(เรื่องน่ารู้) 10 อันดับกลยุทธ์การลงทุน

กลยุทธ์การลงทุนถือว่ามีความสำคัญมากต่อการลงทุนไม่ว่าจะเป็นการลงทุนอะไรก็ตาม ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ล้วนแล้วก็มีกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่ากลยุทธ์ที่ใช้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะประสบความสำเร็จได้เหมือนกันทุกๆคน ไม่ว่าเราจะทำตามบุคคลที่ประสบความสำเร็จแต่ก็ยังพบว่าตัวเองยังไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด เนื่องจากปัจจัยแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน แน่นอนว่ากลยุทธ์การลงทุนเราจะต้องจำเป็นต้องตระหนักถึง 10 อันดับซึ่งมีดังนี้คือ










10.จัดการปัญหาชีวิตตัวเอง


ปัญหาชีวิตของเราถือเป็นอุปสรรคในการวางกลยุทธ์การลงทุน ที่จะทำให้เราเดินเกมไม่เป็นไปตามแบบแผน นี่ถือเป็นก้าวแรกๆที่เราจะต้องจัดการก่อนที่จะทำการวางกลยุทธ์ ปัญหาต่างๆเช่นปัญหาทางการเงิน ปัญหาครอบครัวนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรา จะต้องจัดการเคลียร์ปัญหาให้ได้อย่างน้อยส่วนหนึ่งและก็ค่อยๆจัดการแก้ไขไปเรื่อยๆ จนไม่มีอุปสรรคในการวางกลยุทธ์การลงทุน ทำให้เราเดินหน้าอย่างสง่างาม










9.ปรึกษาเกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุน


เราอย่าไปเขินอายในการขอคำปรึกษา เพราะการขอคำปรึกษาเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการวางกลยุทธ์การลงทุน เราอย่าพยายามคิดว่าที่ปรึกษาจะโฆษณาตลาดการลงทุนต่างๆนาๆ หรือคิดว่าพวกเขาพยายามจะเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ หากเราไม่มีความรู้การลงทุนเพียงพอจริงๆ เราก็จะต้องขอคำปรึกษาในเรื่องการวางกลยุทธ์การลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญได้เสมอ หากเรามีความชำนาญมากพอแล้ว เราก็สามารถวางกลยุทธ์ตามความเหมาะสมของตัวเองได้ ฉะนั้นเราอย่าไปฝืนความพยายามตัวเอง แล้วคุยกับผู้ให้คำปรึกษาเรื่องนั้นๆดู










8.อย่าใช้อีโก้มากเกินไป


อีโก้หรือความเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไปมักจะเป็นตัวทำลายกลยุทธ์การลงทุนซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะว่าผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าตัวเองเก่งกว่าใครในโลกหากเขามีการวางกลยุทธ์มาแล้ว เมื่อไรที่กลยุทธ์ที่เราใช้นั้นมันล้มเหลว ก็จะต้องทำให้เราสูญเสียความเชื่อมั่นอย่างมาก ทั้งเจอกับความกลัว ความสับสนต่างๆนาๆเกี่ยวกับการลงทุน ฉะนั้นเราจะต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับอารมณ์ให้สอดคล้องกับบรรยากาศภาวะการลงทุนในปัจจุบัน อย่าไปคิดว่าเรามีอีโก้แล้วจะมีดีทุกอย่าง










7.หาแนวทางการลงทุนตามความเหมาะสมของตัวเอง


เมื่อเราเห็นเพื่อนๆประสบความสำเร็จในแนวทางการลงทุนนั้นๆ จากนั้นเราก็ลองพยายามทำตามแนวทางแบบเพื่อนบ้าง ผลปรากฏว่าไม่ได้ทำให้เราประสบความสำเร็จแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องหาแนวทางการลงทุนตามความเหมาะสมของตัวเอง เช่นเราเห็นว่าการลงทุนแบบหุ้นคุณค่า (Vi) มันไม่เหมาะสำหรับเรา แต่แนวทางการเก็งกำไรมันเหมาะสมกับเรามากกว่า เราก็ต้องเลือกแนวทางการเก็งกำไรโดยไม่ต้องลังเลเลย ไม่ต้องไปกลัวว่าแนวทางที่เราใช้มันจะถูกผู้คนมองว่าไม่ดีแบบนั้นแบบนี้ หรือถูกเย้ยหยันว่าเก็งกำไรไม่ได้ทำให้เราร่ำรวยหรอก มีแต่เจ้งกับเจ้ง เราจะต้องยึดมั่นกับแนวทางของตัวเอง ไม่ใช่ยึดมั่นกับสิ่งที่คนอื่นพูดกันมา











6.ตรวจสอบสภาพตลาดหุ้นหรือตลาดอื่นๆ


ก่อนที่จะวางกลยุทธ์เราก็ต้องตรวจสอบตลาดก่อนที่จะทำการวางแผนอยู่เสมอ ซึ่งตลาดไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นหรือตลาดอะไรก็แล้วแต่ล้วนจะต้องตรวจสอบว่าทิศทางแนวโน้มตลาดเป็นอย่างไรบ้าง เศรษฐกิจภาพรวมเป็นอย่างไร หุ้นแต่ละตัวเป็นอย่างไร หากเราวางกลยุทธ์โดยไม่ตรวจสอบอะไรเลย ผลลัพธ์ก็จะออกมาตรงข้ามกับความคิดเราเสมอ สำคัญก็คือเราจะต้องวางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับตลาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่ใช่มองว่าอดีตมันเป็นยังไง มันก็ต้องเป็นแบบนั้น เพราะการลงทุนจะมีความไม่แน่นอนอยู่ในตัวมันเสมอ











5.จะต้องมีแผนการลงทุนระยะยาว


แผนการลงทุนระยะยาวผมไม่ได้หมายความว่าจะต้องถือครองหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นๆไปนานๆ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมหมายถึงการอยู่รอดกับการลงทุนให้ได้ในระยะยาว ไม่ว่าเราจะมีกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาวก็ต้องมีกลยุทธ์การเอาตัวรอดให้ได้ในระยะยาวเสมอ แนวทางการลงทุนแบบไหนก็ตามก็ต้องคำนึงถึงแบบแผนระยะยาวติดตัวไว้ อย่าคิดว่าจะอยู่รอดให้ได้นานก็ต้องลงทุนระยะยาวเท่านั้น คิดแบบนี้ผมว่าผู้คนส่วนใหญ่ก็คงประสบความสำเร็จกันถ้วนหน้าแล้ว แต่พวกเราก็เห็นกันอยู่ว่ามันไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องเสมอไป










4.เรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนไปเรื่อยๆ


การลงทุนไม่ใช่ว่าเรารู้เรื่องดีแล้ว ก็หยุดที่จะเรียนรู้เลย ก็เหมือนกับการเรียนรู้ทั่วๆไปที่เราจะต้องขวนขวายหาความรู้ไปเรื่อยๆ การลงทุนก็เหมือนกัน เพราะว่าการลงทุนจะมีนักลงทุนหน้าเก่า หน้าใหม่มาประลองยุทธ์ในการลงทุนเพื่อแย่งฉกฉวยเงินอีกฝ่ายหนึ่ง หากเราไม่รู้จักเรียนรู้เลย นักลงทุนที่มีฝีมือก็ฉกเงินลงทุนของเราไปสบายๆ พวกเขาเหล่านี้ล้วนเรียนรู้สะสมความรู้ไปเรื่อยๆ เพื่อมาฉกเงินคนที่อ่อนแอกว่าเสมอ ฉะนั้นหากเราไม่อยากตกเป็นเหยื่อ ก็จะต้องเรียนรู้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อย่าหยุดที่จะเรียนรู้เป็นอันขาด










3.จะต้องกล้าเผชิญกับความเสี่ยงเสมอ


เราอย่าไปพยายามวางกลยุทธ์ที่คิดว่าจะทำให้เรามีความเสี่ยงน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย เพราะยังไงเสียการลงทุนทุกๆครั้งที่เราเข้ามาลงทุนก็ต้องเจอกับความเสี่ยงที่เหมือนกันทุกคน ความเสี่ยงนั้นจะอยู่ที่ปัจจัยแต่ละคนมากกว่าเช่นเงินลงทุน หากใช้เงินลงทุนน้อยก็จะเสี่ยงน้อยกว่าคนอื่น หากใช้มากก็จะเสี่ยงมากกว่าคนอื่น มันจะอยู่ตรงนี้มากกว่า เราจะต้องยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนเสมอไม่ว่าเราจะเต็มใจรับมันหรือไม่ก็ตาม อย่าหลีกเลี่ยงความเสี่ยงเพราะมันไม่ได้ช่วยให้เราวางกลยุทธ์ดีขึ้นแต่อย่างใด ทั้งยังไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นแต่อย่างใด แต่มันอาจจะทำให้เราใช้ความเสี่ยงสูงมากขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวก็เป็นได้










2.จะต้องมีการปรับเปลี่ยนแบบแผนอยู่ตลอดเวลา


นี่ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในกลยุทธ์การลงทุน เพราะว่ากลยุทธ์ที่เราใช้ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขอยู่เสมอ ก็คล้ายๆกับเราปรับปรุงแก้ไขบ้านตัวเองให้น่าอยู่ขึ้น ปรับปรุงรถยนต์ให้เดินหน้าไปให้ได้เร็วขึ้น กลยุทธ์การลงทุนก็ไม่ต่างกัน ที่จะต้องตรวจสอบส่วนที่มันชำรุดแล้วก็ทำการต่อเติมอะไหล่ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนในปัจจุบัน แต่เมื่อไรที่แบบแผนนั้นมันใช้ไม่ได้ผลแล้ว เราไม่ต้องไปลังเลใจ ทำการเปลี่ยนแบบแผนทันที อย่าไปกลัวว่าการเปลี่ยนแบบแผนมันอาจจะทำให้เราแย่ลงกว่าเดิม อย่าไปคิดแบบนั้นเป็นอันขาด เพราะจะทำให้เราจมปลักอยู่กับแบบแผนเดิมๆจนเคยชิน











1.อย่าคาดหวังว่ากลยุทธ์ที่เราใช้จะออกมาสมบูรณ์ 100 %


อันดับหนึ่งนี้แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่พวกเราให้ความสำคัญมากที่สุดในการลงทุนก็คือ กลยุทธ์ที่เราวางเอาไว้นั้นจะออกมาตามที่เราได้คิดเอาไว้หรือเปล่า หลายคนมักจะให้ความคาดหวังกลยุทธ์ที่ตัวเองวางเอาไว้จนไม่มองสภาพแวดล้อมของตลาดภาพรวมว่าเป็นอย่างไร ด้วยเหตุนี้เราอย่าไปฟันธงว่าสิ่งที่เราได้วางแผนเอาไว้มันจะออกมาเป็นไปตามที่เราคิดเอาไว้ เพราะว่าหากเราคาดหวังมากเกินไป จะทำให้เรารู้สึกว่ากลยุทธ์ของเราคือทุกๆอย่างในชีวิตเรา หากล้มเหลวขึ้นมาก็เหมือนกับว่าชีวิตจะต้องดับสูญ หากสำเร็จก็ไม่ได้หมายความว่าเราประสบความสำเร็จสมบูรณ์ 100 % เพราะฉะนั้นการวางกลยุทธ์ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม เราอย่าไปคาดหวังกับกลยุทธ์มากเกินไป เราก็ค่อยๆเดินไปทีละก้าวแล้วก็ค่อยๆดูส่วนที่ผิดพลาด ส่วนที่สำเร็จ แล้วก็ทำการปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายคำตอบก็จะอยู่ที่ตัวเราเองว่าสิ่งได้ทำนั้นมันให้ผลดี ผลเสียอะไรกับเราบ้าง



ผู้เขียน Mr.lawrence10

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่