ลิเวอร์พูลยังคงถูกจับตามองจากสถาบันการเงินที่ชื่อว่า Deloitte Football Money League
มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่แฟนๆทั่วไปให้ความสนใจมากนักในตอนนี้ แต่สำหรับอาร์ยแล้ว Deloitte Football Money League คือสิ่งที่เขาละทิ้งความสนใจไม่ได้แม้สักช่วงเวลาเดียว.
และตอนนี้อาร์ยในฐานะMDของสโมสรก็กำลังพยายามถึงที่สุดเพื่อจะผลักดันให้สโมสรกลับขึ้นไปมีรายได้ติดอันดับTop tenของDeloitte Football Money Leagueอีกครั้ง.
ลิเวอร์พูลถูกจัดให้อยู่ในอันดับ12ของสโมสรฟุตบอลที่มีรายได้มากที่สุด โดยข้อมูลนี้Deloitteได้ตีพิมพ์เมื่อสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่ลิเวอร์พูลถูกจัดให้อยู่นอกลิสต์ท็อปเท็นในรอบ14ปีทีเดียว ดอร์ทมุน, ยูเวนตุส, PSG ต่างพากันตบเท้าแซงเดอะเร้ดส์ขึ้นไปอยู่อันดับที่เหนือกว่า.
แต่ถึงกระนั้นอาร์ยก็ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า หากลิเวอร์พูลกลับเข้าไปเล่นในรายการแชมเปี้ยนลีกพร้อมกับการปรับปรุงสนามเหย้าจะทำให้รายได้ของสโมสรเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน และจะสามารถปีนป่ายกลับไปเป็นสโมสรที่มั่งคั่งได้อีกครั้ง.
อาร์ยกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนสำหรับเราเพราะเราคือสโมสรลิเวอร์พูล และเราก็รู้ดีว่าอะไรที่เราควรจะทำให้มันกลับคืนมาเป็นของเราให้ได้ และเราคาดหวังว่ามันจะเป็นไปอย่างดีที่สุด”
“แต่ก็ใช่ว่าคุณจะไม่รู้ว่าเราชวดเล่นแชมเปียนลีกมากี่ปีแล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงหล่นมาอยู่อันดับ12 และเรามีสนามแข่งที่ไม่เอื้อต่อปริมาณคนดูจำนวนมากที่ต้องการเข้ามาดูเกมของเรา”
“เรารู้ว่าทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น, และพวกเราทุกคนกำลังทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับเข้าไปเล่นในเกมยุโรปถ้วยใหญ่ และพวกเราหวังเป็นอย่างมากว่าจะทำได้”
“เบรนแดนและทีมงานกำลังทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์โดยตั้งมั่นเก็บชัยชนะในสนาม ซึ่งความพยายามนั้นส่งผลให้เราอยู่ในทิศทางที่คาดหวัง และถ้าเราได้เข้าไปเล่นจริงๆในซีซั่นหน้าล่ะก็ เราน่าจะกลับขึ้นไปเป็นสโมสรที่มีรายได้อยู่ประมาณอันดับที่8ของDeloitte leagueอีกครั้ง”
“และถ้าคุณมองเห็นความมุ่งหมายของเราที่จะอยู่ต่อที่แอนฟิลด์แล้วขยายความจุของสนามออกไปอีก ผมคิดว่าทั้งสองปัจจัยนี้น่าจะส่งให้เราก้าวขึ้นเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีรายได้อันดับ5-6เลยด้วยซ้ำ”
“ทั้งสองอย่างเป็นแนวทางใช้แก้ไขสภาพการเงิน แต่ก็ใช่ว่าจะมีความท้าทายเพียงแค่นั้น หากเราต้องการกลับขึ้นไปแถวหน้าอีกครั้งเราต้องผลักดันรายได้เชิงพาณิชย์อีกด้วย คุณน่าจะพอรู้ว่ารายได้เชิงพาณิชย์นั้นสำคัญเป็นลำดับที่สอง(รองจากUCLและขยายสนาม) ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะเป็นสโมสรที่มีรายได้เชิงพาณิชย์เป็นอันดับหนึ่งของลีกให้ได้ สิ่งเหล่านี้เมื่อถูกแก้ไขร่วมกันจึงจะช่วยให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ไกล”
“แต่เราทุกคนต่างรู้ว่าอะไรคือสองสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ทั้งเจ้าของสโมสร ตัวผมเอง เบรนแดนและทีมงาน ทุกๆคนที่สโมสรมุ่งมั่นจะไขว่คว้ามันมาให้ได้”
“เรากำลังมีปัจจัยที่เป็นบวกเกี่ยวการต่อเติมสนาม และขณะเดียวกันเราก็รู้สึกถึงปัจจัยด้านบวกอื่นๆที่ตามมาพร้อมๆกัน”
“เราอยู่ในรูปทรงที่ดีตอนนี้ และอาจเป็นไปได้ว่าจะมีข่าวดีให้แฟนๆได้รู้สึกตื่นเต้นเร็วกว่าที่คิดไว้”
ลิเวอร์พูลเพิ่งจะเปิดเผยตัวเลขทางการเงินว่า ขาดทุนไป50ลป. ในรายงานสรุปช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ถึงแม้จะมีตัวเลขทางการเงินว่าพวกเขาทำรายได้มากถึง206.2ลป. ซึ่งโตขึ้นกว่าเดิมถึง9% แต่อาร์ยก็บอกว่าที่กระเตื้องขึ้นได้เพราะปัจจัยเชิงพาณิชย์ล้วนๆ มีการเซ็นต์สัญญาสปอนเซอร์หน้าใหม่ๆเข้ามากขึ้นกว่าเดิมหลายเจ้า.
อาร์ยกล่าวว่า “รายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการพาณิชย์ พวกเราได้เห็นกันแล้วว่าสโมสรเปิดตัวสปอนเซอร์หน้าใหม่กันเจ้าแล้วเจ้าเล่า พวกเขาจะเป็นพันธมิตรทางการค้าที่ดีของเรา อันดับต่อไปเราจะมุ่งตีตลาดทางการถ่ายทอดผ่านสื่อให้มากขึ้นอีก”
“เรากำลังปลูกแหล่งทุน-กลุ่มเจ้าของทุนกำลังลงทุน-เม็ดเงินก้อนใหญ่ไหลสะพัด, ความพยายาม, ความเชี่ยวชาญและการเงินส่งผลให้กิจกรรมเชิงพาณิชย์ไหลมาเทมา, เดือนต่อเดือน, ปีต่อปี, และจะออกดอกออกผลไปข้างหน้าอีกมากมาย”
“แน่นอน นั่นคือสิ่งที่เป็นแก่นแท้ของเรา เห็นชัดว่าเม็ดเงินจากสื่อเองก็เพิ่มขึ้นด้วย กิจกรรมเชิงพาณิชย์สร้างรายได้ขับเคลื่อนให้เรา”
อาร์ยยังได้กล่าวส่งท้ายว่า “เจ้าของทีมให้การสนับสนุนเพื่อการลดหนี้สโมสรเป็นอย่างมาก เราได้รับเงินสนับสนุนเพื่ออัดฉีดสภาพคล่องและเร่งปลดภาระหนี้จากธนาคารให้หลุดพ้นโดยเร็ววัน”
THE FOOTBALL MONEY LEAGUE TOP 10 (total revenue)
1. Real Madrid (444.7mp)
2. Barcelona (413.6mp)
3. Bayern Munich (369.6mp)
4. Manchester United (363.2mp)
5. Paris St Germain (341.8mp)
6. Manchester City (271mp)
7. Chelsea (260mp)
8. Arsenal (243.6mp)
9. Juventus (233.5mp)
10. AC Milan (225.8mp)
11. ไม่ได้ระบุ แต่น่าจะเป็นโบรุสเซีย ดอร์ทมุน
12. Liverpool (206.2mp)
Ayre อยากจะกลับสู่ Money League
มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่แฟนๆทั่วไปให้ความสนใจมากนักในตอนนี้ แต่สำหรับอาร์ยแล้ว Deloitte Football Money League คือสิ่งที่เขาละทิ้งความสนใจไม่ได้แม้สักช่วงเวลาเดียว.
และตอนนี้อาร์ยในฐานะMDของสโมสรก็กำลังพยายามถึงที่สุดเพื่อจะผลักดันให้สโมสรกลับขึ้นไปมีรายได้ติดอันดับTop tenของDeloitte Football Money Leagueอีกครั้ง.
ลิเวอร์พูลถูกจัดให้อยู่ในอันดับ12ของสโมสรฟุตบอลที่มีรายได้มากที่สุด โดยข้อมูลนี้Deloitteได้ตีพิมพ์เมื่อสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่ลิเวอร์พูลถูกจัดให้อยู่นอกลิสต์ท็อปเท็นในรอบ14ปีทีเดียว ดอร์ทมุน, ยูเวนตุส, PSG ต่างพากันตบเท้าแซงเดอะเร้ดส์ขึ้นไปอยู่อันดับที่เหนือกว่า.
แต่ถึงกระนั้นอาร์ยก็ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า หากลิเวอร์พูลกลับเข้าไปเล่นในรายการแชมเปี้ยนลีกพร้อมกับการปรับปรุงสนามเหย้าจะทำให้รายได้ของสโมสรเพิ่มขึ้นอย่างมากแน่นอน และจะสามารถปีนป่ายกลับไปเป็นสโมสรที่มั่งคั่งได้อีกครั้ง.
อาร์ยกล่าวว่า “มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนสำหรับเราเพราะเราคือสโมสรลิเวอร์พูล และเราก็รู้ดีว่าอะไรที่เราควรจะทำให้มันกลับคืนมาเป็นของเราให้ได้ และเราคาดหวังว่ามันจะเป็นไปอย่างดีที่สุด”
“แต่ก็ใช่ว่าคุณจะไม่รู้ว่าเราชวดเล่นแชมเปียนลีกมากี่ปีแล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงหล่นมาอยู่อันดับ12 และเรามีสนามแข่งที่ไม่เอื้อต่อปริมาณคนดูจำนวนมากที่ต้องการเข้ามาดูเกมของเรา”
“เรารู้ว่าทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น, และพวกเราทุกคนกำลังทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับเข้าไปเล่นในเกมยุโรปถ้วยใหญ่ และพวกเราหวังเป็นอย่างมากว่าจะทำได้”
“เบรนแดนและทีมงานกำลังทำสิ่งที่น่าอัศจรรย์โดยตั้งมั่นเก็บชัยชนะในสนาม ซึ่งความพยายามนั้นส่งผลให้เราอยู่ในทิศทางที่คาดหวัง และถ้าเราได้เข้าไปเล่นจริงๆในซีซั่นหน้าล่ะก็ เราน่าจะกลับขึ้นไปเป็นสโมสรที่มีรายได้อยู่ประมาณอันดับที่8ของDeloitte leagueอีกครั้ง”
“และถ้าคุณมองเห็นความมุ่งหมายของเราที่จะอยู่ต่อที่แอนฟิลด์แล้วขยายความจุของสนามออกไปอีก ผมคิดว่าทั้งสองปัจจัยนี้น่าจะส่งให้เราก้าวขึ้นเป็นสโมสรฟุตบอลที่มีรายได้อันดับ5-6เลยด้วยซ้ำ”
“ทั้งสองอย่างเป็นแนวทางใช้แก้ไขสภาพการเงิน แต่ก็ใช่ว่าจะมีความท้าทายเพียงแค่นั้น หากเราต้องการกลับขึ้นไปแถวหน้าอีกครั้งเราต้องผลักดันรายได้เชิงพาณิชย์อีกด้วย คุณน่าจะพอรู้ว่ารายได้เชิงพาณิชย์นั้นสำคัญเป็นลำดับที่สอง(รองจากUCLและขยายสนาม) ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะเป็นสโมสรที่มีรายได้เชิงพาณิชย์เป็นอันดับหนึ่งของลีกให้ได้ สิ่งเหล่านี้เมื่อถูกแก้ไขร่วมกันจึงจะช่วยให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ไกล”
“แต่เราทุกคนต่างรู้ว่าอะไรคือสองสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ทั้งเจ้าของสโมสร ตัวผมเอง เบรนแดนและทีมงาน ทุกๆคนที่สโมสรมุ่งมั่นจะไขว่คว้ามันมาให้ได้”
“เรากำลังมีปัจจัยที่เป็นบวกเกี่ยวการต่อเติมสนาม และขณะเดียวกันเราก็รู้สึกถึงปัจจัยด้านบวกอื่นๆที่ตามมาพร้อมๆกัน”
“เราอยู่ในรูปทรงที่ดีตอนนี้ และอาจเป็นไปได้ว่าจะมีข่าวดีให้แฟนๆได้รู้สึกตื่นเต้นเร็วกว่าที่คิดไว้”
ลิเวอร์พูลเพิ่งจะเปิดเผยตัวเลขทางการเงินว่า ขาดทุนไป50ลป. ในรายงานสรุปช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ถึงแม้จะมีตัวเลขทางการเงินว่าพวกเขาทำรายได้มากถึง206.2ลป. ซึ่งโตขึ้นกว่าเดิมถึง9% แต่อาร์ยก็บอกว่าที่กระเตื้องขึ้นได้เพราะปัจจัยเชิงพาณิชย์ล้วนๆ มีการเซ็นต์สัญญาสปอนเซอร์หน้าใหม่ๆเข้ามากขึ้นกว่าเดิมหลายเจ้า.
อาร์ยกล่าวว่า “รายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการพาณิชย์ พวกเราได้เห็นกันแล้วว่าสโมสรเปิดตัวสปอนเซอร์หน้าใหม่กันเจ้าแล้วเจ้าเล่า พวกเขาจะเป็นพันธมิตรทางการค้าที่ดีของเรา อันดับต่อไปเราจะมุ่งตีตลาดทางการถ่ายทอดผ่านสื่อให้มากขึ้นอีก”
“เรากำลังปลูกแหล่งทุน-กลุ่มเจ้าของทุนกำลังลงทุน-เม็ดเงินก้อนใหญ่ไหลสะพัด, ความพยายาม, ความเชี่ยวชาญและการเงินส่งผลให้กิจกรรมเชิงพาณิชย์ไหลมาเทมา, เดือนต่อเดือน, ปีต่อปี, และจะออกดอกออกผลไปข้างหน้าอีกมากมาย”
“แน่นอน นั่นคือสิ่งที่เป็นแก่นแท้ของเรา เห็นชัดว่าเม็ดเงินจากสื่อเองก็เพิ่มขึ้นด้วย กิจกรรมเชิงพาณิชย์สร้างรายได้ขับเคลื่อนให้เรา”
อาร์ยยังได้กล่าวส่งท้ายว่า “เจ้าของทีมให้การสนับสนุนเพื่อการลดหนี้สโมสรเป็นอย่างมาก เราได้รับเงินสนับสนุนเพื่ออัดฉีดสภาพคล่องและเร่งปลดภาระหนี้จากธนาคารให้หลุดพ้นโดยเร็ววัน”
THE FOOTBALL MONEY LEAGUE TOP 10 (total revenue)
1. Real Madrid (444.7mp)
2. Barcelona (413.6mp)
3. Bayern Munich (369.6mp)
4. Manchester United (363.2mp)
5. Paris St Germain (341.8mp)
6. Manchester City (271mp)
7. Chelsea (260mp)
8. Arsenal (243.6mp)
9. Juventus (233.5mp)
10. AC Milan (225.8mp)
11. ไม่ได้ระบุ แต่น่าจะเป็นโบรุสเซีย ดอร์ทมุน
12. Liverpool (206.2mp)