เสริมจมูกคลินิกชื่อดัง
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว pantip คือเราไม่เคยเล่นเลยไม่รู้ว่าต้องแนะนำตัวอะไรก่อนมาแชร์รึป่าว !!!
วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การเสริมจมูกค่ะแนะนำตัวก่อนเราชื่อ อลิซ (นามสมมุติ)ค่ะ อายุ 17 เข้า 18 เราเป็นคนหน้าดุ หน้าไม่รับแขก อารมณ์ประมาณว่าหงุดหงิดตลอดเวลาน่ะค่ะ 55555555555 แต่จริงๆเราเป็นคนอารมณ์ดีมากคนใกล้ตัวจะรู้ดีค่ะ พื้นฐานเราก็พอมีดั้งอยู่แล้วแต่ไม่ค่อยโด่งเท่าที่ควรอ่ะน่ะ (เข้าข้างตัวเอง) 5555555555555 หน้าตาเราก้พื้นๆไม่ถึงกะขี้เหร่ล่ะก็ไม่ถึงกะสวยเลย หลายคนก็ถามว่าจะทำไปทำไมก็พอมีอยู่น่ะไฮไลเอาก็ได้ ? แต่แบบคือคุณผู้หญิงจะเข้าใจอารมณ์นี้ดีถ้าคุณส่องกระจกแล้วรู้สึกว่ามันยังไม่ดีพอแล้วเราสามารถเพิ่มเติมให้มันดีขึ้นก็น่าจะทำจริงมั้ยค่ะ โดยรวมเราก็ไม่อยากทำเท่าไรหรอกรู้สึกแบบหุ้ยยยยยยยยยย! มันไม่ใช่ของแต่เกิดกลัวล้มแล้วแบบหักคาจมูก 555555555555 คิดเยอะเกินอันนี้ แล้วอีกอย่างคือบ้านเราไม่สนับสนุนเรื่องนี้สักเท่าไรโดยเฉพาะป๊า(พ่อ) ป๊าไม่ชอบเลยยยยยยยยยยค้านนนนนนสุดชีวิตแต่ก็ไม่พูดอะไร ส่วนม๊า (แม่) ก็ไม่อยากให้ทำเพราะกลัวมันพังแต่ก็อยากให้ลูกสวย 555555555555 เอ๊ะ!! ยังไง แต่กว่าจะได้ทำเราคุยวางแพลนกะม๊านานนนนนนนนนนนมากเกือบปีเลยแต่ที่ตัดสินใจทำตอนนี้เพราะว่า มันปิดเทอมพอดี ยาวววววววววววววไปล่ะเข้าเรื่องทำจมูกเลยล่ะกันค่ะ เราทำจมูกที่คลินิกชื่อดังราคาที่ทำอยู่ที่ 23,500 บาท รวมค่าตัดไหมและยา (ใครอยากทราบชื่อคลินิกรบกวนหลังไมค์) เราไปจองคิวทำวันที่ 12 มีนาคม เราจ่ายราเต็มเลยค่ะที่นี่จะมีผ่อน 10เดือน ละก็มีแบบมัดจำไว้ก่อน1,000บาท วันจริงก็จ่ายส่วนที่เหลือ เราได้คิวทำวันที่ 19 มีนาคม เวลา 18.00 น. ระหว่างที่รอถึงวันทำเราก็งดกินอาหารเสริมทุกชนิดแต่เราหยุดก่อนประมาณ 2เดือนแล้วเพราะเราหาข้อมูลมาก่อนเหมือนกันแต่มันก็มีเรื่องให้เราเริ่มไม่อยากทำเพราะ เราขับรถเก๋งชนหมาซึ่งมันเป็นวันที่เราไปจ่ายค่าเสริมจมูก T^T ร้องไห้แปป รถเรากันชนหน้าหลุดกระเจิงส่วนน้องหมาก็หนักอยู่ค่ะกระดูกขาหลังหลุดเบ้าแว้ T^T เราเลยเอาน้องไปรักษาหมาจรนิ่สงสารทำไงได้จ่ายกันไปอีก 6,000บาท สำหรับค่าผ่าตัดเจ้าพอท (หมา) และก็ยังดีที่เราทำประกันรถไว้ไม่งั้นหมดเยอะ คือความรู้สึกแบบว่ามันเหวออ่ะแบบทำไมต้องวันนี้ด้วยว่ะวันซวย (เราปีชงพอดีด้วย) เราเลยคิดเยอะแบบนี่ก็ซวยล่ะถ้าทำจมูกมาล้มมา รถชนมาทำไงล่ะ เริ่มลังเลไม่อยากทำล่ะแต่ติดตรงจ่ายเงินไปแล้วนี่สิเค้าไม่คืนด้วยนี่สิ เช้ามาเลยไปทำบุญแก้ชงก็รู้สึกดีขึ้นค่ะก็เลยแบบเอาว่ะจ่ายแล้วนิ่ทำๆไปเถอะนะ พอถึงวันที่จะต้องทำคือเราไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้คุณหมอจะเข้าเดือนล่ะครั้งมาครั้งล่ะ2วันเท่านั้นเดือนที่เราทำนี่คุณหมอเข้า 19-20 เราถึงคลินิกตอน 17.30 มาเลทเพราะไม่อยากรอนานโห่วววววววววพระเจ้าคนเต็มร้านเลยไม่มีที่นั่งเลยค่ะในใจคิแบบแมร่งงงงงงงคือไม่มีดั้งกันเยอะแถะว่ะ 55555555555555 คนรอทำราวๆ20คนได้เลยค่ะซึ่งนัดเราทำ 18.00 เราได้เข้าตรวจพบคุณหมอเจรจาเรารูปแบบไม่ถึง5นาที คือคนอื่นแมร่งงงงงงคุยนานจังทำไมตูแปบเดียวว่ะก็อืมๆๆๆๆๆรอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆต่อไปค่ะ!!! เราก็นั่งรอสักครู่นานมากกกกกกกกกกกพี่นักงานก็เรียกให้ไปกินยาแล้วก็อธิบายวิธีดูแลตัวเองหลังเสริมเราก็อืมๆๆๆๆๆๆค่ะๆๆๆๆๆ คือแบบตูง่วงมากกกกกกกกกกกกก 20 นาทีผ่านไปพนักงานก็เรียกเราขึ้นไปชั้น 3 ภาพที่เห็นคือ คนที่ขึ้นมาก่อนเรานอนเรียงงงงงกันประมาน4เตียงจะมีคุณหมอผู้หญิงคอยฉีดยาชาให้ตอนรึ้นไปเห็นกำลังฉีดให้ผู้ชายที่ขึ้นไปก่อนหน้าเราแล้วก็ตามด้วยผู้หญิงข้างๆเราแล้วก็มาถึงตาเราแล้วล่ะคือแบบบสั่นนนนนนนนนนนไม่ใช่ไรหรอกหนาวววววมากข้างนอกฝนตกแล้วเราได้นอนเตียงใต้ทางลมแอร์พอดีคุณหมอก็เอาปากกามาเขียนจุดมาคเสร็จก็ฉีดยาชาฉีดล่ะน่ะค่ะค่อยๆจิ้มมโอ่วววววววววววววววว!!!!! หมอออออออออแมร่งงงงงงงเจ็บโคตรเลยยยยยยยน้ำตาเล็ดค่ะร้องไห้กันเลยที่เดียว 5555555555 อยากสวยต้องอดทนเค้าก็ให้เรานอนรอยาชาออกฤทธิ์เต็มที่พี่ผู้ชายที่ฉีดก่อนเราก็ไปห้องผ่าตัดประมาณ 15 นาที พนักงานก็มาเรียกพี่ผู้หญิงเตียงข้างๆเราไปห้องผ่าตัด เราก็นอนรอคือแบบบบถ้านานกว่านี้ก็หลับล่ะง่วงมากผ่านไป30นาที พนักงานก็มาเรียกชื่อเราให้ไปห้องผ่าตัดเค้าก็ให้เรานอนรอคุณหมอคือภายในห้องผ่าตัดก็แบบเหมือนห้องบ้านเราธรรมดาที่แบ่งงโซนด้วยผ้าม่านตรงกลางไว้ปิดน่ะค่ะนึกภาพแบบเราไปนอนรพ.แล้วได้นอนห้องรวมน่ะค่ะเวลาคุณหมอจะตรวจก็จะรูดผ้าม่านปิด อ่ะเราก็นอนรอต่อไปรอประมาณ 20นาทีได้ก็นานอยู่น่ะคุณหมอขึ้นมาก็มีพนักงานมาบอกคุณหมอมาแล้วน่ะค่ะเอาน้ำยาฆ่าเชื้อโรคมาเช็ดๆถูๆคือที่เราดูในคลิปอ่ะคือเค้าประณีตมากเบามือสุดคือเราไม่รู้สึกเจ็บเพราะยาชาแต่เรารู้ว่าคุณหมอมือหนักมากและอีกอย่างคือเค้าจะเช็บริเวณจมูกและรอบๆไม่เช็ดตาแต่นี่เราโดนเช็ดจมูกแก้มตาหน้าผากแล้วกดๆถูๆแรงๆน้ำก็ไหลซิค่ะคุณค่าแล้วเราใส่คอนแท็กเลนส์ด้วยนี่ซิ่เซงงงงง!! เสดก็เอาผ้าโยนใส่ปิดหน้าเราตามด้วยเหลาซิลิโคนเราได้ยินตอนเหลาแบบแก๊กๆๆๆๆๆแบบเศษซิลิโคนที่เหลามันร่วงลงพื้นอ่ะแล้วก็ร่วงใส่ผ้าคลุมหน้าเราด้วยระหว่างเหลาเราก็ได้ยินคุณหมอบ่นเรื่องยาชาตัวนั้นตัวนี้แล้วก็ดุพนักงานคุณหมอพูดห้วนๆคงพราะรับเคสเยอะมากเลยเหนื่อยเหลาเสร็จพนักงานก็พูดว่าคุณหมอจะกรีดข้างจมูกด้านขวาใส่ซิลิโคนน่ะค่ะเราไม่รู้สึกน่ะว่ากรีดตอนไหนแต่ตอนยัดซิลิโคนนิ่รู้สึกค่ะแมร่งงงงงงงงยัดแรง
ยยยยยยยคือได้ยินเสียงตอนยัดแบบเหมือนหัดผักไรเงี้ย แฟ๊คๆๆๆๆ แล้วก็กดๆบีบๆจัดทรง พนักงานก็พูดขึ้นว่าใส่ซิลิโคนแล้วน่ะค่ะต่อไปจะเย็บน่ะค่ะเราก็ไม่รู้สึกอะไรเสร็จคุณหมอก็กระชากผ้าออกแบบเหมือนโยนอ่ะแล้วก็เดินไปดูอีกเคสเตียงข้างๆเราพนักงานก็มาประคบเย็นให้เสร็จเราก็เดินลงมาๆรับยากลับบ้าน สรุปคือเรามารอทำตอน 17.30 น. เราได้ทำตอน 20.00 น. ก็น่ะนานนนนนนดีเรามาว่ากันเรื่องความพึ่งพอใจน่ะ
ความรู้สึกในแง่ดี
1.พนักงานบริการดีพูดดีทุกคนเลยค่ะ
2.แค่นี้ล่ะนึกข้ออื่นไม่ออก
ความรู้สึกในแง่ติดลบอย่างมาก
1.ให้เรานั่งรอนานเกินไป
2.คุณหมอรับเคสเยอะเกินไป
3.ห้องผ่าตัดไปปลอดเชื้อสักเท่าไร
4.คุณหมอพูดจาห้วน มือหนัก เร่งทำ ทำเวลาเกินไป
5.ให้คำปรึกษาน้อยเกินไป
6.โดยรวมไม่ประทับใจค่ะ
ข้อแนะนำสำหรับคนกำลังจะเสริมจมูกคือเราแนะนำให้ทำที่รพ.น่าจะปลอดภัยกว่าราคาอาจจะสูงแต่เค้าจะบริการ ใส่ใจ และเรื่องความปลอดภัยก็น่าเชื่อถือกว่าไม่งั้นคงไม่เป็นรพ.จริงมั้ยค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคลินิกไม่ดีใครสะดวกทำที่ไหนก็ทำที่นั้นล่ะค่ะแต่ถ้าเลือกทำคลินิกก็หาข้อมูลให้ชัดเจน คุณหมอชื่ออะไร หาดูรีวิวในเน็ต คลินิกมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน ลูกค้าที่เคยทำประทับใจมั้ย แล้วก็ความรู้สึกส่วนตัวด้วยค่ะว่าชอบที่ไหน ส่วนตัวเราแล้วเราใช้ความรู้สึกแค่ว่าเค้าทำกันเยอะก็น่าจะโอล่ะอีกอย่างคือเราขี้เกียจนั่งรถมาทำกทม. เพราะยังไงคุณหมอก็มาจากกทม.แต่ข้อเสียที่เราเห็นคือคุณหมอที่รับเคสตามต่างจังหวัดจะรับเคสเยอะและเร่งทำเพราะคุณหมอจะจำกัดวัน เวลาในการทำความปลอดภัยเราก็จะลดน้อยลงเสี่ยงหลายๆอย่างเราก็กลัวน่ะแต่มันก็ขึ้นอยู่หลายปัจจัยขึ้นอยู่ที่ตัวเราและก็คุณหมอหากหลังทำเราดูแลตัวเองไม่ดีพอไม่หมั่นประคบร้อนประคบเย็น กินของหมักดอง กินของเผ็ดมากๆ ไม่ระมัดระวังตัวเอง ทั้งหมดที่เรามารีวิวเราไม่ได้ต้องการอะไรแค่อยากให้ทุกคนที่อยากสวยคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนตัดสินใจทำ เรามีบทเรียนครั้นี้แล้วครั้งต่อไปเราจะทำอะไรเพิ่มเติมเราก็จะตัดสินใจให้ดีกว่านี้ รู้สึกเสียใจนิดๆน่ะเพราะตอนแรกเราลังเลกะจะทำที่ รพ.เลอ......... เห็นว่าคนทำเยอะเพื่อนเราก็ไปทำกันเยอะจากที่ฟังก็น่าจะโอแต่ติดตรงมันอยู่กทม.เราขี้เกียจนั่งรถฟุดๆ เราไม่ได้ค่านายหน้าหรืออะไรเราไม่ประทับใจเราก็พูดไปตามความรู้สึกไม่ได้อยากทำให้คลินิกเสียชื่อเสียงที่ออกมาพูดก็เพราะออยากให้คลนิกใส่ใจกว่านี้ ถ้ามีคนออกมาโวยไม่พอใจเหมือนอลิซคลินิกจะเสียหายกว่านี้น่ะค่ะอยากให้ปรับปรุงค่ะเราไม่ประทับใจและจะไม่แนะนำใครไปทำด้วยและจะเลิกใช้บริการคลินิกนี้ (ปกติเราจะไปดูแลผิวหน้าที่นี่ด้วย) ตอนนี้หน้าเรายังบวมอยู่แต่ไม่มากใครกลัวหน้าบวมก็หมั่นประคบร้อนเย็นน่ะค่ะจะช่วยได้เยอะ หลังจากนี้เราจะตามมาอัพรูปให้ดูน่ะค่ะว่าหลังทำเป็นยังไงกัน ใครที่กำลังหาที่เสริมจมูกราก็ขอให้ได้เจอคุณหมอดีๆ ทำเก่งๆ ขอให้ปลอดภัยทำออกมาสวยยยยยยยโด่งทุกคนน่ะค่ะ ^^
[CR] เสริมจมูกคลินิกธ_ _ _
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว pantip คือเราไม่เคยเล่นเลยไม่รู้ว่าต้องแนะนำตัวอะไรก่อนมาแชร์รึป่าว !!!
วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การเสริมจมูกค่ะแนะนำตัวก่อนเราชื่อ อลิซ (นามสมมุติ)ค่ะ อายุ 17 เข้า 18 เราเป็นคนหน้าดุ หน้าไม่รับแขก อารมณ์ประมาณว่าหงุดหงิดตลอดเวลาน่ะค่ะ 55555555555 แต่จริงๆเราเป็นคนอารมณ์ดีมากคนใกล้ตัวจะรู้ดีค่ะ พื้นฐานเราก็พอมีดั้งอยู่แล้วแต่ไม่ค่อยโด่งเท่าที่ควรอ่ะน่ะ (เข้าข้างตัวเอง) 5555555555555 หน้าตาเราก้พื้นๆไม่ถึงกะขี้เหร่ล่ะก็ไม่ถึงกะสวยเลย หลายคนก็ถามว่าจะทำไปทำไมก็พอมีอยู่น่ะไฮไลเอาก็ได้ ? แต่แบบคือคุณผู้หญิงจะเข้าใจอารมณ์นี้ดีถ้าคุณส่องกระจกแล้วรู้สึกว่ามันยังไม่ดีพอแล้วเราสามารถเพิ่มเติมให้มันดีขึ้นก็น่าจะทำจริงมั้ยค่ะ โดยรวมเราก็ไม่อยากทำเท่าไรหรอกรู้สึกแบบหุ้ยยยยยยยยยย! มันไม่ใช่ของแต่เกิดกลัวล้มแล้วแบบหักคาจมูก 555555555555 คิดเยอะเกินอันนี้ แล้วอีกอย่างคือบ้านเราไม่สนับสนุนเรื่องนี้สักเท่าไรโดยเฉพาะป๊า(พ่อ) ป๊าไม่ชอบเลยยยยยยยยยยค้านนนนนนสุดชีวิตแต่ก็ไม่พูดอะไร ส่วนม๊า (แม่) ก็ไม่อยากให้ทำเพราะกลัวมันพังแต่ก็อยากให้ลูกสวย 555555555555 เอ๊ะ!! ยังไง แต่กว่าจะได้ทำเราคุยวางแพลนกะม๊านานนนนนนนนนนนมากเกือบปีเลยแต่ที่ตัดสินใจทำตอนนี้เพราะว่า มันปิดเทอมพอดี ยาวววววววววววววไปล่ะเข้าเรื่องทำจมูกเลยล่ะกันค่ะ เราทำจมูกที่คลินิกชื่อดังราคาที่ทำอยู่ที่ 23,500 บาท รวมค่าตัดไหมและยา (ใครอยากทราบชื่อคลินิกรบกวนหลังไมค์) เราไปจองคิวทำวันที่ 12 มีนาคม เราจ่ายราเต็มเลยค่ะที่นี่จะมีผ่อน 10เดือน ละก็มีแบบมัดจำไว้ก่อน1,000บาท วันจริงก็จ่ายส่วนที่เหลือ เราได้คิวทำวันที่ 19 มีนาคม เวลา 18.00 น. ระหว่างที่รอถึงวันทำเราก็งดกินอาหารเสริมทุกชนิดแต่เราหยุดก่อนประมาณ 2เดือนแล้วเพราะเราหาข้อมูลมาก่อนเหมือนกันแต่มันก็มีเรื่องให้เราเริ่มไม่อยากทำเพราะ เราขับรถเก๋งชนหมาซึ่งมันเป็นวันที่เราไปจ่ายค่าเสริมจมูก T^T ร้องไห้แปป รถเรากันชนหน้าหลุดกระเจิงส่วนน้องหมาก็หนักอยู่ค่ะกระดูกขาหลังหลุดเบ้าแว้ T^T เราเลยเอาน้องไปรักษาหมาจรนิ่สงสารทำไงได้จ่ายกันไปอีก 6,000บาท สำหรับค่าผ่าตัดเจ้าพอท (หมา) และก็ยังดีที่เราทำประกันรถไว้ไม่งั้นหมดเยอะ คือความรู้สึกแบบว่ามันเหวออ่ะแบบทำไมต้องวันนี้ด้วยว่ะวันซวย (เราปีชงพอดีด้วย) เราเลยคิดเยอะแบบนี่ก็ซวยล่ะถ้าทำจมูกมาล้มมา รถชนมาทำไงล่ะ เริ่มลังเลไม่อยากทำล่ะแต่ติดตรงจ่ายเงินไปแล้วนี่สิเค้าไม่คืนด้วยนี่สิ เช้ามาเลยไปทำบุญแก้ชงก็รู้สึกดีขึ้นค่ะก็เลยแบบเอาว่ะจ่ายแล้วนิ่ทำๆไปเถอะนะ พอถึงวันที่จะต้องทำคือเราไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้คุณหมอจะเข้าเดือนล่ะครั้งมาครั้งล่ะ2วันเท่านั้นเดือนที่เราทำนี่คุณหมอเข้า 19-20 เราถึงคลินิกตอน 17.30 มาเลทเพราะไม่อยากรอนานโห่วววววววววพระเจ้าคนเต็มร้านเลยไม่มีที่นั่งเลยค่ะในใจคิแบบแมร่งงงงงงงคือไม่มีดั้งกันเยอะแถะว่ะ 55555555555555 คนรอทำราวๆ20คนได้เลยค่ะซึ่งนัดเราทำ 18.00 เราได้เข้าตรวจพบคุณหมอเจรจาเรารูปแบบไม่ถึง5นาที คือคนอื่นแมร่งงงงงงคุยนานจังทำไมตูแปบเดียวว่ะก็อืมๆๆๆๆๆรอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆต่อไปค่ะ!!! เราก็นั่งรอสักครู่นานมากกกกกกกกกกกพี่นักงานก็เรียกให้ไปกินยาแล้วก็อธิบายวิธีดูแลตัวเองหลังเสริมเราก็อืมๆๆๆๆๆๆค่ะๆๆๆๆๆ คือแบบตูง่วงมากกกกกกกกกกกกก 20 นาทีผ่านไปพนักงานก็เรียกเราขึ้นไปชั้น 3 ภาพที่เห็นคือ คนที่ขึ้นมาก่อนเรานอนเรียงงงงงกันประมาน4เตียงจะมีคุณหมอผู้หญิงคอยฉีดยาชาให้ตอนรึ้นไปเห็นกำลังฉีดให้ผู้ชายที่ขึ้นไปก่อนหน้าเราแล้วก็ตามด้วยผู้หญิงข้างๆเราแล้วก็มาถึงตาเราแล้วล่ะคือแบบบสั่นนนนนนนนนนนไม่ใช่ไรหรอกหนาวววววมากข้างนอกฝนตกแล้วเราได้นอนเตียงใต้ทางลมแอร์พอดีคุณหมอก็เอาปากกามาเขียนจุดมาคเสร็จก็ฉีดยาชาฉีดล่ะน่ะค่ะค่อยๆจิ้มมโอ่วววววววววววววววว!!!!! หมอออออออออแมร่งงงงงงงเจ็บโคตรเลยยยยยยยน้ำตาเล็ดค่ะร้องไห้กันเลยที่เดียว 5555555555 อยากสวยต้องอดทนเค้าก็ให้เรานอนรอยาชาออกฤทธิ์เต็มที่พี่ผู้ชายที่ฉีดก่อนเราก็ไปห้องผ่าตัดประมาณ 15 นาที พนักงานก็มาเรียกพี่ผู้หญิงเตียงข้างๆเราไปห้องผ่าตัด เราก็นอนรอคือแบบบบถ้านานกว่านี้ก็หลับล่ะง่วงมากผ่านไป30นาที พนักงานก็มาเรียกชื่อเราให้ไปห้องผ่าตัดเค้าก็ให้เรานอนรอคุณหมอคือภายในห้องผ่าตัดก็แบบเหมือนห้องบ้านเราธรรมดาที่แบ่งงโซนด้วยผ้าม่านตรงกลางไว้ปิดน่ะค่ะนึกภาพแบบเราไปนอนรพ.แล้วได้นอนห้องรวมน่ะค่ะเวลาคุณหมอจะตรวจก็จะรูดผ้าม่านปิด อ่ะเราก็นอนรอต่อไปรอประมาณ 20นาทีได้ก็นานอยู่น่ะคุณหมอขึ้นมาก็มีพนักงานมาบอกคุณหมอมาแล้วน่ะค่ะเอาน้ำยาฆ่าเชื้อโรคมาเช็ดๆถูๆคือที่เราดูในคลิปอ่ะคือเค้าประณีตมากเบามือสุดคือเราไม่รู้สึกเจ็บเพราะยาชาแต่เรารู้ว่าคุณหมอมือหนักมากและอีกอย่างคือเค้าจะเช็บริเวณจมูกและรอบๆไม่เช็ดตาแต่นี่เราโดนเช็ดจมูกแก้มตาหน้าผากแล้วกดๆถูๆแรงๆน้ำก็ไหลซิค่ะคุณค่าแล้วเราใส่คอนแท็กเลนส์ด้วยนี่ซิ่เซงงงงง!! เสดก็เอาผ้าโยนใส่ปิดหน้าเราตามด้วยเหลาซิลิโคนเราได้ยินตอนเหลาแบบแก๊กๆๆๆๆๆแบบเศษซิลิโคนที่เหลามันร่วงลงพื้นอ่ะแล้วก็ร่วงใส่ผ้าคลุมหน้าเราด้วยระหว่างเหลาเราก็ได้ยินคุณหมอบ่นเรื่องยาชาตัวนั้นตัวนี้แล้วก็ดุพนักงานคุณหมอพูดห้วนๆคงพราะรับเคสเยอะมากเลยเหนื่อยเหลาเสร็จพนักงานก็พูดว่าคุณหมอจะกรีดข้างจมูกด้านขวาใส่ซิลิโคนน่ะค่ะเราไม่รู้สึกน่ะว่ากรีดตอนไหนแต่ตอนยัดซิลิโคนนิ่รู้สึกค่ะแมร่งงงงงงงงยัดแรง
ความรู้สึกในแง่ดี
1.พนักงานบริการดีพูดดีทุกคนเลยค่ะ
2.แค่นี้ล่ะนึกข้ออื่นไม่ออก
ความรู้สึกในแง่ติดลบอย่างมาก
1.ให้เรานั่งรอนานเกินไป
2.คุณหมอรับเคสเยอะเกินไป
3.ห้องผ่าตัดไปปลอดเชื้อสักเท่าไร
4.คุณหมอพูดจาห้วน มือหนัก เร่งทำ ทำเวลาเกินไป
5.ให้คำปรึกษาน้อยเกินไป
6.โดยรวมไม่ประทับใจค่ะ
ข้อแนะนำสำหรับคนกำลังจะเสริมจมูกคือเราแนะนำให้ทำที่รพ.น่าจะปลอดภัยกว่าราคาอาจจะสูงแต่เค้าจะบริการ ใส่ใจ และเรื่องความปลอดภัยก็น่าเชื่อถือกว่าไม่งั้นคงไม่เป็นรพ.จริงมั้ยค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคลินิกไม่ดีใครสะดวกทำที่ไหนก็ทำที่นั้นล่ะค่ะแต่ถ้าเลือกทำคลินิกก็หาข้อมูลให้ชัดเจน คุณหมอชื่ออะไร หาดูรีวิวในเน็ต คลินิกมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน ลูกค้าที่เคยทำประทับใจมั้ย แล้วก็ความรู้สึกส่วนตัวด้วยค่ะว่าชอบที่ไหน ส่วนตัวเราแล้วเราใช้ความรู้สึกแค่ว่าเค้าทำกันเยอะก็น่าจะโอล่ะอีกอย่างคือเราขี้เกียจนั่งรถมาทำกทม. เพราะยังไงคุณหมอก็มาจากกทม.แต่ข้อเสียที่เราเห็นคือคุณหมอที่รับเคสตามต่างจังหวัดจะรับเคสเยอะและเร่งทำเพราะคุณหมอจะจำกัดวัน เวลาในการทำความปลอดภัยเราก็จะลดน้อยลงเสี่ยงหลายๆอย่างเราก็กลัวน่ะแต่มันก็ขึ้นอยู่หลายปัจจัยขึ้นอยู่ที่ตัวเราและก็คุณหมอหากหลังทำเราดูแลตัวเองไม่ดีพอไม่หมั่นประคบร้อนประคบเย็น กินของหมักดอง กินของเผ็ดมากๆ ไม่ระมัดระวังตัวเอง ทั้งหมดที่เรามารีวิวเราไม่ได้ต้องการอะไรแค่อยากให้ทุกคนที่อยากสวยคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนตัดสินใจทำ เรามีบทเรียนครั้นี้แล้วครั้งต่อไปเราจะทำอะไรเพิ่มเติมเราก็จะตัดสินใจให้ดีกว่านี้ รู้สึกเสียใจนิดๆน่ะเพราะตอนแรกเราลังเลกะจะทำที่ รพ.เลอ......... เห็นว่าคนทำเยอะเพื่อนเราก็ไปทำกันเยอะจากที่ฟังก็น่าจะโอแต่ติดตรงมันอยู่กทม.เราขี้เกียจนั่งรถฟุดๆ เราไม่ได้ค่านายหน้าหรืออะไรเราไม่ประทับใจเราก็พูดไปตามความรู้สึกไม่ได้อยากทำให้คลินิกเสียชื่อเสียงที่ออกมาพูดก็เพราะออยากให้คลนิกใส่ใจกว่านี้ ถ้ามีคนออกมาโวยไม่พอใจเหมือนอลิซคลินิกจะเสียหายกว่านี้น่ะค่ะอยากให้ปรับปรุงค่ะเราไม่ประทับใจและจะไม่แนะนำใครไปทำด้วยและจะเลิกใช้บริการคลินิกนี้ (ปกติเราจะไปดูแลผิวหน้าที่นี่ด้วย) ตอนนี้หน้าเรายังบวมอยู่แต่ไม่มากใครกลัวหน้าบวมก็หมั่นประคบร้อนเย็นน่ะค่ะจะช่วยได้เยอะ หลังจากนี้เราจะตามมาอัพรูปให้ดูน่ะค่ะว่าหลังทำเป็นยังไงกัน ใครที่กำลังหาที่เสริมจมูกราก็ขอให้ได้เจอคุณหมอดีๆ ทำเก่งๆ ขอให้ปลอดภัยทำออกมาสวยยยยยยยโด่งทุกคนน่ะค่ะ ^^