กสทช. เชิญผู้ชนะการประมูลทีวีดิจิตอลประเภทบริการธุรกิจทั้ง 24 ช่อง รับฟังการชี้แจงรายละเอียดการเช่าโครงข่าย การจ่ายเงินงวดแรก และขั้นตอนก่อนให้ใบอนุญาต...
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายเจษฎา พรหมจาต รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ต้องการความชัดเจนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เกี่ยวกับการให้บริการโครงข่าย โดยตอนแรกระบุว่าจะให้เจ้าของโครงข่ายดำเนินกิจการเอง แต่ล่าสุด กสทช. กลับจำกัดที่ตั้ง ซึ่งมองว่าไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก ซึ่ง กสทช.ควรดูกรอบอำนาจ ความเหมาะสม และผลกระทบที่ตามมาด้วย
ด้านหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือมัสต์แครี่ ที่ต้องครอบคลุมการให้บริการในช่องทีวีดาวเทียม แต่ทีวีดิจิตอลเป็นการประมูล ไม่ใช่การขออนุญาตแบบทีวีดาวเทียม ซึ่งตามเงื่อนไขการขยายพื้นที่ให้บริการต้องเป็นไปตามที่กำหนด เหตุใดต้องนำไปเข้ากฎมัสต์แครี่ด้วย นอกจากนี้ หมายเลขช่องที่เลือกด้วยการประมูล แต่เมื่อเผยแพร่ผ่านดาวเทียมกลับต้องเพิ่มขึ้น 10 ช่อง และเรื่องเรตติ้ง ที่ กสทช.ควรเข้ามาช่วย แต่จะต้องดูเรื่องการรับชมของประชาชนในการรับชมและคุณภาพเนื้อหารายการด้วย
นายโชกุล ศกุณต์ไชย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทยทีวี จำกัด (ทีวีพูล) ยอมรับว่า ยังกังวลเรื่องการจัดเรตติ้ง ซึ่ง กสทช. ควรจะเป็นคนกลางดำเนินการให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะว่าการออกอากาศทีวีดิจิตอลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว อีกทั้งมีรายการต่างๆ เข้ามามากมาย ซึ่งสวนทางกับเรตติ้งที่ยังไม่มีความพร้อม หรืออาจให้เอกชนเข้ามาดำเนินการ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กสทช. โดยมองว่า บริษัท เนลสัน มีความน่าเชื่อถือ และเป็นสถาบันที่หลายประเทศยอมรับ โดยคาดว่าจะพร้อมออกอากาศในวันที่ 1 เม.ย.นี้
นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เสนอให้ปรับกฎมัสต์แครี่ เพื่อให้หมายเลขช่องทีวีดิจิตอลตรงกันหมดไม่ว่าออกอากาศทางใด โดยจัดเรียงช่องใหม่ ให้ทีวีสาธารณะ 12 ช่อง ที่ยังไม่ได้ออกอากาศ มีเลขช่องต่อจากช่องที่ได้ประมูลไปแล้ว โดยเริ่มที่ช่อง 37 เพื่อป้องกันความสับสน
นายปรีย์มน ปิ่นสกุล หัวหน้าปฏิบัติการด้านการเงิน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ต้องการความชัดเจนเรื่องเรตติ้ง ซึ่งมีผลต่อการโฆษณา เพราะทีวีดิจิตอลกำลังจะออกอากาศเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ยังกังวลเรื่องการออกกฎของมัสต์แครี่ที่ยังไม่มีความแน่นอน แต่เชื่อว่าผู้ชมจะจดจำเนื้อหาในการนำเสนอมากกว่าหมายเลขช่อง
นายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด กล่าวว่า ยังมีข้อสงสัยว่าอายุใบอนุญาต 15 ปี จะเริ่มนับวันไหน ซึ่งยังไม่มีข้อยุติ ส่วนการวัดเรตติ้งนั้นควรวัดจากการที่ประชาชนใช้คูปองซื้อเซตท็อปบ็อกซ์ เพราะจะสะท้อนตัวอย่างของผู้รับชมทีวีดิจิตอลได้ดีกว่าการวัดผ่านเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม
ด้าน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ยืนยันว่า อยู่ระหว่างกำหนดแนวทางการดูแลเรตติ้ง ซึ่งจะดำเนินการคู่ขนานไปกับการเตรียมความพร้อมก่อนให้ใบอนุญาต ส่วนการเปิดให้เอกชนเข้ามาจัดเรตติ้งนั้น จะเป็นการเปิดเสรี และจะไม่มีกำหนดให้รายใดรายหนึ่งเข้ามาดำเนินการเพียงรายเดียว
ส่วนเรื่องมัสต์แครี่ จะเป็นไปตามที่ประกาศไว้ แต่จะกลับไปพิจารณาเรื่องเลขช่องตามที่ผู้ประกอบการเสนอมา และจะเชิญผู้ประกอบการเข้ามาหารืออีกครั้งในขั้นตอน และกฎกติกาก่อนการขอรับใบอนุญาตภายในเดือน ก.พ.นี้.
ที่มา ไทยรัฐ
ผู้ชนะประมูลทีวีดิจิตอล จี้'กสทช.'เร่งสร้างความชัดเจนดูแลเรตติ้ง
เมื่อวันที่ 7 ก.พ. นายเจษฎา พรหมจาต รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ต้องการความชัดเจนจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เกี่ยวกับการให้บริการโครงข่าย โดยตอนแรกระบุว่าจะให้เจ้าของโครงข่ายดำเนินกิจการเอง แต่ล่าสุด กสทช. กลับจำกัดที่ตั้ง ซึ่งมองว่าไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก ซึ่ง กสทช.ควรดูกรอบอำนาจ ความเหมาะสม และผลกระทบที่ตามมาด้วย
ด้านหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือมัสต์แครี่ ที่ต้องครอบคลุมการให้บริการในช่องทีวีดาวเทียม แต่ทีวีดิจิตอลเป็นการประมูล ไม่ใช่การขออนุญาตแบบทีวีดาวเทียม ซึ่งตามเงื่อนไขการขยายพื้นที่ให้บริการต้องเป็นไปตามที่กำหนด เหตุใดต้องนำไปเข้ากฎมัสต์แครี่ด้วย นอกจากนี้ หมายเลขช่องที่เลือกด้วยการประมูล แต่เมื่อเผยแพร่ผ่านดาวเทียมกลับต้องเพิ่มขึ้น 10 ช่อง และเรื่องเรตติ้ง ที่ กสทช.ควรเข้ามาช่วย แต่จะต้องดูเรื่องการรับชมของประชาชนในการรับชมและคุณภาพเนื้อหารายการด้วย
นายโชกุล ศกุณต์ไชย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทยทีวี จำกัด (ทีวีพูล) ยอมรับว่า ยังกังวลเรื่องการจัดเรตติ้ง ซึ่ง กสทช. ควรจะเป็นคนกลางดำเนินการให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะว่าการออกอากาศทีวีดิจิตอลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว อีกทั้งมีรายการต่างๆ เข้ามามากมาย ซึ่งสวนทางกับเรตติ้งที่ยังไม่มีความพร้อม หรืออาจให้เอกชนเข้ามาดำเนินการ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ กสทช. โดยมองว่า บริษัท เนลสัน มีความน่าเชื่อถือ และเป็นสถาบันที่หลายประเทศยอมรับ โดยคาดว่าจะพร้อมออกอากาศในวันที่ 1 เม.ย.นี้
นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เสนอให้ปรับกฎมัสต์แครี่ เพื่อให้หมายเลขช่องทีวีดิจิตอลตรงกันหมดไม่ว่าออกอากาศทางใด โดยจัดเรียงช่องใหม่ ให้ทีวีสาธารณะ 12 ช่อง ที่ยังไม่ได้ออกอากาศ มีเลขช่องต่อจากช่องที่ได้ประมูลไปแล้ว โดยเริ่มที่ช่อง 37 เพื่อป้องกันความสับสน
นายปรีย์มน ปิ่นสกุล หัวหน้าปฏิบัติการด้านการเงิน บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ต้องการความชัดเจนเรื่องเรตติ้ง ซึ่งมีผลต่อการโฆษณา เพราะทีวีดิจิตอลกำลังจะออกอากาศเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ยังกังวลเรื่องการออกกฎของมัสต์แครี่ที่ยังไม่มีความแน่นอน แต่เชื่อว่าผู้ชมจะจดจำเนื้อหาในการนำเสนอมากกว่าหมายเลขช่อง
นายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด กล่าวว่า ยังมีข้อสงสัยว่าอายุใบอนุญาต 15 ปี จะเริ่มนับวันไหน ซึ่งยังไม่มีข้อยุติ ส่วนการวัดเรตติ้งนั้นควรวัดจากการที่ประชาชนใช้คูปองซื้อเซตท็อปบ็อกซ์ เพราะจะสะท้อนตัวอย่างของผู้รับชมทีวีดิจิตอลได้ดีกว่าการวัดผ่านเคเบิลทีวี และทีวีดาวเทียม
ด้าน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ยืนยันว่า อยู่ระหว่างกำหนดแนวทางการดูแลเรตติ้ง ซึ่งจะดำเนินการคู่ขนานไปกับการเตรียมความพร้อมก่อนให้ใบอนุญาต ส่วนการเปิดให้เอกชนเข้ามาจัดเรตติ้งนั้น จะเป็นการเปิดเสรี และจะไม่มีกำหนดให้รายใดรายหนึ่งเข้ามาดำเนินการเพียงรายเดียว
ส่วนเรื่องมัสต์แครี่ จะเป็นไปตามที่ประกาศไว้ แต่จะกลับไปพิจารณาเรื่องเลขช่องตามที่ผู้ประกอบการเสนอมา และจะเชิญผู้ประกอบการเข้ามาหารืออีกครั้งในขั้นตอน และกฎกติกาก่อนการขอรับใบอนุญาตภายในเดือน ก.พ.นี้.
ที่มา ไทยรัฐ