ร้านแว่นตาอัดแคมเปญหนักชิงกำลังซื้อซัมเมอร์
http://bit.ly/1nrejZh
ธุรกิจร้าน"แว่นตา" 6.5 พันล้านแข่งเดือดชิง "เคที ออพติค"ทุ่มขยายสาขาแตกไลน์ร้านขายอุปกรณ์เดินทาง ด้าน "หอแว่น" เล็งขยายเพิ่ม 4 แห่ง
นายชัชวาลย์ วณิชไพสิฐ ผู้อำนวยการด้านการบริหาร บริษัท เคที ออพติค จำกัด ผู้บริหารร้านจำหน่ายแว่นตาแบรนด์ "เคที ออพติค" เปิดเผยว่า แผนการลงทุนในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการขยายสาขาและแตกไลน์ธุรกิจใหม่ๆ โดยขยายสาขาร้านเคที ออพติค เพิ่ม 15 สาขา ภายใต้งบลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 4 ล้านบาท รวม 60 ล้านบาท จากปัจจุบันมีสาขา 200 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 100 สาขา ต่างจังหวัด 100 สาขา ภายใต้ 3 โมเดล คือ แฟลกชิปสโตร์ พื้นที่ขนาด 150-200 ตร.ม.ในศูนย์การค้า บูติคสโตร์ ขนาด 70 ตร.ม. ในคอมมูนิตี้มอลล์ และรูปแบบสแตนด์อะโลน ขนาด 50-80 ตร.ม. ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
นอกจากนี้ใช้งบลงทุนกว่า 5 ล้านบาท ขยายไลน์ธุรกิจใหม่ หรือ ร้านขายอุปกรณ์การเดินทาง นำร่องสาขาแรกภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย จ.สุราษฎร์ธานีเน้นจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับอุปกรณ์การเดินทาง อาทิ แว่นตา กระเป๋าเป้ และอุปกรณ์ทั่วไป จับกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติ คาดเปิดบริการปลายเดือน มี.ค.นี้ จากแผนเชิงรุกคาดผลักดันยอดขายปีนี้เติบโต 10%
นายภาคี ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้านแว่นตา "หอแว่น" กล่าวว่า เตรียมขยายสาขาหอแว่น เพิ่ม 3-4 แห่งในปีนี้ เน้นพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด ภายใต้งบลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 7-8 ล้านบาท ปัจจุบันมีสาขารวม 130 แห่ง
ส่วนแผนการทำตลาดในช่วงหน้าร้อนนี้ ได้จัดโปรโมชั่น ลดราคาสินค้า นำเสนอคอลเลคชั่นใหม่ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค คาดภาพรวมยอดขายแว่นตากันแดดช่วงหน้าร้อนเติบโต 200-300%
"ยอดขายช่วงปีที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ส่วนหนึ่งมาจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง ในปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 5% โดยมียอดขายจากแว่นตากันแดด คิดเป็นสัดส่วน 10% ของยอดขายรวม"
สำหรับตลาดรวมแว่นกันแดดที่ขายผ่านร้านแว่นตามีมูลค่า 1,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมแว่นตามูลค่า 6,500 ล้านบาท ขณะที่การแข่งขันของตลาดยังคงแข่งกันที่การทำโปรโมชั่น ทั้งลด แลก แจก แถม ซึ่งเริ่มมีให้เห็นตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่วนพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค จะเน้นซื้อที่รูปทรงและดีไซน์ที่เป็นแฟชั่นที่ปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย รองมาคือเรื่องราคา ตามลำดับ
ร้านแว่นตาอัดแคมเปญหนักชิงกำลังซื้อซัมเมอร์
http://bit.ly/1nrejZh
ธุรกิจร้าน"แว่นตา" 6.5 พันล้านแข่งเดือดชิง "เคที ออพติค"ทุ่มขยายสาขาแตกไลน์ร้านขายอุปกรณ์เดินทาง ด้าน "หอแว่น" เล็งขยายเพิ่ม 4 แห่ง
นายชัชวาลย์ วณิชไพสิฐ ผู้อำนวยการด้านการบริหาร บริษัท เคที ออพติค จำกัด ผู้บริหารร้านจำหน่ายแว่นตาแบรนด์ "เคที ออพติค" เปิดเผยว่า แผนการลงทุนในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการขยายสาขาและแตกไลน์ธุรกิจใหม่ๆ โดยขยายสาขาร้านเคที ออพติค เพิ่ม 15 สาขา ภายใต้งบลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 4 ล้านบาท รวม 60 ล้านบาท จากปัจจุบันมีสาขา 200 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 100 สาขา ต่างจังหวัด 100 สาขา ภายใต้ 3 โมเดล คือ แฟลกชิปสโตร์ พื้นที่ขนาด 150-200 ตร.ม.ในศูนย์การค้า บูติคสโตร์ ขนาด 70 ตร.ม. ในคอมมูนิตี้มอลล์ และรูปแบบสแตนด์อะโลน ขนาด 50-80 ตร.ม. ในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
นอกจากนี้ใช้งบลงทุนกว่า 5 ล้านบาท ขยายไลน์ธุรกิจใหม่ หรือ ร้านขายอุปกรณ์การเดินทาง นำร่องสาขาแรกภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย จ.สุราษฎร์ธานีเน้นจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับอุปกรณ์การเดินทาง อาทิ แว่นตา กระเป๋าเป้ และอุปกรณ์ทั่วไป จับกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติ คาดเปิดบริการปลายเดือน มี.ค.นี้ จากแผนเชิงรุกคาดผลักดันยอดขายปีนี้เติบโต 10%
นายภาคี ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท หอแว่นกรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้านแว่นตา "หอแว่น" กล่าวว่า เตรียมขยายสาขาหอแว่น เพิ่ม 3-4 แห่งในปีนี้ เน้นพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า โดยเฉพาะพื้นที่ต่างจังหวัด ภายใต้งบลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 7-8 ล้านบาท ปัจจุบันมีสาขารวม 130 แห่ง
ส่วนแผนการทำตลาดในช่วงหน้าร้อนนี้ ได้จัดโปรโมชั่น ลดราคาสินค้า นำเสนอคอลเลคชั่นใหม่ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค คาดภาพรวมยอดขายแว่นตากันแดดช่วงหน้าร้อนเติบโต 200-300%
"ยอดขายช่วงปีที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ส่วนหนึ่งมาจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง ในปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 5% โดยมียอดขายจากแว่นตากันแดด คิดเป็นสัดส่วน 10% ของยอดขายรวม"
สำหรับตลาดรวมแว่นกันแดดที่ขายผ่านร้านแว่นตามีมูลค่า 1,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมแว่นตามูลค่า 6,500 ล้านบาท ขณะที่การแข่งขันของตลาดยังคงแข่งกันที่การทำโปรโมชั่น ทั้งลด แลก แจก แถม ซึ่งเริ่มมีให้เห็นตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่วนพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค จะเน้นซื้อที่รูปทรงและดีไซน์ที่เป็นแฟชั่นที่ปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย รองมาคือเรื่องราคา ตามลำดับ