คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
ระยะหลัง หลายคนคงได้ยินข่าวการถูกตัดอวัยวะเพศบ่อย ๆ นะครับ
ซึ่งคิดว่าส่วนใหญ่คงเกิตจากความไม่ยินยอมนะครับ ยกเว้นพวกที่อยากแปลงเพศ
ทุกท่านทราบไหมครับ ว่าประเทศไทยนี่ เป็นประเทศที่มีการรายงานว่ามีการตัดอวัยวะเพศมากที่ สุดในโลก
จนถึงขั้นเอาไปตีพิมพ์วารสารทางการแพทย์ในระดับนานาช าติเลยทีเดียว
โดยท่านแรกในไทยที่ทำการศึกษาและรู้จักกันไปทั่วโลก สำหรับการต่ออวัยวะเพศที่ถูกตัด
จนได้ลงนิตยสาร time เมื่อปี 1997 คือ ศาสตราจารย์คลีนิตเกียรติคุณ นายแพทย์สุรศักดิ์ เมืองสมบูรณ์
ซึ่ง จริง ๆ ท่านทำการต่อเป็นรายแรกตั้งแต่ OCTOBER 22, 1977 ที่คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และก็ได้มีการศึกษาค้นคว้าและพัฒนาเทนิคต่าง ๆ อีกมากมาย จนมาถึงปัจจุบัน
หลายคนเวลาอ่านข่าวทำนองนี้ก็สยอง (ผมก็สยอง) แต่หลายคนที่มีปัจจัยเสี่ยงจะถุกตัด ก็คงอยากรู้ว่าแล้วถ้าวันร้ายคืนร้าย ไปพลาดท่าเสียทีโดนตัดมาหละ ควรทำอย่างไร
ก็ขอตอบในฐานะเป็นหมอที่ดูคนไข้สาขานี้โดยตรงละกันนะ ครับ (ศัลยกรรมยูโรวิทยา)
ปกติเวลาอวัยวะส่วนสำคัญถูกตัดไปแล้วเนี่ย
ถ้าหาชิ้นส่วนเจอ และเก็บมาในสภาพที่ถูกต้อง และทันเวลา
เราก็จะเอามาเย็บต่อกลับที่เดิมครับ
ซึ่งการต่อก็จะต่อเส้นเลือด ต่อเส้นประสาท ใช้กล้องขยายส่องครับ ส่วนใหญ่ก็จะกลับมาใช้งานได้ครับ
ส่วนที่ว่าการเก็บที่ถูกวิธีคืออย่างไร
ก็คือเมื่อหาส่วนสำคัญเจอแล้ว ให้เอาใส่ถุงพลาสติกครับ
จากนั้นก็เอาถุงนั้นใส่กระติกน้ำแข็งให้ท่วม
ย้ำว่าต้องใส่ถุงก่อนค่อยแช่น้ำแข็งนะครับ เพราะเคยมีบางคนเอามาทั้งดุ้นแช่น้ำแข็งมาเลย
สุดท้ายเน่าครับ เพราะน้ำแข็งมันก็ไม่ใช่ปราศจากเชื้อ อีกอย่างเวลาน้ำแข็งละลายน้ำก็ซึมเข้าเซลล์อีก สุดท้ายใช้ไม่ได้ครับ
ต้องใส่ถุงก่อนนะครับ เผื่อหลายคนในที่นี้โดนตัด
ส่วนระยะเวลานี่ ยิ่งต่อเร็วก็ยิ่งดีครับ
เพราะว่าช่วงที่มันอยู่แยกกันกับร่างกาย เซลล์ก็จะไม่มีเลือดไปเลี้ยง
เซลล์ก็จะตายลงเรื่อย ๆ ครับ
ส่วนใหญ่ถ้าเกิน 12 ชั่วโมงก็ไม่ต้องเอามาแล้วครับ
หมดสิทธ์ ต่อไปก็ไม่ได้ผล
ดังนั้นเมื่ออ่านเรื่องนี้จบ จะทำอะไรก็พยายามพกกระติกน้ำใส่น้ำแข็งไว้ข้างตัวนะค รับ มีอะไรจะได้แพ๊คทัน
ส่วนวิธีต่อนะครับ ก็ส่วนใหญ่ถ้าหาชิ้นส่วนเจอ และไม่เกิน 24 ชั่วโมง รวมถึงตัวชิ้นส่วนไม่เยินมาก
ปกติหมอก็จะทำการต่อให้นะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าทุกรพ.จะทำการต่อได้นะ ครับ
ต้องเป็นโรงพยาบาลที่มีคุณหมอศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ หรือศัลยกรรมพลาสติกอยู่เท่านั้น
และต้องเป็นโรงพยาบาลที่มีกล้องขยายกำลังสูงด้วยครับ ซึ่งก็มีไม่เกิน 20 โรงหรอกในประเทสไทย
ดังนั้นถ้าใครทำตัวเสี่ยง ๆ ก็พยายามหาบ้านหรือมีกิจกรรมใกล้ ๆ โรงพยาบาลใหญ่ ๆ ไว้ครับ
โดย เมื่อคุณหมอได้ชิ้นส่วนสำคัญมา ก็จะทำความสะอาดครับ (เคยมีเคสนึงโดนตัดแล้วทิ้งส้วม ก็ถึงขั้นต้องทุบโถไปควานหาชิ้นส่วนมาเลยก็มีนะครับ ต่อติดอีกต่างหาก)
หลังจากล้างแล้ว คุณหมอก็จะทำการเย็บเส้นเลือดทุกเส้นครับ
คือหลัก ๆ ก็เส้นเลือดแดงใหญ่ 1 เส้น เส้นเลือดดำ 3 เส้น และก้เย็บเส้นประสาท กับเย็บท่อปัสสาวะครับ
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี่ไม่ง่ายเลยนะครับ เพราะต้องเย็บผ่านกล้องกำลังขยายสูง
ก็ลองคิดละกันไหมที่เย็บนี่เส้นเล็กกว่าเส้นผมเราอีก
ซึ่งก็เมื่อเย็บเสร็จก็ค่อยเย็บผิวหนังครับ เป็นอันเสร็จพิธี
ข้างบนนั่นคือในกรณีที่คนตัดใจดี เก็บชิ้นส่วนไว้ให้นะครับ
ต่อมาจะเป็นกรณีที่ว่าตัดแล้วหาชิ้นส่วนไม่เจอ หรือว่าชิ้นส่วนนั้นเสียหายเกินกว่าจะต่อครับ
หลังๆ เราจะเห็นว่าคู่กรณีเค้าก็เริ่มรู้ทันวงการแพทย์มากข ึ้น คือรู้ว่าตัดแล้วต่อได้
ดังนั้นหลัง ๆ เค้าก็เลยทำลายหลักฐานครับ
เช่นให้เป็ด ให้หมากิน หรือเอาไปทิ้งชักโครก มีอยู่ทีนึงเอาไปผูกลอยกับลูกโป่งครับ
ซึ่งไม่รู้ไปตกลงบ้านใคร คงโชคดีพิลึก
ทางการแพทย์เราก็มีวิธีเยียวยาให้คนไข้ผู้โชคร้ายกลุ ่มนี้ครับ
นั่นคือสร้างอวัยวะเทียมขึ้นมาใหม่
ซึ่งก็มีสารพัดเทคนิคครับ ในการทำ
บาง คนก็เอาเนื้อบริเวณท่อนแขนครับ โดยการผ่าแบะแล้วเอาท่อปัสสาวะเทียมห่อไว้ จากนั้นก็รอจนมันสมานกัน แล้วก็ตัดท่อนเนื้อนั้นมาเย็บต่อกับตอครับ
หรือหมอบางท่านก็ใช้เนื้อตรงน่องขามาทำครับ แล้วใส่ท่อปัสสาวะเทียม เอามาต่อกับตอครับ
บางคนก็ใช้เนื้อตรงต้นขานะครับ
และ หลัง ๆ เมืองนอกก็มีการพัฒนาถึงขั้นเอาอวัยวะจากคนตายที่เค้ าบริจาคมาทำการปลุกถ่าย ครับ เพียงแต่ยังไม่ค่อยได้รับการยอมรับครับ คือที่จีนมีคนนึง ผ่าตัดสำเร็จทุกอย่าง ใช้ได้ 1 เดือน ภรรยาก็มาขอให้เอาออกครับ เพราะรับไม่ได้ว่าเอาของคนตายมาใช้กับจิ๊มิ๊ตลอดเวลา อะไรอย่างนี้เป็นต้นครับ
ส่วนเรื่องการแข็งตัวนั้น เนื่องจากว่าเป็นของปลอม ดังนั้นเส้นประสาทก็ไม่มี จะแข็งก็ไม่ได้ แต่เทคโนโลยีปัจจุบันก็ก้าวหน้าครับ โดยหมอเค้าก็จะใส่แกนสังเคราะห์เข้าไปตลอดลำ แล้วก็ฝังปุ่มควบคุมไว้ตรงบริเวณขาหนีบครับ ทีนี้พอเวลาจะใช้งาน เจ้าของก็จะคลึง ๆ ตรงขาหนีบ มันก็จะทำให้แกนสังเคราะห์มันเหยียดตรงได้ ก็แข็งได้ครับ
ทั้งหมดที่เล่ามานั้น ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เรื่องการใช้งานจริงครับ เพียงแต่ประคับประคองจิตใจคนไข้มากกว่า คือไม่ให้เค้าเหมือนขาดหายอะไรไปครับ สามารถยืนฉี่ได้ ใส่กางเกงว่ายน้ำได้ครับ ส่วนเรื่องจะมีบุตรนี้ ถ้าอัณทะยังอยู่ก็สามารถผสมเทียมเอาเชื้อไปเพาะเลี้ย งฉีดเข้าไปได้ครับ ก็สามารถมีบุตรได้ตามปกติครับ
ดังนั้นการจะแก้ปัญหาที่ดีที่สุดก็คือ พยายามอย่าให้เกิดเรื่องครับ ผู้ชายก็อย่าไปเจ้าชุ้มาก รักเป็นคน ๆ ครับ อย่าจับปลาหลายมือนัก รักใครก็ทะนุถนอมกันไว้ครับ ไม่เคยเห็นประเภทรักกันมากจนตัดมาครอบครองครับ ที่โดนตัดมีแต่ประเภทรักไปทั่วจนสาวเค้าหมั่นไส้เอาไ ปทิ้งครับ ของใครใครก็รัก หัวใจใครใครก็หวงครับผู้หญิงเองก็อย่าตกเป็นทาสของอารมณ์ครับ ความรุนแรงไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ แถมต้องเสียอนาคตติดคุกหัวโตอีกครับ
ปล.คราว ก่อนเคยมาตอบกระทู้พวกนี้ครั้งนึงแล้ว แต่ไม่มีภาพประกอบ แต่เนื่องจากที่บอกว่าคนไทยเราช่วยกันสร้างสถิติวะมา กสุดในโลก เลยอยากรวบรวมข้อมุลมาเตือนเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่อาจจะอยู่ในภาวะเสี่ยงครับ โดยได้ขออนุญาตจกผูป่วยก่อนแล้ว ลองเข้าไปดูนะครับที่
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=thaicirc20&month=04-08-2009&group=10&gblog=2
ปล.อาจ มีภาพไม่เหมาะสมกับเยาวชนบ้าง แต่เจตนาเพื่อการศึกษานะครับ เรื่องเพศศึกษาหรือสุขอนามัยของอวัยวะส่วนสำคัญเมือง ไทยเราไม่ค่อยมีคนพูด หรือสอน ปล่อยให้ไปหาความรู้กันเองแบบผิด ๆ แอบถามกันแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ คนตอบก็ถูกบ้าง ผิดบ้าง ตอนสอนครูก็สอนไปอายไป พยายามข้าม ๆ ให้จบ ๆ ผมเลยอยากจะทำเวบเกี่ยวกับเรื่องการดูแลอวัยวะส่วนสำ คัญของผู้ชายครับ ไปดูแล้วช่วยกันเผยแพร่หน่อยนะครับ เพราะทุกวันนี้ผมอยู่รพ. มีคนไข้มากมายที่มาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในพันทิพเองก็มีคำถามแบบนี้มาทุกวัน ทั้งที่จริง ๆ เป็นเรื่องที่ควรจะมีการสอนและปลูกฝังให้กับเยาวชนขอ งพวกเราครับ
ปล.อีกที ที่ไม่เอารูปลงที่นี่เพราะกลัวอมยิ้มหายครับ
ปล.อีกครั้ง กดไลค์เพจ http://www.facebook.com/sarikahappymen ให้ด้วยนะครับ
ซึ่งคิดว่าส่วนใหญ่คงเกิตจากความไม่ยินยอมนะครับ ยกเว้นพวกที่อยากแปลงเพศ
ทุกท่านทราบไหมครับ ว่าประเทศไทยนี่ เป็นประเทศที่มีการรายงานว่ามีการตัดอวัยวะเพศมากที่ สุดในโลก
จนถึงขั้นเอาไปตีพิมพ์วารสารทางการแพทย์ในระดับนานาช าติเลยทีเดียว
โดยท่านแรกในไทยที่ทำการศึกษาและรู้จักกันไปทั่วโลก สำหรับการต่ออวัยวะเพศที่ถูกตัด
จนได้ลงนิตยสาร time เมื่อปี 1997 คือ ศาสตราจารย์คลีนิตเกียรติคุณ นายแพทย์สุรศักดิ์ เมืองสมบูรณ์
ซึ่ง จริง ๆ ท่านทำการต่อเป็นรายแรกตั้งแต่ OCTOBER 22, 1977 ที่คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และก็ได้มีการศึกษาค้นคว้าและพัฒนาเทนิคต่าง ๆ อีกมากมาย จนมาถึงปัจจุบัน
หลายคนเวลาอ่านข่าวทำนองนี้ก็สยอง (ผมก็สยอง) แต่หลายคนที่มีปัจจัยเสี่ยงจะถุกตัด ก็คงอยากรู้ว่าแล้วถ้าวันร้ายคืนร้าย ไปพลาดท่าเสียทีโดนตัดมาหละ ควรทำอย่างไร
ก็ขอตอบในฐานะเป็นหมอที่ดูคนไข้สาขานี้โดยตรงละกันนะ ครับ (ศัลยกรรมยูโรวิทยา)
ปกติเวลาอวัยวะส่วนสำคัญถูกตัดไปแล้วเนี่ย
ถ้าหาชิ้นส่วนเจอ และเก็บมาในสภาพที่ถูกต้อง และทันเวลา
เราก็จะเอามาเย็บต่อกลับที่เดิมครับ
ซึ่งการต่อก็จะต่อเส้นเลือด ต่อเส้นประสาท ใช้กล้องขยายส่องครับ ส่วนใหญ่ก็จะกลับมาใช้งานได้ครับ
ส่วนที่ว่าการเก็บที่ถูกวิธีคืออย่างไร
ก็คือเมื่อหาส่วนสำคัญเจอแล้ว ให้เอาใส่ถุงพลาสติกครับ
จากนั้นก็เอาถุงนั้นใส่กระติกน้ำแข็งให้ท่วม
ย้ำว่าต้องใส่ถุงก่อนค่อยแช่น้ำแข็งนะครับ เพราะเคยมีบางคนเอามาทั้งดุ้นแช่น้ำแข็งมาเลย
สุดท้ายเน่าครับ เพราะน้ำแข็งมันก็ไม่ใช่ปราศจากเชื้อ อีกอย่างเวลาน้ำแข็งละลายน้ำก็ซึมเข้าเซลล์อีก สุดท้ายใช้ไม่ได้ครับ
ต้องใส่ถุงก่อนนะครับ เผื่อหลายคนในที่นี้โดนตัด
ส่วนระยะเวลานี่ ยิ่งต่อเร็วก็ยิ่งดีครับ
เพราะว่าช่วงที่มันอยู่แยกกันกับร่างกาย เซลล์ก็จะไม่มีเลือดไปเลี้ยง
เซลล์ก็จะตายลงเรื่อย ๆ ครับ
ส่วนใหญ่ถ้าเกิน 12 ชั่วโมงก็ไม่ต้องเอามาแล้วครับ
หมดสิทธ์ ต่อไปก็ไม่ได้ผล
ดังนั้นเมื่ออ่านเรื่องนี้จบ จะทำอะไรก็พยายามพกกระติกน้ำใส่น้ำแข็งไว้ข้างตัวนะค รับ มีอะไรจะได้แพ๊คทัน
ส่วนวิธีต่อนะครับ ก็ส่วนใหญ่ถ้าหาชิ้นส่วนเจอ และไม่เกิน 24 ชั่วโมง รวมถึงตัวชิ้นส่วนไม่เยินมาก
ปกติหมอก็จะทำการต่อให้นะครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าทุกรพ.จะทำการต่อได้นะ ครับ
ต้องเป็นโรงพยาบาลที่มีคุณหมอศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ หรือศัลยกรรมพลาสติกอยู่เท่านั้น
และต้องเป็นโรงพยาบาลที่มีกล้องขยายกำลังสูงด้วยครับ ซึ่งก็มีไม่เกิน 20 โรงหรอกในประเทสไทย
ดังนั้นถ้าใครทำตัวเสี่ยง ๆ ก็พยายามหาบ้านหรือมีกิจกรรมใกล้ ๆ โรงพยาบาลใหญ่ ๆ ไว้ครับ
โดย เมื่อคุณหมอได้ชิ้นส่วนสำคัญมา ก็จะทำความสะอาดครับ (เคยมีเคสนึงโดนตัดแล้วทิ้งส้วม ก็ถึงขั้นต้องทุบโถไปควานหาชิ้นส่วนมาเลยก็มีนะครับ ต่อติดอีกต่างหาก)
หลังจากล้างแล้ว คุณหมอก็จะทำการเย็บเส้นเลือดทุกเส้นครับ
คือหลัก ๆ ก็เส้นเลือดแดงใหญ่ 1 เส้น เส้นเลือดดำ 3 เส้น และก้เย็บเส้นประสาท กับเย็บท่อปัสสาวะครับ
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี่ไม่ง่ายเลยนะครับ เพราะต้องเย็บผ่านกล้องกำลังขยายสูง
ก็ลองคิดละกันไหมที่เย็บนี่เส้นเล็กกว่าเส้นผมเราอีก
ซึ่งก็เมื่อเย็บเสร็จก็ค่อยเย็บผิวหนังครับ เป็นอันเสร็จพิธี
ข้างบนนั่นคือในกรณีที่คนตัดใจดี เก็บชิ้นส่วนไว้ให้นะครับ
ต่อมาจะเป็นกรณีที่ว่าตัดแล้วหาชิ้นส่วนไม่เจอ หรือว่าชิ้นส่วนนั้นเสียหายเกินกว่าจะต่อครับ
หลังๆ เราจะเห็นว่าคู่กรณีเค้าก็เริ่มรู้ทันวงการแพทย์มากข ึ้น คือรู้ว่าตัดแล้วต่อได้
ดังนั้นหลัง ๆ เค้าก็เลยทำลายหลักฐานครับ
เช่นให้เป็ด ให้หมากิน หรือเอาไปทิ้งชักโครก มีอยู่ทีนึงเอาไปผูกลอยกับลูกโป่งครับ
ซึ่งไม่รู้ไปตกลงบ้านใคร คงโชคดีพิลึก
ทางการแพทย์เราก็มีวิธีเยียวยาให้คนไข้ผู้โชคร้ายกลุ ่มนี้ครับ
นั่นคือสร้างอวัยวะเทียมขึ้นมาใหม่
ซึ่งก็มีสารพัดเทคนิคครับ ในการทำ
บาง คนก็เอาเนื้อบริเวณท่อนแขนครับ โดยการผ่าแบะแล้วเอาท่อปัสสาวะเทียมห่อไว้ จากนั้นก็รอจนมันสมานกัน แล้วก็ตัดท่อนเนื้อนั้นมาเย็บต่อกับตอครับ
หรือหมอบางท่านก็ใช้เนื้อตรงน่องขามาทำครับ แล้วใส่ท่อปัสสาวะเทียม เอามาต่อกับตอครับ
บางคนก็ใช้เนื้อตรงต้นขานะครับ
และ หลัง ๆ เมืองนอกก็มีการพัฒนาถึงขั้นเอาอวัยวะจากคนตายที่เค้ าบริจาคมาทำการปลุกถ่าย ครับ เพียงแต่ยังไม่ค่อยได้รับการยอมรับครับ คือที่จีนมีคนนึง ผ่าตัดสำเร็จทุกอย่าง ใช้ได้ 1 เดือน ภรรยาก็มาขอให้เอาออกครับ เพราะรับไม่ได้ว่าเอาของคนตายมาใช้กับจิ๊มิ๊ตลอดเวลา อะไรอย่างนี้เป็นต้นครับ
ส่วนเรื่องการแข็งตัวนั้น เนื่องจากว่าเป็นของปลอม ดังนั้นเส้นประสาทก็ไม่มี จะแข็งก็ไม่ได้ แต่เทคโนโลยีปัจจุบันก็ก้าวหน้าครับ โดยหมอเค้าก็จะใส่แกนสังเคราะห์เข้าไปตลอดลำ แล้วก็ฝังปุ่มควบคุมไว้ตรงบริเวณขาหนีบครับ ทีนี้พอเวลาจะใช้งาน เจ้าของก็จะคลึง ๆ ตรงขาหนีบ มันก็จะทำให้แกนสังเคราะห์มันเหยียดตรงได้ ก็แข็งได้ครับ
ทั้งหมดที่เล่ามานั้น ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เรื่องการใช้งานจริงครับ เพียงแต่ประคับประคองจิตใจคนไข้มากกว่า คือไม่ให้เค้าเหมือนขาดหายอะไรไปครับ สามารถยืนฉี่ได้ ใส่กางเกงว่ายน้ำได้ครับ ส่วนเรื่องจะมีบุตรนี้ ถ้าอัณทะยังอยู่ก็สามารถผสมเทียมเอาเชื้อไปเพาะเลี้ย งฉีดเข้าไปได้ครับ ก็สามารถมีบุตรได้ตามปกติครับ
ดังนั้นการจะแก้ปัญหาที่ดีที่สุดก็คือ พยายามอย่าให้เกิดเรื่องครับ ผู้ชายก็อย่าไปเจ้าชุ้มาก รักเป็นคน ๆ ครับ อย่าจับปลาหลายมือนัก รักใครก็ทะนุถนอมกันไว้ครับ ไม่เคยเห็นประเภทรักกันมากจนตัดมาครอบครองครับ ที่โดนตัดมีแต่ประเภทรักไปทั่วจนสาวเค้าหมั่นไส้เอาไ ปทิ้งครับ ของใครใครก็รัก หัวใจใครใครก็หวงครับผู้หญิงเองก็อย่าตกเป็นทาสของอารมณ์ครับ ความรุนแรงไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ แถมต้องเสียอนาคตติดคุกหัวโตอีกครับ
ปล.คราว ก่อนเคยมาตอบกระทู้พวกนี้ครั้งนึงแล้ว แต่ไม่มีภาพประกอบ แต่เนื่องจากที่บอกว่าคนไทยเราช่วยกันสร้างสถิติวะมา กสุดในโลก เลยอยากรวบรวมข้อมุลมาเตือนเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่อาจจะอยู่ในภาวะเสี่ยงครับ โดยได้ขออนุญาตจกผูป่วยก่อนแล้ว ลองเข้าไปดูนะครับที่
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=thaicirc20&month=04-08-2009&group=10&gblog=2
ปล.อาจ มีภาพไม่เหมาะสมกับเยาวชนบ้าง แต่เจตนาเพื่อการศึกษานะครับ เรื่องเพศศึกษาหรือสุขอนามัยของอวัยวะส่วนสำคัญเมือง ไทยเราไม่ค่อยมีคนพูด หรือสอน ปล่อยให้ไปหาความรู้กันเองแบบผิด ๆ แอบถามกันแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ คนตอบก็ถูกบ้าง ผิดบ้าง ตอนสอนครูก็สอนไปอายไป พยายามข้าม ๆ ให้จบ ๆ ผมเลยอยากจะทำเวบเกี่ยวกับเรื่องการดูแลอวัยวะส่วนสำ คัญของผู้ชายครับ ไปดูแล้วช่วยกันเผยแพร่หน่อยนะครับ เพราะทุกวันนี้ผมอยู่รพ. มีคนไข้มากมายที่มาปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในพันทิพเองก็มีคำถามแบบนี้มาทุกวัน ทั้งที่จริง ๆ เป็นเรื่องที่ควรจะมีการสอนและปลูกฝังให้กับเยาวชนขอ งพวกเราครับ
ปล.อีกที ที่ไม่เอารูปลงที่นี่เพราะกลัวอมยิ้มหายครับ
ปล.อีกครั้ง กดไลค์เพจ http://www.facebook.com/sarikahappymen ให้ด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
ใจร้ายไปไหมสำหรับท่านชาย เล่นตัดจู๋เลยอุทาหรณ์ สำหรับชายเจ้าชู้ล่อเมียคนอื่น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 มีนาคม 2557 17:45 น.
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
พ่อไก่แจ้เมืองชาละวัน! ถูกรุมตีปางตาย โดนจับตัดจู๋เหลือแต่ตอซ้ำ
พ่อไก่แจ้เมืองชาละวัน! ถูกรุมตีปางตาย โดนจับตัดจู๋เหลือแต่ตอซ้ำ
พ่อไก่แจ้เมืองชาละวัน! ถูกรุมตีปางตาย โดนจับตัดจู๋เหลือแต่ตอซ้ำ
พิจิตร - อุทาหรณ์คนเจ้าชู้ไก่แจ้ หนุ่มใหญ่เมืองพิจิตร เมียไปทำงานต่างประเทศควงหญิงไปทั่ว ถูกคนร้ายใช้ไม้หน้าสามฟาด-ถีบรถล้มลงคู่ ก่อนตีซ้ำจนน่วมทั้งตัวไม่พอ จับถอดกางเกงเชือดจู๋ทิ้งลงคูน้ำซ้ำ จนเหลือแต่ตอ
วันนี้ (6 มี.ค.) พ.ต.ท.หาญ นิมะบุตร หัวหน้าสถานีตำรวจ สภ.หนองโสน อ.สามง่าม จ.พิจิตร เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งมีคนถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ที่บริเวณถนนสายทางหลวง 117 นครสวรรค์-พิจิตร-พิษณุโลก ขาล่องบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 79-80 เมื่อวานนี้ (5 มี.ค.) ถือเป็นคดีที่ค่อนข้างแปลกประหลาด จึงได้ให้ พ.ต.ท.เจริญ อนุเคราะห์ พนักงานสอบสวน สบ.3 สารวัตรเวรฯ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรอยเลือดกองใหญ่ แต่ไม่พบผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
จึงได้ให้ตำรวจชุดสายสืบ นำโดย ร.ต.อ.บุญเลิศ รองจ่าเมือง ออกสืบหาคนเจ็บจนพบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บรายนี้คือนายสมรักษ์ (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี เป็นชาวบ้านอยู่ตำบลเนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร ซึ่งหลังจากเกิดเหตุมีพลเมืองดีพบร่างนอนจมกองเลือดอยู่จึงได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลพิจิตร
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองโสน พบว่านายสมรักษ์ (นามสมมุติ) ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์จะไปทำธุระ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีชาย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์แบบหญิงตามมาประกบ จากนั้นก็ใช้ไม้หน้า 3 ตีเข้าที่บริเวณศีรษะและใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์นายสมรักษ์ จนร่วงลงข้างทางที่มีคูน้ำอยู่ใกล้ๆ
ขณะนั้นนายสมรักษ์ ยังไม่สิ้นสติชายทั้ง 2 คนจึงเข้ามารุมทำร้ายซ้ำอีก พร้อมทั้งช่วยกันปล้ำจับตัวนายสมรักษ์ แล้วช่วยกันรูดกางเกงขายาว-กางเกงชั้นในลงมาอยู่ที่บริเวณหัวเข่า จากนั้นหนึ่งในสองคนร้ายใช้กรรไกรที่เตรียมมาตัดที่อวัยวะเพศของนายสมรักษ์ จนขาดเลือดพุ่งกระฉูด และได้โยนอวัยวะเพศชายของนายสมรักษ์ ทิ้งลงไปในคูน้ำ ก่อนใช้ไม้หน้าสามหวดตีซ้ำไปที่ศีรษะ และตามร่างกายอีก จนร่างกายนายสมรักษ์ มีเลือดโชก ก่อนจะสลบแน่นิ่ง คนร้ายนึกว่าตายแล้วจึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จนชาวบ้านมาพบเห็นและช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล โดยที่นายสมรักษ์ รอดตายแต่ต้องถูกตัดอวัยวะเพศจนเหลือแต่ตอ
พ.ต.ท.หาญ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า คดีนี้ตำรวจตั้งประเด็นว่าต้องเป็นเรื่องชู้สาวอย่างแน่นอน เพราะถ้าคนร้ายคิดที่จะฆ่าก็คงใช้ไม้ตีให้ตายก็ย่อมทำได้ แต่นี่มีการปล้ำตัดอวัยวะเพศเป็นการกระทำเพื่อระบายความแค้นมากกว่าจ้องหมายเอาชีวิต
และจากการสืบความประพฤติของผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายก็พบว่า บาดเจ็บเป็นหนุ่มใหญ่ในหมู่บ้านมีอาชีพทำนา มีรถไถนา มีภรรยาไปทำงานอยู่ต่างประเทศ และอาจมีพฤติกรรมเจ้าชู้ไก่แจ้ ไปได้เสียกับหญิงในหมู่บ้านที่อาจมีเจ้าของแล้ว สามีเขาตามมาแก้แค้น ซึ่งขณะนี้พอทราบตัวคนร้ายที่กระทำการแล้ว แต่ต้องหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อจะได้ออกหมายจับต่อไป
"แต่ยอมรับว่ายาก เพราะนายสมรักษ์ ซึ่งเป็นผู้เสียหายและเห็นหน้าคนร้ายทำตัวปิดปากเงียบไม่ยอมเล่าอะไรให้ตำรวจฟัง เพราะอาจคงรู้อยู่แก่ใจว่าที่เกิดเหตุขึ้น เกิดขึ้นเพราะอะไร ซึ่งเรื่องนี้เป็นข่าวดังไปทั้งหมู่บ้าน ตำรวจจะพยายามเร่งสืบสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้จงได้”