ขณะนั้นอยู่ปี 2
โดยเรื่องมีอยู่ว่า...
ช่วงเปิดเทอมขึ้นปี 2 เป็นช่วงที่ผมทำตัวลั้นลาผยองเดช ทำกิจกรรมอย่างบ้าคลั่ง ทั้งที่ความจริงผมไม่ได้อยากบ้าทำกิจกรรมมากขนาดนั้นเต็มร้อยจริง ๆ แต่มันมีสาเหตุที่มาสองสาเหตุ
หนึ่งคือ..
ผมเพิ่งได้คัดให้อยุ่หอในต่อ การได้อยู่หอในต่อไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับนักศึกษาที่นี่ (โดยเฉพาะนักศึกษาคณะนี้) ก็ใครจะไม่อยากล่ะ จ่ายไม่ถึงพันตอนต้นเทอม อยู่ยาว 1 เทอมกับรูมเมท 3 คน น้ำฟรีไฟฟรีเสียบเปิดใช้ไม่อั้น มีทีวียูบีซี 24 ชม. หนัง เพลง บอล การ์ตูนพร้อม แถมอยู่ไกล้โรงอาหาร ข้าวจานละ 10 บาท
และเมื่อได้รับเลือกให้อยู่หอแล้ว ก็ทำหน้าที่ให้เค้าเต็มที่ ช่วงนั้นก็จะเห็นผมออกงานหอบ่อย ๆ เช่นวาดป้ายต้อนรับน้องใหม่เข้าหอ ร้องรำทำเพลง รับน้องหอเลอะ ๆ หนุก ๆ เบา ๆ สกัดน้องหล่อ ๆ และแกล้งน้องที่เป็นตุ๊ด
สองคือ
ผมมีอีกกิจกรรมคือ กิจกรรมชมรม ซึ่งไม่ได้ทำเพราะติดใจเสน่ห์อะไรของชาวชมรม แต่เพราะช่วงทำโปรเจกต์ใหญ่ประจำเทอม ผมจะมาสิงอยุ่ที่ชมรมเพราะมันกว้างดี เหมาะแก่การยึดทำเป็นสตูดิโอ (กับเหตุผลเดิม ๆ น้ำไฟฟรี ทีวีเตียงนอนพร้อม)
และหน้าที่ชาวชมรมหน้าที่หนึ่ง ก็คือการเฝ้าร้านขายของของชมรม
ที่หอมีรับน้องเข้าหอใช่มะ น้อง ๆ มันจะเข้าหอมันก็ต้องซื้อของกินของใช้เข้าไปใช่มะ มหาลัยก็เลยเปิดทางให้ชมรมต่าง ๆ ตั้งเต้นท์ขายของมันที่สนามตะกร้อมันซะเลย หน้าที่ของสมาชิกชมรมคือมาช่วยขายของ
ร้านขนาดไม่ใหญ่มาก สมาชิกชมรมมาช่วยขายของกันเป็นสิบยี่สิบคน ล้นออกมาเกะกะหน้าร้านชมรมอื่น ๆ (ที่ไม่กล้าหือหาอะไร เพราะชมรมเรามีแต่ผู้ชายหน้าดุ ๆ )
เอาเป็นว่า ช่วงเปิดเทอมรับน้องของพี่หม่ออย่างผม เป็นช่วงที่ลั๊นลาบ้าคลั่งจริงจังมาก กลางวันไปเรียน ตอนเย็นจะมาขลุกอยู่ลานหน้าหอ ตอนคำ ๆ เฝ้าเต๊นขายของชมรม ตกดึกก็นั่งดูต้นทางให้สมาชิกชมรม เล่นน้ำเต้าปูปลากันในเต็นท์ หรือไม่ก็ไปร้านคอม
...เฮ่อ กว่าจะมาถึงเรื่องความรัก..
ยัง ยังไม่ถึงดี แต่เกือบแล้วแหละ
...
ผมชอบมาเล่นคอม เช่าคอมเปิดเน็ท ดูข่าว ดูการ์ตูน ดูรูปโป๊ และ.....
.
.
"CHAT"
ใช่แล้ว สุดยอดนวัตกรรมจีบหญิงสำหรับคนหน้าง่อยใจปลาซิวอย่างเรา ไม่มีอะไรสว่างวาบดุจแฟลชแอลอีดีร้อยยี่สิบวัตต์ได้เทียบเท่า...
.
.
"PIRCH"
ผมสนุกกับเพิ๊ดมากขนาดต้องเล่นเกือบทุกวัน วันละครึ่งชั่วโมงขึ้นไป จุดประสงค์ของการเล่น ก็ตรง ๆ เลย .... หาหญิง
ด้วยความอับจนเสน่ห์อย่างมหากาฬ บวกกับประสบการณ์ปี 1 ในมหาลัยที่ไม่เคยมีโอกาสพบปะสาวไดที่ใหนเลยตลอด 1 ปี ได้การจะทำตัวเน่าเฝ้าคณะรอให้สาวมาจีบก็คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ไอ้การจะออกไปจีบหญิงตามสถานที่ต่าง ๆ ก็ทำไม่เป็น บวกโอกาสที่น้อยนิดสำหรับเด็กหอใน และที่สำคัญ สำคัญมาก มากที่สุด คือความเป็นคนขี้อายเรื่องหญิงมาก ๆ แต่ดันมีเพื่อนหน้าตาดีกว่าอย่างโจ้ ซึ่งขี้อายพอกัน ฉะนั้นเวลาไปใหนมาใหนกัน โจ้จะเด่นและผมก็จะดับสนิทนิ่งเน่าอย่างสงบ หากไม่คว้าเครื่องมือช่วยเหลือประเภทโปรแกรมแชทนี้ ผมคงอดมีเนื้อคู่เป็นแน่
จัดไปวันละครึ่งชั่วโมง 5 บาท
ชือ่ที่ใช้ตอนนั้นคือ E-WANE กับ E-500 แล้วแต่เคราะห์กรรมใครซัดให้เข้ามาเจอ "ผม" ในอีกรูปแบบบุคลิกใหน (ตอนนั้นรู้เลยว่า เออ เวลาเราพิมคุย มันคนละคนกับตัวจริงว่ะเห้ย แถมเราสามารถเป็นคนละคนกับไอ้คนละคนแรกได้อีกตะหาก)
E.เวน จะเป็นผู้ชาย กวน ๆ ตลก ๆ เป็นด้านบุคลิกที่เราชอบ แต่ไม่ค่อยแสดงออก
E.500 เป็นผู้ชายสุขุมนุ่มลึก ถือเป็นทางเลือกสำหรับทดลองรุ่นแรก ๆ (และสาเหตุของการต้องทำทางเลือกขึ้นมาเพราะค่อนข้างแน่ใจว่าบุคลิกที่เราเป็น น่าจะเป็นตัวปัญหาหลักที่ทำให้ไม่มีใครเอามาถึงวันนั้น)
..
คงไม่พิมเล่าหรอกนะว่าวิธีคุยเค้าคุยกันยังไง เอาเป็นว่า ผ่านเรื่องรูปร่างหน้าตาไปได้ ระดับนี้แล้ว จะมาเลือกรูปร่างหน้าตาเขาอยุ่อีกก็ขำขี้แตก พิมมายังจะเชื่อไม่คอยได้ แล้วจะบอกรุปร่างหน้าตามาให้เชื่อ อย่าหวัง
วิธีคัดคน(สาว)คุยสำหรับผมคือ นิสัย โดยผมมักถามเรื่องแปลก ๆ ที่คนไม่ถามกัน เพื่อดูว่าเธอมีทัศนคติยังไงกับเรื่องแปลก (ตลก หรือไม่ถูกกาละเทศะ)
ส่วนวิธีที่สาว ๆ คัดผมเข้าไปคุย คือ สูงเท่าไร อยู่คณะใหน อยู่หอใหน ผิวสีอะไร เราก็ตอบ ๆ ตามจริงทุกอัน
ผลออกมา สามสี่วันแรกที่เล่นเน็ทครึ่งชั่วโมง 5 บาท จึงหมดไปกับการตอบคำถามเรื่องรูปร่างหน้าตาครั้งแล้วครั้งเล่า และไม่ได้คุยกับใครต่อเลย
....อืม ตูละซึ้ง
.
.
จนกระทั่งวันหนึ่ง วันนั้น วันที่ไกล้ ๆ ว่ากำลังจะตัดใจเลิกล้มการหาหญิงทางโปรแกรมแชท
เธอ คนนั้น ก็เข้ามาคุย ถามชื่อ ถามคณะ .... ผมถามเธอกลับ ชื่อและ คณะ
แล้วเราก็คุยกันเรื่องหอใน รับน้อง โรงชาย .... กับอีกสัพเพเหระที่ไม่ใช่เรื่องรูปร่างหน้าตาจนหมดครึ่งชั่วโมง
ผมบอกเธอตรง ๆ ว่า จะต่ออีก 5 บาท อีกครึ่งชั่วโมงนะ คุยต่อนะ
เธอบอกว่า เธอนัดเพื่อนจะไปซื้อของที่เต๊นท์
ผมบอกเธอว่า ผมจะไปขายของที่เต๊นท์ชมรมนะ (คาดหวังว่าเธอจะถามต่อ ว่าเราอยุ่เต๊นอะไร.. หึหึหึ)
.....เน็ทหมด
.....จบ.
ใว้อาลัยให้กันไอ้อ่อนหัดอ่อย นี่คือการอ่อยที่ง่อยที่สุดในจักรวาล นึกแค้นอยากตีอกชกตัวเองให้ระบม คุยกันตั้งนาน

ไม่ขอเบอเพจ
ชีวิตมหาลัย กับรักครั้งแรก
โดยเรื่องมีอยู่ว่า...
ช่วงเปิดเทอมขึ้นปี 2 เป็นช่วงที่ผมทำตัวลั้นลาผยองเดช ทำกิจกรรมอย่างบ้าคลั่ง ทั้งที่ความจริงผมไม่ได้อยากบ้าทำกิจกรรมมากขนาดนั้นเต็มร้อยจริง ๆ แต่มันมีสาเหตุที่มาสองสาเหตุ
หนึ่งคือ..
ผมเพิ่งได้คัดให้อยุ่หอในต่อ การได้อยู่หอในต่อไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับนักศึกษาที่นี่ (โดยเฉพาะนักศึกษาคณะนี้) ก็ใครจะไม่อยากล่ะ จ่ายไม่ถึงพันตอนต้นเทอม อยู่ยาว 1 เทอมกับรูมเมท 3 คน น้ำฟรีไฟฟรีเสียบเปิดใช้ไม่อั้น มีทีวียูบีซี 24 ชม. หนัง เพลง บอล การ์ตูนพร้อม แถมอยู่ไกล้โรงอาหาร ข้าวจานละ 10 บาท
และเมื่อได้รับเลือกให้อยู่หอแล้ว ก็ทำหน้าที่ให้เค้าเต็มที่ ช่วงนั้นก็จะเห็นผมออกงานหอบ่อย ๆ เช่นวาดป้ายต้อนรับน้องใหม่เข้าหอ ร้องรำทำเพลง รับน้องหอเลอะ ๆ หนุก ๆ เบา ๆ สกัดน้องหล่อ ๆ และแกล้งน้องที่เป็นตุ๊ด
สองคือ
ผมมีอีกกิจกรรมคือ กิจกรรมชมรม ซึ่งไม่ได้ทำเพราะติดใจเสน่ห์อะไรของชาวชมรม แต่เพราะช่วงทำโปรเจกต์ใหญ่ประจำเทอม ผมจะมาสิงอยุ่ที่ชมรมเพราะมันกว้างดี เหมาะแก่การยึดทำเป็นสตูดิโอ (กับเหตุผลเดิม ๆ น้ำไฟฟรี ทีวีเตียงนอนพร้อม)
และหน้าที่ชาวชมรมหน้าที่หนึ่ง ก็คือการเฝ้าร้านขายของของชมรม
ที่หอมีรับน้องเข้าหอใช่มะ น้อง ๆ มันจะเข้าหอมันก็ต้องซื้อของกินของใช้เข้าไปใช่มะ มหาลัยก็เลยเปิดทางให้ชมรมต่าง ๆ ตั้งเต้นท์ขายของมันที่สนามตะกร้อมันซะเลย หน้าที่ของสมาชิกชมรมคือมาช่วยขายของ
ร้านขนาดไม่ใหญ่มาก สมาชิกชมรมมาช่วยขายของกันเป็นสิบยี่สิบคน ล้นออกมาเกะกะหน้าร้านชมรมอื่น ๆ (ที่ไม่กล้าหือหาอะไร เพราะชมรมเรามีแต่ผู้ชายหน้าดุ ๆ )
เอาเป็นว่า ช่วงเปิดเทอมรับน้องของพี่หม่ออย่างผม เป็นช่วงที่ลั๊นลาบ้าคลั่งจริงจังมาก กลางวันไปเรียน ตอนเย็นจะมาขลุกอยู่ลานหน้าหอ ตอนคำ ๆ เฝ้าเต๊นขายของชมรม ตกดึกก็นั่งดูต้นทางให้สมาชิกชมรม เล่นน้ำเต้าปูปลากันในเต็นท์ หรือไม่ก็ไปร้านคอม
...เฮ่อ กว่าจะมาถึงเรื่องความรัก..
ยัง ยังไม่ถึงดี แต่เกือบแล้วแหละ
...
ผมชอบมาเล่นคอม เช่าคอมเปิดเน็ท ดูข่าว ดูการ์ตูน ดูรูปโป๊ และ.....
.
.
"CHAT"
ใช่แล้ว สุดยอดนวัตกรรมจีบหญิงสำหรับคนหน้าง่อยใจปลาซิวอย่างเรา ไม่มีอะไรสว่างวาบดุจแฟลชแอลอีดีร้อยยี่สิบวัตต์ได้เทียบเท่า...
.
.
"PIRCH"
ผมสนุกกับเพิ๊ดมากขนาดต้องเล่นเกือบทุกวัน วันละครึ่งชั่วโมงขึ้นไป จุดประสงค์ของการเล่น ก็ตรง ๆ เลย .... หาหญิง
ด้วยความอับจนเสน่ห์อย่างมหากาฬ บวกกับประสบการณ์ปี 1 ในมหาลัยที่ไม่เคยมีโอกาสพบปะสาวไดที่ใหนเลยตลอด 1 ปี ได้การจะทำตัวเน่าเฝ้าคณะรอให้สาวมาจีบก็คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ไอ้การจะออกไปจีบหญิงตามสถานที่ต่าง ๆ ก็ทำไม่เป็น บวกโอกาสที่น้อยนิดสำหรับเด็กหอใน และที่สำคัญ สำคัญมาก มากที่สุด คือความเป็นคนขี้อายเรื่องหญิงมาก ๆ แต่ดันมีเพื่อนหน้าตาดีกว่าอย่างโจ้ ซึ่งขี้อายพอกัน ฉะนั้นเวลาไปใหนมาใหนกัน โจ้จะเด่นและผมก็จะดับสนิทนิ่งเน่าอย่างสงบ หากไม่คว้าเครื่องมือช่วยเหลือประเภทโปรแกรมแชทนี้ ผมคงอดมีเนื้อคู่เป็นแน่
จัดไปวันละครึ่งชั่วโมง 5 บาท
ชือ่ที่ใช้ตอนนั้นคือ E-WANE กับ E-500 แล้วแต่เคราะห์กรรมใครซัดให้เข้ามาเจอ "ผม" ในอีกรูปแบบบุคลิกใหน (ตอนนั้นรู้เลยว่า เออ เวลาเราพิมคุย มันคนละคนกับตัวจริงว่ะเห้ย แถมเราสามารถเป็นคนละคนกับไอ้คนละคนแรกได้อีกตะหาก)
E.เวน จะเป็นผู้ชาย กวน ๆ ตลก ๆ เป็นด้านบุคลิกที่เราชอบ แต่ไม่ค่อยแสดงออก
E.500 เป็นผู้ชายสุขุมนุ่มลึก ถือเป็นทางเลือกสำหรับทดลองรุ่นแรก ๆ (และสาเหตุของการต้องทำทางเลือกขึ้นมาเพราะค่อนข้างแน่ใจว่าบุคลิกที่เราเป็น น่าจะเป็นตัวปัญหาหลักที่ทำให้ไม่มีใครเอามาถึงวันนั้น)
..
คงไม่พิมเล่าหรอกนะว่าวิธีคุยเค้าคุยกันยังไง เอาเป็นว่า ผ่านเรื่องรูปร่างหน้าตาไปได้ ระดับนี้แล้ว จะมาเลือกรูปร่างหน้าตาเขาอยุ่อีกก็ขำขี้แตก พิมมายังจะเชื่อไม่คอยได้ แล้วจะบอกรุปร่างหน้าตามาให้เชื่อ อย่าหวัง
วิธีคัดคน(สาว)คุยสำหรับผมคือ นิสัย โดยผมมักถามเรื่องแปลก ๆ ที่คนไม่ถามกัน เพื่อดูว่าเธอมีทัศนคติยังไงกับเรื่องแปลก (ตลก หรือไม่ถูกกาละเทศะ)
ส่วนวิธีที่สาว ๆ คัดผมเข้าไปคุย คือ สูงเท่าไร อยู่คณะใหน อยู่หอใหน ผิวสีอะไร เราก็ตอบ ๆ ตามจริงทุกอัน
ผลออกมา สามสี่วันแรกที่เล่นเน็ทครึ่งชั่วโมง 5 บาท จึงหมดไปกับการตอบคำถามเรื่องรูปร่างหน้าตาครั้งแล้วครั้งเล่า และไม่ได้คุยกับใครต่อเลย
....อืม ตูละซึ้ง
.
.
จนกระทั่งวันหนึ่ง วันนั้น วันที่ไกล้ ๆ ว่ากำลังจะตัดใจเลิกล้มการหาหญิงทางโปรแกรมแชท
เธอ คนนั้น ก็เข้ามาคุย ถามชื่อ ถามคณะ .... ผมถามเธอกลับ ชื่อและ คณะ
แล้วเราก็คุยกันเรื่องหอใน รับน้อง โรงชาย .... กับอีกสัพเพเหระที่ไม่ใช่เรื่องรูปร่างหน้าตาจนหมดครึ่งชั่วโมง
ผมบอกเธอตรง ๆ ว่า จะต่ออีก 5 บาท อีกครึ่งชั่วโมงนะ คุยต่อนะ
เธอบอกว่า เธอนัดเพื่อนจะไปซื้อของที่เต๊นท์
ผมบอกเธอว่า ผมจะไปขายของที่เต๊นท์ชมรมนะ (คาดหวังว่าเธอจะถามต่อ ว่าเราอยุ่เต๊นอะไร.. หึหึหึ)
.....เน็ทหมด
.....จบ.
ใว้อาลัยให้กันไอ้อ่อนหัดอ่อย นี่คือการอ่อยที่ง่อยที่สุดในจักรวาล นึกแค้นอยากตีอกชกตัวเองให้ระบม คุยกันตั้งนาน