8 สิ่งเกี่ยวกับการทำงานที่เราควรรู้ตอนอายุ 22



บทความนี้เป็นของ Alexandra Levit จาก The Fast Track ที่ผมไปเจอมาครับ, อ่านแล้วรู้สึก

ว่าเป็นประโยชน์ดี ผมเลยแปลแล้วเอามาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันครับ

Alexandra เป็นผู้เขียนหนังสือ "They Don't Teach Corporate in College"

หรือชื่อไทยว่า "พวกเค้าไม่สอนเรื่องการทำงานในมหาวิทยาลัย" และเค้าก็ได้เรียนรู้อย่างมากในโลกการทำงานว่า

อะไรบ้างที่เวิร์คและอะไรบ้างที่ไม่เวิร์ค, และเค้าก็ได้สรุปออกมาเป็น 8 ข้อสั้นๆ

1. No one cares as much about your career as you : ไม่มีใครสนใจการพัฒนาตัวคุณมากกว่าตัวคุณเอง
ในขณะที่บริษัทหรือหัวหน้าของคุณอาจจะชอบและสนใจความสามารถของคุณอย่างมาก, แต่น้อยคนนักจะทุ่มเทพลังและเวลาในการพัฒนาตัวคุณเพราะไม่มีใครได้รับประโยชน์จากตรงนี้, เพราะฉะนั้นอย่าอยู่นิ่งเฉย, ทุ่มเท
เรียนรู้ให้มากที่สุดจากโอกาสและประสบการณ์ที่ได้รับ, และกระตุ้นตัวเองตลอดเวลาในการทำให้ความสามารถของคุณสดใหม่เสมอ (แต่ข้อนี้ผมว่าก็ขึ้นกับโอกาสด้วยแหละครับ, เพราะหัวหน้าของผมก็สอนผมตลอดเวลา)

2. Careers are peaks and valleys : เส้นทางการทำงานนั้นมีทั้งขึ้นและลง
ถึงแม้ว่าคุณจะยึดอยู่กับ Career Path เดียว (หมายถึง ถ้าทำงานสายไหน ก็อยู่สายนั้นยาวๆไปเลย), มันไม่มีสิ่งที่เรียกว่า "การไต่ไปยังจุดสูงสุดแล้วนั่งนิ่งอยู่บนนั้น", ชีวิตการทำงานนั้นมีขึ้นมีลงตลอดเวลา และเส้นทางการทำงานนั้นมันยาวมาก, ดังนั้นเราจึงต้องหาทางให้ได้ว่าทำยังไงถึงจะได้ทำงานในสายที่วางแผนไว้เพื่อที่จะเพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์ คอนเนคชั่น และคุณค่าให้กับตัวเอง, การล้มเหลว หรือพลาดนานๆครั้งเป็นเรื่องปรกติ แต่เราต้องฟื้นตัวเองให้ได้ และยิ่งเร็วยิ่งดี

3. Plan now for what you want later : วางแผนให้กับสิ่งที่คุณต้องการในการเลือกเส้นทางการทำงานนั้น มันสำคัญที่เราต้องคิดว่าเราต้องการอะไรกับชีวิตให้อีกหลายปีข้างหน้า, เช่น หากคุณเป็นนักเรียนกฎหมาย อายุ 25 แต่คุณอยากเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ดี มันคงไม่ใช่ไอเดียที่ดีนักที่จะไปเป็น ผู้ช่วยผู้บริหารในบริษัทใหญ่ๆ เพราะคุณจะไม่มีเวลาแน่ๆ, อาชีพที่ยืดหยุ่นไม่ได้ถูกสร้างได้ภายในข้ามคืน, เราจะต้องวางแผนการทำงานให้ดี

4. Don't be your own slave-driver : อย่าใช้งานตัวเองหนัก
การทำงาน 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ตั้งแต่เริ่มทำงานแรกๆอาจจะดูมีประสิทธิภาพและได้อะไรเยอะดี, แต่ไม่นานนักคุณจะเริ่มหมดไฟ และนั่นไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีนัก, แทนที่จะเต็มที่กับทุกๆอย่างกับทุกๆคน ให้เราโฟกัสไปที่สิ่งที่สำคัญจริงๆพอ ทุ่มกับมันอย่างเต็มที่แต่อย่าหักโหม ให้คนอื่นช่วยเราบ้างก็ได้ (ซึ่งเป็นเรื่องจริงนะครับ, ผมและเพื่อนรอบตัวตอนจบใหม่ๆนี่ไฟแรงกันมาก อยากทำทุกอย่างมันบนโลกใบนี้, แต่ในความเป็นจริงมันมีอะไรให้ทำเยอะและใหญ่มาก จนเราทำมันได้ไม่หมดหรอก, เลือกหน่อยก็ดี และให้เวลาตัวเองพักบ้าง)

5. You won't be everyone best friend : คุณเป็นเพื่อนสนิทกับทุกคนไม่ได้หรอก
ไม่ว่าเราจะทำตัวดีและน่าคบแค่ไหน, สุดท้ายมันก็ต้องมีบ้างที่บางคนไม่ชอบเรา, บางคนอาจจะถึงขึ้นป่าวประกาศ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่เจ็บมาก, แต่เรื่องการไม่ถูกกับบางคนเป็นเรื่องปรกติในชีวิตการทำงาน, อย่าให้มันมีผลต่อตัวเราและความมั่นในตัวเอง, แก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น และใช้ชีวิตกับคนที่เห็นคุณสำคัญและรักคุณ

6. Nothing shows what you're made of better than a crisis : ไม่มีโอกาสไหนโชว์ความสามารถของคุณได้มากกว่าตอนเกิดปัญหา
เราส่วนใหญ่ใช้ชีวิตหลีกเลี่ยงปัญหา, แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีโอกาสไหนที่จะโชว์ฝีมือ เติบโต และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มากกว่าตอบเจอปัญหาอีกแล้ว, คราวหน้าหากเกิดปัญหาขึ้น ให้ลองดูทัศนคติของตัวเองดีๆ, ในขณะที่คนอื่นกำลังโหวกเหวกโวยวาย ให้เราอยู่นิ่งๆและหาทางแก้ปัญหาดีกว่า, แล้วทุกคนจะจำความนิ่งสงบของคุณได้

7. You can learn from any job : เราสามารถเรียนรู้จากงานไหนก็ได้ทั้งนั้น
มันมีงานน้อยมากที่ไม่ได้ให้คุณค่าหรือความรู้แก่เรา, แม้แต่งานแคชเชียร์ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตยังสอนให้เรารู้จัก การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า การบริหารเวลา การทำงานหลายๆอย่างพร้อมๆกัน และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า, แทนที่จะบ่นว่างานอะไรก็ไม่รู้ ไม่เหมาะสมกับเราเลย, ให้เรามองว่าเราจะได้อะไรจากงานของเราบ้างดีกว่า

8. Know when to collaborate and when to go solo : รู้ว่าตอนไหนควรทำงานเป็นทีม ตอนไหนควรลุยเดี่ยว
เราทุกคนล้วนให้ความสำคัญกับคำว่า Teamwork ในวัฒนธรรมการทำงานของพวกเรา, และมันดูเหมือนจะแทรกอยู่ในทุกๆส่วนของโลกธุรกิจ, แต่ยังไงก็ตาม เราควรจะรู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะต้องรวมพลังกับทุกคนในทีมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด และเมื่อไหร่เราควรจะลุยเดี่ยวเพื่อความรวดเร็วและความเหมาะสมของงาน, ไม่ใช่ทุกงานจำเป็นต้องมีทุกคนในนั้น, บางงานทำคนเดียวอาจจะดีกว่าและเสร็จเร็วกว่าด้วยซ้ำ (เป็นเรื่องจริงเหมือนกันนะครับ, ตั้งแต่ตอนเรียนยันตอนทำงานเรามักจะโดนสอนว่า คุณต้องทำงานเป็นทีมได้ จนเราอาจจะเข้าใจไปว่า การทำงานเป็นทีมสำคัญที่สุด, แต่จริงๆแล้วการลุยเดี่ยวเป็นก็สำคัญไม่แพ้กัน)

แต่สุดท้ายนี้ อย่าลืมนะครับ ว่านี่ก็เป็นแนวทางหนึ่งเท่านั้น, บางทีชีวิตการทำงานของเราก็มีปัจจัยอื่นๆมากมาย, ทั้ง 8 ข้อของ Alexandra นี้อาจจะไม่เหมาะกับสถานการณ์ของเราก็ได้, สำคัญคือเราจับหลักของมันอะไรได้บ้าง แล้วจะเอามาปรับใช้กับตัวเรายังไง

ลองสรุปออกมาเป็นแนวทางของตัวเอง แล้วเอามาพิชิตการทำงานของเรากันนะครับ

พันธิตร

Twitter : @PantitMarketing
www.twitter.com/PantitMarketing

Facebook : พันธิตรพิชิตการตลาด
www.facebook.com/pantitmarketing

Credit : http://www.businessinsider.com/what-i-wish-i-knew-about-business-at-22-2014-2

*** เห็นว่ามีประโยชน์ดี เลยนำมาแบ่งปันกันค่ะ เครดิตตามด้านบนเลยนะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่