สามก๊กฉบับอ่านซ้ำ
หนี้ที่ต้องชำระ
เล่าเซี่ยงชุน
ฝ่ายเล่าปี่นั้น เมื่อแตกหนีไปจากเมืองเสียวพ่ายก็ไปหาโจโฉ และพาโจโฉยกกองทัพมาประชิดด่านเสียวก๋วนไว้ โจโฉก็ตีกลุ่มโจรที่เป็นพวกของตันก๋ง ซึ่งตั้งค่ายอยู่หน้าด่านแตกไป ตันก๋งก็พยายามจะรักษาด่านไว้ แม้ว่าทหารของโจโฉจะมีมากกว่า เมื่อลิโป้ได้ข่าวจึงยกกองทัพกลับเมืองชีจิ๋ว และตั้งให้ตันกุ๋ยอยู่รักษาเมืองชีจิ๋ว ตนเองจะยกไปช่วยตันก๋งที่ด่านเสียวก๋วน และให้ ตันเต๋งไปเป็นที่ปรึกษาในกองทัพด้วย
ตันเต๋งก็ดำเนินการ ตามที่โจโฉได้มอบหมายไว้แต่ครั้งก่อน ด้วยการหลอกให้ลิโป้จัดทหาร และพาครอบครัวของลิโป้ออกจากเมืองชีจิ๋ว ไปพักอยู่ที่เมืองแห้ฝือเสียก่อน ต่อมาก็ให้ลิโป้พักกองทัพรออยู่กลางทาง ตนเองอาสาไปสืบข่าวข้าศึก และเหตุการณ์ทางด่านเสียวก๋วนก่อน เมื่อไปถึงด่านก็ยุแหย่ตันก๋งว่า ลิโป้โกรธที่ทำการเสียทีแก่โจโฉ จะมาเอาโทษให้ระวังตัวไว้ ตันก๋งมิได้ห่วงตนเอง แต่ให้ตันเต๋งกลับไปบอกลิโป้ว่ารีบไปรักษาเมืองชีจิ๋วไว้ให้มั่นคงเถิด เพราะศึกครั้งนี้หนักนัก
พอตกค่ำ ตันเต๋งก็เขียนหนังสือผูกลูกเกาทัณฑ์ ยิงเข้าไปในค่ายโจโฉ บอกว่าจะเป็น ไส้ศึกให้ เมื่อได้โอกาสจะจุดเพลิงขึ้น ให้โจโฉยกเข้าตีทันที พอรุ่งเช้าก็กลับมาลวงลิโป้ว่า ตันก๋งขอให้ยกกำลังเข้าไปช่วยโดยเร็ว ลิโป้ก็หลงเชื่อให้ตันเต๋งกลับไปบอกตันก๋งว่า จะตีทหารโจโฉเข้าไปถึงด่านในค่ำวันนี้ ตันเต๋งก็ย้อนมาบอกตันก๋งอีกว่า ลิโป้สั่งให้ถอยออกจากด่านคืนนี้ ตันก๋งก็หลงเชื่อ จึงยกทหารออกจากด่านในตอนค่ำ
ตันเต๋งก็จุดเพลิงขึ้น แล้วก็หนีออกจากด่าน ไปหลอกโกซุ่นกับเตียวเลี้ยวให้ยกออกจากเมืองเสียวพ่ายมาช่วยลิโป้อีก โจโฉก็ยกทหารเข้าตีด่านเสียวก๋วนด้านหน้า ตันก๋งยกทหารออกทางด้านหลัง เจอกับกองทหารของลิโป้ก็คิดว่าเป็นข้าศึก ทั้งสองฝ่ายจึงรบกันเองอยู่จนถึงเช้า พอเห็นหน้าค่าตากันแล้วจึงหยุดรบ และพากันถอยกลับไปเมืองชึจิ๋ว มาถึงกลางทางก็พบโกซุ่น กับเตียวเลี้ยว จึงรู้ว่าทั้งหมดถูกอุบายของตันเต๋งหลอกจนหัวปั่นไปหมด
เมื่อมาถึงเมืองชีจิ๋วก็เข้าเมืองไม่ได้ เพราะบิต๊กสั่งให้ปิดประตูเมือง แล้วระดมยิงเกาทัณฑ์ลงมาเป็นอันมาก พร้อมกับตะโกนบอกลิโป้ว่า บัดนี้ได้ยึดเมืองคืนให้เล่าปี่แล้ว ลิโป้มีทหารเหลือน้อยไม่สามารถเข้าตีเมืองชีจิ๋วได้ ก็ยกไปเมืองเสียวพ่าย แต่ตันเต๋งก็ปิดประตูเมืองเสีย แล้วให้ทหารขึ้นรักษาเชิงเทินมั่นคง
ลิโป้ก็ควบม้าเข้าไปใกล้กำแพงเมือง ร้องด่าตันเต๋งว่า
".....ตัวเอ็งสองคนพ่อลูก กูรักใคร่ตั้งให้เป็นขุนนาง บัดนี้เอ็งทรยศต่อกู กูจะตัดศรีษะเอ็งเสียให้ได้.."
ตันเต๋งก็ร้องตอบว่า
"....ตัวอย่าโอหังเจรจา เราเป็นข้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ต่างหาก เมื่อครั้งอ้วนสุดยกมาตีเมืองชีจิ๋วนั้น ก็เพราะความคิดของเรากับบิดาเรา ตัวจึงรอดจากความตาย บัดนี้กลับมาว่าเราทรยศอีกเล่า....."
ลิโป้แค้นใจเป็นกำลัง จะยกทหารเข้าตีเมืองเสียวพ่าย ก็พอดีเตียวหุยและกวนอูซึ่งแตกไปครั้งก่อน ได้รวบรวมทหารกลับมาถึง ก็เข้าช่วยกันรุมรบลิโป้ โจโฉก็ยกจากด่านเสียวก๋วนมา สมทบอีกแรง ลิโป้จึงต้องถอยไปอยู่ที่เมืองแห้ฝือ แล้วก็ตั้งรักษาเมืองไว้อย่างมั่นคง
เล่าปี่ซึ่งมาในกองทัพของโจโฉ ก็พบกับกวนอูและเตียวหุย จึงได้ร่วมกันคิดปราบลิโป้ต่อไป
โจโฉก็ยกทหารมาตั้งค่ายอยู่ใกล้เมืองแห้ฝือประมาณสิบเส้น ลิโป้ก็ไม่ยกออกไปโจมตี ตันก๋งก็บอกว่า
"....บัดนี้โจโฉยกทัพมายังมิได้ที่มั่น เป็นไฉนท่านนิ่งอยู่ ไม่คิดอ่านที่จะยกออกไปรบกับโจโฉ แม้โจโฉตั้งมั่นแล้วเห็นเราจะทำการยาก....."
ลิโป้ก็ว่า
".....เราทำศึกเสียทีแก่โจโฉมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้เราจะตั้งมั่นอยู่แต่ในเมือง คอยโจโฉจะยกข้ามคูล่วงมาถึงเชิงกำแพงเราจึงจะออกรบ เห็นโจโฉจะเสียทีแก่เราเป็นมั่นคง....."
โจโฉก็ขึ้นม้าข้ามคูเข้ามาถึงเชิงกำแพง แล้วร้องบอกลิโป้ว่า
"..เมื่อครั้งตั๋งโต๊ะเป็นขบถ ท่านคิดอ่านฆ่าตั๋งโต๊ะเสีย ท่านมีความชอบต่อแผ่นดินเป็นอันมาก บัดนี้ท่านมาคบคิดกับอ้วนสุดซึ่งเป็นขบถต่อแผ่นดิน กิตติศัพท์ทั้งนี้รู้ขึ้นไปถึงเมืองฮูโต๋ พระเจ้าเหี้ยนเต้ก็ทรงพระพิโรธ จึงให้เรายกทัพมา แม้ท่านมิได้คบคิดกับอ้วนสุด แลมีใจซื่อตรง ต่อแผ่นดินอยู่ ก็เร่งออกมาหาเราโดยดี จะได้ช่วยแก้ไขกราบทูลเลี้ยงท่านเป็นขุนนางสืบไป ถ้าท่านไม่ออกมาหาเราโดยดี เมื่อเราตีเมืองได้แล้ว ท่านจึงจะแจ้งในโทษท่าน ซึ่งกระทำความผิดไว้แต่ก่อน....."
ลิโป้ชักลังเลจึงตอบว่า
".....แม้มหาอุปราชกรุณาข้าพเจ้าแล้ว ก็ยกทหารกลับไปก่อนเถิด ข้าพเจ้าจะหารือที่ปรึกษาทั้งปวงก่อน....."
ตันก๋งเห็นลิโป้เสียงอ่อยลงดังนั้น จึงเอาเกาทัณฑ์ยิงลงไป ถูกพู่หมวก ของโจโฉด้วยความเกลียดชัง โจโฉจึงโกรธขับม้ากลับไป และไม่คิดที่จะอภัยให้ลิโป้อีก
ตันก๋งก็เสนอแผนใหม่ ให้ลิโป้ยกทหารออกไปอยู่นอกเมือง ตนเองจะอยู่รักษาเมือง ถ้าโจโฉเข้าตีเมืองก็ให้ลิโป้ยกมาตีกระหนาบหลัง ถ้าโจโฉยกไปตีลิโป้ ตนก็จะยกออกจากเมืองไปช่วยเช่นเดียวกัน
ลิโป้ก็นำความไปปรึกษา นางเหงียมซี ภรรยาเอก นางก็ว่า
"...ซึ่งท่านจะยกออกไปอยู่นอกเมืองนั้น แม้เป็นอันตรายที่ไหนข้าพเจ้าจะได้ปฏิบัติรักษาท่าน.."
ลิโป้ก็มีความสงสารภรรยาจึงรีรออยู่ ตันก๋งก็เสนอให้ลิโป้ออกไปตีตัดเสบียงโจโฉ ที่จะมาจากเมืองฮูโต๋ ลิโป้ก็เข้าไปปรึกษานางเหงียมซีอีก
นางก็ทักท้วงและรำพันว่า
".......ซึ่งท่านจะไว้ใจให้ตันก๋งอยู่รักษาเมืองนั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าจะสู้โจโฉไม่ได้ เมื่อท่านไปแล้วอยู่ภายหลังเมืองเป็นอันตราย ข้าพเจ้าจะเหลียวหน้าไปพึ่งผู้ใด เมื่อครั้งท่านทิ้งข้าพเจ้าไว้ที่เมืองเตียงฮันนั้น หากว่าบังสี ช่วยคิดอ่านส่งข้าพเจ้าออกมาให้ท่าน ข้าพเจ้าจึงรอด บัดนี้ข้าพเจ้ามิได้เห็นผู้ใดที่จะเป็นที่พึ่ง ซึ่งท่านจะยกไปครั้งนี้ ถึงลาภสัการเท่าใด ก็ไม่คิดถึงข้าพเจ้าผู้เพื่อนยากนี้ก่อน....."
แล้วนางก็ร้องไห้ร่ำไรเป็นอันมาก ลิโป้ก็มีความเวทนาเป็นกำลัง ไม่รู้ที่จะคิดอ่านประการใด จึงเข้าไปหา นางเตียวเสียน ภรรยารองที่หอบหิ้วกันมาด้วยความรัก นางก็กอดเท้าลิโป้ไว้ แล้วร้องไห้ออดอ้อนวิงวอน และห้ามปรามเหมือนนางเหงียมซีทุกประการ
ลิโป้ก็ปลอบว่า
"...เจ้าอย่าวิตกเลย ถึงจะเป็นประการใด เรามิให้เจ้าเป็นอันตราย จะกลัวอันใดกับโจโฉ ทวนกับม้าของเรามีกำลังมาก เราจะตั้งมั่นอยู่ในเมืองดังนี้ ผู้ใดจะบังอาจเข้ามาทำอันตรายได้....."
แล้วลิโป้ก็ออกมาบอกตันก๋งว่า จะอยู่รักษาเมืองตามคำขอร้องของภรรยาทั้งสอง ตันก๋งก็ถอนใจทอดอาลัยว่า ถ้าลงแม่ทัพเชื่อภรรยา มากกว่าที่ปรึกษา และนายทหารดังนี้ เห็นทีจะไม่รอดชีวิตเป็นแน่
ลิโป้ก็ขลุกอยู่กับภรรยาทั้งสอง มิได้คิดที่จะรบกับโจโฉ และเสพสุราทุกวัน หวังจะปลอบขวัญตนเองให้คลายทุกข์
ที่ปรึกษาอีกสองคนก็แนะนำให้พาบุตรสาวไปส่งแก่ อ้วนสุด และขอกองทัพมาช่วยก็ไม่สำเร็จ แม้ลิโป้จะพยายามพาบุตรสาวไปด้วยตนเอง แต่ก็ไม่สามารถฝ่ากองทัพของโจโฉที่ล้อมอยู่ได้ กลัวว่าบุตรสาวจะเป็นอันตราย จึงต้องพากลับเข้าเมือง
ทั้งโจโฉก็ให้เล่าปี่คุมทหารไปดัก เส้นทางที่จะติดต่อกับอ้วนสุดได้ แม้จะมีเมืองที่เป็นพวกลิโป้จะยกพลมาช่วย ก็ถูกกำจัดตัดหนทางไปสิ้น ลิโป้จึงจนมุมอยู่เพียงผู้เดียวในเมืองแห้ฝือนั้นเอง
และตั้งแต่นั้นมาก็มิได้คิดทำสิ่งใด เอาแต่เสพสุราอยู่ตลอดสองเดือนจนหน้าตาหมองคล้ำ ภรรยาเอากระจกมาให้ส่องหน้าดู จึงรู้สึกตัวว่าสุรานี้ให้โทษมากนักถึงจะมีรูปงามมาก่อน ก็เศร้าหมองหมดสง่าราศีลงไป จึงเลิกเสพสุราเด็ดขาดแล้วก็สั่งห้ามมิให้ทหารทั้งกองทัพเสพสุราไปด้วย
ครั้น เฮาเสง นายทหารเอก มาขออนุญาตเลี้ยงสุราแก่เพื่อนนายทัพนายกอง ลิโป้ก็ให้ลงโทษเฆี่ยนเสียห้าสิบที ทหารทั้งปวงก็เสียน้ำใจ หมดความจงรักภักดี ไม่เป็นอันที่จะคิดสู้รบ
โจโฉก็ให้ทหารไปทำเขื่อนกั้นแม่น้ำ ที่ไหลผ่านเมืองแห้ฝือไว้ทางทิศใต้และทิศตะวันตก พอน้ำเหนือบ่าลงมาก็เอ่อล้นฝั่ง เข้าไปท่วมเมืองเกือบหมด เหลือที่ดอนทางประตูด้านตะวันออกด้านเดียว ทหารและพลเมืองก็ได้ความลำบากมาก
เฮาเสงกับซงเ

ยนและงุยซก ก็คบคิดกันลักเอาม้าเซ็กเธาว์คู่ขาของลิโป้ ออกไปให้โจโฉเสีย โจโฉก็ยินดีที่ตัดกำลังลิโป้ลงได้ จึงนำทหารเข้าปีนกำแพงเมือง รบราฆ่าฟันทหารที่รักษาเชิงเทิน เป็นการตลุมบอนขั้นสุดท้าย ลิโป้ขาดม้าคู่ใจก็คว้าทวนวิ่งขึ้นเชิงเทิน ช่วยทหารเลวต่อสู้กับข้าศึกตั้งแต่เช้าจนเที่ยง ทหารของโจโฉทานฝีมือไม่ได้ ต้องถอยกลับลงไปหมด
ลิโป้อ่อนแรงเต็มที ก็ลงนั่งพักข้างประตูเมือง เอาทวนพิงไว้แล้วก็ม่อยหลับไป ซงเ

ยนกับงุยซกก็แอบลักเอาทวน ไปทิ้งให้ข้าศึกนอกนอกกำแพงเมือง แล้วก็ช่วยกันจับลิโป้มัดไว้ทั้งกำลังหลับไม่รู้ตัว และเปิดประตูเมืองให้ทหารของโจโฉเข้าเมืองได้สำเร็จ
ฝ่ายโกซุ่นกับเตียวเลี้ยว ซึ่งรักษาหน้าที่อยู่ทางด้านตะวันตก เมื่อรู้ว่าข้าศึกเข้าเมืองได้ ก็รีบลงจากเชิงเทินจะมาช่วยลิโป้ที่ประตูตะวันออก พอดีทหารข้าศึกเข้ามาถึงตัว จึงถูกกลุ้มรุมจับตัวไว้ได้ทั้งคู่ ตันก๋งเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ก็ขึ้นม้าจะหนีออกไปทางประตูด้านใต้ ก็เจอทหารเอกของ โจโฉจับไว้ได้เช่นกัน
โจโฉเข้าเมืองแห้ฝือได้แล้ว ก็ให้ทหารพังทำนบที่กั้นน้ำเสีย น้ำที่ท่วมก็ไหลออกจากเมืองแห้งไป แล้วก็ให้เอาตัวลิโป้กับพรรคพวกมาพิพากษาโทษบนหอรบ ซึ่งมีเล่าปี่กวนอูเตียวหุยประดับบารมีอยู่ด้วย
ลิโป้ถูกมัดแน่นหนาอยู่ต่อหน้าโจโฉ เห็นเฮาเสงซงเ

ยนและงุยซก ก็ถามว่า
".....เราก็เลี้ยงดูท่านถึงขนาด เป็นไฉนท่านจึงทรยศคิดร้ายต่อเรา....."
ซงเ

ยนก็บอกว่า
"...เราคิดการทั้งนี้ เพราะท่านมิได้เชื่อฟังคำเรา ท่านนับถือแต่ภรรยา กลับจะมาทำโทษแก่เรา แล้วยังจะหาว่าเราทรยศอีกเล่า....."
ลิโป้ก็จนปัญญาที่จะต่อปากต่อคำด้วย เพราะเป็นความจริง เมื่อทหารนำตัวโกซุ่น นายทหารผู้จงรักภักดีต่อลิโป้ เข้ามาให้โจโฉชำระ โจโฉจะถามว่าอย่างไร โกซุ่นก็นิ่งเฉยไม่พูดด้วย โจโฉก็โกรธให้นำตัวไปประหารเสีย
เมื่อถึงคราว ตันก๋ง โจโฉยังนึกถึงบุญคุณที่ตันก๋งเคยได้ช่วยเหลือ ครั้งที่ตนหนีจากตั๋งโต๊ะ ไปรวบรวมกองทัพหัวเมือง อยากจะได้ตัวไว้ทำราชการด้วย แต่ตันก๋งก็เกลียดความโหดของโจโฉ ตั้งแต่คราวนั้นเหมือนกัน จึงไม่ยอมยอมรับและลากตัวเองลงจากหอรบ ให้ทหารประหารชีวิตเสียโดยเร็ว โจโฉสงสารก็เดินร้องไห้ตามลงไปปลอบโยน แต่ก็ไม่สำเร็จ
ลิโป้อยู่กับเล่าปี่ตามลำพังก็ขอร้องว่า
".....มหาอุปราชนับถือท่านอยู่ ครั้งนี้ข้าพเจ้าเป็นคนโทษถึงตาย ท่านจงคิดอ่านว่ากล่าว ขอชีวิตข้าพเจ้าไว้ให้รอด คุณท่านจะมีสืบไป....."
เล่าปี่ก็พยักหน้า แต่พอโจโฉกลับขึ้นมาที่หอรบ และลิโป้อ้อนวอนว่า
"..ทุกวันนี้มหาอุปราชคิดการใหญ่ เกรงอยู่แต่ข้าพเจ้าผู้เดียวว่าเป็นเสี้ยนหนาม บัดนี้ก็จับข้าพเจ้าได้แล้ว ข้าพเจ้าจะขอชีวิตไว้ทำการสนองคุณท่าน นานไปราชสมบัติก็จะเป็นสิทธิแก่ท่าน....."
โจโฉก็หันไปถามเล่าปี่ว่าจะเห็นประการใด เล่าปี่ก็ตอบว่า
"...ครั้งเต๊งหงวนกับตั๋งโต๊ะตายนั้น ท่านก็รู้แจ้งอยู่ เป็นไฉนจึงกลับมาย้อนถามหารือข้าพเจ้าฉะนี้เล่า....."
โจโฉจึงสั่งให้เอาตัวลิโป้ไปประหารชีวิตเสีย ขณะเมื่อทหารลากตัวลิโป้ลงไปจากเชิงเทินนั้น ก็ร้องด่าเล่าปี่ถึงเรื่องเก่าว่า
"....อ้ายเล่าปี่หูยาวมิได้คิดถึงคุณกู เมื่อครั้งกิเหลงจะทำอันตรายแก่มัน หากกู คิดกลอุบายยิงเกาทัณฑ์ให้ถูกทวน มันจึงรอดชีวิตอยู่ ....."
พอดีสวนกับ เตียวเลี้ยว ทหารเอกคู่ใจที่ถูกทหารมัดพาตัวขึ้นมาข้างบน เตียวเลี้ยวจึงให้สติว่า เกิดมาเป็นชายชาติทหารแล้ว จะมัวรักชีวิตอยู่ทำไม ถึงคราวจะตาย ก็ควรจะให้ลือชื่อ
ลิโป้จึงเงียบเสียง และยอมรับโทษตายไปตามกรรมของตน ที่ได้สร้าง สมไว้ตั้งแต่ฆ่าพ่อเลี้ยง เต๊งหงวนกับตั๋งโต๊ะ และสนองคุณใครต่อใครจนมาถึงอ้วนสุดในครั้งสุดท้าย แม้ว่าจะเคยพยายามทำคุณแก่เล่าปี่ไว้หลายครั้ง ก็ไม่สามารถจะช่วยได้ เพราะเล่าปี่ก็อยากเป็นใหญ่เหมือนกัน
ลิโป้ นักรบผู้มีฝีมือเป็นหนึ่งในสามก๊ก ที่ผู้คนทั้งหลายพากันประนาม ว่าเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา มีแต่ความโลภ และขาดความกตัญญูต่อผู้มีคุณ ก็มาถึงบทอวสาน
สิ้นเสี้ยนหนามตำใจของทั้ง โจโฉ และ เล่าปี่ ลงไปด้วยประการฉะนี้.
##########
หนี้ที่ต้องชำระ
หนี้ที่ต้องชำระ
เล่าเซี่ยงชุน
ฝ่ายเล่าปี่นั้น เมื่อแตกหนีไปจากเมืองเสียวพ่ายก็ไปหาโจโฉ และพาโจโฉยกกองทัพมาประชิดด่านเสียวก๋วนไว้ โจโฉก็ตีกลุ่มโจรที่เป็นพวกของตันก๋ง ซึ่งตั้งค่ายอยู่หน้าด่านแตกไป ตันก๋งก็พยายามจะรักษาด่านไว้ แม้ว่าทหารของโจโฉจะมีมากกว่า เมื่อลิโป้ได้ข่าวจึงยกกองทัพกลับเมืองชีจิ๋ว และตั้งให้ตันกุ๋ยอยู่รักษาเมืองชีจิ๋ว ตนเองจะยกไปช่วยตันก๋งที่ด่านเสียวก๋วน และให้ ตันเต๋งไปเป็นที่ปรึกษาในกองทัพด้วย
ตันเต๋งก็ดำเนินการ ตามที่โจโฉได้มอบหมายไว้แต่ครั้งก่อน ด้วยการหลอกให้ลิโป้จัดทหาร และพาครอบครัวของลิโป้ออกจากเมืองชีจิ๋ว ไปพักอยู่ที่เมืองแห้ฝือเสียก่อน ต่อมาก็ให้ลิโป้พักกองทัพรออยู่กลางทาง ตนเองอาสาไปสืบข่าวข้าศึก และเหตุการณ์ทางด่านเสียวก๋วนก่อน เมื่อไปถึงด่านก็ยุแหย่ตันก๋งว่า ลิโป้โกรธที่ทำการเสียทีแก่โจโฉ จะมาเอาโทษให้ระวังตัวไว้ ตันก๋งมิได้ห่วงตนเอง แต่ให้ตันเต๋งกลับไปบอกลิโป้ว่ารีบไปรักษาเมืองชีจิ๋วไว้ให้มั่นคงเถิด เพราะศึกครั้งนี้หนักนัก
พอตกค่ำ ตันเต๋งก็เขียนหนังสือผูกลูกเกาทัณฑ์ ยิงเข้าไปในค่ายโจโฉ บอกว่าจะเป็น ไส้ศึกให้ เมื่อได้โอกาสจะจุดเพลิงขึ้น ให้โจโฉยกเข้าตีทันที พอรุ่งเช้าก็กลับมาลวงลิโป้ว่า ตันก๋งขอให้ยกกำลังเข้าไปช่วยโดยเร็ว ลิโป้ก็หลงเชื่อให้ตันเต๋งกลับไปบอกตันก๋งว่า จะตีทหารโจโฉเข้าไปถึงด่านในค่ำวันนี้ ตันเต๋งก็ย้อนมาบอกตันก๋งอีกว่า ลิโป้สั่งให้ถอยออกจากด่านคืนนี้ ตันก๋งก็หลงเชื่อ จึงยกทหารออกจากด่านในตอนค่ำ
ตันเต๋งก็จุดเพลิงขึ้น แล้วก็หนีออกจากด่าน ไปหลอกโกซุ่นกับเตียวเลี้ยวให้ยกออกจากเมืองเสียวพ่ายมาช่วยลิโป้อีก โจโฉก็ยกทหารเข้าตีด่านเสียวก๋วนด้านหน้า ตันก๋งยกทหารออกทางด้านหลัง เจอกับกองทหารของลิโป้ก็คิดว่าเป็นข้าศึก ทั้งสองฝ่ายจึงรบกันเองอยู่จนถึงเช้า พอเห็นหน้าค่าตากันแล้วจึงหยุดรบ และพากันถอยกลับไปเมืองชึจิ๋ว มาถึงกลางทางก็พบโกซุ่น กับเตียวเลี้ยว จึงรู้ว่าทั้งหมดถูกอุบายของตันเต๋งหลอกจนหัวปั่นไปหมด
เมื่อมาถึงเมืองชีจิ๋วก็เข้าเมืองไม่ได้ เพราะบิต๊กสั่งให้ปิดประตูเมือง แล้วระดมยิงเกาทัณฑ์ลงมาเป็นอันมาก พร้อมกับตะโกนบอกลิโป้ว่า บัดนี้ได้ยึดเมืองคืนให้เล่าปี่แล้ว ลิโป้มีทหารเหลือน้อยไม่สามารถเข้าตีเมืองชีจิ๋วได้ ก็ยกไปเมืองเสียวพ่าย แต่ตันเต๋งก็ปิดประตูเมืองเสีย แล้วให้ทหารขึ้นรักษาเชิงเทินมั่นคง
ลิโป้ก็ควบม้าเข้าไปใกล้กำแพงเมือง ร้องด่าตันเต๋งว่า
".....ตัวเอ็งสองคนพ่อลูก กูรักใคร่ตั้งให้เป็นขุนนาง บัดนี้เอ็งทรยศต่อกู กูจะตัดศรีษะเอ็งเสียให้ได้.."
ตันเต๋งก็ร้องตอบว่า
"....ตัวอย่าโอหังเจรจา เราเป็นข้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ต่างหาก เมื่อครั้งอ้วนสุดยกมาตีเมืองชีจิ๋วนั้น ก็เพราะความคิดของเรากับบิดาเรา ตัวจึงรอดจากความตาย บัดนี้กลับมาว่าเราทรยศอีกเล่า....."
ลิโป้แค้นใจเป็นกำลัง จะยกทหารเข้าตีเมืองเสียวพ่าย ก็พอดีเตียวหุยและกวนอูซึ่งแตกไปครั้งก่อน ได้รวบรวมทหารกลับมาถึง ก็เข้าช่วยกันรุมรบลิโป้ โจโฉก็ยกจากด่านเสียวก๋วนมา สมทบอีกแรง ลิโป้จึงต้องถอยไปอยู่ที่เมืองแห้ฝือ แล้วก็ตั้งรักษาเมืองไว้อย่างมั่นคง
เล่าปี่ซึ่งมาในกองทัพของโจโฉ ก็พบกับกวนอูและเตียวหุย จึงได้ร่วมกันคิดปราบลิโป้ต่อไป
โจโฉก็ยกทหารมาตั้งค่ายอยู่ใกล้เมืองแห้ฝือประมาณสิบเส้น ลิโป้ก็ไม่ยกออกไปโจมตี ตันก๋งก็บอกว่า
"....บัดนี้โจโฉยกทัพมายังมิได้ที่มั่น เป็นไฉนท่านนิ่งอยู่ ไม่คิดอ่านที่จะยกออกไปรบกับโจโฉ แม้โจโฉตั้งมั่นแล้วเห็นเราจะทำการยาก....."
ลิโป้ก็ว่า
".....เราทำศึกเสียทีแก่โจโฉมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้เราจะตั้งมั่นอยู่แต่ในเมือง คอยโจโฉจะยกข้ามคูล่วงมาถึงเชิงกำแพงเราจึงจะออกรบ เห็นโจโฉจะเสียทีแก่เราเป็นมั่นคง....."
โจโฉก็ขึ้นม้าข้ามคูเข้ามาถึงเชิงกำแพง แล้วร้องบอกลิโป้ว่า
"..เมื่อครั้งตั๋งโต๊ะเป็นขบถ ท่านคิดอ่านฆ่าตั๋งโต๊ะเสีย ท่านมีความชอบต่อแผ่นดินเป็นอันมาก บัดนี้ท่านมาคบคิดกับอ้วนสุดซึ่งเป็นขบถต่อแผ่นดิน กิตติศัพท์ทั้งนี้รู้ขึ้นไปถึงเมืองฮูโต๋ พระเจ้าเหี้ยนเต้ก็ทรงพระพิโรธ จึงให้เรายกทัพมา แม้ท่านมิได้คบคิดกับอ้วนสุด แลมีใจซื่อตรง ต่อแผ่นดินอยู่ ก็เร่งออกมาหาเราโดยดี จะได้ช่วยแก้ไขกราบทูลเลี้ยงท่านเป็นขุนนางสืบไป ถ้าท่านไม่ออกมาหาเราโดยดี เมื่อเราตีเมืองได้แล้ว ท่านจึงจะแจ้งในโทษท่าน ซึ่งกระทำความผิดไว้แต่ก่อน....."
ลิโป้ชักลังเลจึงตอบว่า
".....แม้มหาอุปราชกรุณาข้าพเจ้าแล้ว ก็ยกทหารกลับไปก่อนเถิด ข้าพเจ้าจะหารือที่ปรึกษาทั้งปวงก่อน....."
ตันก๋งเห็นลิโป้เสียงอ่อยลงดังนั้น จึงเอาเกาทัณฑ์ยิงลงไป ถูกพู่หมวก ของโจโฉด้วยความเกลียดชัง โจโฉจึงโกรธขับม้ากลับไป และไม่คิดที่จะอภัยให้ลิโป้อีก
ตันก๋งก็เสนอแผนใหม่ ให้ลิโป้ยกทหารออกไปอยู่นอกเมือง ตนเองจะอยู่รักษาเมือง ถ้าโจโฉเข้าตีเมืองก็ให้ลิโป้ยกมาตีกระหนาบหลัง ถ้าโจโฉยกไปตีลิโป้ ตนก็จะยกออกจากเมืองไปช่วยเช่นเดียวกัน
ลิโป้ก็นำความไปปรึกษา นางเหงียมซี ภรรยาเอก นางก็ว่า
"...ซึ่งท่านจะยกออกไปอยู่นอกเมืองนั้น แม้เป็นอันตรายที่ไหนข้าพเจ้าจะได้ปฏิบัติรักษาท่าน.."
ลิโป้ก็มีความสงสารภรรยาจึงรีรออยู่ ตันก๋งก็เสนอให้ลิโป้ออกไปตีตัดเสบียงโจโฉ ที่จะมาจากเมืองฮูโต๋ ลิโป้ก็เข้าไปปรึกษานางเหงียมซีอีก
นางก็ทักท้วงและรำพันว่า
".......ซึ่งท่านจะไว้ใจให้ตันก๋งอยู่รักษาเมืองนั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าจะสู้โจโฉไม่ได้ เมื่อท่านไปแล้วอยู่ภายหลังเมืองเป็นอันตราย ข้าพเจ้าจะเหลียวหน้าไปพึ่งผู้ใด เมื่อครั้งท่านทิ้งข้าพเจ้าไว้ที่เมืองเตียงฮันนั้น หากว่าบังสี ช่วยคิดอ่านส่งข้าพเจ้าออกมาให้ท่าน ข้าพเจ้าจึงรอด บัดนี้ข้าพเจ้ามิได้เห็นผู้ใดที่จะเป็นที่พึ่ง ซึ่งท่านจะยกไปครั้งนี้ ถึงลาภสัการเท่าใด ก็ไม่คิดถึงข้าพเจ้าผู้เพื่อนยากนี้ก่อน....."
แล้วนางก็ร้องไห้ร่ำไรเป็นอันมาก ลิโป้ก็มีความเวทนาเป็นกำลัง ไม่รู้ที่จะคิดอ่านประการใด จึงเข้าไปหา นางเตียวเสียน ภรรยารองที่หอบหิ้วกันมาด้วยความรัก นางก็กอดเท้าลิโป้ไว้ แล้วร้องไห้ออดอ้อนวิงวอน และห้ามปรามเหมือนนางเหงียมซีทุกประการ
ลิโป้ก็ปลอบว่า
"...เจ้าอย่าวิตกเลย ถึงจะเป็นประการใด เรามิให้เจ้าเป็นอันตราย จะกลัวอันใดกับโจโฉ ทวนกับม้าของเรามีกำลังมาก เราจะตั้งมั่นอยู่ในเมืองดังนี้ ผู้ใดจะบังอาจเข้ามาทำอันตรายได้....."
แล้วลิโป้ก็ออกมาบอกตันก๋งว่า จะอยู่รักษาเมืองตามคำขอร้องของภรรยาทั้งสอง ตันก๋งก็ถอนใจทอดอาลัยว่า ถ้าลงแม่ทัพเชื่อภรรยา มากกว่าที่ปรึกษา และนายทหารดังนี้ เห็นทีจะไม่รอดชีวิตเป็นแน่
ลิโป้ก็ขลุกอยู่กับภรรยาทั้งสอง มิได้คิดที่จะรบกับโจโฉ และเสพสุราทุกวัน หวังจะปลอบขวัญตนเองให้คลายทุกข์
ที่ปรึกษาอีกสองคนก็แนะนำให้พาบุตรสาวไปส่งแก่ อ้วนสุด และขอกองทัพมาช่วยก็ไม่สำเร็จ แม้ลิโป้จะพยายามพาบุตรสาวไปด้วยตนเอง แต่ก็ไม่สามารถฝ่ากองทัพของโจโฉที่ล้อมอยู่ได้ กลัวว่าบุตรสาวจะเป็นอันตราย จึงต้องพากลับเข้าเมือง
ทั้งโจโฉก็ให้เล่าปี่คุมทหารไปดัก เส้นทางที่จะติดต่อกับอ้วนสุดได้ แม้จะมีเมืองที่เป็นพวกลิโป้จะยกพลมาช่วย ก็ถูกกำจัดตัดหนทางไปสิ้น ลิโป้จึงจนมุมอยู่เพียงผู้เดียวในเมืองแห้ฝือนั้นเอง
และตั้งแต่นั้นมาก็มิได้คิดทำสิ่งใด เอาแต่เสพสุราอยู่ตลอดสองเดือนจนหน้าตาหมองคล้ำ ภรรยาเอากระจกมาให้ส่องหน้าดู จึงรู้สึกตัวว่าสุรานี้ให้โทษมากนักถึงจะมีรูปงามมาก่อน ก็เศร้าหมองหมดสง่าราศีลงไป จึงเลิกเสพสุราเด็ดขาดแล้วก็สั่งห้ามมิให้ทหารทั้งกองทัพเสพสุราไปด้วย
ครั้น เฮาเสง นายทหารเอก มาขออนุญาตเลี้ยงสุราแก่เพื่อนนายทัพนายกอง ลิโป้ก็ให้ลงโทษเฆี่ยนเสียห้าสิบที ทหารทั้งปวงก็เสียน้ำใจ หมดความจงรักภักดี ไม่เป็นอันที่จะคิดสู้รบ
โจโฉก็ให้ทหารไปทำเขื่อนกั้นแม่น้ำ ที่ไหลผ่านเมืองแห้ฝือไว้ทางทิศใต้และทิศตะวันตก พอน้ำเหนือบ่าลงมาก็เอ่อล้นฝั่ง เข้าไปท่วมเมืองเกือบหมด เหลือที่ดอนทางประตูด้านตะวันออกด้านเดียว ทหารและพลเมืองก็ได้ความลำบากมาก
เฮาเสงกับซงเ
ลิโป้อ่อนแรงเต็มที ก็ลงนั่งพักข้างประตูเมือง เอาทวนพิงไว้แล้วก็ม่อยหลับไป ซงเ
ฝ่ายโกซุ่นกับเตียวเลี้ยว ซึ่งรักษาหน้าที่อยู่ทางด้านตะวันตก เมื่อรู้ว่าข้าศึกเข้าเมืองได้ ก็รีบลงจากเชิงเทินจะมาช่วยลิโป้ที่ประตูตะวันออก พอดีทหารข้าศึกเข้ามาถึงตัว จึงถูกกลุ้มรุมจับตัวไว้ได้ทั้งคู่ ตันก๋งเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น ก็ขึ้นม้าจะหนีออกไปทางประตูด้านใต้ ก็เจอทหารเอกของ โจโฉจับไว้ได้เช่นกัน
โจโฉเข้าเมืองแห้ฝือได้แล้ว ก็ให้ทหารพังทำนบที่กั้นน้ำเสีย น้ำที่ท่วมก็ไหลออกจากเมืองแห้งไป แล้วก็ให้เอาตัวลิโป้กับพรรคพวกมาพิพากษาโทษบนหอรบ ซึ่งมีเล่าปี่กวนอูเตียวหุยประดับบารมีอยู่ด้วย
ลิโป้ถูกมัดแน่นหนาอยู่ต่อหน้าโจโฉ เห็นเฮาเสงซงเ
".....เราก็เลี้ยงดูท่านถึงขนาด เป็นไฉนท่านจึงทรยศคิดร้ายต่อเรา....."
ซงเ
"...เราคิดการทั้งนี้ เพราะท่านมิได้เชื่อฟังคำเรา ท่านนับถือแต่ภรรยา กลับจะมาทำโทษแก่เรา แล้วยังจะหาว่าเราทรยศอีกเล่า....."
ลิโป้ก็จนปัญญาที่จะต่อปากต่อคำด้วย เพราะเป็นความจริง เมื่อทหารนำตัวโกซุ่น นายทหารผู้จงรักภักดีต่อลิโป้ เข้ามาให้โจโฉชำระ โจโฉจะถามว่าอย่างไร โกซุ่นก็นิ่งเฉยไม่พูดด้วย โจโฉก็โกรธให้นำตัวไปประหารเสีย
เมื่อถึงคราว ตันก๋ง โจโฉยังนึกถึงบุญคุณที่ตันก๋งเคยได้ช่วยเหลือ ครั้งที่ตนหนีจากตั๋งโต๊ะ ไปรวบรวมกองทัพหัวเมือง อยากจะได้ตัวไว้ทำราชการด้วย แต่ตันก๋งก็เกลียดความโหดของโจโฉ ตั้งแต่คราวนั้นเหมือนกัน จึงไม่ยอมยอมรับและลากตัวเองลงจากหอรบ ให้ทหารประหารชีวิตเสียโดยเร็ว โจโฉสงสารก็เดินร้องไห้ตามลงไปปลอบโยน แต่ก็ไม่สำเร็จ
ลิโป้อยู่กับเล่าปี่ตามลำพังก็ขอร้องว่า
".....มหาอุปราชนับถือท่านอยู่ ครั้งนี้ข้าพเจ้าเป็นคนโทษถึงตาย ท่านจงคิดอ่านว่ากล่าว ขอชีวิตข้าพเจ้าไว้ให้รอด คุณท่านจะมีสืบไป....."
เล่าปี่ก็พยักหน้า แต่พอโจโฉกลับขึ้นมาที่หอรบ และลิโป้อ้อนวอนว่า
"..ทุกวันนี้มหาอุปราชคิดการใหญ่ เกรงอยู่แต่ข้าพเจ้าผู้เดียวว่าเป็นเสี้ยนหนาม บัดนี้ก็จับข้าพเจ้าได้แล้ว ข้าพเจ้าจะขอชีวิตไว้ทำการสนองคุณท่าน นานไปราชสมบัติก็จะเป็นสิทธิแก่ท่าน....."
โจโฉก็หันไปถามเล่าปี่ว่าจะเห็นประการใด เล่าปี่ก็ตอบว่า
"...ครั้งเต๊งหงวนกับตั๋งโต๊ะตายนั้น ท่านก็รู้แจ้งอยู่ เป็นไฉนจึงกลับมาย้อนถามหารือข้าพเจ้าฉะนี้เล่า....."
โจโฉจึงสั่งให้เอาตัวลิโป้ไปประหารชีวิตเสีย ขณะเมื่อทหารลากตัวลิโป้ลงไปจากเชิงเทินนั้น ก็ร้องด่าเล่าปี่ถึงเรื่องเก่าว่า
"....อ้ายเล่าปี่หูยาวมิได้คิดถึงคุณกู เมื่อครั้งกิเหลงจะทำอันตรายแก่มัน หากกู คิดกลอุบายยิงเกาทัณฑ์ให้ถูกทวน มันจึงรอดชีวิตอยู่ ....."
พอดีสวนกับ เตียวเลี้ยว ทหารเอกคู่ใจที่ถูกทหารมัดพาตัวขึ้นมาข้างบน เตียวเลี้ยวจึงให้สติว่า เกิดมาเป็นชายชาติทหารแล้ว จะมัวรักชีวิตอยู่ทำไม ถึงคราวจะตาย ก็ควรจะให้ลือชื่อ
ลิโป้จึงเงียบเสียง และยอมรับโทษตายไปตามกรรมของตน ที่ได้สร้าง สมไว้ตั้งแต่ฆ่าพ่อเลี้ยง เต๊งหงวนกับตั๋งโต๊ะ และสนองคุณใครต่อใครจนมาถึงอ้วนสุดในครั้งสุดท้าย แม้ว่าจะเคยพยายามทำคุณแก่เล่าปี่ไว้หลายครั้ง ก็ไม่สามารถจะช่วยได้ เพราะเล่าปี่ก็อยากเป็นใหญ่เหมือนกัน
ลิโป้ นักรบผู้มีฝีมือเป็นหนึ่งในสามก๊ก ที่ผู้คนทั้งหลายพากันประนาม ว่าเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา มีแต่ความโลภ และขาดความกตัญญูต่อผู้มีคุณ ก็มาถึงบทอวสาน
สิ้นเสี้ยนหนามตำใจของทั้ง โจโฉ และ เล่าปี่ ลงไปด้วยประการฉะนี้.
##########