หลุด! … โพย 35 คำถามยอดฮิตยามสัมภาษณ์งาน

ขออนุญาตคัดลอกบทความจาก FJSK.in.th (First Jobber Survival Kit / http://fjsk.in.th/2014/03/35-top-hit-interview-questions/ ) มาสอบถามพี่ๆ กลุ่ม HR/Management หน่อยนะครับ ว่าคำถามเหล่านี้ใช้ได้จริงในระบบของไทยไหม ขอบพระคุณมากๆ ครับ

สมัยผมสัมภาษณ์งาน มีถามวันเดือนปีเกิด ดูดวง ถามว่ามีแฟนหรือยัง อะไรอย่างนี้ด้วย 555

//////////////////

ช่วงนี้น้องๆปี 4 หรือปีสุดท้ายกำลังจะสำเร็จการศึกษากัน ก็เริ่มมองหาที่ทำงานที่แรก รวมไปถึงเราๆชาว First Jobber ที่ทำงานมาครบหนึ่งขวบปี บางคนก็อาจจะเริ่มมองหาที่ทำงานใหม่เพื่อขยับขยายโยกย้ายส่ายสะโพกบั้นท้ายไปสู่ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

ด่านที่เราต้องเจอแน่นอนและชี้เป็นชี้ตายตัวเราเลยว่าจะได้งานนั้นหรือไม่ก็คือ ‘การสัมภาษณ์งาน’ นั่นเอง การสัมภาษณ์งานนั้นนอกจากจะวัดดูทัศนคติของเราที่มีต่อเรื่องงานและเรื่องทั่วๆไปแล้ว ยังเป็นการทดสอบความ ‘คลิก’ กันของผู้สมัครและผู้สัมภาษณ์ (ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเจ้านายของเรา) นั่นเอง



วันนี้ทางเว็บ FJSK ของเราที่ specialized เรื่อง First Jobber โดยเฉพาะ จึงเอาโพยข้อสอบสัมภาษณ์กับ 35 คำถามยอดฮิตที่ชอบถูกถามกันบ่อยๆ เพื่อที่เราจะได้เตรียมตัวพร้อมเข้าสนามสัมภาษณ์ได้ สำหรับคนที่พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจค่ะ ฮิฮิ

*บทความนี้เป็นการแปลจาก infographic จากเว็บ theundercoverrecruiter นะคะ เดี๋ยวแปะตัวออริจิให้ด้านล่างนะคะ เผื่อใครอยากอ่านภาษาอังกฤษ

1. ช่วยเล่าอะไรเกี่ยวกับตัวเองหน่อยค่ะ

- พยายามลิมิตคำตอบให้เกี่ยวกับเรื่องการทำงาน อย่าพูดถึงเรื่องส่วนตัวมากถ้าเกิดเค้าไม่ได้ถาม

2. พูดถึงงานในฝันหน่อยสิ

- ถ้าเกิดเราตอบชัดเจนเลยว่าอยากทำตำแหน่งอะไร มี job des อะไรบ้าง คนสัมภาษณ์เค้าจะเริ่มสแกนเธอทันทีว่าเธอเหมาะกับตำแหน่งในฝันที่เธอพูดออกมาหรือเปล่า เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้ตอบแบบคลีเช่ๆว่า งานในฝันคืออยากทำในที่ที่บรรยากาศเป็นมิตร รักใคร่กลมเกลียว สามัคคี นำประชาธิปไตย ไร้ยาเสพติด อะไรแบบนี้ดีกว่าค่ะ

3. ทำไมถึงลาออกจากงานเก่าล่ะ?

- พยายามตอบว่า ‘ออกมาเพื่อตามหาสิ่งที่ดีกว่า’ อะไรเทือกๆนั้นไป คืออย่าได้พูดเลยนะว่า ‘ออกเพราะเจ้านายเก่าที่นิสัยแย่มั่กๆ’

4. อะไรคือจุดอ่อนของคุณคะ?

- อย่าโพล่งนิสัยแปลกๆของคุณออกมาทันทีเลย พยายามหาจุดอ่อนที่แฝงความดีงามไว้ด้านในเช่น ‘เป็นคนต้องเตรียมตัวก่อนไปทำงานก็เลยจะต้องตั้งนาฬิกาปลุกไว้ล่วงหน้าสองชั่วโมง’ ไรเง้

5. จุดแข็งของคุณล่ะ?

- ยิ่งขายมาก ความต้องการก็จะยิ่งมากขึ้น เตรียมสถานการณ์ดูดีๆที่เคยเกิดขึ้นที่จะส่งเสริมจุดแข็งเหล่านั้นไปด้วยเผื่อเค้าถามหรือเราก็เล่าเองเพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ

6. คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับงานที่เราทำ?

- ทำการบ้านให้มากที่สุด เจาะลึกทุกซอกมุมของเว็บไซต์บริษัทนั้น เพราะมันจะเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดว่าบริษัทนี้ทำอะไร ถ้ามีคนรู้จักในบริษัทนี้ก็ลองพูดคุยกับเค้าดู เผื่อจะได้ข้อมูลอินไซด์อะไรเพิ่มเติมที่เอามาตอบได้

7. ทำไมเราถึงต้องจ้างคุณ?

- สำหรับข้อนี้ เราต้องตอบให้รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาของทั้งสองฝ่าย สื่อสารแบบกลางๆว่าคุณต้องการงานนี้พอๆกันกับที่บริษัทนี้ต้องการคุณ อย่าไปเปรียบเทียบตัวเราเองกับผู้สัมภาษณ์คนอื่นเชียวนะ

8. คุณคิดว่าคุณเป็นคนที่ประสบความสำเร็จไหม?

- ตอบไปเลยว่าใช่ ไม่ต้องกลัวอะไร เพราะการประสบความสำเร็จไม่ได้แปลว่าเราเป็นคนที่เก่งที่สุดในโลกซะหน่อย เล่าให้เค้าฟังถึงความสำเร็จเจ๋งๆของคุณที่มีจนถึงช่วงที่สัมภาษณ์นั่นแหละ

9. ทำไมคุณถึงว่างงานเป็นเวลานานล่ะ?

- กลบเกลื่อนประเด็นนี้ด้วยการพูดถึงกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ที่เราทำในช่วงเวลาที่ตกงานเช่น ไปเข้าคอร์ส หรือเพิ่มพูนความรู้ด้วยวิธีต่างๆเช่น ทำฟรีแลนซ์หรือทำงานแบบเอาบุญไม่เอาเงินเป็นต้น หรือถ้าตอนนี้ตกงานอยู่ก็หาอะไรทำซะ เวลาไปสัมภาษณ์งานจะได้ไม่อ้ำอึ้งเวลาตอบนะจ๊ะ

10. เพื่อนร่วมงานของคุณพูดถึงคุณว่ายังไงบ้าง

- ก็เล่าไปตามนั้นแหละว่าเพื่อนที่ทำงานเธอเคยชมอะไรเธอไว้บ้าง ก็ดูๆไว้หน่อยนะคะว่าเราไม่ได้พูดเวอร์เกินไปงี้

11. คุณคิดว่าจะทำงานที่นี่ไปนานแค่ไหน

- เลี่ยงคำตอบที่จะกำหนดช่วงเวลาอย่างแน่นอนว่าคุณจะอยู่ที่นี่ไปนานแค่ไหน ลองตอบประมาณว่า ‘ตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายยังพอใจที่จะรักกัน’

12. คุณคิดว่าคุณดีเกินไปสำหรับงานนี้หรือเปล่า

- พยายามโน้มน้าวเค้าให้ได้ว่าคุณเหมาะสำหรับงานนี้ อย่าแสดงความกังขาในความสามารถหรือเครดิตของเราตัวเราให้เค้ารู้สึกด้วยการพูดจาคลุมเครือ บอกไปเลยว่าเรานี่แหละมั่นใจแน่จริง

13. วิธีการบริหารจัดการของคุณเป็นอย่างไร

- สำคัญมากที่คุณจะต้องทำให้ผู้สัมภาษณ์เข้าใจถึงแนวทางการสื่อสารกับลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงานของคุณให้ได้ เล่าถึงวิธีที่คุณใช้นำทีมหรือทำงานร่วมกับทีมและในขณะเดียวกันทำให้คนอื่นสบายใจกับงานที่ทำเหมือนกัน

14. คุณทำงานเป็นทีมได้หรือเปล่า

- เป็นคำตอบบังคับเลยว่า ‘ใช่’ ‘แน่ซะยิ่งกว่าแช่แป้ง’ อะไรประมาณนี้ ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่คุณทำงานทันเดดไลน์ได้แบบเป็นกลุ่มดู

15. ปรัชญาในการทำงานของคุณล่ะ

- ไม่ต้องเวิ่นมาก บอกไปตรงๆ ง่ายๆเลยว่าสไตล์การทำงานหรือค่านิยมของคุณในที่ทำงานเป็นยังไงและสิ่งที่คุณสามารถนำมาสู่ทีมได้

16. ตำแหน่งที่คุณอยากจะทำเวลาทำงานเป็นทีมเพื่อทำโปรเจค

- เน้นย้ำไปเลยให้เค้ารู้สึกว่าเราเป็นคนที่ยืดหยุ่นและไม่แคร์ที่จะต้องเป็นผู้ตามหรือผู้นำ

17. อะไรที่บ้างที่ทำให้คุณรำคาญเพื่อนร่วมงาน

- คือความรู้สึกมันเกิดจากการรับรู้ ก็บอกเค้าว่าเราโอเคกับเพื่อนร่วมงานทุกโดยการปรับตัวเข้ากับทุกคนโดยการรับมือทุกอย่างแบบชิลๆ

18. ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณจะทำงานนี้ได้ดี

- เน้นย้ำสกิลและประสบการณ์ที่ได้มาจากที่ทำงานเก่ากับการรับมือ crisis ทั้งหลายให้เค้ารู้สึกว่าเรานี่แหละคือคนที่เค้าตามหามานานแสนนาน

19. อะไรสำคัญกว่า เงินหรืองาน?

- ตอบไปว่าทั้งสองอย่างสำคัญพอๆกัน แต่อย่าตอบกว้างเกินไปหรือแคบไปว่าอันนึงสำคัญกว่าอีกอันนึง บอกไปว่า ชั้นก็มองหาความพอใจในงานเหมือนกันนะคะ

20. เจ้านายเก่าคุณคิดว่าข้อดีที่สุดของคุณคืออะไร

- พูดยกตัวอย่างสถานการณ์ในที่ทำงานเก่าให้เห็นภาพชัดขึ้น อย่าเวิ่นเป็นคำๆออกมา ถ้ามีพวกจดหมายที่เป็นคำชมหรือจดหมายแนะนำก็อวดให้เค้าดูเลยเพื่อความน่าเชื่อถือ

21. เล่าถึงการทำงานภายใต้ความกดดันหน่อย

- คำถามแบบนี้ต้องตอบอย่างระมัดระวังนะคะ แนะนำว่าให้ยกตัวอย่างที่คุณทำได้ดีภายใต้ความกดดัน ทำให้เค้ารู้สึกว่าความกดดันนี่แหละที่ทำให้คุณดึงพลังแฝงออกมาได้

22. คุณจะชดเชยความอ่อนประสบการณ์ของคุณด้วยอะไร

- เน้นยำสกิลความสามารถและความสำเร็จที่เราได้มาเพื่อให้เค้ารู้สึกมั่นใจที่จะจ้างเรา ลองยกตัวอย่างตำแหน่งหรืองานที่เคยทำสมัยเรียนเพื่อให้เค้าเห็นภาพมากยิ่งขึ้น

23. อะไรคือตัวกระตุ้นที่ทำให้คุณทำงานให้ดีที่สุดได้

- ห้ามมมมมมมตอบว่า ‘เงินเดือน’ โดยเด็ดขาด พูดถึงเรื่องดีๆเช่น บรรยากาศที่ทำงาน ระเบียบวินัย หรือความสมบูรณ์แบบเป็นต้น

24. คุณจะรู้สึกว่าคุณประสบความสำเร็จในงานนี้เมื่อใด

- ลองตอบว่า ‘เมื่อผม/ดิฉันทำได้ตามเป้าหมายทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพและสามารถไปได้ไกลกว่านั้นได้’ สวยเว่อค่ะ

25. คุณจะให้ความสนใจต่อประโยชน์ขององค์กรมากกว่าของส่วนตนหรือไม่

- อีกข้อที่ต้องตอบว่า ใช่ และ แน่ซะยิ่งกว่าแช่แป้ง คำถามนี้จะเป็นการทดสอบเราว่าเราจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับบริษัทได้มากแค่ไหนและเราจะจริงจังแค่ไหนในการทำตามเป้าหมายขององค์กรของเรา

26. คุณสมบัติใดบ้างที่คุณมองหาในเจ้านายของคุณ

- ไม่ต้องลงรายละเอียดมากจนถึงว่า ต้องเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยอย่างไรหรือต้องกินอะไร นอนกี่โมง คือแค่บอกไปง่ายๆสั้นๆว่า เป็นคนรอบรู้ ยุติธรรม ให้กำลังใจ และหล่อ (อันนี้ไม่ใช่ละ)

27. คุณคิดภาพตัวคุณในอีกห้าปีว่าอย่างไร

- ตอบอย่างคนมีวิสัยทัศน์และถ้าเข้า objective line ของเรซูเม่ที่เราเขียนไปก็จะดีมาก (objective line คือพาร์ทหนึ่งของเรซูเม่ (ประมาณสองสามประโยค) ที่บ่งบอกตัวคุณว่าคุณเป็นคนอย่างไรและมีจุดมุ่งหมายในการทำงาน ผู้จ้างงานจะดูตรงนี้เป็นพิเศษว่าเป้าหมายของคุณสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรหรือไม่ – ผู้แปล)

28. คุณเรียนรู้อะไรจากการผิดพลาดครั้งเก่าๆบ้าง

- อย่าเปิดเผยทุกเรื่องโบ๊ะๆเฉิ่มๆที่เคยเกิดขึ้นมา เล่าความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นแล้วตามต่อด้วยบทเรียนที่เกิดขึ้นเพื่อแสดงถึงคนที่มีการเรียนรู้ 5555

29. ถ้าคุณกำลังจ้างคนมาเพื่อตำแหน่งนี้ คุณจะมองหาอะไรในตัวเค้าบ้าง

- ตอบคำถามนี้ด้วยการตอบ job des ที่มีอยู่ใน skill set ของคุณด้วยก็จะดี เอาคำตอบที่เข้ากับงานแล้วก็อย่าให้มันเวอร์เกินไปละกัน

30. อะไรคือความคาดหวังของคุณกับที่นี่?

- บอกไปว่าคุณก็อยากมีอิสรภาพแบบเบาๆมากกว่าที่จะต้องถูกบังคับให้ทำอะไรที่เล็กๆน้อยๆตลอดเวลา ความชัดเจนในงานที่ได้รับมอบหมายก็น่าเอาไปตอบเหมือนกันนะ

31. มีคำถามอะไรจะถามดั๊นมั้ยฮะ

- ทำการบ้านมาดีๆว่าอยากถามอะไรคนที่สัมภาษณ์ ชัดเจนในการทำความเข้าใจกับคำตอบของเค้าให้ดีนะ

32. ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณจะประสบความสำเร็จในงานนี้

- Intersect ความเหมือนของ job requirement และสกิลที่คุณมี ก็จะเป็นคำตอบที่โอเคนะค๊า

33. คุณคิดยังไงกับที่ทำงานเก่าบ้าง?

- ถึงแม้ว่าคำถามข้อนี้จะล่อเป้าให้เราแฉที่ทำงานเก่ามาก แต่อยากให้เลี่ยงด้วยการตอบว่า ที่เก่าก็เปรียบเสมือนสถานที่ที่ทำให้คุณเติบโตและทำให้คุณเป็นคุณในวันนี้ได้ ไม่ต้องไปลงรายละเอียดของที่ทำงานเก่ามากนะคะเพราะมัน confidential เน้อ เค้าอาจจะเป็นคู่แข่งกันก็ได้

34. คุณรับมือกับคำวิจารณ์อย่างไร

- ตอบไปว่าการได้รับคำวิจารณ์คือวิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาตัวเอง บอกว่าคุณไม่เคยถือคำวิจารณ์เป็นเรื่องส่วนตัวและเข้าใจเจตนาของการปฏิบัติที่รุนแรงบ้าง หลังจากนั้นก็ยกตัวอย่างที่คุณขยับไปอีกขั้นหนึ่งของความสวดยวดหลังจากได้รับคำวิจารณ์มาเพื่อโชว์เมพซะ คริๆ

35. คุณมีกิจกรรมหรือความสนใจนอกเหนือจากงานมั้ย?

- เล่าไปแบบชิลๆว่าคุณใช้เวลาว่างไปกับอะไรบ้าง เช่นงานอดิเรกของคุณ พยายามโยงๆงานอดิเรกของคุณไปสู่การเพิ่มพูนสกิลให้กับตัวเองสักเล็กน้อยแต่พองาม

เห็นอย่างนี้แล้วสุดท้ายก็อย่างที่บอกจริงๆค่ะว่าเราคลิกกับผู้สัมภาษณ์เรามากแค่ไหน พยายามอย่าขายตัวเองให้มากเกินไป อ่อนน้อมถ่อมตน แต่ไม่ใช่ว่าหงอ เค้าอยากได้คนมั่นใจ ไม่ใช่คนขี้อวด ทุกอย่างคือเรื่องของความพอดี ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ จุ๊บๆ

//////
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ผมเคยเข้ารับการสัมภาษณ์งานที่บริษัทนึงนะครับ...อยู่ จ.ภูเก็ต
เจ้าของ (CEO) เป็นคนสัมภาษณ์เองเลย..ขอบอกว่า..ไม่มีคำถามพวกนี้แม้แต่นิดเดียว

ผมสมัครเป็น HRD Manager ท่านก็ถามตรงประเด็นเลย.."สอนเป็นมั๊ย".."ไหนสอนให้ผมดูหน่อย"
หรือ.."ไหนพูดภาษาอังกฤษได้ดีมั๊ย".."พูดให้ผมฟังหน่อย..."

แล้วก็คำถามเล็กๆ น้อยๆ ประมาณว่า "ทำงานเลิกงานดึก..ไหวมั๊ย" อะไรทำนองนี้

แล้วตบท้ายว่า..อีก 2 อาทิตย์ ถ้าทางบริษัทไม่ได้ติดต่อไป ก็ถือว่า "ไม่รับ" นะครับ

แค่นั้น..จบ
ความคิดเห็นที่ 31
1. ช่วยเล่าอะไรเกี่ยวกับตัวเองหน่อยค่ะ
ชายถึก บ้างาน ไม่ชอบอยู่นิ่ง นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นแหลก
2. พูดถึงงานในฝันหน่อยสิ
ไม่มี เพราะ ทุกอย่างคือความจริง
3. ทำไมถึงลาออกจากงานเก่าล่ะ?
งานน้อย ไม่ทันใจ อยากทำงานเยอะๆ
4. อะไรคือจุดอ่อนของคุณคะ?
คิดเยอะ ทำเยอะ
5. จุดแข็งของคุณล่ะ?
เหมือนทหาร เป๊ะ
6. คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับงานที่เราทำ?
คุณ คิดว่า บริษัทคุณขาดอะไรละ ผมตอบได้
7. ทำไมเราถึงต้องจ้างคุณ?
เพราะ ผมจะทำให้คุณลด้นทุนได้ อย่างน้อยปีละ5% ยาวถึง 5 ปี ลองฟังวิธีผมไหม
8. คุณคิดว่าคุณเป็นคนที่ประสบความสำเร็จไหม?
ไม่ เพราะผมไม่เคยอิ่มการทำงาน
9. ทำไมคุณถึงว่างงานเป็นเวลานานล่ะ?
เพราะ ผมต้องการงานที่ดีที่สุด จนมาเจอคุณนี่แหละ
10. เพื่อนร่วมงานของคุณพูดถึงคุณว่ายังไงบ้าง
ทุกวันนี้ จะชวนให้กลับไปทำงานด้วยกันอยู่เลย
11. คุณคิดว่าจะทำงานที่นี่ไปนานแค่ไหน
อยากเกษียรที่นี่ แต่อนาคต เราต่างก็ไม่รู้
12. คุณคิดว่าคุณดีเกินไปสำหรับงานนี้หรือเปล่า
ยังไม่ได้ทำ ขอทำก่อน
13. วิธีการบริหารจัดการของคุณเป็นอย่างไร
คิดให้เยอะ วางแผนให้รัดกุมแล้วเอาให้ทุกๆคนที่เกี่ยวข้องสุมหัวพิจารณา ถ้าไม่ดีกลับไปแก้ แต่ถ้าดี ทำ
14. คุณทำงานเป็นทีมได้หรือเปล่า
ผมคือเฟืองตัวหนึ่งเลยแหละ
15. ปรัชญาในการทำงานของคุณล่ะ
งานต้องดี เพื่อนร่วมงานต้องรัก
16. ตำแหน่งที่คุณอยากจะทำเวลาทำงานเป็นทีมเพื่อทำโปรเจค
อะไรก็ได้ ไม่จุกจิก
17. อะไรที่บ้างที่ทำให้คุณรำคาญเพื่อนร่วมงาน
กินขนมแล้วไม่เรียก
18. ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณจะทำงานนี้ได้ดี
ผมต้องการงานนี้ ยิ่งกว่าที่ผมเคยอยากได้จากที่ไหน
19. อะไรสำคัญกว่า เงินหรืองาน?
เงินที่ได้มาต้องมาจากการทำงานด้วยอุดมการณ์ของผม
20. เจ้านายเก่าคุณคิดว่าข้อดีที่สุดของคุณคืออะไร
ถ้าโทรไปถามเขา เขาจะบอกคุณว่า "ผมคือ ลูกน้องที่ฉลาดและเก่งมาก ในขณะที่เป็นคนไม่ไว้หน้าใครก็คือข้อเสีย"
21. เล่าถึงการทำงานภายใต้ความกดดันหน่อย
ความกดดันอย่างเดียวของการทำงานคือ เวลา ถ้ากำหนดขอบเขตและเวลาได้แล้ว มันก็ไม่กดดัน
22. คุณจะชดเชยความอ่อนประสบการณ์ของคุณด้วยอะไร
ถาม และ อ่าน
23. อะไรคือตัวกระตุ้นที่ทำให้คุณทำงานให้ดีที่สุดได้
บอกกับตัวเองเสมอว่า เราโง่ เราต้องทำทุกอย่างให้รอบคอบ ตรวจทานซ้ำๆ แต่ทำทุกอย่างให้เร็วกว่าคนอื่น 2 เท่า เพื่อจะได้ตรวจได้อีก
24. คุณจะรู้สึกว่าคุณประสบความสำเร็จในงานนี้เมื่อใด
เมื่อเพื่อนร่วมงานหันมาบอกว่า "งานดี"
25. คุณจะให้ความสนใจต่อประโยชน์ขององค์กรมากกว่าของส่วนตนหรือไม่
ไม่ ทำงานที่ดีที่สุด เพื่อแลกเงิน คือความจริง
26. คุณสมบัติใดบ้างที่คุณมองหาในเจ้านายของคุณ
ใจกว้าง เด็ดขาด แยกเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
27. คุณคิดภาพตัวคุณในอีกห้าปีว่าอย่างไร
งานทั้งหมด จะง่ายกว่าแรกๆ เพราะ ชำนาญ
28. คุณเรียนรู้อะไรจากการผิดพลาดครั้งเก่าๆบ้าง
คิดให้เยอะ ตรวจทานให้มาก และ ใจเย็นอย่ารีบ
29. ถ้าคุณกำลังจ้างคนมาเพื่อตำแหน่งนี้ คุณจะมองหาอะไรในตัวเค้าบ้าง
งานใครๆก็ทำได้ แต่ความมุ่งมั่น มีแค่ไหน
30. อะไรคือความคาดหวังของคุณกับที่นี่?
เหมือนอยู่กับครอบครัว
31. มีคำถามอะไรจะถามดั๊นมั้ยฮะ
ที่นี่จะว่าอะไรไหม ถ้าผมจะขอไม่นั่งโต๊ะเฉยๆ แต่ขอลุยทำงานทุกส่วนเท่าที่จะทำได้เพื่อช่วยคนอื่น
32. ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณจะประสบความสำเร็จในงานนี้
ยังบอกไม่ได้ จนกว่า เพื่อนร่วมงานจะยอมรับ
33. คุณคิดยังไงกับที่ทำงานเก่าบ้าง?
ข้อดีมีมาก แต่ข้อเสีย ทำให้เรา เข้ากันไม่ได้
34. คุณรับมือกับคำวิจารณ์อย่างไร
ยิ้ม นิ่ง ช่างมัน ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ แต่ถ้ามันมีผลกระทบมากๆ ก็แก้ต่าง ถ้างี่เง่ามากๆ ก็นัดไปซัดกันนอกบริษัท
35. คุณมีกิจกรรมหรือความสนใจนอกเหนือจากงานมั้ย?
แต่งมอไซค์ใหญ่ ชกมวย เล่นหุ้น ตีกอล์ฟ ทำอาหาร วาดรูป และ เมา


จริงๆ โดนคำถามเยอกว่านี้นะ
ความคิดเห็นที่ 16
ออกแนวตามตำราไปนะครับผม แล้วเหมือนบางข้อจะดูขัดกันเอง อย่างเช่นข้อ 3 กับ 33
ทางนั้นอาจจะถามกลับมาได้ว่า "มาหาสิ่งที่ดีกว่า แล้วที่เก่าไม่ดีเหรอ"
แล้วดูจากทุกข้อ ไม่มีข้อไหนแนะนำในการตอบเรื่อง "เงินเดือน" เลย
มีแต่ให้เลี่ยงการพูดถึงด้วย ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก ๆ

พวกนี้ผมเคยโดนครับ เลยขออนุญาตแชร์เลยละกัน เริ่มจากข้อแรก "ทำไมถึงเปลี่ยนงาน"
(ผมย้ายงานจากสายเครื่องใช้ไฟฟ้า มาเป็นสายรถยนต์ครับ ผมสัมภาษณ์อังกฤษครับ แต่จะลงภาษาไทยประกอบ)

"มันเริ่มต้นจากตัวงานครับ เนื่องด้วยที่เก่าผม ในสายงานนี้เส้นทางการทำงานต่าง ๆ จะเป็นแบบเส้นตรง
ประมาณว่า ถ้าเป็นงานรูปแบบนี้ ก็ให้ทำตามสเต็ป 1-2-3-4 ได้เลย ซึ่งในแง่ดีคือมันไม่มีความซับซ้อนมาก
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเปรียบเทียบว่ามันเป็นถนน...ถนนที่เป็นเส้นตรง ๆ มันก็จะทำให้คุณถึงจุดหมายในเวลาอันสั้น
เมื่อย้อนกลับมาในเรื่องงาน ผมสามารถบอกได้ว่า...ผมถึงจุดหมายสำหรับที่เก่าแล้ว
และเมื่อมามองในสายงานรถยนต์ ผมก็ได้เห็นถนน...ถนนเส้นใหม่ ที่คดเคี้ยวมากขึ้นและมีทางแยกหลากหลายมากขึ้น"

(ภาษาอังกฤษ)

"According to electronic appliance routine, it's kind of straight forward which can be described by orderly numberic steps.
Its advantage is comprehensible. However, similar to a road, it is the road with one lane; and what happens
to that road is that you can reach the destination earlier. Unlike the automotive job,
it has more roads, means more challenges. That is why I'm here and talking with you all right now"
ความคิดเห็นที่ 9
เราเคยโดนถามจุดอ่อน เราตอบว่า เราไม่มีจุดอ่อนที่ชัดเจน มีทุกอย่าง อย่างละนิดละหน่อย เหมือนคนอื่นๆ ทั่วไป เช่น เครียดกะงานบ้าง บางทีทำงานจนลืมคนข้างหลังบ้าง มีอารมณร้อนบ้างแต่ตอนนี้มีลูกอดทนขึ้นมาเยอะ หัวหน้าเก่าก็ไม่เคยบอก ว่ามีอะไรที่เสียเด่นๆ

ก็ได้งานน่ะค่ะ แหะๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่