้ำ ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ มันแล้วแต่คนฟังอ่ะ ท่อน Hook ก็ไม่มีอะไรเลย มันดูน่าเบื่อมาก ทั้งเพลงอ่ะ นางตัดเพลงนี้ได้ไงก็ไมรู้อ่ะนะ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เลย กดข้าม!
7. You Changed (feat. Beyonce and Michelle Williams) (10/10)
โอ้ บระเจ้า!!!!!!!!!!! เห็นชื่อคนฟีท เล่นเอาผมฟินค้างไปเลยล่ะครับ ยังไงก็ขอบคุณเพลงนี้มากๆ ที่ทำให้อัลบั้มนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นหลังจากเพลงที่แล้วทำผมแทบล้มเลย เพลงนี้ได้ดีว่าอย่างแม่บีมาช่วยให้เพลงนี้มันดูสมบูรณ์เอามากๆ คือแบบ เอร้ย! ชอบอ่ะ
8. I Remember (8/10)
เพลง Pop ปรุงแต่งด้วยเสียง Electronic โดยรวมตัวเพลงมีการเปลี่ยนโทนของเพลงไม่เยอะมาก แต่บางครั้งก็อาจทำให้ความรู้สึกเบื่อหน่อย แต่มันก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้น สรุปคือมันก็โอเค แต่เพลงมันก็ไม่มีไรเลยนะ
9. Red Wine (4/10)
ดูชื่อเพลงนึกว่าจะมีอะไรที่มันเป็นสีสันของอัลบั้ม แต่ไม่เลย เพลงมันออกน่าเบื่อไปเลยจริงๆ Electronic ที่ใช้เป็นเบส ซาวด์เพลงมันดูง่วงๆจริง ไม่อ่ะ ไม่ชอบเลย ข้ามไปได้เลย ก่อนที่จะเบื่ออัลบั้มนี้อ่ะนะ
10. This is Love (9/10)
มีเสียง Electronic ก้องหูไปหมดเลย แต่ก็ยังดีที่มีจังหวะเพลงที่น่าสนใจ เป็นเพลง R&B ที่เหมือนช่วยชีวิตอัลบั้มนี้ไว้อีกเพลง เป็นเพลงลื่นหูมากๆ ชอบเพลงนี้ตรงเสียงนาง นางร้องเพลงนี้ได้ดีมากๆ เสียง Beat ของเพลงก็ดูเข้าท่าดี แต่เอามาตัดกับเสียง Electronic ในเพลงนี้ไม่ค่อยกลมกลืนกันเท่าไหร่เลย
11. Street Life (feat. Pusha T) (8.5/10)
อ่ะ! แอบช็อค อิอิ มาในออกแนว Urban ผสมกับ Hip Hop ตกแต่งด้วยเสียง Electronic หน่อยๆ โอเค ตัวเพลงมีความน่าสนใจดี มันแตกต่างจากเพลงอื่นในอัลบั้มจริงๆ เหมือนช่วยให้ตัวอัลบั้มมีความแตกต่างแล้วก็ดูไม่น่าเบื่อ ก็ดีนะ
12. Stand in Front of Me (9/10)
ตอนจบมันก็ดูเหมือนเดิม แต่ถือว่าเป็นเพลงปิดอัลบั้ม Standard ได้ดีเลยทีเดียว เป็นเพลง R&B คล้ายๆ House หน่อยๆ ชอบเพลงนี้เหมือนกันนะ เสียงของนางดูน่ารักดี มันออกแนวใสๆ ใช้ได้เลย
Bonus Track
13. Sky Walker (feat. The Dream) (9.5/10)
เริ่มต้นเพลงตกใจเลย นี่มันเพลงจีนหรือป่าวเนี่ย อิอิ (ไม่ใช่หรอก) มันก็เหมือนเพลงอื่นๆในอัลบั้มอ่ะ เพียงแต่ตัวเนื้อหาของเพลงมันไม่ซ้ำ แล้วก็ดูเหมือนจะดูโอเคกว่าเพลงอื่นๆ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องดนตรีก็ไม่ต้องคิดมาก มันเหมือนเดิมกับเพลงอื่นๆในอัลบั้มนี้อ่ะแหละ
14. Put Your Name On It (8/10)
ขึ้นมาด้วย Electronic จังหวะเบาหู ตามด้วยเพลง R&B เช่นเคย ตัวท่อนหลักๆไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ จะมีดีก็ตรงท่อน Hook เนี่ยแหละ มันแปลกจากท่อนอื่นๆ แล้วมันก็โอเค ไม่งั้นเพลงนี้ก็คงน่าเบื่อไปแล้ว
15. #1 (10/10)
ตัว Beat มีความน่าสนใจ ไม่เหมือนเพลงอื่นๆ แหวกแนวตรงที่โทนเพลงมีการเขยิบบ้างเล็กน้อย ดูไม่น่าเกลียด เพลงมันก็ออกมาดูดีได้ ชอบอ่ะ ประทับใจท่อน Hook เหมือนเดิม มันเป็นอะไรที่โดนสุดๆ ปิดอัลบั้ม Deluxe Edition ได้อย่างลงตัว
16. Feet to the Fire (feat. Pharrell Williams) (10/10)
เยี่ยมอ่ะ! เพลงมันลื่นหูมาก แล้วก็ชอบดนตรีมากๆเลย มันดูไม่ซ้ำจำเจซักเท่าไหร่ พูดง่ายๆว่าเพลงนี้ มีดนตรี แล้วก็เนื้อเพลงที่เรียบเรียงกันได้สวยมากๆ เป็นอีกเพลงที่ชอบ เห็นชื่อคนฟีท ก็ฟินค้างตามเดิม เพลงมันออกมาล้ำแล้วก็ดีมากๆเลย ชอบเสียง Pharrell มาก คือทุกอย่างมันโอเค มันดูลงตัว Perfect สุดๆไปเลย เสียดายที่ไม่เอาลงอัลบั้ม Standard
17. Love Me Til I Die (9/10)
เพลง R&B ที่มีลูกเล่นเยอะดี แต่ไม่เยอะมาก ตัวเพลงมีสีสันทุกท่อน เห็นได้อย่างชัดเจนเลย ทำให้ตัวเพลงไม่น่าเบื่อ แล้วก็ออกมาดูดี เหมาะกับการปิดอัลบั้มเหมือนกัน
All Review by TR
ขอบคุณที่ติดตามทุกๆ Review ครับ
ปล.
Review นี้ เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นครับ!
ปล2. ขอ
ปิด รีเควส รีวิวอัลบั้มชั่วคราวครับ เนื่องจากมีอีกหลายอัลบั้มที่ยังค้างอยู่ เสร็จเมื่อไหร่ จะเปิดรับใหม่นะครับ ขอบคุณครับ ^^
[CR][SR] [Review] Talk A Good Game - Kelly Rowland
ผลโดยรวม (8.5/10) [B+]
กลับมาอีกครั้งกับนักร้องดีว่า กับเจ้าของรางวัล Grammy และยอดขาย multi platinum อย่าง “Kelly Rowland” กับสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 4 ของเธอ ที่ใช้ชื่อว่า “Talk A Good Game” อัลบั้มนี้ เธอได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังหลายคนในอัลบั้ม ไม่ว่าจะเป็น Wiz Khalifa, Pharrell Williams และแน่นอนว่า KELLY ยังได้ชวน BEYONCE และ MICHELLE WILLIAMS เพื่อนสาวแห่งวง Destiny’s Child มาร่วมสร้างสีสันอีกด้วย นอกจากนี้เธอยังได้ทีมโปรดักชั่นฝีมือดีมาอยู่เบื้องหลังการทำอัลบั้มนี้ ทั้ง Mike Will, Harmony, The Runners, Pharrell Williams, The-Dream ในอัลบั้มนี้ อาจจะได้เห็นการพัฒนาของดนตรีมากกว่าแค่ความเป็น R&B หรือเพลง Hiphop หรือ Pop ธรรมดา เข้าไปเจาะตัวอัลบั้มกันเลยดีกว่า
1. Freak (9/10)
เปิดแทร็กได้ล้ำมากๆครับ เพลง Pop ตกแต่งเสียงเพลงด้วยอารมณ์ Electronic ล้วนๆ ซึ่งมันแหวกแนวมากๆ ถึงแม้ว่าตัวเนื้อหาของเพลงอาจจะมีคำ Explicit บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรเท่าไหร่ ตัวเพลงมันไม่น่าเบื่อครับ แต่ถ้าฟังตัวเนื้อหาแล้ว มันไม่ค่อยมีอะไร พอเอามารวมกัน มันก็ออกมาในประมาณที่ใช้ได้ ถือว่าเปิดตัวผ่านครับ ทำได้น่าติดตามมากครับ
2. Kisses Down Low (10/10)
Single แรกของอัลบั้มครับ เป็นเพลง R&B สไตล์ถนัดของนางคนนี้เค้าล่ะครับ ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยนะ ตัวเพลงทำออกมาได้ค่อนข้างดี เมื่อเอามาผสมกับ Electronic เพลงมีจุดสนใจค่อนข้างเยอะ ตัวดนตรีทำออกมาในสไตล์ออกสบายหู คือมันลื่นเลยล่ะ สรุปคือมันดีมาก
3. Gone (feat. Wiz Khalifa) (10/10)
เพลง R&B ที่ทำนองจะเน้นหนักไปในทาง Drum Beat ที่เห็นได้อย่างชัดเจน แล้วก็มีเสียงเปียโนคลอเบาๆ เพลงนี้เหมือนตัวป่วนในอัลบั้มตรงที่ว่า เพลงมันมีน้ำหนัก แล้วก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ ดูโดดเด่นในอัลบั้ม ซึ่งเพลงนี้ เป็นเพลงที่ผมชอบมากๆ ถึงแม้เพลงจะมาในสไตล์คล้ายๆเพลงข้างบน แต่รู้สึกเพลงนี้ มันให้ความรู้สึก มันให้พลังมากกว่า (อยากให้นางตัดเพลงนี้เป็น Single อ่ะ อิอิ)
4. Talk A Good Game (feat. Kevin Cossom) (7/10)
มาถึง Title Track สุดป่วงงง มันป่วงยังไงอ่ะหรอ ตั้งแต่ขึ้นเพลงมา รู้สึกว่ามันแปลกๆไงก็ไม่รู้ คือมันดีที่ลื่นหู แต่มันไม่ดีตรงเสียง Beat ที่มันดูเยอะ เยอะเกินไปจนทำให้ตัวเพลงมันดูน่าเบื่อ คือจริงๆเพลงมันก็มาในสไตล์เดิมๆอ่ะแหละ แต่รู้สึกไม่ปลื้มเท่าไหร่ ตอนหลังแอบชอบคนที่ร้องแร็พมากๆ
5. Down on Love (10/10)
กลิ่น Electronic ลอยมาแต่ไกลๆเลยนะ ท่อนแรกหรือท่อนเปิด ยอมรับเลยว่าฟังไม่รู้เท่าไหร่ พอลง Beat เท่านั้นก็พอเดาจังหวะ หรือพอเดาทางถูก เพลงของนางเป็นอะไรที่ลื่นหูมากๆ ฟังแล้วมีความสุข แอบยิ้มได้ ชอบจังหวะเพลงแบบนี้อ่ะ เพลงแอบคล้ายแม่บี (Beyonce) แต่โดยรวมแล้ว เพลงนี้มีลูกเล่นที่ดีนะ มีจุดสนใจเยอะ มีการเปลี่ยน Color แล้วก็โทนของเสียงได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงจังหวะหนักเบาของ Beat ต้องยอมรับเลยว่าเพลงมันดีมากๆ
6. Dirty Laundry (5/10)
มาถึงกับเพลงช้าๆกันบ้างล่ะ แน่นอนว่าต้องเป็น R&B ตามแบบฉบับของนาง (ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว) แปลกตรงที่ว่า ผมไม่ได้ติดใจเพลงนี้เลยด้วยซ้ำ ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ มันแล้วแต่คนฟังอ่ะ ท่อน Hook ก็ไม่มีอะไรเลย มันดูน่าเบื่อมาก ทั้งเพลงอ่ะ นางตัดเพลงนี้ได้ไงก็ไมรู้อ่ะนะ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เลย กดข้าม!
7. You Changed (feat. Beyonce and Michelle Williams) (10/10)
โอ้ บระเจ้า!!!!!!!!!!! เห็นชื่อคนฟีท เล่นเอาผมฟินค้างไปเลยล่ะครับ ยังไงก็ขอบคุณเพลงนี้มากๆ ที่ทำให้อัลบั้มนี้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นหลังจากเพลงที่แล้วทำผมแทบล้มเลย เพลงนี้ได้ดีว่าอย่างแม่บีมาช่วยให้เพลงนี้มันดูสมบูรณ์เอามากๆ คือแบบ เอร้ย! ชอบอ่ะ
8. I Remember (8/10)
เพลง Pop ปรุงแต่งด้วยเสียง Electronic โดยรวมตัวเพลงมีการเปลี่ยนโทนของเพลงไม่เยอะมาก แต่บางครั้งก็อาจทำให้ความรู้สึกเบื่อหน่อย แต่มันก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้น สรุปคือมันก็โอเค แต่เพลงมันก็ไม่มีไรเลยนะ
9. Red Wine (4/10)
ดูชื่อเพลงนึกว่าจะมีอะไรที่มันเป็นสีสันของอัลบั้ม แต่ไม่เลย เพลงมันออกน่าเบื่อไปเลยจริงๆ Electronic ที่ใช้เป็นเบส ซาวด์เพลงมันดูง่วงๆจริง ไม่อ่ะ ไม่ชอบเลย ข้ามไปได้เลย ก่อนที่จะเบื่ออัลบั้มนี้อ่ะนะ
10. This is Love (9/10)
มีเสียง Electronic ก้องหูไปหมดเลย แต่ก็ยังดีที่มีจังหวะเพลงที่น่าสนใจ เป็นเพลง R&B ที่เหมือนช่วยชีวิตอัลบั้มนี้ไว้อีกเพลง เป็นเพลงลื่นหูมากๆ ชอบเพลงนี้ตรงเสียงนาง นางร้องเพลงนี้ได้ดีมากๆ เสียง Beat ของเพลงก็ดูเข้าท่าดี แต่เอามาตัดกับเสียง Electronic ในเพลงนี้ไม่ค่อยกลมกลืนกันเท่าไหร่เลย
11. Street Life (feat. Pusha T) (8.5/10)
อ่ะ! แอบช็อค อิอิ มาในออกแนว Urban ผสมกับ Hip Hop ตกแต่งด้วยเสียง Electronic หน่อยๆ โอเค ตัวเพลงมีความน่าสนใจดี มันแตกต่างจากเพลงอื่นในอัลบั้มจริงๆ เหมือนช่วยให้ตัวอัลบั้มมีความแตกต่างแล้วก็ดูไม่น่าเบื่อ ก็ดีนะ
12. Stand in Front of Me (9/10)
ตอนจบมันก็ดูเหมือนเดิม แต่ถือว่าเป็นเพลงปิดอัลบั้ม Standard ได้ดีเลยทีเดียว เป็นเพลง R&B คล้ายๆ House หน่อยๆ ชอบเพลงนี้เหมือนกันนะ เสียงของนางดูน่ารักดี มันออกแนวใสๆ ใช้ได้เลย
Bonus Track
13. Sky Walker (feat. The Dream) (9.5/10)
เริ่มต้นเพลงตกใจเลย นี่มันเพลงจีนหรือป่าวเนี่ย อิอิ (ไม่ใช่หรอก) มันก็เหมือนเพลงอื่นๆในอัลบั้มอ่ะ เพียงแต่ตัวเนื้อหาของเพลงมันไม่ซ้ำ แล้วก็ดูเหมือนจะดูโอเคกว่าเพลงอื่นๆ แต่ถ้าพูดถึงเรื่องดนตรีก็ไม่ต้องคิดมาก มันเหมือนเดิมกับเพลงอื่นๆในอัลบั้มนี้อ่ะแหละ
14. Put Your Name On It (8/10)
ขึ้นมาด้วย Electronic จังหวะเบาหู ตามด้วยเพลง R&B เช่นเคย ตัวท่อนหลักๆไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ จะมีดีก็ตรงท่อน Hook เนี่ยแหละ มันแปลกจากท่อนอื่นๆ แล้วมันก็โอเค ไม่งั้นเพลงนี้ก็คงน่าเบื่อไปแล้ว
15. #1 (10/10)
ตัว Beat มีความน่าสนใจ ไม่เหมือนเพลงอื่นๆ แหวกแนวตรงที่โทนเพลงมีการเขยิบบ้างเล็กน้อย ดูไม่น่าเกลียด เพลงมันก็ออกมาดูดีได้ ชอบอ่ะ ประทับใจท่อน Hook เหมือนเดิม มันเป็นอะไรที่โดนสุดๆ ปิดอัลบั้ม Deluxe Edition ได้อย่างลงตัว
16. Feet to the Fire (feat. Pharrell Williams) (10/10)
เยี่ยมอ่ะ! เพลงมันลื่นหูมาก แล้วก็ชอบดนตรีมากๆเลย มันดูไม่ซ้ำจำเจซักเท่าไหร่ พูดง่ายๆว่าเพลงนี้ มีดนตรี แล้วก็เนื้อเพลงที่เรียบเรียงกันได้สวยมากๆ เป็นอีกเพลงที่ชอบ เห็นชื่อคนฟีท ก็ฟินค้างตามเดิม เพลงมันออกมาล้ำแล้วก็ดีมากๆเลย ชอบเสียง Pharrell มาก คือทุกอย่างมันโอเค มันดูลงตัว Perfect สุดๆไปเลย เสียดายที่ไม่เอาลงอัลบั้ม Standard
17. Love Me Til I Die (9/10)
เพลง R&B ที่มีลูกเล่นเยอะดี แต่ไม่เยอะมาก ตัวเพลงมีสีสันทุกท่อน เห็นได้อย่างชัดเจนเลย ทำให้ตัวเพลงไม่น่าเบื่อ แล้วก็ออกมาดูดี เหมาะกับการปิดอัลบั้มเหมือนกัน
All Review by TR
ขอบคุณที่ติดตามทุกๆ Review ครับ
ปล. Review นี้ เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นครับ!
ปล2. ขอ ปิด รีเควส รีวิวอัลบั้มชั่วคราวครับ เนื่องจากมีอีกหลายอัลบั้มที่ยังค้างอยู่ เสร็จเมื่อไหร่ จะเปิดรับใหม่นะครับ ขอบคุณครับ ^^
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว