เห็นหลายๆกระทู้ยังสงัสยว่า ทำไมหลายๆคนไม่ชอบพิกซาร์?, ทำไมอวยค่ายอื่นได้แต่อวยดิสนีย์ไม่ได้?,
ทำไม Frozen ถึงได้ออสการ์?, ทำไมเรื่องอื่นที่สนุกกว่า Frozen ถึงไม่ได้ออสการ์, ทำไมหนังเก่าที่ฉายไป
นานแล้วถึงไม่ได้ออสการ์ในปีนี้แทน Frozen (ฮาาาา) ...ผมเลยขอเอามาให้ดูครับว่า ตั้งแต่ที่ออสการ์มี
การมอบรางวัลสาขาภาพยนต์อนิเมชั่นยอดเยี่ยมมานั้น มีเรื่องไหนบ้างที่ได้รับเกียรติให้ได้รับรางวัลสาขา
นี้บ้างครับ
มาเริ่มกันเลยดีฝ่า...
2001 "Shrek"
ทำไมถึงได้? : ถือเป็นเกียรติมากนะครับที่ Dreamworks คว้ารางวัลออสการ์สาขา
อนิเมชั่นตัวแรกในประวัติศาสตร์ไปได้ ทำให้ Pixar ที่เป็นผู้บุกเบิกวงการอนิเมชั่น
CGI เสียหน้ามาก เพราะมีคนชอบ Monster Inc. กว่า Shrek เยอะ (ผมก็เป็นหนึ่ง
ในนั้น XD) แต่เหตุผลหลักๆเลยที่ Shrek ได้รางวัลไปคงเพราะงานเทคนิคที่โดดเด่น
กว่า คือการสร้างคาแรคเตอร์คนได้และสภาพแวดล้อมได้สมจริงมากนั่นเอง
2002 "Spirited Away"
ทำไมถึงได้? : ถือเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาตร์ครับที่หนังจากจิบลิได้รางวัลออสการ์
เป็นตัวแรก ซึ่งไม่ใช่ง่ายๆเลยที่อนิเมชั่นต่างประเทศจะได้รางวัลของฮอลลีวูด แต่
Spirited Away ได้ไปในปีนั้น คงเพราะกระแสคลั่งเอเชียของฮอลลีวูดในช่วงเวลา
นั้นพอดี ที่อะไรๆก็เอเชียไปหมด แถมคู่แข่งก็ไม่มีเรื่องไหนเคี้ยวยากเลยซักเรื่อง
และหนังก็ออกยอดเยี่ยมแบบไร้ข้อกังขาจริงๆ Spirited Away จึงได้ไปแบบไม่พลิกโผ
2003 "Finding Nemo"
ทำไมถึงได้? : รางวัลออสการ์ตัวแรกของพิกซาร์โดยผู้กำกับ แอนดรูว สแตนสัน
ที่สมศักดิ์ศรีกับตัวหนังเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นหนังที่เข้าถึงง่ายทุกเพศทุกวัย และ
ด้วยงานภาพที่สร้างภาพท้องทะเลที่มีทั้งความสวยงามและน่ากลัวได้อย่างน่าทึ่ง
ไม่มีข้ออ้างเลยที่ Nemo จะไม่ได้ครับ แม้คู่แข่งอีกเรื่องอย่าง The Triplets of Belleville
จะค่อนข้างลุ่มลึกกว่า แต่โดยรวมแล้ว Nemo ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมเหตุครับที่จะได้
2004 "The Incredibles"
ทำไมถึงได้? : ออสการ์ตัวที่สองพิกซาร์โดยผู้กำกับอัฉริยะอีกคนอย่าง แบรด เบิร์ด
ที่ทำหนังซุปเปอร์ฮีโร่ในสไตส์พิกซาร์ได้สนุกและชาญฉลาด แถมยังใส่ความเป็นหนัง
แอ็คชั่นระเบิดระเบ้อลงไปในหนังสำหรับครอบครับได้เป็นอย่างดี โดยไม่ทิ้งเอกลักษณ์
พิกซาร์ไป นับเป็นเหตุผลเพียงพอที่กรรมการจะเทใจให้หนัง
2005 "Wallace & Gromit : The Curse of the Were-Rabbit"
ทำไมถึงได้? : ปีนี้ผู้เข้าชิงน่าสนใจครับ เพราะมีสต็อปโมชั่นสองเรื่อง (Corpse Bride อีกเรือ่ง)
กับหนังอีกเรื่องจากจิบลิ (Howl's Moving Castle) ควรค่าแก่การจะได้รางวัลทุกเรื่อง แต่สุดท้าย
Wallace & Gromit ก็ได้ไป ซึ่งคงเพราะมันเป็นการกลับมาของหนังชุดขำกลิ้งคนกับหมาเรื่องนี้
ในรอบหลายปีมากๆ และหนังก็เข้าถึงในความทรงจำของหลายๆคนที่ได้ดูหนังชุดนี้ในวัยเด็ก
Corpse Bride เองก็ดูเป็นเบอร์ตันสไตส์มืดหม่นมากไป เลยไม่ใช่หนังที่จะเข้าถึงทุกๆคนได้แบบ
Wallace & Gromit
2006 "Happy Feet"
ทำไมถึงได้? : เป็นอีกหนึ่งปีที่หลายเสียงเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า Happy Feet ควรค่าแก่รางวัลมาก
ที่สุดแล้ว ด้วยเทคนิคที่ก้าวไปอีกระดับของการสร้างภาพทิวทัศขั้วโลกขาวโพลน และการจับ
เหล่าเพนกวินตัวอ้วนตุ้บมาร้องเต้นกันอย่างสนุกสนาน เป็นภาพแปลกใหม่ที่น่าดูจริงๆ > <
ส่วน Cars ก็เป็นหนังพิกซาร์ที่ดูจะโดนเมินที่สุด ส่วน Monster House ก็เป็นหนังนอกสายตาไป
เลยจริงๆ
2007 "Ratatouille
ทำไมถึงได้? : ออสการ์ตัวที่สามของพิกซาร์โดยผู้กำกับ แบรด เบิร์ด อีกแล้วขอรับ...
นับถือในความอัฉริยะของเบิร์ดสุดๆ ที่สามารถทำหนัง "หนูทำอาหาร" ให้ออกมา "หร่อย
ลุ่มลึก น่าค้นหา และคลาสสิค" ในตัวมันเองได้ขนาดนี้ เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกอิ่มแปร้เหมือน
ได้ไปกินอาหารจากร้านกุสโตว์มาหมาดๆ... แต่คู่แข่งเองก็น่าสนใจครับ อย่าง Persepolis
นี่เยี่ยมมาก แต่ถ้ามันได้รางวัลนี้ไป ก็ไม่รู้จะมีเสียงโห่เสียงด่าจากอีกซีกโลกหรือเปล่า?
2008 "WALL-E"
ทำไมถึงได้? : ความยอดเยี่ยมในฐานะงานระดับมาสเตอร์พีซชิ้นอันดับต้นๆของพิกซาร์
ด้วยงานสร้างในระดับที่ไม่มีที่ติ ในโลกอนาคตล่มสลาย ที่พิกซาร์กล้ามากที่ใส่ฉากหลัง
แบบนี้ในหนังครอบครัว แถมยังเล่นเรื่องความรักต่างศักดิ์อีก รวมทั้งประเด็นสิ่งแวดล้อม
ที่กำลังบูมในตอนนั้น ยิ่งทำให้ WALL-E สมควรได้รางวัลไปอย่างไร้คู่แข่ง เพราะคู่แข่งใน
ปีนั้นก็ธรรมดาๆไม่โดดเด่นอะไรนักครับ
2009 "Up"
ทำไมถึงได้? : ปีนี้หลายๆคนกังขา Up กับผู้แข่งเรื่องอื่นๆเช่น Coraline หรือ Fantastic Mr.Fox
แต่ส่วนตัวผมพอจะเข้าใจครับ เพราะเรื่องอื่นๆมันค่อนข้างคัลท์ แม้งานสร้างจะดูโดดเด่นกว่า
Up มาก แต่ประเด็นความลึกซึ้งกินใจขณะดูนั้นยังเทียบกับ Up ไม่ได้ หลายคนจึงเทใจให้กับ
Up มาก เพราะมันเข้าถึงได้ง่ายและซาบซึ้งไปกับเนื้อหาได้ง่ายกว่าคู่แข่งทุกเรื่อง
2010 "Toy Story 3"
ทำไมถึงได้? : ปีนี้ผู้เข้าชิงสูสีทุกเรื่องครับ How To Train Your Dragon ก็ออกมาเพอร์เฟ็ค
The Illusionist ก็เป็นอนิเมชั่นต่างประเทศที่น่าสนใจมากๆ แต่สุดท้ายสองเรื่องนี้ก็แพ้ให้กับ
Toy Story 3 เพราะการกลับมาของวู้ดดี้และผองเพื่อนครั้งนี้สะเทือนวงการอนิเมชั่นและแฟนๆ
พิกซาร์สุดๆครับ ตอบรับแรงทั้งกระแสและรายได้ ทำให้การปิดฉากเหล่าของเล่นครั้งนี้ได้ใจทุกๆ
คนไปเลยอย่างช่วยไม่ได้
2011 "Rango"
ทำไมถึงได้? : ปีนี้ปีผู้เข้าชิงเป็นหนังต่างประเทศน่าสนใจหลายๆเรื่องครับ แต่ยังไงก็ตาม
เรื่องที่มาวินที่สุดก็คือ Rango นี่เอง เพระมันเป็นหนังที่เอาแนวคาวบอยสปาเก็ตตี้มายำใหม่
ด้วยแนวคิดที่แปลกและสร้างสรรค์ เทคนิคการสร้างเหล่าสัตว์ต่างๆที่สมจริงมากๆ แถมยังมี
งานพากย์ที่โคตรแนว คือให้นักแสดงเล่นตอบโต้กันจริงๆเลยเหมือนละครเวที เป็นงานสร้างสรรค์
ที่น่าปรบมือให้มาก ...เพียงแต่หลายๆคนกังขาอยู่ว่า Rango นับเป็นหนังอนิเมชั่นกะเขาได้ด้วย
หรือ? เพราะสไตส์ที่สมจริงของมันทำให้มันดูหลุดจากคำว่า "การ์ตูน" ไปนิด
2012 "Brave"
ทไมถึงได้? : เป็นปีที่หลายๆคนค้านรางวัลไม่น้อยนะครับ (ต่างประเทศนะครับ แต่ในอเมริกา
เขาตอบรับผลรางวัลกันดีแล้ว) ว่าทำไม Brave จึงคว้ารางวัลไปในปีนี้? เหตุผลคงเพราะมันเป็น
หนังที่สร้างบรรยากาศของประวัติศาสตร์สก็อตต์แลนด์ได้อย่างหมดจดไร้ที่ติ (ทั้งๆที่หนังไม่ได้
อิงประวัติศาสตร์อะไรเลย) งานสร้างที่ออกมายอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ เทคนิคพิเศษ
แม้แต่ผมสีแดงยุ่งๆของเมอริด้าก็ล้วนน่าประทับใจเป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตาพิกซาร์ในเรื่องงานสร้าง
ได้ดีมากอีกเรื่องเลย ส่วนคู่แข่งนั้นมีน่าสนใจหลายๆเรื่องครับ แต่ก็ยอมรับว่า Frankenweenie
กับ Paranorman คัลท์และมืดหม่นสำหรับหลายๆคนส่วน Wreck-It Ralph ก็กลายเป็นหนังที่
หลายๆคนมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆที่หนังออกมาดีมากไม่แพ้ Brave เลย
2013 "Frozen"
ทำไมถึงได้? : มาถึงปีล่าสุดกันบ้างกับออสการ์ตัวแรกในสาขาอนิเมชั่นของดิสนีย์ สำหรับ Frozen
นั้นถือเป็นงานคืนฟอร์มของดิสนีย์ที่ออกมาเหมาะสมที่จะได้รางวัลที่สุดแล้วครับในบรรดาผู้เช้าชิง
แม้ผมจะเชียร์ The Wind Rises ที่สุดก็เถอะ แต่ต้องยอมรับว่า Frozen คืองานที่เข้าถึงมหาชนมากที่
สุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพลงสุดจะไพเราะลงตัวกับหนัง และการเอาประเด็นคลาสสิคมาบิดเบือน แบบที่
ดิสนีย์ชอบทำในช่วงยุค 90 ด้วยการเล่นประเด็นพี่น้องเป็นส่วนสำคัญและปล่อยให้ประเด็นเจ้าหญิง
เจ้าชาย เป็นเรื่องรองไปก่อน เป็นครั้งแรกในหนังดิสนีย์ที่ "ผู้หญิงเป็นใหญ่" ...ยิ่งส่งเสริมให้ Frozen
ดูโดดจากหนังดิสนีย์แนวเทพนิยายเรื่องอื่นๆที่ผ่านมา และด้วยแรงสนับสนุนจากคนส่วนใหญ่ Frozen
จึงเหมาะสมที่จะคว้าออสการ์ไปที่สุดแล้วครับ
หลายคนชอบเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ว่า
"อะไรวิ๊! เรื่องนี้ไม่เห็นสนุกเลย ห่วยชิบเปร๋ง ทำไมถึงได้ออสการ์!
ได้เพราะกระแสชัดๆ เรื่องอื่นดีกว่าเยอะ กรรมการตาถั่วหรือไรกันเล่าน้อ!?" ...แต่ความจริงแล้วราง
วัลทั้งหลายมันขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยครับ กระแสเองก็มีส่วน เพราะถ้าหนังไม่สร้าง Impact กับคนหมู่มาก
ได้จริงๆ มันก็คงไม่เกิดกระแสขึ้นมาได้แน่ๆ อีกทั้งผู้ให้คะแนนส่วนใหญ่ย่อมเห็นถึงข้อดีของหนังแล้วลงคะแนน
กันด้วยความเป็นธรรมจริงๆ (เพราะอนิเมชั่นเป็นรางวัลเล็กๆ มันไม่มีการล็อบบี้กันหรอกครับ) ที่สำคัญอีกอย่าง
หนึ่งคือ หนังมันสะท้อนอะไรของฮอลลีวูดในตอนนั้นทางไหนหรือเปล่า ด้วยครับ ...ด้วยหลายๆปัจจัยที่ผม
กล่าวจึงสรุปได้ในทางโหรา... เอ๊ย ได้ว่า หนังทุกเรื่องที่ได้รับรางวัลนั้นเหมาะสมที่สุดแล้วครับ แต่มันจะตรงใจ
คุณหรือเปล่ามันก็อีกเรื่อง เพราะเรื่องแบบนี้มันนานาจิตตัง รสนิยมทุกคนไม่เหมือนกันอยู่แล้วครับ
หลายคนบอกว่า "ออสการ์ทำไมถึงเมิน Pixar?" คำตอบออสการ์ไม่เคยเมิน
พิกซาร์เลยครับ แทบจะเป็นค่ายที่เป็นตัวเก็งๆสำหรับหลายๆคนในปีแรกๆด้วยซ้ำไป
เพราะพิกซาร์ได้ออสการ์ไปแล้วมากถึง 7 ตัว!!! ไม่ใช่น้อยๆเลยนะครับผม
ฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือ อยู่กับตัวเองนั่นแหละครับ หากถูกใจ
ก็ดีใจกับมัน หากไม่ถูกใจก็ช่างรางวัลแล้วไปดูหนังที่มันถูกใจเราดีกว่า
(...อย่าง Tangled ที่ออกมาสนุกคุณภาพมาก แต่มันก็ยังไม่ถึงขั้นเป็นหนังรางวัล เพราะเทคนิคงานภาพ
ก็ไม่ได้โดดเด่น เนื้อหาก็เป็นแนวรอมคอมธรรมดาๆ หนังมันโดดเด่นที่เนื้อหาสนุกในแบบดิสนีย์แนวเทพ
นิยายที่โดนเอาบิดเบือนนั่นเอง ซึ่งมันยังไม่พอที่จะเป็นผู้เข้าชิงครับ เหมือนเป็นประตูเบิกทางรางวัลของ
ดิสนีย์มากกว่า ...และในที่สุดดิสนีย์ก็เอาออสการ์มานอนกอดได้สำเร็จจาก Frozen นี่เอง ^ ^)
มาย้อนดูกันครับว่า ตั้งแต่มีออสการ์สาขาอนิเมชั่นมา มีเรื่องไหนได้รับรางวัลนี้กันมาแล้วบ้าง
ทำไม Frozen ถึงได้ออสการ์?, ทำไมเรื่องอื่นที่สนุกกว่า Frozen ถึงไม่ได้ออสการ์, ทำไมหนังเก่าที่ฉายไป
นานแล้วถึงไม่ได้ออสการ์ในปีนี้แทน Frozen (ฮาาาา) ...ผมเลยขอเอามาให้ดูครับว่า ตั้งแต่ที่ออสการ์มี
การมอบรางวัลสาขาภาพยนต์อนิเมชั่นยอดเยี่ยมมานั้น มีเรื่องไหนบ้างที่ได้รับเกียรติให้ได้รับรางวัลสาขา
นี้บ้างครับ
มาเริ่มกันเลยดีฝ่า...
2001 "Shrek"
ทำไมถึงได้? : ถือเป็นเกียรติมากนะครับที่ Dreamworks คว้ารางวัลออสการ์สาขา
อนิเมชั่นตัวแรกในประวัติศาสตร์ไปได้ ทำให้ Pixar ที่เป็นผู้บุกเบิกวงการอนิเมชั่น
CGI เสียหน้ามาก เพราะมีคนชอบ Monster Inc. กว่า Shrek เยอะ (ผมก็เป็นหนึ่ง
ในนั้น XD) แต่เหตุผลหลักๆเลยที่ Shrek ได้รางวัลไปคงเพราะงานเทคนิคที่โดดเด่น
กว่า คือการสร้างคาแรคเตอร์คนได้และสภาพแวดล้อมได้สมจริงมากนั่นเอง
2002 "Spirited Away"
ทำไมถึงได้? : ถือเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาตร์ครับที่หนังจากจิบลิได้รางวัลออสการ์
เป็นตัวแรก ซึ่งไม่ใช่ง่ายๆเลยที่อนิเมชั่นต่างประเทศจะได้รางวัลของฮอลลีวูด แต่
Spirited Away ได้ไปในปีนั้น คงเพราะกระแสคลั่งเอเชียของฮอลลีวูดในช่วงเวลา
นั้นพอดี ที่อะไรๆก็เอเชียไปหมด แถมคู่แข่งก็ไม่มีเรื่องไหนเคี้ยวยากเลยซักเรื่อง
และหนังก็ออกยอดเยี่ยมแบบไร้ข้อกังขาจริงๆ Spirited Away จึงได้ไปแบบไม่พลิกโผ
2003 "Finding Nemo"
ทำไมถึงได้? : รางวัลออสการ์ตัวแรกของพิกซาร์โดยผู้กำกับ แอนดรูว สแตนสัน
ที่สมศักดิ์ศรีกับตัวหนังเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นหนังที่เข้าถึงง่ายทุกเพศทุกวัย และ
ด้วยงานภาพที่สร้างภาพท้องทะเลที่มีทั้งความสวยงามและน่ากลัวได้อย่างน่าทึ่ง
ไม่มีข้ออ้างเลยที่ Nemo จะไม่ได้ครับ แม้คู่แข่งอีกเรื่องอย่าง The Triplets of Belleville
จะค่อนข้างลุ่มลึกกว่า แต่โดยรวมแล้ว Nemo ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมเหตุครับที่จะได้
2004 "The Incredibles"
ทำไมถึงได้? : ออสการ์ตัวที่สองพิกซาร์โดยผู้กำกับอัฉริยะอีกคนอย่าง แบรด เบิร์ด
ที่ทำหนังซุปเปอร์ฮีโร่ในสไตส์พิกซาร์ได้สนุกและชาญฉลาด แถมยังใส่ความเป็นหนัง
แอ็คชั่นระเบิดระเบ้อลงไปในหนังสำหรับครอบครับได้เป็นอย่างดี โดยไม่ทิ้งเอกลักษณ์
พิกซาร์ไป นับเป็นเหตุผลเพียงพอที่กรรมการจะเทใจให้หนัง
2005 "Wallace & Gromit : The Curse of the Were-Rabbit"
ทำไมถึงได้? : ปีนี้ผู้เข้าชิงน่าสนใจครับ เพราะมีสต็อปโมชั่นสองเรื่อง (Corpse Bride อีกเรือ่ง)
กับหนังอีกเรื่องจากจิบลิ (Howl's Moving Castle) ควรค่าแก่การจะได้รางวัลทุกเรื่อง แต่สุดท้าย
Wallace & Gromit ก็ได้ไป ซึ่งคงเพราะมันเป็นการกลับมาของหนังชุดขำกลิ้งคนกับหมาเรื่องนี้
ในรอบหลายปีมากๆ และหนังก็เข้าถึงในความทรงจำของหลายๆคนที่ได้ดูหนังชุดนี้ในวัยเด็ก
Corpse Bride เองก็ดูเป็นเบอร์ตันสไตส์มืดหม่นมากไป เลยไม่ใช่หนังที่จะเข้าถึงทุกๆคนได้แบบ
Wallace & Gromit
2006 "Happy Feet"
ทำไมถึงได้? : เป็นอีกหนึ่งปีที่หลายเสียงเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า Happy Feet ควรค่าแก่รางวัลมาก
ที่สุดแล้ว ด้วยเทคนิคที่ก้าวไปอีกระดับของการสร้างภาพทิวทัศขั้วโลกขาวโพลน และการจับ
เหล่าเพนกวินตัวอ้วนตุ้บมาร้องเต้นกันอย่างสนุกสนาน เป็นภาพแปลกใหม่ที่น่าดูจริงๆ > <
ส่วน Cars ก็เป็นหนังพิกซาร์ที่ดูจะโดนเมินที่สุด ส่วน Monster House ก็เป็นหนังนอกสายตาไป
เลยจริงๆ
2007 "Ratatouille
ทำไมถึงได้? : ออสการ์ตัวที่สามของพิกซาร์โดยผู้กำกับ แบรด เบิร์ด อีกแล้วขอรับ...
นับถือในความอัฉริยะของเบิร์ดสุดๆ ที่สามารถทำหนัง "หนูทำอาหาร" ให้ออกมา "หร่อย
ลุ่มลึก น่าค้นหา และคลาสสิค" ในตัวมันเองได้ขนาดนี้ เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกอิ่มแปร้เหมือน
ได้ไปกินอาหารจากร้านกุสโตว์มาหมาดๆ... แต่คู่แข่งเองก็น่าสนใจครับ อย่าง Persepolis
นี่เยี่ยมมาก แต่ถ้ามันได้รางวัลนี้ไป ก็ไม่รู้จะมีเสียงโห่เสียงด่าจากอีกซีกโลกหรือเปล่า?
2008 "WALL-E"
ทำไมถึงได้? : ความยอดเยี่ยมในฐานะงานระดับมาสเตอร์พีซชิ้นอันดับต้นๆของพิกซาร์
ด้วยงานสร้างในระดับที่ไม่มีที่ติ ในโลกอนาคตล่มสลาย ที่พิกซาร์กล้ามากที่ใส่ฉากหลัง
แบบนี้ในหนังครอบครัว แถมยังเล่นเรื่องความรักต่างศักดิ์อีก รวมทั้งประเด็นสิ่งแวดล้อม
ที่กำลังบูมในตอนนั้น ยิ่งทำให้ WALL-E สมควรได้รางวัลไปอย่างไร้คู่แข่ง เพราะคู่แข่งใน
ปีนั้นก็ธรรมดาๆไม่โดดเด่นอะไรนักครับ
2009 "Up"
ทำไมถึงได้? : ปีนี้หลายๆคนกังขา Up กับผู้แข่งเรื่องอื่นๆเช่น Coraline หรือ Fantastic Mr.Fox
แต่ส่วนตัวผมพอจะเข้าใจครับ เพราะเรื่องอื่นๆมันค่อนข้างคัลท์ แม้งานสร้างจะดูโดดเด่นกว่า
Up มาก แต่ประเด็นความลึกซึ้งกินใจขณะดูนั้นยังเทียบกับ Up ไม่ได้ หลายคนจึงเทใจให้กับ
Up มาก เพราะมันเข้าถึงได้ง่ายและซาบซึ้งไปกับเนื้อหาได้ง่ายกว่าคู่แข่งทุกเรื่อง
2010 "Toy Story 3"
ทำไมถึงได้? : ปีนี้ผู้เข้าชิงสูสีทุกเรื่องครับ How To Train Your Dragon ก็ออกมาเพอร์เฟ็ค
The Illusionist ก็เป็นอนิเมชั่นต่างประเทศที่น่าสนใจมากๆ แต่สุดท้ายสองเรื่องนี้ก็แพ้ให้กับ
Toy Story 3 เพราะการกลับมาของวู้ดดี้และผองเพื่อนครั้งนี้สะเทือนวงการอนิเมชั่นและแฟนๆ
พิกซาร์สุดๆครับ ตอบรับแรงทั้งกระแสและรายได้ ทำให้การปิดฉากเหล่าของเล่นครั้งนี้ได้ใจทุกๆ
คนไปเลยอย่างช่วยไม่ได้
2011 "Rango"
ทำไมถึงได้? : ปีนี้ปีผู้เข้าชิงเป็นหนังต่างประเทศน่าสนใจหลายๆเรื่องครับ แต่ยังไงก็ตาม
เรื่องที่มาวินที่สุดก็คือ Rango นี่เอง เพระมันเป็นหนังที่เอาแนวคาวบอยสปาเก็ตตี้มายำใหม่
ด้วยแนวคิดที่แปลกและสร้างสรรค์ เทคนิคการสร้างเหล่าสัตว์ต่างๆที่สมจริงมากๆ แถมยังมี
งานพากย์ที่โคตรแนว คือให้นักแสดงเล่นตอบโต้กันจริงๆเลยเหมือนละครเวที เป็นงานสร้างสรรค์
ที่น่าปรบมือให้มาก ...เพียงแต่หลายๆคนกังขาอยู่ว่า Rango นับเป็นหนังอนิเมชั่นกะเขาได้ด้วย
หรือ? เพราะสไตส์ที่สมจริงของมันทำให้มันดูหลุดจากคำว่า "การ์ตูน" ไปนิด
2012 "Brave"
ทไมถึงได้? : เป็นปีที่หลายๆคนค้านรางวัลไม่น้อยนะครับ (ต่างประเทศนะครับ แต่ในอเมริกา
เขาตอบรับผลรางวัลกันดีแล้ว) ว่าทำไม Brave จึงคว้ารางวัลไปในปีนี้? เหตุผลคงเพราะมันเป็น
หนังที่สร้างบรรยากาศของประวัติศาสตร์สก็อตต์แลนด์ได้อย่างหมดจดไร้ที่ติ (ทั้งๆที่หนังไม่ได้
อิงประวัติศาสตร์อะไรเลย) งานสร้างที่ออกมายอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ เทคนิคพิเศษ
แม้แต่ผมสีแดงยุ่งๆของเมอริด้าก็ล้วนน่าประทับใจเป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตาพิกซาร์ในเรื่องงานสร้าง
ได้ดีมากอีกเรื่องเลย ส่วนคู่แข่งนั้นมีน่าสนใจหลายๆเรื่องครับ แต่ก็ยอมรับว่า Frankenweenie
กับ Paranorman คัลท์และมืดหม่นสำหรับหลายๆคนส่วน Wreck-It Ralph ก็กลายเป็นหนังที่
หลายๆคนมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งๆที่หนังออกมาดีมากไม่แพ้ Brave เลย
2013 "Frozen"
ทำไมถึงได้? : มาถึงปีล่าสุดกันบ้างกับออสการ์ตัวแรกในสาขาอนิเมชั่นของดิสนีย์ สำหรับ Frozen
นั้นถือเป็นงานคืนฟอร์มของดิสนีย์ที่ออกมาเหมาะสมที่จะได้รางวัลที่สุดแล้วครับในบรรดาผู้เช้าชิง
แม้ผมจะเชียร์ The Wind Rises ที่สุดก็เถอะ แต่ต้องยอมรับว่า Frozen คืองานที่เข้าถึงมหาชนมากที่
สุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพลงสุดจะไพเราะลงตัวกับหนัง และการเอาประเด็นคลาสสิคมาบิดเบือน แบบที่
ดิสนีย์ชอบทำในช่วงยุค 90 ด้วยการเล่นประเด็นพี่น้องเป็นส่วนสำคัญและปล่อยให้ประเด็นเจ้าหญิง
เจ้าชาย เป็นเรื่องรองไปก่อน เป็นครั้งแรกในหนังดิสนีย์ที่ "ผู้หญิงเป็นใหญ่" ...ยิ่งส่งเสริมให้ Frozen
ดูโดดจากหนังดิสนีย์แนวเทพนิยายเรื่องอื่นๆที่ผ่านมา และด้วยแรงสนับสนุนจากคนส่วนใหญ่ Frozen
จึงเหมาะสมที่จะคว้าออสการ์ไปที่สุดแล้วครับ
หลายคนชอบเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ว่า "อะไรวิ๊! เรื่องนี้ไม่เห็นสนุกเลย ห่วยชิบเปร๋ง ทำไมถึงได้ออสการ์!
ได้เพราะกระแสชัดๆ เรื่องอื่นดีกว่าเยอะ กรรมการตาถั่วหรือไรกันเล่าน้อ!?" ...แต่ความจริงแล้วราง
วัลทั้งหลายมันขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยครับ กระแสเองก็มีส่วน เพราะถ้าหนังไม่สร้าง Impact กับคนหมู่มาก
ได้จริงๆ มันก็คงไม่เกิดกระแสขึ้นมาได้แน่ๆ อีกทั้งผู้ให้คะแนนส่วนใหญ่ย่อมเห็นถึงข้อดีของหนังแล้วลงคะแนน
กันด้วยความเป็นธรรมจริงๆ (เพราะอนิเมชั่นเป็นรางวัลเล็กๆ มันไม่มีการล็อบบี้กันหรอกครับ) ที่สำคัญอีกอย่าง
หนึ่งคือ หนังมันสะท้อนอะไรของฮอลลีวูดในตอนนั้นทางไหนหรือเปล่า ด้วยครับ ...ด้วยหลายๆปัจจัยที่ผม
กล่าวจึงสรุปได้ในทางโหรา... เอ๊ย ได้ว่า หนังทุกเรื่องที่ได้รับรางวัลนั้นเหมาะสมที่สุดแล้วครับ แต่มันจะตรงใจ
คุณหรือเปล่ามันก็อีกเรื่อง เพราะเรื่องแบบนี้มันนานาจิตตัง รสนิยมทุกคนไม่เหมือนกันอยู่แล้วครับ
หลายคนบอกว่า "ออสการ์ทำไมถึงเมิน Pixar?" คำตอบออสการ์ไม่เคยเมิน
พิกซาร์เลยครับ แทบจะเป็นค่ายที่เป็นตัวเก็งๆสำหรับหลายๆคนในปีแรกๆด้วยซ้ำไป
เพราะพิกซาร์ได้ออสการ์ไปแล้วมากถึง 7 ตัว!!! ไม่ใช่น้อยๆเลยนะครับผม
ฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือ อยู่กับตัวเองนั่นแหละครับ หากถูกใจ
ก็ดีใจกับมัน หากไม่ถูกใจก็ช่างรางวัลแล้วไปดูหนังที่มันถูกใจเราดีกว่า
(...อย่าง Tangled ที่ออกมาสนุกคุณภาพมาก แต่มันก็ยังไม่ถึงขั้นเป็นหนังรางวัล เพราะเทคนิคงานภาพ
ก็ไม่ได้โดดเด่น เนื้อหาก็เป็นแนวรอมคอมธรรมดาๆ หนังมันโดดเด่นที่เนื้อหาสนุกในแบบดิสนีย์แนวเทพ
นิยายที่โดนเอาบิดเบือนนั่นเอง ซึ่งมันยังไม่พอที่จะเป็นผู้เข้าชิงครับ เหมือนเป็นประตูเบิกทางรางวัลของ
ดิสนีย์มากกว่า ...และในที่สุดดิสนีย์ก็เอาออสการ์มานอนกอดได้สำเร็จจาก Frozen นี่เอง ^ ^)