โรคทางด้านจิตวิทยาถือเป็นเรื่องที่แก้ไขได้ยากมากอีกโรคหนึ่ง ที่ส่งผลไปถึงความคิดจิตใจของแต่ละคน สร้างความสับสนอลหม่านให้กับชีวิตตัวเอง แต่มันก็ยังมีโรคแปลกประหลาดที่ส่งผลต่อพฤติกรรมที่เข้าหาสังคมไม่ได้ ลองมาดู 10 อันดับกันดีกว่า
10. Bibliomania
เป็นโรคที่คลั่งไคล้การสะสมหนังสือชนิดแบบบ้าคลั่งสุดๆ แม้ว่าจะเป็นหนังสือเล่มเดียวกันก็ยังสะสมมากเป็นหลายๆเล่ม ตีพิมพ์กี่ครั้งก็ยังสะสมเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งยังชอบขโมยหนังสือตามร้านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจอีก โรคนี้ก็ตีความได้ว่าเป็นคนรักการสะสมหนังสือหรือชอบขโมยหนังสือก็ได้
9.Kleptomania
เป็นโรคที่ฟังดูแล้วเหมือนเป็นโรคธรรมดาทั่วๆไป แต่ที่แปลกก็คือโรคนี้เป็นโรคขี้ขโมยของต่างๆในห้างหรือแหล่งช็อปปิ้งต่างๆที่อยากให้กล้องวงจรปิดจับได้ว่า ตัวเองขโมยจริงๆ ไม่ว่าของนั้นจะมีค่ามากน้อยแค่ไหนก็เอาหมด แม้ว่าเราไม่อยากได้ของแต่ก็เอาหมด โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังทำผิดกฎหมายอยู่
8.Stendhal Syndrome
เป็นโรคแปลกประหลาดอย่างหนึ่งที่ผู้คนมักจะมีอารมณ์แปรปรวนทางด้านจิตใจในการชมศิลปะที่แสนสวยงาม ทำให้พวกเขามีอารมณ์กังวล ตื่นเต้น สับสัน โดยเฉพาะเมื่อเห็นธรรมชาติที่สวยสดงดงาม
7.Bigorexia
เป็นโรคที่ดูเหมือนว่าหลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้มากสักเท่าไร แต่ก็เข้าข่ายโรคจิตชนิดหนึ่ง เป็นโรคที่เราชอบคิดว่าตัวเองมีร่างกายไม่กำยำมากพอ ไม่มีกล้ามเนื้อ ชอบคิดว่าตัวเองไม่แข็งแรงมากพอ ชอบส่องกระจกดูตัวเองบ่อยๆว่าตัวเองกำยำมากแค่ไหน ชอบคิดเสมอว่าตัวเองไม่แข็งแรงมากพอทั้งๆที่ตัวเองมีกล้ามเนื้อที่กำยำแล้ว
6.Trichotillomania
เป็นโรคที่ชอบถลกหนังหัวตัวเอง และก็ชอบจิกหัว จิกหน้าตัวเอง จิกจมูก ไม่เว้นแต่พื้นที่สาธารณะ สาเหตุก็เกิดมาจากไม่พอใจรูปร่างหน้าตาตัวเอง ทำให้เกิดปฏิกิริยาลงโทษตัวเอง
5.Synesthesia
โรคนี้อาจจะมองได้ว่าเป็นโรคที่ดีสำหรับพวกเราอยู่เหมือนกัน ที่ใครได้รับโรคนี้จะมีประสาทสัมผัสที่ไม่ค่อยเหมือนกับชาวบ้านทั่วๆไป ที่สามารถบอกได้ว่าเสียงดนตรีนี้เป็นสีอะไร ตัวอักษรนี้เป็นสีแดง น้ำเงิน ทั้งๆที่มันเขียนเป็นสีดำ และสามารถบ่งบอกเสียงเป็นโครงสร้างต่างๆได้อีกด้วย คนแบบนี้มักจะเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ
4.Alien Hand Syndrome
หากใครเคยดูหนังเรื่อง Idle Hand แล้วจะรู้ดีเลยว่าคือโรคอะไร (ที่ในหนังเองตัวเอกก็เป็นโรคนี้ที่มือตัวเองทำอะไรก็ได้ตามใจชอบแต่ตัวเองไม่ได้สั่งการให้ทำแบบนั้น โดยที่มือตัวเองสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบ) เป็นโรคที่คิดว่ามือของเราสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้อิสระไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวแบบไหนก็ตามโดยที่เราเองไม่รู้ตัวหรือไม่ได้บังคับให้มือไปทำสิ่งนั้น ฟังดูแล้วน่าสยดสยองดีเหมือนกัน ที่พวกเขาสามารถใช้มือเคลื่อนไหวไปมาแบบพิสดารได้
3.Apotemnophilia
เป็นโรคที่มีความสุขกับการเห็นชิ้นส่วนร่างกายตัวเองหายไป ที่หลายคนฟังแล้วก็งงๆอยู่เหมือนกันว่ามีความสุขตรงไหน หากไม่นับว่าตัดชิ้นส่วนเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง แต่อันนี้เป็นการตัดชิ้นส่วนแบบไม่มีเหตุผลอะไรมารองรับ ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ มาจากจินตนาการเพ้อฝันและอารมณ์ทางเพศของตัวเองอีกต่างหาก
2.Capgras Syndrome
เป็นโรคอาการหลงผิดที่คิดว่ามีเห็นตัวเองเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว คู่สมรส หรือมีคนอื่นเข้ามาทดแทนอย่างเช่น นาย A เป็นสามี แต่คนที่เป็นโรคนี้เห็นว่านาย B เป็นสามีเข้ามาทดแทนนาย A แบบนี้เป็นต้น ซึ่งเกิดมาจากสภาพจิตใจและก็ภาวะสมองเสื่อม ซึ่งโรคนี้มักจะเกิดจากผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และก็รวมไปถึงการให้ข้อมูลแบบผิดๆถูกๆ ผิดเพี้ยนไปจากโลกความเป็นจริงอีกด้วย
1.Cotard ’s Syndrome
เป็นโรคที่หายากมากอีกโรคหนึ่ง ที่คิดว่าตัวเองได้ตายแล้ว และก็ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว คนเป็นโรคนี้มักจะคิดว่าตัวเองไม่มีสมอง ไม่มีอวัยวะร่างกายอะไรอีก และก็คิดว่าไม่ต้องกินข้าวกินปากอะไรอีกแล้ว เพราะคิดว่าตัวเองได้ตายแล้ว จะกินอะไรอีกล่ะ ก็เหมือนกับพวกผีดิบ ซอมบี้นั่นแหละ
ผู้เขียน Mr.lawrence10
(เรื่องน่ารู้) 10 อันดับโรคแปลกประหลาดทางด้านจิตวิทยา
เป็นโรคที่คลั่งไคล้การสะสมหนังสือชนิดแบบบ้าคลั่งสุดๆ แม้ว่าจะเป็นหนังสือเล่มเดียวกันก็ยังสะสมมากเป็นหลายๆเล่ม ตีพิมพ์กี่ครั้งก็ยังสะสมเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งยังชอบขโมยหนังสือตามร้านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจอีก โรคนี้ก็ตีความได้ว่าเป็นคนรักการสะสมหนังสือหรือชอบขโมยหนังสือก็ได้
เป็นโรคที่ฟังดูแล้วเหมือนเป็นโรคธรรมดาทั่วๆไป แต่ที่แปลกก็คือโรคนี้เป็นโรคขี้ขโมยของต่างๆในห้างหรือแหล่งช็อปปิ้งต่างๆที่อยากให้กล้องวงจรปิดจับได้ว่า ตัวเองขโมยจริงๆ ไม่ว่าของนั้นจะมีค่ามากน้อยแค่ไหนก็เอาหมด แม้ว่าเราไม่อยากได้ของแต่ก็เอาหมด โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังทำผิดกฎหมายอยู่
เป็นโรคแปลกประหลาดอย่างหนึ่งที่ผู้คนมักจะมีอารมณ์แปรปรวนทางด้านจิตใจในการชมศิลปะที่แสนสวยงาม ทำให้พวกเขามีอารมณ์กังวล ตื่นเต้น สับสัน โดยเฉพาะเมื่อเห็นธรรมชาติที่สวยสดงดงาม
เป็นโรคที่ดูเหมือนว่าหลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้มากสักเท่าไร แต่ก็เข้าข่ายโรคจิตชนิดหนึ่ง เป็นโรคที่เราชอบคิดว่าตัวเองมีร่างกายไม่กำยำมากพอ ไม่มีกล้ามเนื้อ ชอบคิดว่าตัวเองไม่แข็งแรงมากพอ ชอบส่องกระจกดูตัวเองบ่อยๆว่าตัวเองกำยำมากแค่ไหน ชอบคิดเสมอว่าตัวเองไม่แข็งแรงมากพอทั้งๆที่ตัวเองมีกล้ามเนื้อที่กำยำแล้ว
เป็นโรคที่ชอบถลกหนังหัวตัวเอง และก็ชอบจิกหัว จิกหน้าตัวเอง จิกจมูก ไม่เว้นแต่พื้นที่สาธารณะ สาเหตุก็เกิดมาจากไม่พอใจรูปร่างหน้าตาตัวเอง ทำให้เกิดปฏิกิริยาลงโทษตัวเอง
โรคนี้อาจจะมองได้ว่าเป็นโรคที่ดีสำหรับพวกเราอยู่เหมือนกัน ที่ใครได้รับโรคนี้จะมีประสาทสัมผัสที่ไม่ค่อยเหมือนกับชาวบ้านทั่วๆไป ที่สามารถบอกได้ว่าเสียงดนตรีนี้เป็นสีอะไร ตัวอักษรนี้เป็นสีแดง น้ำเงิน ทั้งๆที่มันเขียนเป็นสีดำ และสามารถบ่งบอกเสียงเป็นโครงสร้างต่างๆได้อีกด้วย คนแบบนี้มักจะเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ
หากใครเคยดูหนังเรื่อง Idle Hand แล้วจะรู้ดีเลยว่าคือโรคอะไร (ที่ในหนังเองตัวเอกก็เป็นโรคนี้ที่มือตัวเองทำอะไรก็ได้ตามใจชอบแต่ตัวเองไม่ได้สั่งการให้ทำแบบนั้น โดยที่มือตัวเองสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบ) เป็นโรคที่คิดว่ามือของเราสามารถเคลื่อนไหวไปมาได้อิสระไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวแบบไหนก็ตามโดยที่เราเองไม่รู้ตัวหรือไม่ได้บังคับให้มือไปทำสิ่งนั้น ฟังดูแล้วน่าสยดสยองดีเหมือนกัน ที่พวกเขาสามารถใช้มือเคลื่อนไหวไปมาแบบพิสดารได้
เป็นโรคที่มีความสุขกับการเห็นชิ้นส่วนร่างกายตัวเองหายไป ที่หลายคนฟังแล้วก็งงๆอยู่เหมือนกันว่ามีความสุขตรงไหน หากไม่นับว่าตัดชิ้นส่วนเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง แต่อันนี้เป็นการตัดชิ้นส่วนแบบไม่มีเหตุผลอะไรมารองรับ ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ มาจากจินตนาการเพ้อฝันและอารมณ์ทางเพศของตัวเองอีกต่างหาก
เป็นโรคอาการหลงผิดที่คิดว่ามีเห็นตัวเองเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ครอบครัว คู่สมรส หรือมีคนอื่นเข้ามาทดแทนอย่างเช่น นาย A เป็นสามี แต่คนที่เป็นโรคนี้เห็นว่านาย B เป็นสามีเข้ามาทดแทนนาย A แบบนี้เป็นต้น ซึ่งเกิดมาจากสภาพจิตใจและก็ภาวะสมองเสื่อม ซึ่งโรคนี้มักจะเกิดจากผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และก็รวมไปถึงการให้ข้อมูลแบบผิดๆถูกๆ ผิดเพี้ยนไปจากโลกความเป็นจริงอีกด้วย
เป็นโรคที่หายากมากอีกโรคหนึ่ง ที่คิดว่าตัวเองได้ตายแล้ว และก็ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว คนเป็นโรคนี้มักจะคิดว่าตัวเองไม่มีสมอง ไม่มีอวัยวะร่างกายอะไรอีก และก็คิดว่าไม่ต้องกินข้าวกินปากอะไรอีกแล้ว เพราะคิดว่าตัวเองได้ตายแล้ว จะกินอะไรอีกล่ะ ก็เหมือนกับพวกผีดิบ ซอมบี้นั่นแหละ
ผู้เขียน Mr.lawrence10