***ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่า ยืม Login เพื่อนมาโพสนะครับ
ปัจจุบัน จขกท.อายุ 25 ปีครับ ทำงานอยู่กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ใจกลาง กทม. ปัจจุบันเงินเดือนก็ประมาณ 23K ครับ ด้วยความที่แม่ของ จขกท. เสียชีวิตตั้งแต่ยังเรียนอยู่มหาลัยปี 2 ครับ พ่อก็แต่งงานมีครอบครัวใหม่ พี่สาวก็แต่งงานมีครอบครัว เลยทำให้แทบไม่ได้คุยกันเลยครับ
ตั้งแต่เรียนจบมาปี 2554 จขกท.ก็อยู่คนเดียวมาโดยตลอด เวลาเครียดเวลาเหงา ก็อยู่คนเดียวตลอด ไปไหนก็ไปคนเดียว เพื่อนชวนไปกินเหล้า ไปสังสรรค์ก็ไม่ไป ทั้งที่สมัยเรียนเป็นคนติดเพื่อนมาก ๆ อยู่ ๆ มันก็เกิดความกลัว เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจครับ facebook ก็ไม่เล่น เพราะพอเล่นทีไรเห็นเพื่อน ๆ ซื้อรถ ซื้อคอนโด มีพ่อแม่ช่วยดาวน์ให้แล้วมันรู้สึก เศร้า ๆ ยังไงก็ไม่รู้ เลยทำให้ผมไม่ค่อยกล้าไปออกงานสังคม เลี้ยงรุ่นก็ไม่ไป มันกลัวมันเครียด มันคิดอยู่ตลอดเวลาว่า เราตัวคนเดียวนะ เราไม่มีที่พึ่ง ไม่มีพ่อแม่คอย support เหมือนเพื่อน ๆ เค้า เราล้มมาเราก็ตายคนเดียว ทางเดียวที่เราจะอยู่ได้คือต้องเก็บเงินมาก ๆ ยิ่งมากยิ่งดี
ดังนั้น พอเงินเดือนออกมาทีไรก็เก็บใส่ ME by TMB ไว้ทันทีเดือนล่ะ 12,000 บาท จ่ายค่าห้องรวมค่าใช้จ่ายอื่นประมาณเดือนล่ะ 5,500 เหลือใช้ก็ประมาณ 5,500 เหลือแค่เงินไว้กินข้าวครับ ถ้าช่วงสิ้นเดือนตังค์หมด ก็กินแค่ลวกมาม่าอย่างเดียวครับ จะไม่ยอมเอาเงินเก็บออกมาใช้เด็ดขาด จึงทำให้ตอนนี้มีเงินเก็บ 200K แล้วครับ แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันยังน้อยไปต้องมีให้มากกว่านี้ เช่าหอพักก็เช่าหอที่ห่างจากที่ทำงานแค่ 1 km แล้วก็ขับมอเตอร์ไซต์เก่า ๆ ที่ใช้มาตั้งแต่ ม.ปลาย ใช้ขับไปทำงาน เสื้อผ้าทำงานก็ยังใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ไปทำงานไม่สนอะไรเลยที่ต้องเสียเงิน ยกเว้นของกินเท่านั้น คือจุดประสงค์ที่ผมมาตั้งกระทู้ คือ ผมเคร่งเกินไปรึเปล่า ผมกลัวอนาคตเกินไปรึเปล่า ผมเก็บทุกบาททุสตางค์จริง ๆ ครับเหลือเงินเป็นเศษเหรียญไม่ได้ต้องเอามาหยอดกระปุก วันนี้ลองนับดูเฉียดหมื่นแล้วครับ
คือวันนี้ผมพึ่งมาเจอเพื่อนสมัยเรียนครั้งแรกตั้งแต่เรียนจบมาก็คือ เจ้าของ Login นี้ แล้วผมก็เล่าเรื่องราว ๆ ดังที่เล่าไปข้างต้นให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็เลยแนะนำให้มาตั้งในนี้ดูเผื่อจะมีใครที่เข้ามาแนะนำผม เผื่อจะแนวคิดอะไรดี ๆ มาปรับใช้กับชีวิตบ้าง
ผมใช้ชีวิตเคร่งเกินไปรึเปล่าครับ
ปัจจุบัน จขกท.อายุ 25 ปีครับ ทำงานอยู่กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ใจกลาง กทม. ปัจจุบันเงินเดือนก็ประมาณ 23K ครับ ด้วยความที่แม่ของ จขกท. เสียชีวิตตั้งแต่ยังเรียนอยู่มหาลัยปี 2 ครับ พ่อก็แต่งงานมีครอบครัวใหม่ พี่สาวก็แต่งงานมีครอบครัว เลยทำให้แทบไม่ได้คุยกันเลยครับ
ตั้งแต่เรียนจบมาปี 2554 จขกท.ก็อยู่คนเดียวมาโดยตลอด เวลาเครียดเวลาเหงา ก็อยู่คนเดียวตลอด ไปไหนก็ไปคนเดียว เพื่อนชวนไปกินเหล้า ไปสังสรรค์ก็ไม่ไป ทั้งที่สมัยเรียนเป็นคนติดเพื่อนมาก ๆ อยู่ ๆ มันก็เกิดความกลัว เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจครับ facebook ก็ไม่เล่น เพราะพอเล่นทีไรเห็นเพื่อน ๆ ซื้อรถ ซื้อคอนโด มีพ่อแม่ช่วยดาวน์ให้แล้วมันรู้สึก เศร้า ๆ ยังไงก็ไม่รู้ เลยทำให้ผมไม่ค่อยกล้าไปออกงานสังคม เลี้ยงรุ่นก็ไม่ไป มันกลัวมันเครียด มันคิดอยู่ตลอดเวลาว่า เราตัวคนเดียวนะ เราไม่มีที่พึ่ง ไม่มีพ่อแม่คอย support เหมือนเพื่อน ๆ เค้า เราล้มมาเราก็ตายคนเดียว ทางเดียวที่เราจะอยู่ได้คือต้องเก็บเงินมาก ๆ ยิ่งมากยิ่งดี
ดังนั้น พอเงินเดือนออกมาทีไรก็เก็บใส่ ME by TMB ไว้ทันทีเดือนล่ะ 12,000 บาท จ่ายค่าห้องรวมค่าใช้จ่ายอื่นประมาณเดือนล่ะ 5,500 เหลือใช้ก็ประมาณ 5,500 เหลือแค่เงินไว้กินข้าวครับ ถ้าช่วงสิ้นเดือนตังค์หมด ก็กินแค่ลวกมาม่าอย่างเดียวครับ จะไม่ยอมเอาเงินเก็บออกมาใช้เด็ดขาด จึงทำให้ตอนนี้มีเงินเก็บ 200K แล้วครับ แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันยังน้อยไปต้องมีให้มากกว่านี้ เช่าหอพักก็เช่าหอที่ห่างจากที่ทำงานแค่ 1 km แล้วก็ขับมอเตอร์ไซต์เก่า ๆ ที่ใช้มาตั้งแต่ ม.ปลาย ใช้ขับไปทำงาน เสื้อผ้าทำงานก็ยังใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ไปทำงานไม่สนอะไรเลยที่ต้องเสียเงิน ยกเว้นของกินเท่านั้น คือจุดประสงค์ที่ผมมาตั้งกระทู้ คือ ผมเคร่งเกินไปรึเปล่า ผมกลัวอนาคตเกินไปรึเปล่า ผมเก็บทุกบาททุสตางค์จริง ๆ ครับเหลือเงินเป็นเศษเหรียญไม่ได้ต้องเอามาหยอดกระปุก วันนี้ลองนับดูเฉียดหมื่นแล้วครับ
คือวันนี้ผมพึ่งมาเจอเพื่อนสมัยเรียนครั้งแรกตั้งแต่เรียนจบมาก็คือ เจ้าของ Login นี้ แล้วผมก็เล่าเรื่องราว ๆ ดังที่เล่าไปข้างต้นให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็เลยแนะนำให้มาตั้งในนี้ดูเผื่อจะมีใครที่เข้ามาแนะนำผม เผื่อจะแนวคิดอะไรดี ๆ มาปรับใช้กับชีวิตบ้าง