ถึงชายและหญิงทุกท่านที่กำลังล้อเล่นกับความรัก...คุณอาจจะทำให้ใครคนนึงเจ็บเจียนตาย

เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงจากชีวิตของเพื่อนผม ซึ่งก่อนนำมาลง ผมได้ขอเพื่อนแล้ว
เพื่อนก็โอเค เพราะมันไม่ได้เล่นพันทิป...
จึงอยากจะเอามาแชร์ให้เพื่อนๆในห้องสยามได้อ่านกันไว้นะครับ (ขอสมมุติชื่อเพื่อนว่านายค. และชื่อผู้หญิงคือนังฝ.)

เรื่องมีอยู่ว่า นายค.ได้มีโอกาสไปพบกับนังฝ.โดยการเล่นเฟซบุค ละก็ได้คุยโต้ตอบกันไปมา
จึงได้รู้ว่านังฝ.เป็นคนที่จังหวัดน. ทางภาคเหนือ และยังเรียนอยู่ชั้นม.6 ส่วนนายค. อายุ 23 ทำงานแล้วอยู่ในกรุงเทพ
นายค.เริ่มรู้สึกชอบนังฝ. เพราะนังฝ.เป็นคนที่คุยสนุก เฟรนลี่
ในแต่ละวันที่คุยกัน ก็ถามสารทุกข์สุขดิบ เป็นห่วงเป็นใยกันเสมอ แต่นายค.ก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่านังฝ.มีแฟนหรือยัง
เพราะว่านายค.ไปไล่อ่านดูเฟซบุคเก่าๆของนังฝ.ก็พบว่านังฝ.เคยขึ้นสถานะว่าคบกับคนคนนึงไว้อยู่ ซึ่งพอไปดูโปรไฟล์ของคนนั้น
ปรากฏว่าคนนั้น มีลูกมีเมียแล้ว ทำให้นายค.เกิดอาการสับสน ซึ่งก็ลองถามนังฝ. ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีอะไร โดนเพื่อนแกล้ง
แต่นายค.มั่นใจมากว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้น แต่ด้วยความหลงที่มีอยู่เต็มหัวใจ จึงตัดสินใจไม่เชื่อ

หลังจากที่คุยกันไปได้ราวๆ 1 เดือน ทั้งสองก็ได้ตกลงเป็นแฟนกัน โดยที่ไม่เคยเจอหน้ากันเลยแม้แต่ครั้งเดียว...
และนายค.ก็ได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน นั่นคือการเดินทางไปหานังฝ.ที่จังหวัดช.ทางภาคเหนือ คนเดียว ในช่วงวันวาเลนไทน์
เมื่อไปถึงก็ได้คุยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน สวีทด้วยกัน และลงท้ายด้วยการมีอะไรในคืนนั้น...

หลังจากที่มีอะไรกันเสร็จ อยู่ดีๆด้านมืดของนายค.ก็วิ่งเข้ามา จึงได้ตัดสินใจคว้าโทรศัพท์ของนังฝ.มาเปิด facebook ดู
ซึ่งสิ่งที่เห็นในช่อง chat ทำให้นายค.แทบทรุด เพราะมันคือประโยคสนทนาแบบถึงพริกถึงขิงระหว่างนังฝ.กับผู้ชายคนนั้น ผู้ซึ่งมีลูกมีเมียแล้ว
ถึงเรื่องบนเตียง การแอบนัดเจอ ในช่วงก่อนหน้าที่นายค.จะเข้ามาคุยราวๆหนึ่งเดือน ลากยาวมาถึงช่วงที่นายค.เริ่มคุยกับนังฝ.แล้ว
เมื่อนังฝ.ตื่นขึ้นมา นายค.จึงได้ว่าอย่างรุนแรง เพราะเค้ามีความรู้สึกว่า โดนหลอก โดนสวมเขา ความไว้ใจถูกทำลายลงจนหมดสิ้น
นังฝ.ก็ได้แต่ขอโทษ และอธิบายว่าตอนแรกที่คบกัน เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นมีลูกมีเมียแล้ว ก็โดนหลอกมาอีกทีเหมือนกัน แต่พอมารู้ความจริงก็ตัดใจจากเค้าไม่ได้ จึงแอบไปหาอยู่ตลอด โดยเชื่อว่าสักวันนึงเค้าคงเลิกกับเมียมาหาเธอ และบอกว่าขอเวลาสักหน่อย กำลังทำใจที่จะเดินออกห่างจากผู้ชายคนนั้นแล้ว
ก็ไม่รู้ว่าทำไม นายค.ก็ยินยอมซะงั้น (ทีงี้บทพระเอกมาเลยนะเมิง...) และผู้หญิงก็สัญญาว่าภายใน 7 วันจะเลิกกับคนนั้น

หลังจากที่แยกย้ายกันกลับบ้าน ก็ยังคุยกันแบบสวีทหวานกันปกติ
จนกระทั่ง...หลังจากนั้นสามวัน นังฝ.บอกนายค.ว่าได้บอกเลิกกับผู้ชายคนนั้นไปแล้ว แต่ผู้ชายคนนั้นยังตามตื้อ
ด้วยความที่อินกับบทพระเอกอยู่มั้ง นายค.จึงอาสาว่าจะพูดกับผู้ชายคนนั้นให้เลิกยุ่งกับนังฝ.
แต่นังฝ. ก็สวนกลับมาว่า ไม่จำเป็น ไม่ต้องคุย เราเป็นอะไรกันทำไมต้องคุย
เงิบสิครับ...นายค.เงิบ- บอกได้เลย แต่ก็ยังใจดีสู้เสือ โดยบอกว่า ก็เราเป็นแฟนกันไง
นังฝ.สวนกลับมาอีกว่า เราไปเป็นแฟนกันตอนไหน อ่อ..วันนั้นอะหรอ จริงๆก็ไม่ได้อยากคบหรอกนะ แต่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไงก็เลยเออออไปก่อน
สถานะเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วนะ ไม่เห็นต้องยึดติดกับคำว่าแฟนเลย สถานะเป็นพี่น้องแต่คำพูดเป็นคนรักกัน ก็ดีแล้วนี่
ขอให้เธอมั่นใจในความรักก่อน แล้วค่อยคบกันนะ เพราะรู้สึกว่าเธอไม่ศรัทธา และเชื่อถือในความรักอีกแล้ว
นายค.รู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก ก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับ และมีความหวังว่าเมื่อเธอหายจากอาการเฮิร์ทแล้ว คงจะมีวันนั้นของมัน...

แต่นายค.ก็ยอมรับว่า ตั้งแต่วันนั้น มันรู้สึกว่า ความรู้สึกที่มีต่อนังฝ.เริ่มลดน้อยลงไป เหมือนหัวใจมันด้านชา (แหงสิ)
หลังๆนังฝ.ก็อ้างว่าไม่สบาย ไม่อยากคุยโทรศัพท์ นายค.ก็หวังดี อยากให้พักผ่อน จึงไม่โทรไปกวน

แต่กลายเป็นว่านังฝ.มาเล่าให้ฟังอย่างน่าไม่อายว่า ช่วงที่เธอไม่สบาย มีฝรั่งมาจีบ เจอกันใน facebook เป็นชาวบ.ทวีปอเมริกาใต้ ผู้ชายมีแฟนแล้ว บ้านมีฐานะ เป็นเจ้าของฟิตเนส
เธอก็คุยเล่นๆไป สนุกสนานๆถือเป็นการฝึกใช้ภาษาไปในตัว ยังไงก็คงไม่ได้เจอกันหรอก แน่นอนว่านายค.รู้สึกไม่สบายใจ เพราะรู้ดีว่านังฝ.เป็นคนยังไง
ก็พยายามตักเตือน แต่ดูเหมือนนังฝ.จะไม่ฟัง และยังต่อว่านายค.ด้วยว่าทำตัวน่ารำคาญ เตือนอะไรไร้สาระ ทีหลังมีอะไรจะไม่เล่าให้ฟังแล้ว

คือเพื่อนๆเข้าใจไหมครับว่า การที่ผู้หญิงที่เราชอบ มาเล่าว่าไปคุยกับผู้ชายคนอื่นให้ฟัง มันรู้สึกยังไง???

หนักข้อเข้าขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ายชายหาบ้านนังฝ.ผ่าน google map รวมไปถึงแลกรูปกัน แอดเฟสของครอบครัวทางนั้นทั้งน้องสาว และน้องชาย โทรคุยไลน์กันทุกวัน ก็คือช่วงเวลาที่นายค.ไม่ได้โทรไปเพราะต้องการให้นังฝ.พักผ่อนจากอาการป่วยนั่นแหละ
หลังจากคุยกันได้สามวัน นังฝ.กับหนุ่มชาวบ.ก็ขึ้นสถานะเป็นแฟนกันใน facebook และเรียกที่รักกันอย่างไม่อายใคร

ในขณะที่กับนายค.เพื่อนผม กลับบอกว่าไม่ชอบเรียกคำว่าที่รัก มันดูตลก ไม่อยากขึ้นสถานะในเฟส เพราะไม่รู้จะป่าวประกาศไปทำไม

กว่าสองชม.ที่เล่าเรื่องนี้ผ่านโทรศัพท์ให้ผมฟัง มันก็ร้องให้ไปแบบไม่อายใคร
ผมเข้าใจนะ เพราะการที่ผู้ชายคนนึงกล้าร้องให้เนี่ย แสดงว่ามันต้องเป็นเรื่องใหญ่เลย
คนอื่นอาจจะมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับเพื่อนผมคนนี้ บอกได้เลยว่าไม่ มันเป็นคนที่จริงจังกับความรักมาก แทบจะบูชาความรักเลยมั้ง
ถึงกับขนาดให้โอกาสนังฝ.กลับตัวกลับใจเนี่ย ผมว่ามันเยอะไปจริงๆ มันบอกว่ามันมีอะไรกับนังฝ.ไปแล้ว มันต้องรับผิดชอบ
ผมก็เลยถามกลับไปเบาๆว่า "แล้วเมิงคิดว่า เค้าทำแบบนี้กับเมิง เค้าอยากให้เมิงรับผิดชอบมะ???"

ผมพยายามดึงเพื่อนผมออกมา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำสำเร็จไหม แต่มันก็บอกนะว่าครั้งนี้มันเจ็บมาก...

ปล.ผมคิดว่าเรื่องนี้ผิดทั้งสองฝ่าย ฝ่ายชายก็ดูไว้ใจฝ่ายหญิงมากเกินไป ทั้งๆที่ประวัติเก่าไม่ดีขนาดนั้น ก็ยังจะไปให้โอกาส และสุดท้ายก็เจ็บเอง
ส่วนฝ่ายหญิง ผมคิดว่า เธอดูเป็นคนที่ 11 รด. พอสมควรเลยนะครับ เรียนแค่ม.6 แต่ถึงขั้นไปพัวพันกับสามีชาวบ้าน ไม่ธรรมดาเลยนะโปรไฟล์คนนี้ คนแบบนี้เห็นความรักเป็นเรื่องเล่นๆแบบนี้ ก็หวังว่าคงจะมีคนที่ทำให้เธอรู้สึกตัวนะครับ

ปล.เพื่อนๆมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้ยังไงครับ ผมจะเอาไปให้เพื่อนอ่าน
ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านนะครับ อย่างยาวเลย...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่