ผมอยากจะถามหลวงพี่ว่า บาปกรรมของคนที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ตัวเองนั้น

ในเมื่อหลวงพี่ไม่เชื่อว่ามีการเวียนว่ายตายเกิด ไม่เชื่อว่ามีนรก ไม่เชื่อว่ามีสวรรค์ และคิดว่านิพพานสูญ

งั้นผมอยากถามท่านถึงเรื่องข่าวๆนึง ที่ลูกชายคนโต วางแผนฆ่าพ่อฆ่าแม่และน้องชายของตนเอง โดยยิงปืนเข้าขมับจนตายทั้ง3รายรวด  

ผมอยากจะถามหลวงพี่ว่า บาปกรรมของคนที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ตัวเองนั้น

ในสายตาของคนที่ไม่เชื่อเรื่องนรก ไม่เชื่อเรื่องสวรรค์ อย่างหลวงพี่นั้น ผู้ที่ฆ่าพ่อฆ่าแม่ตัวเองนั้น จะมีผลกรรมอย่างไรในสายตาของท่าน?

ผมอยากจะรู้ว่าท่านจะตอบว่าอย่างไร? (ยิงฟรี? ตายฟรี? ) แก้ไขข้อความเมื่อ 22 ชั่วโมงที่แล้ว
ตอบกลับ 0 0  หมายเลขสมาชิก
วันอาทิตย์ เวลา 21:33 น.

*************************

ก่อนอื่นขอบอกกว่า อาตมาเชื่อเรื่องนรก สวรรค์ แต่เป็นชนิด สันทิฎฐิโก คือ เห็นเอง ไม่ใช่อย่างที่ต้องใช้ความเชื่อ ที่ไม่เป็นสันทิฎฐิโก ที่เป็นคำสอนของศาสนาพราหมณ์อย่างที่ชาวพุทธเกือบทั้งหมดเชื่อกันอยู่

นรก ก็คือ ความร้อนใจอย่างกับถูกไฟเผา หรือเกิดความทุกข์อย่างรุนแรง จะนานหรือไม่นานก็ขึ้นอยู่กับความชั่วหรือความผิดที่ทำไว้

สวรรค์ ก็คือ ความสุขใจอิ่มใจ ที่ได้ทำความดี จะนานหรือไม่นานก็ขึ้นอยู่กับความดีที่ทำ (การทำดีแล้วหวังผลทางวัตถุเป็นความชั่วที่ลึกซึ้ง)

นิพพาน ไมได้หมายถึง ตายแล้วสูญ แต่หมายถึง จิตที่สงบเย็นเพราะไม่มีกิเลสแผดเผา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับความตายเลย

เรื่องนรกใต้ดิน สวรรค์บนฟ้านั้นเขาเอาไว้หลอกคนป่าคนดงที่ไม่มีความรู้ (แต่คนเมืองก็ยังเชื่อกันอยู่) อย่างที่เรียกว่า "เอานรกมาขู่ เอาสวรรค์มาล่อ"

เรื่องกรรมและผลของกรรมนั้น ก็คือการสอนเรื่องจิตใต้สำนึก ที่เมื่อทำความดี จิตมันก็รู้อยู๋ว่าเป็นความดี มันก็จะเกิดความสุขใจอิ่มใจขึ้นมาทันที แต่ถ้าทำชั่ว จิตมันก็รู้อยู่ว่าเป็นความชั่ว มันก็จะเกิดความร้อนใจ ทุกข์ใจ หรืออย่างน้อยก็ไม่สบายใจขึ้นมาทันที ซึ่งนี่คือความจริงที่ไม่มีใครจะปฏิเสธได้ ที่เป็นสันทิฏฐิโก คือต้องเห็นเอง ไม่ต้องใช้การคาดเดาหรือเชื่อโดยไม่มีของจริงมาให้สัมผัส

ส่วนผลทางวัตถุหรือผลทางร่างกายนั้นอย่าไปสนใจ เพราะไม่ใช่ผลที่แท้จริงของกรรม เช่น ทำดีแล้วมีคนชมหรือให้รางวัล ถ้าทำชั่วแล้วถูกติเตียนหรือถูกลงโทษ เพราะมันขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก ที่เอาแน่ไม่ได้ อย่างเช่น ถ้าทำดีแล้วไม่มีใครรู้ ก็ไม่มีใครมาชมหรือให้รางวัล ถ้าทำชั่วแล้วปกปิดไว้ได้ก็ไม่มีใครติเตียนหรือลงโทษ

เรื่องกรรมและการรับผลกรรมนี้ชาวพุทธส่วนใหญ่สนใจกันมาก ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าสอนว่าเป็นเรื่องอจินไตย คือไม่ควรสนใจมาศึกษา เพราะมันไม่ได้เป็นประโยชน์แก่การศึกษาเพื่อดับทุกข์เลย ยิ่งศึกษาก็จะยิ่งทำให้โง่มากยิ่งขึ้น และความทุกข์ก็ไม่ลดลง

เรื่องที่พระพุทธเจ้าสอนก็คือเรื่อง การดับทุกข์ของจิตใจในปัจจุบัน เพราะเป็นเรื่องที่เร่งด่วนที่สุด สำคัญที่สุด แต่เราก็ไม่ชอบศึกษากัน แล้วก็มาสนใจเรื่องที่ไร้สาระ อย่างเช่นเรื่องกรรมและการรับผลกรรมเช่นนี้ แล้วอย่างนี้จะเป็นชาวพุทธที่แท้จริงได้อย่างไร? จะเป็นได้ก็เพียงแค่ชื่อ เพราะยังมีความทุกข์กันอยู่ ชาวพุทธที่แท้จะต้องเป็นคนมีปัญญาและมีความทุกข์น้อย หรือไม่มีเลย

แล้วเราเป็นชาวพุทธแท้หรือพุทธเทียม?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่