ได้เล่นบทยักษ์ต่อ แต่ถูกยึด “กระบอง”
คือภาพสรุปกับภาวการณ์ของรัฐบาล ภายหลังศาลแพ่งมีคำสั่งไม่เพิกถอน
พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามที่นายถาวร เสนเนียม แกนนำ
กปปส.เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และ รมว.กลาโหม
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะ ผอ.ศรส. และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.
เพราะกฎหมายพิเศษเป็นอำนาจฝ่ายบริหารในการใช้ดุลพินิจแก้ไข
สถานการณ์ที่มีความร้ายแรง
แต่มีคำพิพากษากำหนดเงื่อนไขข้อห้ามจำเลยที่ 1-3 ในการออกประกาศข้อกำหนดตาม
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สรุปคือให้ความคุ้มครองการชุมนุมตามสิทธิรัฐธรรมนูญ
“ห้ามปราบม็อบ”
ถึงเวลานี้ สถานการณ์ของ “นายกฯปู” และทีมงานรัฐบาล ในการ “กอดอำนาจรักษาการ”
ไว้ เริ่มไม่สู้ดี หลังจากที่ทำท่าเปิดเกมรุกหนัก ศรส.สั่งระดมกำลังตำรวจปฏิบัติการขอ
คืนพื้นที่จากม็อบ กปปส.
“คืนความสงบ” จนบาดเจ็บกันไปเรือนร้อย เสียชีวิตไปอีก 5 ราย
มีข้อสรุปหลังเหตุการณ์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องเลือดตกยางออกไปตามๆกัน
เห็นตรงเรื่อง “มือที่สาม”
มี “กองกำลังไม่ทราบฝ่าย” เข้ามาเกี่ยวข้อง
แต่ในขณะเดียวกัน ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ ไล่ตี เล็งยิงผู้ชุมนุม
ก็เผยแพร่ทางสื่อหลัก เกลื่อนโลกออนไลน์ เผยแพร่ทางสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก
เต็มไปหมดเหมือนกัน
“ทีมนิรนาม” โผล่ “เบรกเกมเดือด” ทำ “สารวัตรเหลิม” มึนตึ้บ
ไม่เท่านั้น คล้อยหลังแผนปราบม็อบไม่นาน มาเจอคำพิพากษาสั่งยึดกระบอง
ซ้ำเข้าไปอีก เรียกว่าเวลานี้ทำเอาทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม และ “นายกฯปู” ชักไปไม่
เป็นเหมือนกัน
ตามรูปการณ์คงเป็นอย่าง ร.ต.อ.เฉลิมแพลมหาช่องยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล
ตื๊อขอ “กระบอง” คืนกับสถานการณ์โดยรวมศึกชิงบ้านชิงเมืองเขม็งเกลียว
สุดขีด จนคาดกันว่าน่าจะใกล้ไคลแม็กซ์ ใกล้ “ปิดเกม” กันเร็วๆนี้
เพราะอีกทางหนึ่งที่กลายเป็น “จุดตาย” อย่างโครงการรับจำนำข้าว นอกจาก
แก้ไม่ตกกับปัญหา “ถังแตก” ขาดเงินไป “คืนหนี้” ที่ค้างชาวนา จะซิกแซ็กยืม
ธนาคารออมสินมาให้ ธ.ก.ส.เฉ่งหนี้ ก็โดนขวาง
เอฟเฟกต์แรง คนแห่ถอนเงิน 6-7 หมื่นล้านบาทกันไปแล้ว
ล่าสุดกลุ่มชาวนาจากจังหวัดอุทัยธานีเรือนหมื่นประชิดเมืองกรุง เคลื่อนขบวน
รถอีแต๊ก-อีแต๋น เข้ามาสมทบทวงเงินรัฐบาลกับม็อบชาวนาใน กทม.
สารพัดโรคแทรก อาการป่วยรุนแรง “นายกฯปู” กระอัก
โดยเฉพาะที่เชื้อแรงเข้ามาผสมก็จากปม “โกงจำนำข้าว” ดีเดย์ 27 ก.พ.นี้
ป.ป.ช.เรียก “นายกฯปู” ไปรับทราบข้อกล่าวหาในประเด็นปล่อยให้มีการ
ทุจริตในการขายข้าวจีทูจีกับรัฐบาลจีน ที่ไม่เกิดขึ้นจริง
ส่ออาการทรุดชนิด “นายกฯปู” ต้องออกมาหาภูมิคุ้มกัน ล่าสุดโพสต์
ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ออกตัวว่า ดูเพียงระดับ
“นโยบาย” ไม่ได้ลงไประดับปฏิบัติในโครงการจำนำข้าว
และในฐานะนายกฯย่อมควรที่จะได้รับการอำนวยความยุติธรรม ทั้งการรับฟัง
พยาน หลักฐานในเรื่องที่มีการกล่าวหาอย่างเพียงพอ และแม้กฎหมายจะระบุ
ให้ ป.ป.ช.ดำเนินการโดยเร็ว
แต่ก็ไม่ควรเร่งรีบเร่งร้อน เพื่อความยุติธรรม
ติดเบรกเกมเร็วของ ป.ป.ช.ทันควัน
ในสถานการณ์ที่ “นายกฯปู” และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
อ่านออกถึง “สัญญาณอันตราย”
ทั้งม็อบ กปปส.ยื้อยาว โดย ศรส.ไร้กระบอง ได้แค่แยกเขี้ยวใส่
ขณะที่ปมจำนำข้าว ถูกล็อกเป้า
ปมโกงกลายเป็น “จุดตายรัฐบาล”
และเพิ่มตัวเร้าเกม “ม็อบชาวนา” แรงขึ้นเรื่อยๆ
สุดท้ายก็น่าจะถูกบีบเข้าสู่โต๊ะ “เจรจา” กับเงื่อนที่ไม่อาจปฏิเสธ ใน
“สูตร” ที่ยอมรับได้ทุกฝ่าย
“สูตร” ที่ยังยึดอยู่ในระบบ กฎเกณฑ์ กติกา และรัฐธรรมนูญ
เรียกว่าใกล้จะถึงจุดที่ “ทักษิณ” และน้องสาว “ต้องเลือก”
จะยอมบาดเจ็บ หรือถูกไล่ล้างจนราพณาสูร.
ทีมข่าวการเมือง
http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/405010
ใครจะถุกบีบให้สู่โต๊ะ เจรจา ? รัฐบาลพร้อมเจรจาตลอดในกรอบของกฎหมาย
คนที่ไม่ยอมเจรจา คือม็อบ มิใช่หรือ ?
หาก นายกฯยิ่งลักษณ์ จะถูกไล่ลา จนราพณาสูร นั่นหมายถึงต้องฉีกรธน.ไปก่อน
มิฉะนั้น ทำไม่ได้แน่นอน
บีบสู่จุดที่ "ต้องเลือก" วิเคราะห์ ไทยรัฐออนไลน์
คือภาพสรุปกับภาวการณ์ของรัฐบาล ภายหลังศาลแพ่งมีคำสั่งไม่เพิกถอน
พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามที่นายถาวร เสนเนียม แกนนำ
กปปส.เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และ รมว.กลาโหม
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะ ผอ.ศรส. และ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.
เพราะกฎหมายพิเศษเป็นอำนาจฝ่ายบริหารในการใช้ดุลพินิจแก้ไข
สถานการณ์ที่มีความร้ายแรง
แต่มีคำพิพากษากำหนดเงื่อนไขข้อห้ามจำเลยที่ 1-3 ในการออกประกาศข้อกำหนดตาม
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สรุปคือให้ความคุ้มครองการชุมนุมตามสิทธิรัฐธรรมนูญ
“ห้ามปราบม็อบ”
ถึงเวลานี้ สถานการณ์ของ “นายกฯปู” และทีมงานรัฐบาล ในการ “กอดอำนาจรักษาการ”
ไว้ เริ่มไม่สู้ดี หลังจากที่ทำท่าเปิดเกมรุกหนัก ศรส.สั่งระดมกำลังตำรวจปฏิบัติการขอ
คืนพื้นที่จากม็อบ กปปส.
“คืนความสงบ” จนบาดเจ็บกันไปเรือนร้อย เสียชีวิตไปอีก 5 ราย
มีข้อสรุปหลังเหตุการณ์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องเลือดตกยางออกไปตามๆกัน
เห็นตรงเรื่อง “มือที่สาม”
มี “กองกำลังไม่ทราบฝ่าย” เข้ามาเกี่ยวข้อง
แต่ในขณะเดียวกัน ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ ไล่ตี เล็งยิงผู้ชุมนุม
ก็เผยแพร่ทางสื่อหลัก เกลื่อนโลกออนไลน์ เผยแพร่ทางสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ก
เต็มไปหมดเหมือนกัน
“ทีมนิรนาม” โผล่ “เบรกเกมเดือด” ทำ “สารวัตรเหลิม” มึนตึ้บ
ไม่เท่านั้น คล้อยหลังแผนปราบม็อบไม่นาน มาเจอคำพิพากษาสั่งยึดกระบอง
ซ้ำเข้าไปอีก เรียกว่าเวลานี้ทำเอาทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม และ “นายกฯปู” ชักไปไม่
เป็นเหมือนกัน
ตามรูปการณ์คงเป็นอย่าง ร.ต.อ.เฉลิมแพลมหาช่องยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล
ตื๊อขอ “กระบอง” คืนกับสถานการณ์โดยรวมศึกชิงบ้านชิงเมืองเขม็งเกลียว
สุดขีด จนคาดกันว่าน่าจะใกล้ไคลแม็กซ์ ใกล้ “ปิดเกม” กันเร็วๆนี้
เพราะอีกทางหนึ่งที่กลายเป็น “จุดตาย” อย่างโครงการรับจำนำข้าว นอกจาก
แก้ไม่ตกกับปัญหา “ถังแตก” ขาดเงินไป “คืนหนี้” ที่ค้างชาวนา จะซิกแซ็กยืม
ธนาคารออมสินมาให้ ธ.ก.ส.เฉ่งหนี้ ก็โดนขวาง
เอฟเฟกต์แรง คนแห่ถอนเงิน 6-7 หมื่นล้านบาทกันไปแล้ว
ล่าสุดกลุ่มชาวนาจากจังหวัดอุทัยธานีเรือนหมื่นประชิดเมืองกรุง เคลื่อนขบวน
รถอีแต๊ก-อีแต๋น เข้ามาสมทบทวงเงินรัฐบาลกับม็อบชาวนาใน กทม.
สารพัดโรคแทรก อาการป่วยรุนแรง “นายกฯปู” กระอัก
โดยเฉพาะที่เชื้อแรงเข้ามาผสมก็จากปม “โกงจำนำข้าว” ดีเดย์ 27 ก.พ.นี้
ป.ป.ช.เรียก “นายกฯปู” ไปรับทราบข้อกล่าวหาในประเด็นปล่อยให้มีการ
ทุจริตในการขายข้าวจีทูจีกับรัฐบาลจีน ที่ไม่เกิดขึ้นจริง
ส่ออาการทรุดชนิด “นายกฯปู” ต้องออกมาหาภูมิคุ้มกัน ล่าสุดโพสต์
ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ออกตัวว่า ดูเพียงระดับ
“นโยบาย” ไม่ได้ลงไประดับปฏิบัติในโครงการจำนำข้าว
และในฐานะนายกฯย่อมควรที่จะได้รับการอำนวยความยุติธรรม ทั้งการรับฟัง
พยาน หลักฐานในเรื่องที่มีการกล่าวหาอย่างเพียงพอ และแม้กฎหมายจะระบุ
ให้ ป.ป.ช.ดำเนินการโดยเร็ว
แต่ก็ไม่ควรเร่งรีบเร่งร้อน เพื่อความยุติธรรม
ติดเบรกเกมเร็วของ ป.ป.ช.ทันควัน
ในสถานการณ์ที่ “นายกฯปู” และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
อ่านออกถึง “สัญญาณอันตราย”
ทั้งม็อบ กปปส.ยื้อยาว โดย ศรส.ไร้กระบอง ได้แค่แยกเขี้ยวใส่
ขณะที่ปมจำนำข้าว ถูกล็อกเป้า
ปมโกงกลายเป็น “จุดตายรัฐบาล”
และเพิ่มตัวเร้าเกม “ม็อบชาวนา” แรงขึ้นเรื่อยๆ
สุดท้ายก็น่าจะถูกบีบเข้าสู่โต๊ะ “เจรจา” กับเงื่อนที่ไม่อาจปฏิเสธ ใน
“สูตร” ที่ยอมรับได้ทุกฝ่าย
“สูตร” ที่ยังยึดอยู่ในระบบ กฎเกณฑ์ กติกา และรัฐธรรมนูญ
เรียกว่าใกล้จะถึงจุดที่ “ทักษิณ” และน้องสาว “ต้องเลือก”
จะยอมบาดเจ็บ หรือถูกไล่ล้างจนราพณาสูร.
ทีมข่าวการเมือง
http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/405010
ใครจะถุกบีบให้สู่โต๊ะ เจรจา ? รัฐบาลพร้อมเจรจาตลอดในกรอบของกฎหมาย
คนที่ไม่ยอมเจรจา คือม็อบ มิใช่หรือ ?
หาก นายกฯยิ่งลักษณ์ จะถูกไล่ลา จนราพณาสูร นั่นหมายถึงต้องฉีกรธน.ไปก่อน
มิฉะนั้น ทำไม่ได้แน่นอน