เช็กแถว"ค่ายทีวีดิจิตอล" ดูทีเด็ดก่อนดีเดย์ออกอากาศ

เช็กแถว"ค่ายทีวีดิจิตอล" ดูทีเด็ดก่อนดีเดย์ออกอากาศ

คอลัมน์ รายงานพิเศษ

วันที่ 09 มีนาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 23 ฉบับที่ 8502 ข่าวสดรายวัน


ไฮไลต์การประมูลคลื่นความถี่โทรทัศน์ในระบบดิจิตอลประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ จำนวน 24 ช่องทั้ง 4 หมวดหมู่รายการ ยิ่งกระตุ้นให้คนไทยตื่นตัวเมื่อจะมีฟรีทีวีเพิ่มถึง 48 ช่องและให้ภาพคมชัดกว่าเดิม โดยระยะเวลาออกอากาศอย่างเป็นทางการที่เหมาะสมคือ เดือนมิ.ย.นี้

แต่ในระหว่างนี้จะให้ทดลองออกอากาศก่อน 1-2 เดือน ซึ่งบางค่ายจะนำร่องออกอากาศวันที่ 1 เม.ย.นี้ แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงแรก ทดลองออกอากาศบางเวลา ช่วงที่ 2 ทดลองออกอากาศพร้อมประกาศหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (มัสต์แครี่) และช่วงที่ 3 ทดลองออกอากาศภายใต้เงื่อนไขที่ กสท.กำหนด

ลองมาสำรวจแต่ละรายว่าใครพร้อม แค่ไหน

เริ่มจากยักษ์ใหญ่ในวงการ นายประสาร มาลีนนท์ รองประธานกรรมการบริหาร สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ยืนยันออกอากาศทันเม.ย.นี้แน่แต่ยอมรับว่าหนักใจ การแย่งชิงเม็ดเงินโฆษณาจะรุนแรงขึ้น

เช่นเดียวกับ "แกรมมี่" นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ที่วางงบลงทุนไว้ 1,000 ล้านบาทต่อปี ตามแผนจะดำเนินธุรกิจทีวีดาวเทียมควบคู่กับทีวีดิจิตอล สำหรับช่องเอชดีจะใช้ชื่อช่อง "วัน" สอดคล้องกับช่องจีเอ็มเอ็มวันเดิม เพื่อสร้างการจดจำ และมีแผนจะเอาภาพยนตร์ ละคร ที่ผลิตขึ้นมาไว้ในช่องทีวีดิจิตอลด้วย คาดว่าจะคืนทุนตั้งแต่ปีแรก น่าจะมีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท

ทางฝั่ง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า เตรียมลงทุน 300 ล้านบาทเสริมความแข็งแกร่งให้กับ "ช่อง 8 ฟรีทีวี วาไรตี้ 24 ชั่วโมง" ขยับขึ้นเป็นทีวีดิจิตอล ซึ่งในช่วงนี้กำลังปรับเปลี่ยนผังรายการใหม่ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้ชมทุกเพศทุกวัยมากที่สุด พร้อมทั้งจะให้ความสำคัญกับ 3 คอนเทนต์หลัก ได้แก่ ละคร รายการวาไรตี้ และรายการข่าว ปีแรกตั้งเป้าจะมีรายได้ 850 ล้านบาท ส่งผลให้ทำกำไรได้ตั้งแต่ปีแรก

ด้าน บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) โดยบริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ชนะในหมวดหมู่ทั่วไปแบบคมชัดปกติ (เอสดี) พร้อมออกอากาศในเดือนมี.ค. หรือเม.ย.นี้เช่นกัน

นายทรงศักดิ์ เปรมสุข กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท วอยซ์ทีวี จำกัด กล่าวว่า บริษัทพร้อมจะปรับรายการข่าวที่มีอยู่ 16 รายการให้มีความสดใหม่ เพิ่มรายการใหม่ในช่วงไพรมไทม์ ส่วนรายการไลฟ์สไตล์ปัจจุบันมี 11 รายการ จะเพิ่มสารคดีระดับโลก ยังได้เจรจากับผู้ผลิตคอนเทนต์อื่นๆ ที่แตกต่างจากวอยซ์ทีวี ไม่ว่าจะเป็นรายการสุขภาพ ท่องเที่ยว สารคดี และบันเทิง

อีกหนึ่งรายใหญ่วงการเคเบิลทีวี นายสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหารของทรูวิชั่นส์ กล่าวว่า พร้อม 100% โดยยกช่องข่าวทีเอ็นเอ็นในทรูวิชั่นส์ไปไว้ในทีวีดิจิตอล แม้ว่าจะออกอากาศเป็นระบบเอสดี แต่บริษัทมีความพร้อมในเรื่องเทคโนโลยี ส่วนคอนเทนต์จะทำเองเป็นข่าวเกิน 90% มองว่าปีแรกจะเหนื่อย แต่จะคืนทุนช่วงปีที่ 4 และปีที่ 5

สำหรับอีกหนึ่งช่อง คือ ช่องเอสดีของ ทรูวิชั่นส์ นางรุ่งฟ้า เกียรติพจน์ ผู้ช่วยบริหารงานกรรมการผู้จัดการใหญ่และการบริหารการผลิตรายการ กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างศึกษาผังการออกอากาศตามกฎกติกาของกสทช. แต่ 1 เม.ย.พร้อมแน่นอน

หน้าใหม่ของวงการ บริษัท บางกอกมีเดีย แอนด์บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ประกาศเดินหน้าเต็มที่ ซึ่ง นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กล่าวถึงแผนธุรกิจว่า 1-3 ปีแรกจะเน้นเรื่องคอนเทนต์ เป็นหลัก ต้องใช้เงินจำนวนมากในการบริหารจัดการ คอนเทนต์ ส่วนการออกอากาศทีวีดิจิตอลจะควบคู่ช่องทีวีดาวเทียม โดยคาดว่าเม.ย.นี้จะยกช่องพีพีทีวีในทีวีดาวเทียมไปอยู่ในช่องทีวีดิจิตอล

นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย ประธานกรรมการบริหาร ไทยทีวี กล่าวว่า พร้อมออกอากาศตามกรอบที่ กสทช.กำหนด ขณะนี้รูปแบบรายการและผังรายการต่างๆ คืบหน้าแล้วกว่า 90% โดยจะใช้ชื่อทีเอชวี (THV) ในช่องข่าวสารและสาระ และโลก้า (LOCA) ในช่องเด็ก เยาวชน และครอบครัว

สุดท้าย "ไบร์ท ทีวี" ของบริษัท 3 เอมาร์เก็ตติ้ง จำกัด แม้ชื่อจะไม่เป็นที่รู้จักแต่ประสบการณ์ 20 ปีกับการเป็นผู้ผลิตรายการช่อง ททบ.5 นายสมชาย รังษีธนานนท์ ประธานกรรมการบริษัท กล่าวว่า ยังเหลือเพียงสตูดิโอที่กำลังก่อสร้างใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท วันที่ 1 เม.ย.นี้พร้อม เช่นกัน

สําหรับพื้นที่ 4 จังหวัดที่จะได้รับชมก่อน คือ กรุงเทพฯ นครราชสีมา เชียงใหม่ และสงขลา จากนั้นเดือนพ.ค.จะขยายเพิ่มอีก 3 จังหวัด คือ อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี และระยอง

และวันที่ 1 มิ.ย.เพิ่มอีก 4 จังหวัด คือ สิงห์บุรี สุโขทัย ขอนแก่น และอุดรธานี ทำให้ครึ่งปีแรกของการออกอากาศในปีแรกจะครอบคลุมพื้นที่ 11 จังหวัด 10 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 50% ของครัวเรือนทั่วประเทศ และทยอยขยายพื้นที่จนครอบคลุมทั่วประเทศ จำนวน 22 ล้านครัวเรือน ภายใน 4 ปี

เพื่อให้คนไทยได้เตรียมตัว มาดูกันว่าแต่ละช่องการให้บริการมีช่องอะไรกันบ้างจะได้เลือกชมได้ดังนี้ ช่องเด็ก บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (ช่อง 3) อยู่หมายเลขช่อง 13 บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) (ช่อง 9) หมายเลขช่อง 14 บริษัท ไทยทีวี จำกัด (ทีวีพูล) หมายเลขช่อง 15 ช่องข่าว

บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกัด (ทรูวิชั่นส์) หมายเลขช่อง 16 บริษัท ไทยทีวี จำกัด (ทีวีพูล) หมายเลขช่อง 17 บริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด (เดลินิวส์) หมายเลขช่อง 18 บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด หมายเลขช่อง 19 บริษัท 3 เอ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด หมายเลขช่อง 20 บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด หมายเลขช่อง 21 บริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด (เนชั่นทีวี) หมายเลขช่อง 22

ส่วนช่องเอสดี บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด (เวิร์คพอยท์) หมายเลขช่อง 23 บริษัท ทรู ดีทีที จำกัด (ทรูวิชั่นส์) หมายเลขช่อง 24 บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอสดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด (จีเอ็มเอ็มแกรมมี่) หมายเลขช่อง 25 บริษัท แบงคอก บิสสิเนส บรอดแคสติ้ง จำกัด (เนชั่นทีวี) หมายเลขช่อง 26 บริษัท อาร์.เอส.เทเลวิชั่น จำกัด หมายเลขช่อง 27 บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (ช่อง 3) หมายเลขช่อง 28 และบริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด หมายเลขช่อง 29

และช่องเอชดี บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หมายเลขช่อง 30 บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอชดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด หมายเลขช่อง 31 บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด (ไทยรัฐ) หมายเลขช่อง 32

บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด (ช่อง 3) หมายเลขช่อง 33 บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด หมายเลขช่อง 34 บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (ช่อง 7) หมายเลขช่อง 35 บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด (พีพีทีวี) หมายเลขช่อง 36

ขณะที่ฟรีทีวีรายเดิมอย่างช่อง 3, 5, 7, 9, 11 และ ไทยบีพีเอสสามารถออกอากาศเป็นคู่ขนานระหว่างระบบอนาล็อกและดิจิตอลได้

โดย พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธาน กสท. กล่าวว่า คณะกรรมการ กสท.ให้ช่องรายการโทรทัศน์ฟรีทีวีในระบบอนาล็อกออกอากาศคู่ขนานบนโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล ซึ่งช่อง 3 ช่อง 7 และช่อง 9 สามารถดำเนินการออกอากาศคู่ขนานได้จนกว่าจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานทีวีระบบอนาล็อก สำหรับช่อง 11 และไทยพีบีเอส ที่กำลังออกอากาศคู่ขนานในปัจจุบันจะสิ้นสุดการออกอากาศในระบบอนาล็อกในอีก 5 ปี

คาดการณ์กันไว้แล้วว่าเม็ดเงินโฆษณาของธุรกิจโทรทัศน์ไทยหลังเกิดทีวีดิจิตอลมูลค่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว หรือแตะถึง 2 แสนล้านภายใน 5 ปี

ใครจะเป็นของจริงของปลอมต้องจับจ้องอย่าได้ กะพริบตาเด็ดขาด


ที่มา www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFkyOHlOVEE1TURNMU53PT0%3D
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่