กบฏแท้ กบฏเทียม หมัดเหล็ก ไทยรัฐออนไลน์
พรรคประชาธิปัตย์ โดยมือกฎหมาย วิรัตน์ กัลยาศิริ อ้างกรณีที่ กลุ่ม นปช.จ.เชียงใหม่ ประกาศจะแบ่งแยกประเทศ
นั้น พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าเป็นการกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่ง
อันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ ซึ่งจะมีการ ฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาและยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคเพื่อไทย
และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค ตามมาตรา 68 ถือเป็นการล้มล้างการปกครองประเทศ
ทางหนึ่ง กปปส. ที่แยกตัวออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็อยู่ในระหว่างตั้งข้อหากบฏ มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง
ประเทศ เป็นคดีพิเศษที่ ดีเอสไอ รับไว้ดำเนินการ แกนนำ กปปส. ถูกแจ้งข้อกล่าวหามีหมายเรียกหมายจับ สุดท้าย
จะโยงเข้าประชาธิปัตย์ต่อไปหรือไม่ เพราะมี แกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเวที กปปส.ด้วย
เรื่องกบฏแท้ กบฏเทียม คงเป็นศึกใหญ่ทางการเมืองต่อไป
เครื่องมือตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะองค์กรอิสระ กำลังถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ถูกกล่าวหาว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการ
ล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการกล่าวหาว่า ป.ป.ช. ที่กำลังดำเนินการชี้มูลความผิดนายกฯยิ่งลักษณ์ ประเด็น
ทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ไม่ชอบธรรม
มีการตั้งข้อสังเกตคณะกรรมการ ป.ป.ช.อาทิ วิชา มหาคุณ เกี่ยวดองกับอดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค
ประชาธิปัตย์ซึ่ง พล.อ.ณรงค์ มหาคุณ พี่ชายของ วิชา มหาคุณ ก็ยอมรับแล้วว่า เป็นเครือญาติกันจริง แต่ไม่เคยไปเกี่ยว
ข้องกับงานของน้องชาย เจอกันก็พูดแต่เรื่องส่วนตัว
ก็เผอิญมีข่าวที่แกนนำ กปปส. สุเทพ เทือกสุบรรณ ไปพูดบนเวทีว่า จะเผด็จศึกรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ภายในเดือน มี.ค.นี้
นายกฯ ยิ่งลักษณ์ไม่มีทางออกอย่างอื่น นอกจากลาออกหรือไม่ก็ติดคุก เตรียมเคลื่อนไหวใหญ่ปิดสถานที่ราชการและ
กดดันธุรกิจตระกูลชินในวันสองวันนี้ ไม่ได้พูดถึงเรื่องเงื่อนไขการเจรจา หรือข่าวเงิน ลงขัน 500 ล้านบาท เตรียมเป่า
นกหวีดต่อสู้ยกสุดท้ายอีกรอบ
เพราะฉะนั้น ข่าวคนกลาง คณะกรรมการกลางเจรจา หรือ แม้แต่การเจรจา ระหว่าง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ประธาน
ยุทธศาสตร์เพื่อไทย กับ พุทธอิสระ แกนนำ กปปส.ศูนย์ราชการ จึงค่อยๆเงียบหายเข้ากลีบเมฆ
โดยเฉพาะกรณี สมชายที่ดอดไปเจรจากับพุทธอิสระ มีข่าวว่า ทางพรรคไม่ปลื้ม จัดการงานนอกสั่ง ไปเสียเหลี่ยม
ผู้มีบารมี หลอกไปเชือดซ้ำสอง หลังจากที่ถูกหลอก ให้เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยมาแล้ว
ดังนั้น หมากเกมการเมือง ในช่วงโค้งสุดท้ายจึงไม่ใช่อยู่ที่ว่า จะเลือกตั้งได้หรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับว่า องค์กรอิสระจะ
ฟันรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พ้นหน้าที่รักษาการได้หรือไม่ จะตั้งรัฐบาลคนกลาง ได้หรือไม่ และสุดท้ายจะไปจบที่สงคราม
กลางเมืองหรือปฏิวัติรัฐประหาร เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ รู้ตัวแล้วว่าถูกหลอกมาโดยตลอด
จึงไม่ยอมเล่นบทรู้ว่าเขาหลอกแต่ก็ยอมให้หลอกอีกต่อไป.
หมัดเหล็ก
http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/407534
ขว้างงูไม่พ้นคอ แม่ลูกจันทร์ ไทยรัฐออนไลน์
เพราะจังหวะเช็กบิลไม่มีให้เช็กทุกวัน
ฉะนั้น ถ้ามีช่องโหว่ตรงไหนที่จะเช็กบิล “รัฐบาล
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ให้ตกเก้าอี้ยกเข่งได้ พรรคประชาธิปัตย์ต้องรีบดำเนินการทันที
ประเด็นใหญ่ล่าสุดที่จะเช็กบิล “ยิ่งลักษณ์” ไม่ให้เป็นหอกข้างแคร่ต่อไป คืออาศัย “ช่องโหว่รัฐธรรมนูญ”
รัฐธรรมนูญมาตรา 127 กำหนดให้เปิดประชุมสภาฯนัดแรก ภายใน 30 วัน นับจากวันเลือกตั้ง (2 กุมภาพันธ์)
บัดนี้เลยกำหนด 30 วันแล้วยังเปิดประชุมสภาฯนัดแรกไม่ได้ จึงไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าปัญหาเปิดประชุมสภาฯนัดแรกไม่ได้ภายใน 30 วัน ไม่ได้เกิดจากจำนวน ส.ส.ไม่ครบ
95 เปอร์เซ็นต์ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ
แต่เหตุที่เปิดประชุมสภาฯไม่ได้ เพราะ กกต.ไม่ยอมประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.อย่างเป็นทางการ
เมื่อยังไม่มี ส.ส.ซักคนเดียวจะเปิดประชุมสภาฯนัดแรกได้อย่างไร??
เข้าตำรา “ไก่เกิดก่อนไข่” หรือ “ไข่เกิดก่อนไก่” นั่นแหละโยม
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าข้อเท็จจริงย่อมเป็นข้อเท็จจริงแน่นอน
แต่ข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมายอาจ จะไม่ใช่เรื่องเดียวกัน
ด้วยเหตุนี้ พรรคประชาธิปัตย์จึงยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะนายกฯรักษาการของ “ยิ่งลักษณ์” ว่าต้องสิ้นสุดลงทันที
หรือ ยังมีสถานะเป็นนายกฯรักษาการต่อไป??
อนาคตของนายกฯยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยก็กลับไปอยู่ในกำมือศาลรัฐธรรมนูญเหมือนเดิม
ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.โดยตรง
การเปิดประชุมสภาฯนัดแรกไม่ได้ จึงไม่เกี่ยวข้องกับสถานะของรัฐบาลรักษาการ
ถ้าหวยล็อกออกมาแนวนี้ “ยิ่งลักษณ์” ก็รอดตัว
แต่...ถ้าศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าการเลือกตั้งเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ก็จริง แต่การเปิดประชุมสภาฯนัดแรกไม่ได้
ภายในกำหนด 30 วัน มีผลให้รัฐบาลรักษาการต้องหมดสภาพไป
ถ้าหวยล็อกออกมาแบบนี้ก็แซ่บอีหลีอย่างแรง
เพราะจะทำให้ยิ่งลักษณ์ และ ครม.รักษาการทั้งชุดตกเก้าอี้ทันที
อย่างไรก็ตาม “แม่ลูกจันทร์” มองว่าเป็นไปได้ยากส์ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ
จะอ้างความบกพร่องของ กกต.ไปเล่นงานรัฐบาล
แต่ก็ไม่แน่...ถ้าศาลรัฐธรรมนูญจะตีความแบบวิถีโค้งโยงปัญหาเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กกต.กับการเปิดประชุม
สภาไม่ได้ภายใน 30 วัน เพื่อกระทบชิ่งไปถึงสถานะรัฐบาลรักษาการอีกที
ไม่แน่...เพราะผู้ยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และให้ “ยิ่งลักษณ์” หมดสภาพนายกฯรักษาการ
คือ “นายวิรัตน์ กัลยาศิริ” หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ผู้เชี่ยวชาญสูงสุดด้าน ยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญ
เรียกว่าเป็นสุดยอดนักตีความมือหนึ่งของเมืองไทย
เก่งขนาดตีความให้ชามข้าวกลายเป็นกระโถนได้เลย
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าเรื่องนี้มีบรรดาขาประจำและขาจรยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญกันแล้วหลายราย
พรรคประชาธิปัตย์จึงไม่จำเป็นต้องย่ืนร้องซ้ำให้เปลืองตัว
เพราะถ้าพูดกันตรงๆการเลือกตั้งที่มีปัญหา และการเปิดประชุมสภาฯ ไม่ได้ภายใน 30 วัน พรรคประชาธิปัตย์
นี่แหละมีส่วนสำคัญ
เพราะถ้าพรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย การขัดขวางการเลือกตั้ง การปิดล้อมหน่วยเลือกตั้ง
ก็ไม่มี ป่านนี้ก็เปิดสภาได้ตามกติกา
นี่แหละเค้าเรียกว่าขว้างงูไม่พ้นคอ.
“แม่ลูกจันทร์”
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/407501
อ่านกันไปก่อน 2 คนนี้อวยนายกฯค่ะ เอามรวมในกระทู้เดียว
ขอลาไปเดินเล่นที่ตลาดหน่อย เดี๋ยวมา
ใครอยาก อวย หรืออยาก กระทืบ นายกฯ เชิญได้
หมัดเหล็ก vs แม่ลูกจันทร์ ..... กบฎแท้ กบฎเทียม vs ขว้างงูไม่พ้นคอ ไทยรัฐออนไลน์
พรรคประชาธิปัตย์ โดยมือกฎหมาย วิรัตน์ กัลยาศิริ อ้างกรณีที่ กลุ่ม นปช.จ.เชียงใหม่ ประกาศจะแบ่งแยกประเทศ
นั้น พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าเป็นการกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่ง
อันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ ซึ่งจะมีการ ฟ้องร้องดำเนินคดีอาญาและยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคเพื่อไทย
และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค ตามมาตรา 68 ถือเป็นการล้มล้างการปกครองประเทศ
ทางหนึ่ง กปปส. ที่แยกตัวออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็อยู่ในระหว่างตั้งข้อหากบฏ มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครอง
ประเทศ เป็นคดีพิเศษที่ ดีเอสไอ รับไว้ดำเนินการ แกนนำ กปปส. ถูกแจ้งข้อกล่าวหามีหมายเรียกหมายจับ สุดท้าย
จะโยงเข้าประชาธิปัตย์ต่อไปหรือไม่ เพราะมี แกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเวที กปปส.ด้วย
เรื่องกบฏแท้ กบฏเทียม คงเป็นศึกใหญ่ทางการเมืองต่อไป
เครื่องมือตามรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะองค์กรอิสระ กำลังถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ถูกกล่าวหาว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการ
ล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการกล่าวหาว่า ป.ป.ช. ที่กำลังดำเนินการชี้มูลความผิดนายกฯยิ่งลักษณ์ ประเด็น
ทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ไม่ชอบธรรม
มีการตั้งข้อสังเกตคณะกรรมการ ป.ป.ช.อาทิ วิชา มหาคุณ เกี่ยวดองกับอดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค
ประชาธิปัตย์ซึ่ง พล.อ.ณรงค์ มหาคุณ พี่ชายของ วิชา มหาคุณ ก็ยอมรับแล้วว่า เป็นเครือญาติกันจริง แต่ไม่เคยไปเกี่ยว
ข้องกับงานของน้องชาย เจอกันก็พูดแต่เรื่องส่วนตัว
ก็เผอิญมีข่าวที่แกนนำ กปปส. สุเทพ เทือกสุบรรณ ไปพูดบนเวทีว่า จะเผด็จศึกรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ภายในเดือน มี.ค.นี้
นายกฯ ยิ่งลักษณ์ไม่มีทางออกอย่างอื่น นอกจากลาออกหรือไม่ก็ติดคุก เตรียมเคลื่อนไหวใหญ่ปิดสถานที่ราชการและ
กดดันธุรกิจตระกูลชินในวันสองวันนี้ ไม่ได้พูดถึงเรื่องเงื่อนไขการเจรจา หรือข่าวเงิน ลงขัน 500 ล้านบาท เตรียมเป่า
นกหวีดต่อสู้ยกสุดท้ายอีกรอบ
เพราะฉะนั้น ข่าวคนกลาง คณะกรรมการกลางเจรจา หรือ แม้แต่การเจรจา ระหว่าง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ประธาน
ยุทธศาสตร์เพื่อไทย กับ พุทธอิสระ แกนนำ กปปส.ศูนย์ราชการ จึงค่อยๆเงียบหายเข้ากลีบเมฆ
โดยเฉพาะกรณี สมชายที่ดอดไปเจรจากับพุทธอิสระ มีข่าวว่า ทางพรรคไม่ปลื้ม จัดการงานนอกสั่ง ไปเสียเหลี่ยม
ผู้มีบารมี หลอกไปเชือดซ้ำสอง หลังจากที่ถูกหลอก ให้เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยมาแล้ว
ดังนั้น หมากเกมการเมือง ในช่วงโค้งสุดท้ายจึงไม่ใช่อยู่ที่ว่า จะเลือกตั้งได้หรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับว่า องค์กรอิสระจะ
ฟันรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พ้นหน้าที่รักษาการได้หรือไม่ จะตั้งรัฐบาลคนกลาง ได้หรือไม่ และสุดท้ายจะไปจบที่สงคราม
กลางเมืองหรือปฏิวัติรัฐประหาร เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ รู้ตัวแล้วว่าถูกหลอกมาโดยตลอด
จึงไม่ยอมเล่นบทรู้ว่าเขาหลอกแต่ก็ยอมให้หลอกอีกต่อไป.
หมัดเหล็ก
http://www.thairath.co.th/column/pol/kaablook/407534
ขว้างงูไม่พ้นคอ แม่ลูกจันทร์ ไทยรัฐออนไลน์
เพราะจังหวะเช็กบิลไม่มีให้เช็กทุกวัน
ฉะนั้น ถ้ามีช่องโหว่ตรงไหนที่จะเช็กบิล “รัฐบาล
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ให้ตกเก้าอี้ยกเข่งได้ พรรคประชาธิปัตย์ต้องรีบดำเนินการทันที
ประเด็นใหญ่ล่าสุดที่จะเช็กบิล “ยิ่งลักษณ์” ไม่ให้เป็นหอกข้างแคร่ต่อไป คืออาศัย “ช่องโหว่รัฐธรรมนูญ”
รัฐธรรมนูญมาตรา 127 กำหนดให้เปิดประชุมสภาฯนัดแรก ภายใน 30 วัน นับจากวันเลือกตั้ง (2 กุมภาพันธ์)
บัดนี้เลยกำหนด 30 วันแล้วยังเปิดประชุมสภาฯนัดแรกไม่ได้ จึงไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าปัญหาเปิดประชุมสภาฯนัดแรกไม่ได้ภายใน 30 วัน ไม่ได้เกิดจากจำนวน ส.ส.ไม่ครบ
95 เปอร์เซ็นต์ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ
แต่เหตุที่เปิดประชุมสภาฯไม่ได้ เพราะ กกต.ไม่ยอมประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.อย่างเป็นทางการ
เมื่อยังไม่มี ส.ส.ซักคนเดียวจะเปิดประชุมสภาฯนัดแรกได้อย่างไร??
เข้าตำรา “ไก่เกิดก่อนไข่” หรือ “ไข่เกิดก่อนไก่” นั่นแหละโยม
“แม่ลูกจันทร์” มองว่าข้อเท็จจริงย่อมเป็นข้อเท็จจริงแน่นอน
แต่ข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมายอาจ จะไม่ใช่เรื่องเดียวกัน
ด้วยเหตุนี้ พรรคประชาธิปัตย์จึงยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ
และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะนายกฯรักษาการของ “ยิ่งลักษณ์” ว่าต้องสิ้นสุดลงทันที
หรือ ยังมีสถานะเป็นนายกฯรักษาการต่อไป??
อนาคตของนายกฯยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยก็กลับไปอยู่ในกำมือศาลรัฐธรรมนูญเหมือนเดิม
ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.โดยตรง
การเปิดประชุมสภาฯนัดแรกไม่ได้ จึงไม่เกี่ยวข้องกับสถานะของรัฐบาลรักษาการ
ถ้าหวยล็อกออกมาแนวนี้ “ยิ่งลักษณ์” ก็รอดตัว
แต่...ถ้าศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าการเลือกตั้งเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ก็จริง แต่การเปิดประชุมสภาฯนัดแรกไม่ได้
ภายในกำหนด 30 วัน มีผลให้รัฐบาลรักษาการต้องหมดสภาพไป
ถ้าหวยล็อกออกมาแบบนี้ก็แซ่บอีหลีอย่างแรง
เพราะจะทำให้ยิ่งลักษณ์ และ ครม.รักษาการทั้งชุดตกเก้าอี้ทันที
อย่างไรก็ตาม “แม่ลูกจันทร์” มองว่าเป็นไปได้ยากส์ ที่ศาลรัฐธรรมนูญ
จะอ้างความบกพร่องของ กกต.ไปเล่นงานรัฐบาล
แต่ก็ไม่แน่...ถ้าศาลรัฐธรรมนูญจะตีความแบบวิถีโค้งโยงปัญหาเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กกต.กับการเปิดประชุม
สภาไม่ได้ภายใน 30 วัน เพื่อกระทบชิ่งไปถึงสถานะรัฐบาลรักษาการอีกที
ไม่แน่...เพราะผู้ยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และให้ “ยิ่งลักษณ์” หมดสภาพนายกฯรักษาการ
คือ “นายวิรัตน์ กัลยาศิริ” หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ผู้เชี่ยวชาญสูงสุดด้าน ยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญ
เรียกว่าเป็นสุดยอดนักตีความมือหนึ่งของเมืองไทย
เก่งขนาดตีความให้ชามข้าวกลายเป็นกระโถนได้เลย
“แม่ลูกจันทร์” เห็นว่าเรื่องนี้มีบรรดาขาประจำและขาจรยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญกันแล้วหลายราย
พรรคประชาธิปัตย์จึงไม่จำเป็นต้องย่ืนร้องซ้ำให้เปลืองตัว
เพราะถ้าพูดกันตรงๆการเลือกตั้งที่มีปัญหา และการเปิดประชุมสภาฯ ไม่ได้ภายใน 30 วัน พรรคประชาธิปัตย์
นี่แหละมีส่วนสำคัญ
เพราะถ้าพรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย การขัดขวางการเลือกตั้ง การปิดล้อมหน่วยเลือกตั้ง
ก็ไม่มี ป่านนี้ก็เปิดสภาได้ตามกติกา
นี่แหละเค้าเรียกว่าขว้างงูไม่พ้นคอ.
“แม่ลูกจันทร์”
http://www.thairath.co.th/column/pol/greenhead/407501
อ่านกันไปก่อน 2 คนนี้อวยนายกฯค่ะ เอามรวมในกระทู้เดียว
ขอลาไปเดินเล่นที่ตลาดหน่อย เดี๋ยวมา
ใครอยาก อวย หรืออยาก กระทืบ นายกฯ เชิญได้