กกต.สมชัยเตรียมเสนอปัญหา 16 ผู้สมัครส.ส.เพื่อไทยออกทีวีช่อง 11 ส่อหาเสียงขัดกม.เลือกตั้ง ให้ที่ประชุมกกต.พิจารณา -ลั่นหากผิดจริงโทษอาญาร้ายแรงทั้งจำ-ปรับ อาจกระทบสิทธิ์ผู้สมัคร
วานนี้ ( 12 มี.ค.57 ) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารจัดการเลือกตั้ง กล่าวว่า ในการประชุม กกต. วันที่ 13 มี.ค.จะเสนอกรณีปัญหาผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ส่อทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. มาตรา 60 เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริง จะมีโทษร้ายแรงทั้งจำและปรับ ซึ่งมีโทษอาญาที่อาจส่งผลต่อสิทธิ์การเป็นผู้สมัคร ส.ส. 16 คน
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากจากผังรายการโทรทัศน์ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 สังกัดกรมประชาสัมพันธ์ ที่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และ ผอ.สถานีช่อง 11 นำมามอบให้ กกต. ตามที่ กกต. ขอไปนั้น พบว่าในระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. 2556 จึงถึงวันที่ 7 มี.ค. 2557 มีการจัดรายการวิเคราะห์ข่าวและการเมืองทางช่อง 11 ทั้งหมด 3 รายการ คือรายการ "ฟันธง", "ถอดสลักข่าว" และ "ทันสถานการณ์บ้านเมือง"รวม 23 ครั้ง ๆ ละครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมง โดยพบว่าผู้รับเชิญทั้งหมด เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตของพรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว ทั้งที่มี พรฎ.ยุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้ง ส.ส. ออกมาในวันที่ 9 ธ.ค. ซึ่งทำให้ข้อถามตามมาตรา 60 แห่ง พรบ.เลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. มีผลบังคับใช้แล้ว
สำหรับผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ส.ส. เขต ที่ไปออกอากาศดังกล่าวประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ บัญชีรายชื่อลำดับที่ 2 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล (4) นายโภคิน พลกุล (11) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ (19) นายคณิน บุญสุวรรณ (29) นายพนัส ทัศนียานนท์ (30) นายบรรยิน ตั้งภากรณ์ (32) นพ.เหวง โตจิราการ (35) นายพิชิต ชื่นบาน (37) นายจาตุรนต์ ฉายแสง (39) นายอดิสร เพียงเกศ (40) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ (41) นางลัดดาวรรณ วงศ์ศรีวงศ์ (54) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด (110) นายวิสุทธิ์ ไชยอรุณ (พะเยา เขต 2) นายนิยม ช่างพินิจ (พิษณุโลก เขต4) รวม 16 คน และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ (อดีต รมว.พลังงาน รัฐบาลพรรคเพื่อไทย) อีก 1 คน
ทั้งนี้หัวข้อรายการทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น “ประเทศไทย ถ้าไม่มีเลือกตั้ง” “ปิดกรุงเทพ กระทบเศรษฐกิจอย่างไร” "ทางออกจำนำข้าว" “เลือกตั้งโมฆะ ไม่โมฆะหลัง ปชป.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ” “นปช. ลั่นกลองรบ อะไรจะเกิดขึ้น” “องค์กรที่อิสระต้องเที่ยงธรรม" “แนวคิดการจัดตั้งอาสาสมัครปกป้องประชาธิปไตย” เป็นต้น
"การหาเสียงทางวิทยุหรือโทรทัศน์ที่ กกต. ไม่ได้จัดสรรให้นั้น มีบทบังคับตามมาตรา 60 ห้ามเอาไว้ และมีโทษหากฝ่าฝืนต้องจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการใส่ร้ายป้ายสีก็จะมีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งอีกส่วนหนึ่งต่างหาก"นายสมชัยกล่าว
นายสมชัยกล่าวว่า เรื่องนี้คงจะต้องเสนอให้ผู้ทรงคุณวุฒิ และฝ่ายกฎหมายดูว่าจะขัดกฎหมายเลือกตั้งเรื่องใดบ้าง เพราะพฤติกรรมดังกล่าวไม่เคยเกิดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งไทย ที่สื่อของรัฐนำผู้สมัครพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวมาออกรายการระหว่างมี พรฎ.เลือกตั้ง ซึ่งเรื่องนี้ กกต. คงต้องมีมติอะไรบางอย่างออกมา
โพสต์ทูเดย์
"สมชัย" ลุยหนัก!! ชงสอบ 16 ผู้สมัครสส. "เพื่อไทย" ออกช่อง 11 ส่อหาเสียงผิดกม. ???
วานนี้ ( 12 มี.ค.57 ) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารจัดการเลือกตั้ง กล่าวว่า ในการประชุม กกต. วันที่ 13 มี.ค.จะเสนอกรณีปัญหาผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) ส่อทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. มาตรา 60 เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ซึ่งหากพบว่ามีความผิดจริง จะมีโทษร้ายแรงทั้งจำและปรับ ซึ่งมีโทษอาญาที่อาจส่งผลต่อสิทธิ์การเป็นผู้สมัคร ส.ส. 16 คน
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากจากผังรายการโทรทัศน์ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 สังกัดกรมประชาสัมพันธ์ ที่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และ ผอ.สถานีช่อง 11 นำมามอบให้ กกต. ตามที่ กกต. ขอไปนั้น พบว่าในระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. 2556 จึงถึงวันที่ 7 มี.ค. 2557 มีการจัดรายการวิเคราะห์ข่าวและการเมืองทางช่อง 11 ทั้งหมด 3 รายการ คือรายการ "ฟันธง", "ถอดสลักข่าว" และ "ทันสถานการณ์บ้านเมือง"รวม 23 ครั้ง ๆ ละครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมง โดยพบว่าผู้รับเชิญทั้งหมด เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตของพรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว ทั้งที่มี พรฎ.ยุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้ง ส.ส. ออกมาในวันที่ 9 ธ.ค. ซึ่งทำให้ข้อถามตามมาตรา 60 แห่ง พรบ.เลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. มีผลบังคับใช้แล้ว
สำหรับผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ส.ส. เขต ที่ไปออกอากาศดังกล่าวประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ บัญชีรายชื่อลำดับที่ 2 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล (4) นายโภคิน พลกุล (11) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ (19) นายคณิน บุญสุวรรณ (29) นายพนัส ทัศนียานนท์ (30) นายบรรยิน ตั้งภากรณ์ (32) นพ.เหวง โตจิราการ (35) นายพิชิต ชื่นบาน (37) นายจาตุรนต์ ฉายแสง (39) นายอดิสร เพียงเกศ (40) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ (41) นางลัดดาวรรณ วงศ์ศรีวงศ์ (54) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด (110) นายวิสุทธิ์ ไชยอรุณ (พะเยา เขต 2) นายนิยม ช่างพินิจ (พิษณุโลก เขต4) รวม 16 คน และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ (อดีต รมว.พลังงาน รัฐบาลพรรคเพื่อไทย) อีก 1 คน
ทั้งนี้หัวข้อรายการทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น “ประเทศไทย ถ้าไม่มีเลือกตั้ง” “ปิดกรุงเทพ กระทบเศรษฐกิจอย่างไร” "ทางออกจำนำข้าว" “เลือกตั้งโมฆะ ไม่โมฆะหลัง ปชป.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ” “นปช. ลั่นกลองรบ อะไรจะเกิดขึ้น” “องค์กรที่อิสระต้องเที่ยงธรรม" “แนวคิดการจัดตั้งอาสาสมัครปกป้องประชาธิปไตย” เป็นต้น
"การหาเสียงทางวิทยุหรือโทรทัศน์ที่ กกต. ไม่ได้จัดสรรให้นั้น มีบทบังคับตามมาตรา 60 ห้ามเอาไว้ และมีโทษหากฝ่าฝืนต้องจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการใส่ร้ายป้ายสีก็จะมีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งอีกส่วนหนึ่งต่างหาก"นายสมชัยกล่าว
นายสมชัยกล่าวว่า เรื่องนี้คงจะต้องเสนอให้ผู้ทรงคุณวุฒิ และฝ่ายกฎหมายดูว่าจะขัดกฎหมายเลือกตั้งเรื่องใดบ้าง เพราะพฤติกรรมดังกล่าวไม่เคยเกิดในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งไทย ที่สื่อของรัฐนำผู้สมัครพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียวมาออกรายการระหว่างมี พรฎ.เลือกตั้ง ซึ่งเรื่องนี้ กกต. คงต้องมีมติอะไรบางอย่างออกมา
โพสต์ทูเดย์