วิเคราะห์อนาคตประเทศไทย หลังศรน.วินิจฉัย การเลือกตั้ง2กุมภาฯเป็นโมษะ



ปัญหาความไม่เสถียรภาพทางการเมืองของบ้านเรายืดเยื้อมาจะถึงครึ่งปีละนะคะ
หลายต่อหลายอาชีพ ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจกันอย่างถ้วนหน้า

โดยเฉพาะอาชีพที่รายได้ไม่คงที่ ไม่ว่าจะเป็น พนักงานขาย พริตตี้ รวมถึงดารานักแสดง คนจัดอีเว้นท์
ซึ่งทุกอย่างจะเป็นวงจรต่อเนื่องกันไปเป็นโดมิโน่ ทั้งธุรกิจรากหญ้าไปจนถึงธุรกิจระดับประเทศ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจเหล่านั้นว่าผลกระทบจากการเมืองจะส่งผลเร็วหรือช้า กระทบมากหรือน้อย แต่ร้อยทั้งร้อยทุกธุรกิจล้วนกระทบหมด
จึงบอกได้ว่า การเมืองและเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่ต้องเดินไปด้วยกัน

แน่นอนเมื่อ ''การเมือง" มีอิทธิพลต่อ "การเงิน" เรื่องของ 'ผลประโยชน์' จึงจ่อคิวตามมาอย่างติด ๆ
หลาย ๆ คน รวมถึงตัวเจ้าของกระทู้เอง ขอยอมรับอย่างดุษฎีเลยว่า ยังมองไม่เห็นทางออกในการแก้ปัญหาได้จบสิ้น
… หากจะลองวิเคราะห์กันดู รากของปัญหามาจากความแตกต่างทางแนวคิด ตัวผู้นำ ที่เป็น2ขั้วอย่างชัดเจน...
ขอวิเคราะห์ให้ลึกไปอีกนิด ในความเห็นของเจ้าของกรทู้ จุดเริ่มต้นของเรื่องน่าจะมาจาก คำว่า"คอรัปชั่น" และ ''การศึกษา"

เจ้าของกระทู้ มองว่า ปัญหานี้หยั่งรากลึกในสังคมไทยมานาน
ควรเริ่มต้นจากการให้การศึกษาเยาวชน เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นเติบโตอย่างมีตรรกะ มีวิจารณญาณในการสังเคราะห์ข้อมูล
ควบคู่ไปกับการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมพร้อมกับความรู้ความสามารถ
และที่สำคัญ เราต้องหาวิธีถอนรากถอนโคนระบบนายทุนโกงชาติให้เด็ดขาดวัว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่