รีวิว 300 Rise of an Empire ฉบับรวบรัด+ประวัติศาสตร์จริง(สปอล์ยนิดๆหยาบหน่อยๆ)

รีวิว 300 Rise of an Empire ฉบับรวบรัด+ประวัตศาสตร์จริง(สปอล์ยนิดๆ)

สืบเนื่องจากผมดูภาคแรก แล้วชอบมากๆ จึงไปไล่อ่านประวัติศาสตร์ของสงครามมาครับ

แล้วพอดีช่วงนี้มีภาค Rise Of an Empire พึ่งจะได้ไปดูมาเมื่อวาน ไม่ผิดหวังจริงๆครับ

รีวิวและสปอล์ยเนื้อเรื่องนี้ อาจจะมีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมซักนิดนะครับ แต่ก็เพื่ออรรถรสในการอ่าน

ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับผม

-----------------------------------------------------

จะไม่เรียงสปอล์ยตามเนื้อเรื่องนะครับ เรียงตามที่ผมนึกออก 555

- เนื้อเรื่องเป็นเนื้อเรื่องคู่ขนาน คือ เกิดก่อน เกิดพร้อม และเกิดหลัง เรื่องในภาคแรก

- เลือดสาด กว่าเดิม ถ้าดู 3D นี่ยิ้มคงเปื้อนหน้ากูใด้

- ความดิบเถื่อน บ้าคลั่ง ของฝ่ายเทมิสโตคริส (ตัวเอกในภาคนี้)น้อยมาก

- เป็นแบบแผน มากขึ้น เป็นระเบียบมากขึ้น

- สูญเสีย มากขึ้น เพราะนักรบในภาคนี้ก็ไม่ต่างจากอาร์เคเดี้ยนในภาคที่แล้ว คือเอา
  ชาวบ้านมาเกณฑ์เฉยๆนั่นแหละ ไม่ได้เป็นนักรบโดยกำเนิดเหมือนสปาร์ต้า

- เซอร์ซิสยิ้มดูกากมาก เมื่อมาเจอเจ๊อาร์ธีมีเชียร์ (เอวา กรีน)

- ประวัติต่างๆของตัวละครฝ่ายเปอร์เซียเกือบทุกตัวจะถูกย้อนมาฉายในภาคนี้

- แน่นอน ต้นเหตุของรูปร่างหน้าตาที่แสนอัปปรีย์ของเซอร์ซิสด้วย  
  (เดิมๆหนะดีอยู่แล้ว)

- เซอร์ซิส ฉบับดั้งเดิมจริงๆ เขียนว่า่ Xerxes และอ่านว่า เซิร์กเซส ซึ่งไม่รู้ใน
  ภาษาไทยมันจะเปลี่ยนทำไม แต่ก็เรียกง่ายขึ้นนะ

- เนื้อเรื่อง สนุกมาก แต่ยังเทียบเท่าภาคแรกไม่ได้ แต่มีเหตุมีผล ความเป็นมาต่างๆ
  เล่นกับความแค้นในใจคนได้เจ๋งมาก

- เซอร์ซิส ในหนัง ตัดหัวลีโอไนดัสแล้วหิ้วไปทิ้งที่เอเธนส์(หรือกรีก ไม่แน่ใจ) ที่
  กำลังล่มสลาย แต่ในความเป็นจริง เซอร์ซิสได้ตัดหัวลีโอไนดัสแล้วเอาร่างกายที่ไร้
  หัวตรึงตะปูไว้กับไม้กระดาน
  
- แต่ภายหลัง เซอร์ซิสคิดได้ว่า ตนเองลบหลู่กษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่อย่างรุนแรง
  จึงได้ทำสุสานอย่างดีในแท่นหินรูปสิงโต

- สี่สิบปีให้หลัง ศพจึงถูกส่งกลับสปาร์ต้า

- จริงๆแล้วสปาร์ต้าไม่ค่อยถูกกับเมืองใหญ่ๆอย่างเอเธนส์ เพราะมีเรื่องความเป็นใหญ่
  มาเกี่ยวข้อง

- เอเธนส์มีวัฒนธรรม การปกครองแบบประชาธิปไตย แต่สปาร์ต้ามีนักรบเดินดินที่  
  แข็งแกร่งแทบจะที่สุดของในยุคนั้น และมีการปกครองแบบเผด็จการ

- แต่ทางเมืองอื่นมีแต่อยากได้สปาร์ต้ามาเป็นพวก เพราะรู้ว่านักรบของสปาร์ต้าคือ
  นักรบชั้นเยี่ยม แต่สปาร์ต้าไม่ยอมเข้าร่วมกับนครอื่น

- สปาร์ต้าไม่ได้มีทหารเก่งแค่สามร้อยนาย แต่เนื่องจากตอนนั้นเป็นเทศกาลคาร์เนี่ยน
  ชาวเมืองถือว่าไม่ควรทำศึก จึงมีทหารอาสาแค่สามร้อยนายแค่นั้น

- แต่ในการรบจริง มีทหารของที่อื่นมาช่วยด้วยถึง 7000 นาย (สปาร์ต้า เอเธนส์ และ  
  เมืองอื่นๆอีก)

- แต่หลังจากรบได้ไม่นาน ทหารของเมืองอื่นๆ รวมถึงเอเธนส์ก็รู้สึกว่าจะพ่ายแพ้ จึง
  ขอถอนกำลังกลับ เหลือเพียงทหารสปาร์ต้าและทหารชาวเทปเซี่ยนอีกจำนวนหนึ่ง
  ที่จะขอยืนยันอยู่ที่เดิมจนตัวตาย

- เป็นที่มาของประโยคที่ติดหู รวมถึงในหนัง(รึปล่าวไม่แน่ใจ) ว่า
  " Tonight we dine in Hell !! " "คืนนี้ เราจะไปฉลองมื้อคำกันในนรก!!"

- แน่นอน สมใจอยาก ทั้งหมดตายคาสนามรบ

- สปาร์ต้าเสียทหารไปสามร้อย(กว่า เพราะรวมพันธมิตรอีกนิดหน่อย) แต่เปอร์เซีย  
  เสียไปร่วมหมื่นนาย

- สถานที่ๆต่อสู้กัน คือ Thermopylae (ในหนังภาคแรกใช้คำว่า Hot Gates) ซึ่งเป็น  
  ทางผ่านไปยังเมืองเอเธนส์

- จำนวนจะมากยังไง ก็ไม่มีผลอย่างที่ลีโอไนดัสว่า เพราะช่องเขาที่ว่า มีความกว้าง
  เพียง 15 เมตร

- แต่ผลสุดท้าย ถึงจะทำใหเซอร์ซิส เสียกำลังรบไปเยอะ แต่ก็ไม่ชนะ ทำให้เอเธนส์
  โดนเผาซะ ... ใช่ครับ เผาเมือง

- ไม่ได้เผาคน เพราะคน หนีไปก่อนแล้วครับ

- สาเหตุอีกอย่างที่สปาร์ต้า ไม่ถูกกับเอเธนส์ เพราะในสงครามครั้งแรก (รุ่นกษัตริย์  
  ดาริอุส (Darius) ระหว่างเอเธนส์กับเปอร์เซีย เอเธนส์ส่งคนไปขอกองกำลังให้
  สปาร์ต้ามาช่วย สปาร์ต้าบอก  "อ้อ ติดเทศกาลคาร์เนี่ยนอยู่ครัชช ไปช่วยไม่ได้"

- เอเธนส์จึงเหม็นขี้หน้าสปาร์ต้ายิ่งกว่เดิม เป็นคู่กัดกันมาตลอด

- แต่ไม่มีสงครามต่อกันและกัน เพราะพันธมิตรของเอเธนส์ต่างรู้กำลังของสปาร์ต้าดี

- ทำไปทำมา สงครามเข้าตัว เทศกาลเดียวกันเป๊ะๆ ซวยไป

- สงครามครั้งแรก ก็สงครามเดียวกับตอนเปิดเรื่อง ของภาคที่สองนั่นแหละครับ
  ที่เทมิสโตคริสยิงธนูใส่พ่องงง ของเซอร์ซิสนั่นแหละครับ เป็นชนวนให้เกิดสงคราม    
  ครั้งที่สอง

- ผมแอบผิดหวังนิดๆกับภาคนี้ ฉากสู้รบบนดินที่อลังการหายไป ความดิบเถื่อน ดุดัน หายไปเยอะครับ แต่ทดแทนด้วยฉากรบบนเรือที่เลือดสาดไม่แพ้กันมาแทน

- แต่ไม่เหมือนที่ว่า ภาคนี้ทหารฝ่ายเอเธนส์ ตายเป็นใบไม้ร่วง เพราะไม่ใช่นักรบโดยกำเนิดครับ จึงไม่ดุดัน แข็งแกร่งเหมือนสปาร์ต้า

- ตัวละครในภาคนี้ กระจายความเด่นไปทั่วถึงครับ ทั้งฝั่งเอเธนส์และเปอร์เซีย โดยมีมุมมองของทางด้านเปอร์เซียเข้ามาด้วย ไม่เหมือนภาคแรก ที่มองแต่มุมของสปาร์ต้าอย่างเดียว

- เทมิสโตคริส  หรือ Sullivan Stapleton ตัวเอกของภาคนี้ ผมบอกตรงๆว่าไม่เถื่อนเท่าที่คิดไว้ครับ แต่ผมเองก็ไปติดกับภาพลักษณ์กษัตริย์นักรบแบบคิงลีโอไนดัสซะแล้ว เฮียซัลลิแว่นแกยังดูเป็นนักรบที่ไม่มีอำนาจในการสั่งการเท่าไหร่ครับ

- เจ๊ Eva Green หรือ อาธีมีเชียร์ มองแรกๆ ผมเฉยๆนะครับ แต่พอดูไปซักพัก อืมมม หลงไหลในความดุดัน สวยแบบน่ากลัวของเจ๊แกจริงๆ
ตาคมๆ ชุดดำโหดๆ ตัดกับผิวขาวๆของเจ๊ซะจริง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

- ตัวละครอีกตัวที่ต้องจับตามองคือ ลูกชายของเพื่อนเทมิสโตคริสแหละครับ(ผมจำชื่อทั้งพ่อทั้งลูกไม่ได้เลย -- ) แสดงความแข็งแกร่งออกมา
หลังจาก[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ได้สมบูรณ์แบบครับ


- ในหนังก็ตามสเต็ปครับ แต่ไม่ได้ถึงขั้นบอกว่า ชนะหรือแพ้ แค่ทำให้ตัวละครทุกตัวรวมทั้งเทมิสโตคริส หมดปม และปัญหาทุกอย่างภายในใจ
  และก็ตัดจบ รอดูภาคสามกันต่อปายย

- สุดท้าย แด่ประเทศไทย...

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


----------------------------

จบแล้วครับ อาจจะมีข้อผิดพลาด ติชมได้ตามสบายนะครับ ผมไม่เคยเขียนรีวิวแบบนี้เลย แต่อยากทำครับผม ชอบจริงๆเรื่องนี้

ป.ล. 18+

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่