นายกฯหนุนแนวคิด "บิ๊กตู่" หันหน้าเจรจาเลี่ยงสงครามกลางเมือง ย้ำต้องมีประชาชนร่วมตัดสินใจ ขอ
"สุเทพ" เห็นแก่ประเทศชาติ ไม่ขัด "สมชัย" คนกลาง แต่เดินหน้าจัดการเลือกตั้ง วอน ผบ.ทบ.ดูแล
ความมั่นคงทุกพื้นที่การเลือกตั้ง ปัดขึ้นเหนือหนีปัญหา ขอหารือที่ปรึกษาก่อนตัดสินใจจะไปรับทราบ
ข้อกล่าวหาทุจริตจำนำข้าวหรือไม่...
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สถานีตำรวจภูธร จ.เชียงราย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ระบุว่า หากความขัดแย้งยังไม่ยุติ ไม่หันหน้าเจรจา
อาจทำให้เกิดสงครามกลางเมืองว่า เห็นด้วยและอยากให้เกิดการเจรจา อยากเห็นบ้านเมืองแก้ปัญหาด้วย
ความสงบ ไม่อยากเห็นความแตกแยกไปเรื่อยๆ จนนำไปสู่ความรุนแรง และสูญเสีย เพราะที่ผ่านมาเราเจ็บ
ปวดมามากแล้ว
"ส่วนที่ ผบ.ทบ.สั่งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ตรวจสอบความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ต้องตรวจสอบทุกๆ ฝ่าย เพื่อไม่ให้
มีความรุนแรง อยากใช้โอกาสนี้ โดยเฉพาะ ผบ.ทบ.ในฐานะ ผอ.กอ.รมน. ได้ช่วยกันอำนวยความสะดวก
การเลือกตั้งทุกพื้นที่ มีความปลอดภัยด้วย"
เมื่อถามว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการเจรจาใดๆ กับรัฐบาล
นายกฯ กล่าวว่า ถ้านายสุเทพ เห็นแก่ประเทศก็มาพูดจากันเถอะ ตนไม่ได้ปฏิเสธการพูดคุย แต่อย่างไรก็ตาม
การพูดคุยนั้นต้องประกอบไปด้วยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะได้หันหน้าเข้าหากัน และสุดท้ายจะมีผลอย่างไร
ประชาชนต้องมีส่วนรับทราบถึงข้อตัดสินใจร่วมกัน ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่เราจะได้หลีกเลี่ยงความรุนแรง และนำ
ไปสู่การแก้ปัญหาอย่างสันติ
<
<
<
"อยากขอร้อง วิงวอนทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ดีกว่า เราไม่อยากให้ประเทศเราเจ็บปวดไปมากกว่านี้"
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีเสียงวิจารณ์ว่านายกฯไม่ค่อยสนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ แต่กลับมาลงพื้นที่เพื่อ
มาตรวจราชการ นายกฯกล่าวว่า ตนสนใจอยู่เสมอ วันนี้ที่มาลงพื้นที่ก็เพราะไม่ต้องการให้เกิดการปะทะ
กันระหว่างผู้ชุมนุม และรัฐบาล และเราอยากให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทำงาน อย่างที่เข้าใจกันว่า
กรณีคำสั่งศาลแพ่งต้องให้ทาง ศรส.ได้พิจารณาว่าวิธีการ หรือแนวทางที่จะดูแลควรเป็นอย่างไร จึง
อยากขอความเห็นใจตอนนี้ทำงานยากจริงๆ ถ้าจะอยู่กรุงเทพฯทำงานก็กลายเป็นการเผชิญหน้ากัน แม้ตน
มาทำงานต่างจังหวัด แต่ก็ติดตามการทำงานและข่าวสารต่างๆ ในกรุงเทพฯ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทุก
ฝ่ายมีหน้าที่รับผิดชอบ และหากทุกคนทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ก็เชื่อว่า จะไม่เกิดปัญหา
เมื่อถามว่า ได้รับรายงานหรือไม่ว่ามีกองกำลังไล่ล่าตัว นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่อยากเห็นเหตุการณ์อย่างนี้
ต้องขอให้ทุกคนต้องช่วยกันตรวจตราทุกๆ ฝ่าย เพื่อดูแลความสงบ
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวถึงการเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาทุจริตโครงการรับจำนำข้าว อันเป็น
เหตุนำไปสู่การถอดถอนออกจากตำแหน่ง ตามมาตรา 270 และมาตรา 178 รวมทั้งตามประมวลกฎหมายอาญา
157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 27 ก.พ.นี้ว่า ขอหารือกับทีมที่ปรึกษาและคณะทำงานก่อน ตอนนี้ยังไม่
ทราบว่าจะขอเลื่อนหรือไม่
http://www.thairath.co.th/content/pol/406291
นายก ฯ ไม่ต้องการให้มีการปะทะ ก็เลยไปตรวจราชการซะเลย ดีไหม?
ดูท่าที นายกฯ แล้วก็จะเห็นว่า ไม่ต้องการความรุนแรง ใครอยากจะด่าทอ
อะไร อีกล่ะคะ เอาเลย ตามสบาย 
นายกฯหนุน ผบ.ทบ. วอนเร่งเจรจา เลี่ยงสงครามกลางเมือง ข่าวไทยรัฐออนไลน์
นายกฯหนุนแนวคิด "บิ๊กตู่" หันหน้าเจรจาเลี่ยงสงครามกลางเมือง ย้ำต้องมีประชาชนร่วมตัดสินใจ ขอ
"สุเทพ" เห็นแก่ประเทศชาติ ไม่ขัด "สมชัย" คนกลาง แต่เดินหน้าจัดการเลือกตั้ง วอน ผบ.ทบ.ดูแล
ความมั่นคงทุกพื้นที่การเลือกตั้ง ปัดขึ้นเหนือหนีปัญหา ขอหารือที่ปรึกษาก่อนตัดสินใจจะไปรับทราบ
ข้อกล่าวหาทุจริตจำนำข้าวหรือไม่...
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สถานีตำรวจภูธร จ.เชียงราย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ระบุว่า หากความขัดแย้งยังไม่ยุติ ไม่หันหน้าเจรจา
อาจทำให้เกิดสงครามกลางเมืองว่า เห็นด้วยและอยากให้เกิดการเจรจา อยากเห็นบ้านเมืองแก้ปัญหาด้วย
ความสงบ ไม่อยากเห็นความแตกแยกไปเรื่อยๆ จนนำไปสู่ความรุนแรง และสูญเสีย เพราะที่ผ่านมาเราเจ็บ
ปวดมามากแล้ว
"ส่วนที่ ผบ.ทบ.สั่งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ตรวจสอบความเคลื่อนไหวในพื้นที่ ต้องตรวจสอบทุกๆ ฝ่าย เพื่อไม่ให้
มีความรุนแรง อยากใช้โอกาสนี้ โดยเฉพาะ ผบ.ทบ.ในฐานะ ผอ.กอ.รมน. ได้ช่วยกันอำนวยความสะดวก
การเลือกตั้งทุกพื้นที่ มีความปลอดภัยด้วย"
เมื่อถามว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการเจรจาใดๆ กับรัฐบาล
นายกฯ กล่าวว่า ถ้านายสุเทพ เห็นแก่ประเทศก็มาพูดจากันเถอะ ตนไม่ได้ปฏิเสธการพูดคุย แต่อย่างไรก็ตาม
การพูดคุยนั้นต้องประกอบไปด้วยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะได้หันหน้าเข้าหากัน และสุดท้ายจะมีผลอย่างไร
ประชาชนต้องมีส่วนรับทราบถึงข้อตัดสินใจร่วมกัน ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่เราจะได้หลีกเลี่ยงความรุนแรง และนำ
ไปสู่การแก้ปัญหาอย่างสันติ
<
<
<
"อยากขอร้อง วิงวอนทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ดีกว่า เราไม่อยากให้ประเทศเราเจ็บปวดไปมากกว่านี้"
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีเสียงวิจารณ์ว่านายกฯไม่ค่อยสนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ แต่กลับมาลงพื้นที่เพื่อ
มาตรวจราชการ นายกฯกล่าวว่า ตนสนใจอยู่เสมอ วันนี้ที่มาลงพื้นที่ก็เพราะไม่ต้องการให้เกิดการปะทะ
กันระหว่างผู้ชุมนุม และรัฐบาล และเราอยากให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทำงาน อย่างที่เข้าใจกันว่า
กรณีคำสั่งศาลแพ่งต้องให้ทาง ศรส.ได้พิจารณาว่าวิธีการ หรือแนวทางที่จะดูแลควรเป็นอย่างไร จึง
อยากขอความเห็นใจตอนนี้ทำงานยากจริงๆ ถ้าจะอยู่กรุงเทพฯทำงานก็กลายเป็นการเผชิญหน้ากัน แม้ตน
มาทำงานต่างจังหวัด แต่ก็ติดตามการทำงานและข่าวสารต่างๆ ในกรุงเทพฯ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทุก
ฝ่ายมีหน้าที่รับผิดชอบ และหากทุกคนทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ก็เชื่อว่า จะไม่เกิดปัญหา
เมื่อถามว่า ได้รับรายงานหรือไม่ว่ามีกองกำลังไล่ล่าตัว นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่อยากเห็นเหตุการณ์อย่างนี้
ต้องขอให้ทุกคนต้องช่วยกันตรวจตราทุกๆ ฝ่าย เพื่อดูแลความสงบ
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวถึงการเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาทุจริตโครงการรับจำนำข้าว อันเป็น
เหตุนำไปสู่การถอดถอนออกจากตำแหน่ง ตามมาตรา 270 และมาตรา 178 รวมทั้งตามประมวลกฎหมายอาญา
157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 27 ก.พ.นี้ว่า ขอหารือกับทีมที่ปรึกษาและคณะทำงานก่อน ตอนนี้ยังไม่
ทราบว่าจะขอเลื่อนหรือไม่
http://www.thairath.co.th/content/pol/406291
นายก ฯ ไม่ต้องการให้มีการปะทะ ก็เลยไปตรวจราชการซะเลย ดีไหม?
ดูท่าที นายกฯ แล้วก็จะเห็นว่า ไม่ต้องการความรุนแรง ใครอยากจะด่าทอ
อะไร อีกล่ะคะ เอาเลย ตามสบาย