การศึกษาวิเคราะห์ธรรมกายในพระพุทธศาสนา (๒๕๔๓)
ชื่อผู้วิจัย : พระมหาไสว โชติโก (ทำนา) ข้อมูลวันที่ : ๑๗/๐๘/๒๐๑๐
สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้ทั้งหมดที่
www.mcu.ac.th/thesis_file/254317.pdf
-----
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
พระศรีปริยัติโมลี (สมชัย กุสลจิตฺโต)
ผศ.ดร.สมภาร พรมทา
-
วันสำเร็จการศึกษา : ๓๐ มีนาคม ๒๕๔๓
บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์นี้มุ่งสำรวจ ประมวลและศึกษาคำสอนเรื่องธรรมกายที่ปรากฎในพระไตรปิฎกและอรรถกถาของฝ่ายเถรวาท ในพระสูตรมหายาน และในคำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำ (พระมงคลเทพมนุนี : สด จนฺทสโร) ในเรื่องความหมาย ลักษณะตามสามัญลักษณะ องค์ประกอบและวิธีการเข้าถึง ว่ามีความเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร
ผลการวิจัยพบว่า ในพระไตรปิฎกและอรรถกถาของเถรวาท ธรรมกายเป็นพระนามหนึ่งของพระพุทธเจ้า อรรถกถาอธิบายต่อว่า หมายถึงพระองค์เป็นที่รวมธรรมและหลั่งธรรมออกมา ธรรมกายประกอบด้วยโลกุตตรธรรม ๙ คือ มรรค ๔ ผล ๔ และนิพพาน ๑ และพระนิพพานนั้น มีลักษณะเป็นนิจจัง สุขัง อนัตตา เข้าถึงได้ด้วยการปฏิบัติตามหลักไตรสิกขาหรือมรรคมีองค์แปดที่เรียกว่ามัชฌิมาปฏิปทา
สำหรับพระพุทธศาสนามหายาน ธรรมกายเป็นกายหนึ่งในตรีกาย คือ ธรรมกาย สัมโภคกาย และนิรมาณกาย ธรรมกายนี้มีคำใช้เรียกอีกหลายคำ เช่น ตถตา ตถาคตคัพภะ ธรรมตา มีลักษณะเป็นสุญญตา เป็นอมตะและเป็นอนัตตา ผู้ปฏิบัติสามารถเข้าถึงธรรมกายได้โดยการปฏิบัติตามหลักไตรสิกขาโดยเฉพาะคือ ปัญญา
ในคำสอนของพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หรือหลวงพ่อวัดปากน้ำ ธรรมกายเป็นพระนามหนึ่งของพระพุทธเจ้า และเป็นกายที่สุดละเอียดของมนุษย์ ธรรมกายนี้อยู่พ้นการปรุงแต่งทั้งปวง ไม่ตกอยู่ในอาณัติของไตรลักษณ์ เป็นอสังขตะ มีลักษณะเป็นนิจจัง สุขัง อัตตา ธรรมกายเข้าถึงได้ด้วยหลักไตรสิกขาหรือมัชฌิมาปฏิปทาตามการตีความของหลวงพ่อวัดปากน้ำซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะ แต่ไม่ปรากฎในคัมภีร์ของฝ่ายเถรวาทและของมหายานทั่วไป
การศึกษาวิเคราะห์ธรรมกายในพระพุทธศาสนา (๒๕๔๓)
ชื่อผู้วิจัย : พระมหาไสว โชติโก (ทำนา) ข้อมูลวันที่ : ๑๗/๐๘/๒๐๑๐
สามารถดาวน์โหลดข้อมูลได้ทั้งหมดที่
www.mcu.ac.th/thesis_file/254317.pdf
-----
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
พระศรีปริยัติโมลี (สมชัย กุสลจิตฺโต)
ผศ.ดร.สมภาร พรมทา
-
วันสำเร็จการศึกษา : ๓๐ มีนาคม ๒๕๔๓
บทคัดย่อ
วิทยานิพนธ์นี้มุ่งสำรวจ ประมวลและศึกษาคำสอนเรื่องธรรมกายที่ปรากฎในพระไตรปิฎกและอรรถกถาของฝ่ายเถรวาท ในพระสูตรมหายาน และในคำสอนของหลวงพ่อวัดปากน้ำ (พระมงคลเทพมนุนี : สด จนฺทสโร) ในเรื่องความหมาย ลักษณะตามสามัญลักษณะ องค์ประกอบและวิธีการเข้าถึง ว่ามีความเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร
ผลการวิจัยพบว่า ในพระไตรปิฎกและอรรถกถาของเถรวาท ธรรมกายเป็นพระนามหนึ่งของพระพุทธเจ้า อรรถกถาอธิบายต่อว่า หมายถึงพระองค์เป็นที่รวมธรรมและหลั่งธรรมออกมา ธรรมกายประกอบด้วยโลกุตตรธรรม ๙ คือ มรรค ๔ ผล ๔ และนิพพาน ๑ และพระนิพพานนั้น มีลักษณะเป็นนิจจัง สุขัง อนัตตา เข้าถึงได้ด้วยการปฏิบัติตามหลักไตรสิกขาหรือมรรคมีองค์แปดที่เรียกว่ามัชฌิมาปฏิปทา
สำหรับพระพุทธศาสนามหายาน ธรรมกายเป็นกายหนึ่งในตรีกาย คือ ธรรมกาย สัมโภคกาย และนิรมาณกาย ธรรมกายนี้มีคำใช้เรียกอีกหลายคำ เช่น ตถตา ตถาคตคัพภะ ธรรมตา มีลักษณะเป็นสุญญตา เป็นอมตะและเป็นอนัตตา ผู้ปฏิบัติสามารถเข้าถึงธรรมกายได้โดยการปฏิบัติตามหลักไตรสิกขาโดยเฉพาะคือ ปัญญา
ในคำสอนของพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หรือหลวงพ่อวัดปากน้ำ ธรรมกายเป็นพระนามหนึ่งของพระพุทธเจ้า และเป็นกายที่สุดละเอียดของมนุษย์ ธรรมกายนี้อยู่พ้นการปรุงแต่งทั้งปวง ไม่ตกอยู่ในอาณัติของไตรลักษณ์ เป็นอสังขตะ มีลักษณะเป็นนิจจัง สุขัง อัตตา ธรรมกายเข้าถึงได้ด้วยหลักไตรสิกขาหรือมัชฌิมาปฏิปทาตามการตีความของหลวงพ่อวัดปากน้ำซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะ แต่ไม่ปรากฎในคัมภีร์ของฝ่ายเถรวาทและของมหายานทั่วไป