สามก๊กฉบับอ่านซ้ำ
ลูกเลี้ยงหลายพ่อ
เล่าเซี่ยงชุน
เมื่อ พระเจ้าเลนเต้ สิ้นพระชนม๎ และขุนนางได้ยก หองจูเปียน พระราชบุตรองค์ใหญ่อายุประมาณสิบสี่ปี สืบราชสมบัติเป็น พระเจ้าเซ่าเต้ นั้น พวกขันทีไม่เห็นด้วย จึงเกิดการจลาจลขึ้นในเมืองลกเอี๋ยงราชธานี ตั๋งโต๊ะ เจ้าเมืองซีหลงก็ยกทัพยี่สิบหมื่น เข้ามาช่วยปราบจลาจลด้วย แต่ โฮจิ๋น ผู้สำเร็จราชการ ได้เสียชีวิตไปในการจลาจลครั้งนั้นแล้ว ตั๋งโต๊ะจึงตั้งทัพอยู่นอกเมือง แต่ตนเองได้เข้าไปยึดอำนาจการปกครอง ตั้งตนเป็นผู้รักษาพระนคร และเกลี้ยกล่อมนายทหารที่เคยเป็นพวกของโฮจิ๋นมาอยู่ในอำนาจเสียทั้งสิ้น พวกขุนนางฝ่ายบุ๋นก็ได้แต่ทำตา ปริบ ๆ ไม่มีทางขัดขวางได้
ต่อมาไม่นานตั๋งโต๊ะคิดจะถอดหองจูเปียนออกจากตำแหน่งฮ่องเต้ แล้วยก หองจูเ

ยบ ราชบุตรต่างมารดาขึ้นเป็นแทน ครั้นนำเข้าไปปรึกษาในที่ประชุมขุนนาง ส่วนใหญ่ต่างก็นิ่งเฉยอยู่ มีแต่ เต๊งหงวน เจ้าเมืองเต๊งจิ๋ว คนเดียวที่ยืนขึ้น แล้วร้องว่าตั๋งโต๊ะเป็นเจ้าเมืองบ้านนอก ทำองอาจเปลี่ยนฮ่องเต้ จะคิดขบถหรือ
ตั๋งโต๊ะก็โกรธถอดกระบี่ออกจะฆ่าเต๊งหงวน แต่เจ้าเมืองเต๊งจิ๋วก็มิได้หวั่นไหว ทางเบื้องหลังทหารเอกรูปงามร่างสูงใหญ่ ก็ถือทวนระวังอยู่อย่างไม่ครั่นคร้าม ลิยู ซึ่งเป็นกุนซือของ ตั๋งโต๊ะ เห็นท่าจะไม่ดี จึงห้ามตั๋งโต๊ะไว้ แล้วก็แยกกันไป
วันรุ่งขึ้นทั้งสองฝ่ายก็ยกทหารเข้ารบกัน ตั๋งโต๊ะก็ต้องแตกพ่ายถอยหนีไปประมาณห้าสิบลี้ ด้วยฝีมือของทหารเอกผู้นั้นเอง ตั๋งโต๊ะจึงถามคนสนิทว่านายทหารผู้นั้นเป็นใคร ลิซก นายทหารของตั๋งโต๊ะก็บอกว่าชื่อ ลิโป้ เป็นลูกเลี้ยงของเต๊งหงวน แต่เคยเป็นเพื่อนกันมาแต่เด็ก รู้ว่ามีฝีมือเข้มแข็งแต่สติปัญญาน้อย เป็นคนโลภเห็นแก่ลาภไม่ว่าจะได้มาทางใด จึงอาสาจะไปเกลี้ยกล่อมให้มาเป็นพวก
ตั๋งโต๊ะจึงให้นำแก้วแหวนเงินทอง และม้าฝีเท้าดีชื่อเซ็กเธาว์ ไปให้เป็นของกำนัล และชักชวนให้มาอยู่กับตั๋งโต๊ะ ลิโป้ก็ฆ่าเต๊งหงวนเสีย แล้วฝากตัวเป็นลูกเลี้ยงของตั๋งโต๊ะแทน
จากนั้นตั๋งโต๊ะก็ดำเนินการตามแผน คือถอดหองจูเปียนออกจากบัลลังก์ แล้วก็ตั้งให้ หองจูเ

ยบขึ้นครองราชย์ ถวายพระนามว่า พระเจ้าเหี้ยนเต้ แล้วตั้งตนเองเป็นมหาอุปราช สำเร็จราชการแทนพระองค์ ปกครองบ้านเมืองด้วยความโหดเหี้ยม หยาบช้าจนมีแต่คนเกลียดชัง ทั้งบ้านทั้งเมือง
ต่อมา อ้องอุ้น ซึ่งเป็นขุนนางผู้ใหญ่ได้ใช้กลอุบาย ให้ นางเตียวเสียน ลูกเลี้ยงอายุสิบหกปี ทำเสน่ห์ให้ลิโป้หลงรัก แต่กลับส่งตัวนางเตียวเสียนให้ตั๋งโต๊ะ ทำให้สองคนขัดใจกัน และลิโป้ก็สาบานว่าจะร่วมมือกับอ้องอุ้นกำจัดตั๋งโต๊ะให้ได้
แล้วลิโป้ก็ให้ไปตาม ลิซก คนสนิทของตั๋งโต๊ะมา และบอกแกมข่มขู่ว่า
"....เมื่อครั้งเราอยู่กับเต๊งหงวนนั้น ท่านได้เกลี้ยกล่อมให้เราฆ่าเต๊งหงวนเสีย ชัก ชวนให้เรามาอยู่กับตั๋งโต๊ะ บัดนี้เราเห็นตั๋งโต๊ะทำการหยาบช้าต่อแผ่นดิน แลเราทั้งปวงคิดอ่านจะกำจัดตั๋งโต๊ะเสีย เราจะให้ท่านถือรับสั่งออกไปหาตัวตั๋งโต๊ะเข้ามา แล้วเราจะฆ่าเสีย ท่านจะยอมไปหรือไม่ไป....."
ลิซกก็ตอบว่าทุกวันนี้ก็คิดจะฆ่าตั๋งโต๊ะอยู่ แต่ยังหาผู้ช่วยดำริการไม่ได้ ว่าแล้วก็เอาลูกเกาทัณฑ์มาหักเป็นสองท่อน แล้วจึงสาบานตัวว่า
"......ถ้าเนื้อความนี้เรามิได้ทำตาม แลกลับเอาไปแพร่งพรายให้ตั๋งโต๊ะรู้ ขอให้ตัวเราขาดออกเป็นสองท่อนด้วยอาวุธต่าง ๆ เหมือนเราหักลูกเกาทัณฑ์นี้เถิด....."
แล้วลิซกก็ถือหนังสือรับสั่งปลอม ไปให้ตั๋งโต๊ะถึงเมืองใหม่อันเป็นที่พักนอกเมือง ตั๋งโต๊ะหลงเชื่อว่าจะได้รับราชสมบัติ ก็ลามารดาและภรรยาเดินทางมาเมืองหลวงทันที
แต่เมื่อตั๋งโต๊ะนั่งรถออกจากเมืองไปได้ประมาณสามร้อยเส้น เพลารถก็หักต้องเปลี่ยนเป็นขี่ม้า ไปได้อีกประมาณร้อยเส้น ม้านั้นก็พยศเอาถึงบังเ

ยนขาด เมื่อมาถึงเมืองหลวงในเวลาค่ำ ก็มีขุนนางน้อยใหญ่ออกมาตั้งแถวต้อนรับมากมาย ขาดแต่ลิยูที่ปรึกษาซึ่งป่วยอยู่ ตั๋งโต๊ะก็เข้าไปพักในจวนของตน
พอรุ่งเช้าตั๋งโต๊ะก็นั่งรถ มีทหารแห่แหนเข้าไปถึงประตูวัง ลิซกก็ขอให้ตั๋งโต๊ะพักทหารไว้แต่ภายนอก แล้วนำรถนั่งของตั๋งโต๊ะเข้าไปถึงที่เสด็จออกขุนนาง จึงแลเห็นว่าขุนนางถือกระบี่ครบมือทุกคน ตั๋งโต๊ะก็ตกใจแต่ยังไม่ทันทำประการใด อ้องอุ้นก็ร้องประกาศขึ้นว่า ศัตรูราชสมบัติมาถึงแล้ว ทหารซึ่งซุ่มอยู่โดยรอบก็กรูกันออกมาเอาทวนแทง ตั๋งโต๊ะก็หลบลงไปแอบอยู่ในรถ แล้วร้องเรียกให้ลิโป้ช่วย
ลิโป้ก็ออกมาจากแถวขุนนางร้องว่า
".....ตัวเป็นศัตรูราชสมบัติเป็นไฉนร้องให้กูช่วย....."
แล้วก็เอาทวนแทงตั๋งโต๊ะที่คอตกรถตาย ลิซกก็ตัดศรีษะตั๋งโต๊ะ แล้วร้องประกาศว่า ทีนี้ศัตรูราชสมบัติตายแล้วแผ่นดินจะเป็นสุข ขุนนางทั้งปวงก็มีความยินดีนัก ลิโป้จึงสั่งให้ลิซกไปจับตัวลิยูกับบุตรภรรยา และญาติพี่น้องมาทั้งสิ้น อ้องอุ้นก็สั่งให้เอาไปประหารเสียทั้งหมด
ลิโป้จึงได้นางเตียวเสียนมาเป็นภรรยารอง สมปรารถนา แต่ก็มีความสุขอยู่ได้ไม่นาน ลิฉุย กับ กุยกี ลิ่วล้อคนสนิทของตั๋งโต๊ะ ก็ยกกองทัพมาแก้แค้นแทนนายเก่า ฆ่าอ้องอุ้นตาย และตีกองทหารของลิโป้แตกกระเจิง ต้องหนีออกจากเมืองหลวงไปหา อ้วนสุด ที่เมืองลำหยง
แต่อ้วนสุดไม่ยอมรับไว้ ก็เลยเข้าไปอยู่กับ อ้วนเสี้ยว ที่เมืองกิจิ๋ว อยู่มาไม่นานก็มีเรื่องกับนายทหารคนสนิทของอ้วนเสี้ยว เกือบถูกฆ่าตายจึงหนีไปอยู่กับ เตียวเอี๋ยน เจ้าเมืองเซียงต๋ง ขณะนั้น บังสี พรรคพวกของลิโป้ที่อยู่ในเมืองเตียงฮัน ก็ลอบส่งครอบครัวของลิโป้ รวมทั้งนางเตียวเสียน ไปให้ลิโป้ที่เมืองเซียงต๋ง ลิฉุยรู้เรื่องจึงจับบังสีฆ่าเสีย ลิโป้เห็นท่าไม่ดี จึงพาครอบครัวอพยพไปอาศัยอยู่ที่เมืองตันลิว เตียวเมา เจ้าเมืองรู้ฝีมือ ก็รับไว้เป็นทหารเอก เลิกเป็นอัศวิน
พเนจรเสียที
ขณะนั้น โจโฉ เที่ยวปราบปรามพวกโจรโพกผ้าเหลือง ทางด้านตะวันออกได้อย่างราบคาบ จึงมีกำลังทหารเพิ่มขึ้นถึงยี่สิบหมื่น ตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่ที่เมืองกุนจิ๋ว และพระเจ้าเหี้ยนเต้ก็มีรับสั่งแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการภาคตะวันออกทั้งหมด จึงมีผู้เข้ามาสามิภักดิ์มากมาย แต่มีเรื่องผิดใจกับ โตเกี๋ยม เจ้าเมืองชีจิ๋ว เนื่องจาก โจโก๋ บิดาของโจโฉได้อพยพครอบครัวประมาณสองร้อยเศษ จากเมืองตันลิวจะไปอยู่เมืองกุนจิ๋วกับโจโฉ แต่ถูกพวกโจรซึ่งเป็นนายทหารของโตเกี๋ยม ฆ่าตายหมดทั้งครอบครัว แล้วชิงเอาทรัพย์สินหลบหนีไป โจโฉโกรธว่าโตเกี๋ยมรู้เห็นเป็นใจด้วย จึงยกกองทัพมาหมายจะเข้าเหยียบเมืองชีจิ๋วให้ราบเป็นหน้ากลอง และจะฆ่าชาวเมืองหมดทั้งชายหญิงเด็กและคนแก่ไม่ให้เหลือ
เตียวเมาเจ้าเมืองตันลิว เกรงภัยจะมาถึงเมืองของตน จึงจัดทหารให้ลิโป้ยกกองทัพไปตีเมืองกุนจิ๋วของโจโฉ โดยให้ ตันก๋ง เป็นที่ปรึกษาไปในกองทัพ ซึ่งลิโป้ก็สามารถตีเมืองกุนจิ๋วได้โดยง่าย แล้วก็เลยไปตีหัวเมืองใกล้เคียง จนถึงเมืองปักเอี้ยง ยังเหลืออีกสามเมืองที่รักษาตัวไว้ได้ โจหยิน ญาติของโจโฉแตกพ่ายจากเมืองกุนจิ๋ว จึงให้ม้าใช้ไปแจ้งเรื่องแก่โจโฉ พอรู้เรื่องโจโฉก็ตกใจ จำต้องถอยทัพจากเมืองชีจิ๋ว โตเกี๋ยมและไพร่บ้านพลเมืองทั้งหลาย จึงรอดชีวิตจากความอาฆาตของโจโฉไปได้
ลิโป้ครอบครองเมืองกุนจิ๋วของโจโฉอยู่ได้ไม่นานก็ได้ข่าวว่าโจโฉยกทัพกลับจากเมืองชีจิ๋ว มาตั้งอยู่ที่เมืองต๊งกวน เตรียมเข้าตีเอาเมืองกุนจิ๋วคืน ลิโป้จึงให้ ลิฮอง กับ ซิหลัน คุมทหารหมื่นหนึ่งอยู่รักษาเมืองกุนจิ๋ว ตนเองจะยกทหารไปตั้งรับที่เมืองปักเอี้ยง เพื่อต่อสู้กับโจโฉ แม้ ตันก๋งที่ปรึกษาจะออกความเห็นอย่างไรก็ไม่ยอมฟัง
ฝ่ายโจโฉจึงให้ โจหยิน ขุนพลที่เป็นญาติ คุมทหารเป็นอันมากไปล้อมเมืองกุนจิ๋วไว้ ส่วนตนเองคุมทหารผ่านเขาไทสัน มุ่งหน้าไปรบกับลิโป้ที่เมืองปักเอี้ยง
ตันก๋งก็อุตส่าห์แนะนำลิโป้ว่า
".....โจโฉรีบยกมาด้วยกำลังโกรธ เห็นทหารทั้งปวงจะอิดโรย ขอท่านเร่งยกทหารออกรบ เห็นจะมีชัยชนะแก่โจโฉเป็นมั่นคง ถ้าละไว้ช้าทหารจะมีกำลังขึ้น จะเอาชัยชนะยาก....."
แต่ลิโป้กลับตอบอย่างทรนงว่า
".....เดิมเราตั้งตัวมาก็แต่ตัวผู้เดียวกับม้า คิดทำการเที่ยวรบพุ่งมาจนได้ทหารมากขึ้นถึงเพียงนี้แล้ว เราจะคิดย่อท้อโจโฉนั้นหามิได้ ให้โจโฉตั้งค่ายมั่นลงแล้ว เราจะหักเอาให้ได้....."
พอโจโฉตั้งค่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ยกทหารออกมาประจันหน้ากับลิโป้ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยนายทหารเอก ทั้งซ้ายขวาถึงแปดนาย โจโฉก็เอาแซ่ม้าชี้หน้าแล้วว่า
".....ตัวกับเราจะได้มีความผิดกันสิ่งใดหามิได้ เป็นไฉนตัวจึงยกทหารมาตีเอาเมืองของเรา....."
ลิโป้ก็ตอบไปน้ำขุ่น ๆ ว่า
"...เมืองเหล่านี้เป็นของพระเจ้าเหี้ยนเต้ ก็เหมือนหนึ่งเป็นของคนทั้งปวงซึ่งอยู่ในแผ่นดิน ถ้าผู้ใดมีบุญแลเข้มแข็ง ก็จะครอบครองเมืองได้เหมือนกัน เหตุใดท่านจึงว่าบ้านเมืองทั้งนี้เป็นของท่าน หามีความละอายไม่.."
ว่าแล้วก็ให้ จงป้า ทหารเอกออกไปรบกับ งักจิ้น ทหารเอกของโจโฉ พอรบกันไปได้สามสิบเพลง แฮหัวตุ้น ก็เข้ามาช่วยงักจิ้น เตียวเลี้ยว จึงออกไปช่วยจงป้าบ้าง เลยเป็นสองคู่ล่อกันอยู่นานไม่รู้แพ้รู้ชนะ ลิโป้รำคาญจึงออกไปแสดงฝีมือเอง พักเดียวแฮหัวตุ้นกับงักจิ้นก็ทานไม่ไหว ต้องขับม้าหนี ลิโป้ก็พาทหารไล่ฆ่าฟันทหารโจโฉ แตกพ่ายกลับเข้าค่ายไป
ลิโป้ได้ชัยชนะแล้วก็ชักจะมีความประมาท จัดแจงเลี้ยงดูทหารเป็นการเอิกเกริกตันก๋งก็ มาเตือนว่าให้ระวังโจโฉ จะกลับมาแก้มือตอนกลางคืน ลิโป้จึงให้ทหารเอกสามนายคือ โกซุ่น ซุยฮก และ โฮเสง ไปรักษาค่ายฝ่ายตะวันตกไว้ให้มั่นคง แต่พอคุมทหารไปถึงเวลาสามยาม ปรากฏว่าโจโฉยึดค่ายทางทิศใต้ไว้แล้ว ทั้งสามนายจึงเข้าตีชิงค่ายคืน
ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันอยู่จนถึงรุ่งเช้า ลิโป้รู้ข่าวก็คุมทหารรีบมาช่วย โจโฉก็ตกใจรีบพาทหารจะหนีกลับไป ก็เจอลิโป้เข้ากลางทาง โจโฉก็บ่ายหน้าไปทางเหนือ ตัวลิโป้ก็คุมทหารไล่ฆ่าฟันทหารโจโฉล้มตายเป็นอันมาก ทหารของลิโป้จากค่ายทิศใต้ก็ตามรุมรบกระหนาบเป็นสองด้าน โจโฉก็พาทหารหนีวกลงไปทางใต้ ก็เจอกองทหารของลิโป้ดักอยู่อีก คราวนี้เห็นทีจะแหลกแน่ โจโฉจึงพาทหารเพียงห้าคนรบฝ่าหนีออกไปจนถึงเนินเขาแห่งหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงประทัดและมีเกาทัณฑ์ยิงลงมาดังห่าฝน โจโฉก็ชักม้ากลับและร้องเรียกให้ทหารช่วยด้วย
ในจำนวนที่ตามมานั้นคนหนึ่งชื่อ เตียนอุย รูปร่างใหญ่โต ถือทวนสองเล่ม ฝีมือเข้มแข็งกล้าหาญ ก็ลงจากหลังม้าเอาทวนเหน็บรักแร้ แล้วถือหอกซัดไว้ประมาณสิบห้าเล่ม เดินนำหน้าม้าของโจโฉไป โดยสั่งให้พวกที่ตามหลังคอยดูว่า จะมีผู้ใดตามมาใกล้ถึงห้าวาก็ให้ร้องบอกด้วย ขณะนั้นมีทหารของลิโป้ขี่ม้าตามมาประมาณยี่สิบคน พอคนไหนล้ำเข้ามาใกล้ทหารข้างหลังก็ร้องบอก เตียนอุยก็หันกลับไปซัดเสียด้วยหอกสั้น เล่มละคนจนหมดมือ ทหารที่ตามมาก็เลยหันกลับไปได้เพียงสี่ห้าคน เตียนอุยจึงขึ้นม้าพาโจโฉหนีรอดไปได้อีกครั้ง
ลิโป้อัศวินรูปงาม ที่มีฝีมือเข้มแข็ง แต่คนประนามว่าไม่มีสติปัญญา โลภมาก และไม่รู้จักคุณผู้มีอุปการะ จนต้องเปลี่ยนพ่อเลี้ยงมาถึงสองคนแล้วนั้น จะใช้ฝีมืออันลือลั่นนั้น ตั้งตัวได้รอดหรือไม่ ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป.
##########
ลูกเลี้ยงหลายพ่อ
ลูกเลี้ยงหลายพ่อ
เล่าเซี่ยงชุน
เมื่อ พระเจ้าเลนเต้ สิ้นพระชนม๎ และขุนนางได้ยก หองจูเปียน พระราชบุตรองค์ใหญ่อายุประมาณสิบสี่ปี สืบราชสมบัติเป็น พระเจ้าเซ่าเต้ นั้น พวกขันทีไม่เห็นด้วย จึงเกิดการจลาจลขึ้นในเมืองลกเอี๋ยงราชธานี ตั๋งโต๊ะ เจ้าเมืองซีหลงก็ยกทัพยี่สิบหมื่น เข้ามาช่วยปราบจลาจลด้วย แต่ โฮจิ๋น ผู้สำเร็จราชการ ได้เสียชีวิตไปในการจลาจลครั้งนั้นแล้ว ตั๋งโต๊ะจึงตั้งทัพอยู่นอกเมือง แต่ตนเองได้เข้าไปยึดอำนาจการปกครอง ตั้งตนเป็นผู้รักษาพระนคร และเกลี้ยกล่อมนายทหารที่เคยเป็นพวกของโฮจิ๋นมาอยู่ในอำนาจเสียทั้งสิ้น พวกขุนนางฝ่ายบุ๋นก็ได้แต่ทำตา ปริบ ๆ ไม่มีทางขัดขวางได้
ต่อมาไม่นานตั๋งโต๊ะคิดจะถอดหองจูเปียนออกจากตำแหน่งฮ่องเต้ แล้วยก หองจูเ
ตั๋งโต๊ะก็โกรธถอดกระบี่ออกจะฆ่าเต๊งหงวน แต่เจ้าเมืองเต๊งจิ๋วก็มิได้หวั่นไหว ทางเบื้องหลังทหารเอกรูปงามร่างสูงใหญ่ ก็ถือทวนระวังอยู่อย่างไม่ครั่นคร้าม ลิยู ซึ่งเป็นกุนซือของ ตั๋งโต๊ะ เห็นท่าจะไม่ดี จึงห้ามตั๋งโต๊ะไว้ แล้วก็แยกกันไป
วันรุ่งขึ้นทั้งสองฝ่ายก็ยกทหารเข้ารบกัน ตั๋งโต๊ะก็ต้องแตกพ่ายถอยหนีไปประมาณห้าสิบลี้ ด้วยฝีมือของทหารเอกผู้นั้นเอง ตั๋งโต๊ะจึงถามคนสนิทว่านายทหารผู้นั้นเป็นใคร ลิซก นายทหารของตั๋งโต๊ะก็บอกว่าชื่อ ลิโป้ เป็นลูกเลี้ยงของเต๊งหงวน แต่เคยเป็นเพื่อนกันมาแต่เด็ก รู้ว่ามีฝีมือเข้มแข็งแต่สติปัญญาน้อย เป็นคนโลภเห็นแก่ลาภไม่ว่าจะได้มาทางใด จึงอาสาจะไปเกลี้ยกล่อมให้มาเป็นพวก
ตั๋งโต๊ะจึงให้นำแก้วแหวนเงินทอง และม้าฝีเท้าดีชื่อเซ็กเธาว์ ไปให้เป็นของกำนัล และชักชวนให้มาอยู่กับตั๋งโต๊ะ ลิโป้ก็ฆ่าเต๊งหงวนเสีย แล้วฝากตัวเป็นลูกเลี้ยงของตั๋งโต๊ะแทน
จากนั้นตั๋งโต๊ะก็ดำเนินการตามแผน คือถอดหองจูเปียนออกจากบัลลังก์ แล้วก็ตั้งให้ หองจูเ
ต่อมา อ้องอุ้น ซึ่งเป็นขุนนางผู้ใหญ่ได้ใช้กลอุบาย ให้ นางเตียวเสียน ลูกเลี้ยงอายุสิบหกปี ทำเสน่ห์ให้ลิโป้หลงรัก แต่กลับส่งตัวนางเตียวเสียนให้ตั๋งโต๊ะ ทำให้สองคนขัดใจกัน และลิโป้ก็สาบานว่าจะร่วมมือกับอ้องอุ้นกำจัดตั๋งโต๊ะให้ได้
แล้วลิโป้ก็ให้ไปตาม ลิซก คนสนิทของตั๋งโต๊ะมา และบอกแกมข่มขู่ว่า
"....เมื่อครั้งเราอยู่กับเต๊งหงวนนั้น ท่านได้เกลี้ยกล่อมให้เราฆ่าเต๊งหงวนเสีย ชัก ชวนให้เรามาอยู่กับตั๋งโต๊ะ บัดนี้เราเห็นตั๋งโต๊ะทำการหยาบช้าต่อแผ่นดิน แลเราทั้งปวงคิดอ่านจะกำจัดตั๋งโต๊ะเสีย เราจะให้ท่านถือรับสั่งออกไปหาตัวตั๋งโต๊ะเข้ามา แล้วเราจะฆ่าเสีย ท่านจะยอมไปหรือไม่ไป....."
ลิซกก็ตอบว่าทุกวันนี้ก็คิดจะฆ่าตั๋งโต๊ะอยู่ แต่ยังหาผู้ช่วยดำริการไม่ได้ ว่าแล้วก็เอาลูกเกาทัณฑ์มาหักเป็นสองท่อน แล้วจึงสาบานตัวว่า
"......ถ้าเนื้อความนี้เรามิได้ทำตาม แลกลับเอาไปแพร่งพรายให้ตั๋งโต๊ะรู้ ขอให้ตัวเราขาดออกเป็นสองท่อนด้วยอาวุธต่าง ๆ เหมือนเราหักลูกเกาทัณฑ์นี้เถิด....."
แล้วลิซกก็ถือหนังสือรับสั่งปลอม ไปให้ตั๋งโต๊ะถึงเมืองใหม่อันเป็นที่พักนอกเมือง ตั๋งโต๊ะหลงเชื่อว่าจะได้รับราชสมบัติ ก็ลามารดาและภรรยาเดินทางมาเมืองหลวงทันที
แต่เมื่อตั๋งโต๊ะนั่งรถออกจากเมืองไปได้ประมาณสามร้อยเส้น เพลารถก็หักต้องเปลี่ยนเป็นขี่ม้า ไปได้อีกประมาณร้อยเส้น ม้านั้นก็พยศเอาถึงบังเ
พอรุ่งเช้าตั๋งโต๊ะก็นั่งรถ มีทหารแห่แหนเข้าไปถึงประตูวัง ลิซกก็ขอให้ตั๋งโต๊ะพักทหารไว้แต่ภายนอก แล้วนำรถนั่งของตั๋งโต๊ะเข้าไปถึงที่เสด็จออกขุนนาง จึงแลเห็นว่าขุนนางถือกระบี่ครบมือทุกคน ตั๋งโต๊ะก็ตกใจแต่ยังไม่ทันทำประการใด อ้องอุ้นก็ร้องประกาศขึ้นว่า ศัตรูราชสมบัติมาถึงแล้ว ทหารซึ่งซุ่มอยู่โดยรอบก็กรูกันออกมาเอาทวนแทง ตั๋งโต๊ะก็หลบลงไปแอบอยู่ในรถ แล้วร้องเรียกให้ลิโป้ช่วย
ลิโป้ก็ออกมาจากแถวขุนนางร้องว่า
".....ตัวเป็นศัตรูราชสมบัติเป็นไฉนร้องให้กูช่วย....."
แล้วก็เอาทวนแทงตั๋งโต๊ะที่คอตกรถตาย ลิซกก็ตัดศรีษะตั๋งโต๊ะ แล้วร้องประกาศว่า ทีนี้ศัตรูราชสมบัติตายแล้วแผ่นดินจะเป็นสุข ขุนนางทั้งปวงก็มีความยินดีนัก ลิโป้จึงสั่งให้ลิซกไปจับตัวลิยูกับบุตรภรรยา และญาติพี่น้องมาทั้งสิ้น อ้องอุ้นก็สั่งให้เอาไปประหารเสียทั้งหมด
ลิโป้จึงได้นางเตียวเสียนมาเป็นภรรยารอง สมปรารถนา แต่ก็มีความสุขอยู่ได้ไม่นาน ลิฉุย กับ กุยกี ลิ่วล้อคนสนิทของตั๋งโต๊ะ ก็ยกกองทัพมาแก้แค้นแทนนายเก่า ฆ่าอ้องอุ้นตาย และตีกองทหารของลิโป้แตกกระเจิง ต้องหนีออกจากเมืองหลวงไปหา อ้วนสุด ที่เมืองลำหยง
แต่อ้วนสุดไม่ยอมรับไว้ ก็เลยเข้าไปอยู่กับ อ้วนเสี้ยว ที่เมืองกิจิ๋ว อยู่มาไม่นานก็มีเรื่องกับนายทหารคนสนิทของอ้วนเสี้ยว เกือบถูกฆ่าตายจึงหนีไปอยู่กับ เตียวเอี๋ยน เจ้าเมืองเซียงต๋ง ขณะนั้น บังสี พรรคพวกของลิโป้ที่อยู่ในเมืองเตียงฮัน ก็ลอบส่งครอบครัวของลิโป้ รวมทั้งนางเตียวเสียน ไปให้ลิโป้ที่เมืองเซียงต๋ง ลิฉุยรู้เรื่องจึงจับบังสีฆ่าเสีย ลิโป้เห็นท่าไม่ดี จึงพาครอบครัวอพยพไปอาศัยอยู่ที่เมืองตันลิว เตียวเมา เจ้าเมืองรู้ฝีมือ ก็รับไว้เป็นทหารเอก เลิกเป็นอัศวิน
พเนจรเสียที
ขณะนั้น โจโฉ เที่ยวปราบปรามพวกโจรโพกผ้าเหลือง ทางด้านตะวันออกได้อย่างราบคาบ จึงมีกำลังทหารเพิ่มขึ้นถึงยี่สิบหมื่น ตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่ที่เมืองกุนจิ๋ว และพระเจ้าเหี้ยนเต้ก็มีรับสั่งแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการภาคตะวันออกทั้งหมด จึงมีผู้เข้ามาสามิภักดิ์มากมาย แต่มีเรื่องผิดใจกับ โตเกี๋ยม เจ้าเมืองชีจิ๋ว เนื่องจาก โจโก๋ บิดาของโจโฉได้อพยพครอบครัวประมาณสองร้อยเศษ จากเมืองตันลิวจะไปอยู่เมืองกุนจิ๋วกับโจโฉ แต่ถูกพวกโจรซึ่งเป็นนายทหารของโตเกี๋ยม ฆ่าตายหมดทั้งครอบครัว แล้วชิงเอาทรัพย์สินหลบหนีไป โจโฉโกรธว่าโตเกี๋ยมรู้เห็นเป็นใจด้วย จึงยกกองทัพมาหมายจะเข้าเหยียบเมืองชีจิ๋วให้ราบเป็นหน้ากลอง และจะฆ่าชาวเมืองหมดทั้งชายหญิงเด็กและคนแก่ไม่ให้เหลือ
เตียวเมาเจ้าเมืองตันลิว เกรงภัยจะมาถึงเมืองของตน จึงจัดทหารให้ลิโป้ยกกองทัพไปตีเมืองกุนจิ๋วของโจโฉ โดยให้ ตันก๋ง เป็นที่ปรึกษาไปในกองทัพ ซึ่งลิโป้ก็สามารถตีเมืองกุนจิ๋วได้โดยง่าย แล้วก็เลยไปตีหัวเมืองใกล้เคียง จนถึงเมืองปักเอี้ยง ยังเหลืออีกสามเมืองที่รักษาตัวไว้ได้ โจหยิน ญาติของโจโฉแตกพ่ายจากเมืองกุนจิ๋ว จึงให้ม้าใช้ไปแจ้งเรื่องแก่โจโฉ พอรู้เรื่องโจโฉก็ตกใจ จำต้องถอยทัพจากเมืองชีจิ๋ว โตเกี๋ยมและไพร่บ้านพลเมืองทั้งหลาย จึงรอดชีวิตจากความอาฆาตของโจโฉไปได้
ลิโป้ครอบครองเมืองกุนจิ๋วของโจโฉอยู่ได้ไม่นานก็ได้ข่าวว่าโจโฉยกทัพกลับจากเมืองชีจิ๋ว มาตั้งอยู่ที่เมืองต๊งกวน เตรียมเข้าตีเอาเมืองกุนจิ๋วคืน ลิโป้จึงให้ ลิฮอง กับ ซิหลัน คุมทหารหมื่นหนึ่งอยู่รักษาเมืองกุนจิ๋ว ตนเองจะยกทหารไปตั้งรับที่เมืองปักเอี้ยง เพื่อต่อสู้กับโจโฉ แม้ ตันก๋งที่ปรึกษาจะออกความเห็นอย่างไรก็ไม่ยอมฟัง
ฝ่ายโจโฉจึงให้ โจหยิน ขุนพลที่เป็นญาติ คุมทหารเป็นอันมากไปล้อมเมืองกุนจิ๋วไว้ ส่วนตนเองคุมทหารผ่านเขาไทสัน มุ่งหน้าไปรบกับลิโป้ที่เมืองปักเอี้ยง
ตันก๋งก็อุตส่าห์แนะนำลิโป้ว่า
".....โจโฉรีบยกมาด้วยกำลังโกรธ เห็นทหารทั้งปวงจะอิดโรย ขอท่านเร่งยกทหารออกรบ เห็นจะมีชัยชนะแก่โจโฉเป็นมั่นคง ถ้าละไว้ช้าทหารจะมีกำลังขึ้น จะเอาชัยชนะยาก....."
แต่ลิโป้กลับตอบอย่างทรนงว่า
".....เดิมเราตั้งตัวมาก็แต่ตัวผู้เดียวกับม้า คิดทำการเที่ยวรบพุ่งมาจนได้ทหารมากขึ้นถึงเพียงนี้แล้ว เราจะคิดย่อท้อโจโฉนั้นหามิได้ ให้โจโฉตั้งค่ายมั่นลงแล้ว เราจะหักเอาให้ได้....."
พอโจโฉตั้งค่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ยกทหารออกมาประจันหน้ากับลิโป้ ซึ่งแวดล้อมไปด้วยนายทหารเอก ทั้งซ้ายขวาถึงแปดนาย โจโฉก็เอาแซ่ม้าชี้หน้าแล้วว่า
".....ตัวกับเราจะได้มีความผิดกันสิ่งใดหามิได้ เป็นไฉนตัวจึงยกทหารมาตีเอาเมืองของเรา....."
ลิโป้ก็ตอบไปน้ำขุ่น ๆ ว่า
"...เมืองเหล่านี้เป็นของพระเจ้าเหี้ยนเต้ ก็เหมือนหนึ่งเป็นของคนทั้งปวงซึ่งอยู่ในแผ่นดิน ถ้าผู้ใดมีบุญแลเข้มแข็ง ก็จะครอบครองเมืองได้เหมือนกัน เหตุใดท่านจึงว่าบ้านเมืองทั้งนี้เป็นของท่าน หามีความละอายไม่.."
ว่าแล้วก็ให้ จงป้า ทหารเอกออกไปรบกับ งักจิ้น ทหารเอกของโจโฉ พอรบกันไปได้สามสิบเพลง แฮหัวตุ้น ก็เข้ามาช่วยงักจิ้น เตียวเลี้ยว จึงออกไปช่วยจงป้าบ้าง เลยเป็นสองคู่ล่อกันอยู่นานไม่รู้แพ้รู้ชนะ ลิโป้รำคาญจึงออกไปแสดงฝีมือเอง พักเดียวแฮหัวตุ้นกับงักจิ้นก็ทานไม่ไหว ต้องขับม้าหนี ลิโป้ก็พาทหารไล่ฆ่าฟันทหารโจโฉ แตกพ่ายกลับเข้าค่ายไป
ลิโป้ได้ชัยชนะแล้วก็ชักจะมีความประมาท จัดแจงเลี้ยงดูทหารเป็นการเอิกเกริกตันก๋งก็ มาเตือนว่าให้ระวังโจโฉ จะกลับมาแก้มือตอนกลางคืน ลิโป้จึงให้ทหารเอกสามนายคือ โกซุ่น ซุยฮก และ โฮเสง ไปรักษาค่ายฝ่ายตะวันตกไว้ให้มั่นคง แต่พอคุมทหารไปถึงเวลาสามยาม ปรากฏว่าโจโฉยึดค่ายทางทิศใต้ไว้แล้ว ทั้งสามนายจึงเข้าตีชิงค่ายคืน
ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันอยู่จนถึงรุ่งเช้า ลิโป้รู้ข่าวก็คุมทหารรีบมาช่วย โจโฉก็ตกใจรีบพาทหารจะหนีกลับไป ก็เจอลิโป้เข้ากลางทาง โจโฉก็บ่ายหน้าไปทางเหนือ ตัวลิโป้ก็คุมทหารไล่ฆ่าฟันทหารโจโฉล้มตายเป็นอันมาก ทหารของลิโป้จากค่ายทิศใต้ก็ตามรุมรบกระหนาบเป็นสองด้าน โจโฉก็พาทหารหนีวกลงไปทางใต้ ก็เจอกองทหารของลิโป้ดักอยู่อีก คราวนี้เห็นทีจะแหลกแน่ โจโฉจึงพาทหารเพียงห้าคนรบฝ่าหนีออกไปจนถึงเนินเขาแห่งหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงประทัดและมีเกาทัณฑ์ยิงลงมาดังห่าฝน โจโฉก็ชักม้ากลับและร้องเรียกให้ทหารช่วยด้วย
ในจำนวนที่ตามมานั้นคนหนึ่งชื่อ เตียนอุย รูปร่างใหญ่โต ถือทวนสองเล่ม ฝีมือเข้มแข็งกล้าหาญ ก็ลงจากหลังม้าเอาทวนเหน็บรักแร้ แล้วถือหอกซัดไว้ประมาณสิบห้าเล่ม เดินนำหน้าม้าของโจโฉไป โดยสั่งให้พวกที่ตามหลังคอยดูว่า จะมีผู้ใดตามมาใกล้ถึงห้าวาก็ให้ร้องบอกด้วย ขณะนั้นมีทหารของลิโป้ขี่ม้าตามมาประมาณยี่สิบคน พอคนไหนล้ำเข้ามาใกล้ทหารข้างหลังก็ร้องบอก เตียนอุยก็หันกลับไปซัดเสียด้วยหอกสั้น เล่มละคนจนหมดมือ ทหารที่ตามมาก็เลยหันกลับไปได้เพียงสี่ห้าคน เตียนอุยจึงขึ้นม้าพาโจโฉหนีรอดไปได้อีกครั้ง
ลิโป้อัศวินรูปงาม ที่มีฝีมือเข้มแข็ง แต่คนประนามว่าไม่มีสติปัญญา โลภมาก และไม่รู้จักคุณผู้มีอุปการะ จนต้องเปลี่ยนพ่อเลี้ยงมาถึงสองคนแล้วนั้น จะใช้ฝีมืออันลือลั่นนั้น ตั้งตัวได้รอดหรือไม่ ต้องคอยติดตามดูกันต่อไป.
##########