คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ต้องตอบคำถามตัวเองได้ครับ ว่าเรารักเพื่อนคนนี้แบบไหน เราอยากได้อะไรและอยากให้เขาได้อะไร
ทีนี้ก็ย้อนมาดูว่าสิ่งที่ตัวเรากระทำอยู่นั้น มันใช่หรือเปล่า หรือว่าเป็นข้ออ้างเฉย ๆ
สำหรับผมแล้ว มิตรภาพมันจะคงอยู่นะ ถ้าไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำลายไป
ก็ต้องมาทบทวนดี ๆ ว่า ตอนนี้เรากำลังทำลายหรือกำลังรักษามิตรภาพนั้นอยู่
ผมก็มีเพื่อนสนิทเหมือนกันครับ ตอนนี้เพื่อนผมก็ยังไม่มีแฟนหรอก แต่เขาก็เป็นคนที่มีสังคมมาก
หมายความว่าเขาก็มีสังคมของเขา มีเพื่อนมากหน้าหลายตา
ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ผมควรจะรู้คือ แต่ละคนก็มีโลกเป็นของตัวเอง มีชีวิตเป็นของตัวเอง
โลกของคนสองคนมันไม่ได้เชื่อมโยงได้สนิทแนบแน่นขนาดนั้น
บางเวลาแต่ละคนก็อยากอยู่คนเดียว บางเวลาก็อยากไปหาสังคมอื่น
เขาไม่ใช่เรา และเราก็ไม่ใช่เขา จะไปบังคับอะไรไม่ได้
ความสนิทของผมเลยเป็นแนวที่ว่า เจอกันเมื่ออยากเจอ แต่ถ้าอีกคนไม่ว่างก็ทำใจซะ
การที่เราจะไปเรียกร้องมาก ๆ ผมว่ามันจะเป็นการทำลายมิตรภาพเปล่า ๆ
สำหรับผมมิตรภาพไม่ใช่การที่สนิทชิดเชื้อที่สุด อยู่ด้วยกันนานที่สุด มีกิจกรรมร่วมกันมากที่สุด
แต่ผมมองว่า มิตรภาพคือการที่ต่างฝ่ายต่างมีจุดยืนที่เหมาะสม จนทั้งสองฝ่ายยอมรับได้ครับ
ตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายยังมีจุดยืนที่ยอมรับกันได้อยู่ ผมว่ามิตรภาพมันก็ไม่หายไปไหนหรอกครับ
ทีนี้ก็ย้อนมาดูว่าสิ่งที่ตัวเรากระทำอยู่นั้น มันใช่หรือเปล่า หรือว่าเป็นข้ออ้างเฉย ๆ
สำหรับผมแล้ว มิตรภาพมันจะคงอยู่นะ ถ้าไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำลายไป
ก็ต้องมาทบทวนดี ๆ ว่า ตอนนี้เรากำลังทำลายหรือกำลังรักษามิตรภาพนั้นอยู่
ผมก็มีเพื่อนสนิทเหมือนกันครับ ตอนนี้เพื่อนผมก็ยังไม่มีแฟนหรอก แต่เขาก็เป็นคนที่มีสังคมมาก
หมายความว่าเขาก็มีสังคมของเขา มีเพื่อนมากหน้าหลายตา
ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ผมควรจะรู้คือ แต่ละคนก็มีโลกเป็นของตัวเอง มีชีวิตเป็นของตัวเอง
โลกของคนสองคนมันไม่ได้เชื่อมโยงได้สนิทแนบแน่นขนาดนั้น
บางเวลาแต่ละคนก็อยากอยู่คนเดียว บางเวลาก็อยากไปหาสังคมอื่น
เขาไม่ใช่เรา และเราก็ไม่ใช่เขา จะไปบังคับอะไรไม่ได้
ความสนิทของผมเลยเป็นแนวที่ว่า เจอกันเมื่ออยากเจอ แต่ถ้าอีกคนไม่ว่างก็ทำใจซะ
การที่เราจะไปเรียกร้องมาก ๆ ผมว่ามันจะเป็นการทำลายมิตรภาพเปล่า ๆ
สำหรับผมมิตรภาพไม่ใช่การที่สนิทชิดเชื้อที่สุด อยู่ด้วยกันนานที่สุด มีกิจกรรมร่วมกันมากที่สุด
แต่ผมมองว่า มิตรภาพคือการที่ต่างฝ่ายต่างมีจุดยืนที่เหมาะสม จนทั้งสองฝ่ายยอมรับได้ครับ
ตราบใดที่ทั้งสองฝ่ายยังมีจุดยืนที่ยอมรับกันได้อยู่ ผมว่ามิตรภาพมันก็ไม่หายไปไหนหรอกครับ
แสดงความคิดเห็น
มีวิธีไหนบ้างค่ะ ที่ทำให้เราสามารถตัดใจและยอมรับความจริง โดยที่ไม่เสียเพื่อน(แท้)ไปค่ะ??
เรากับเค้ารู้จักกันตอนเรียนมหาลัยค่ะ แล้วก็เริ่มมีความรู้สึกแบบนั้นตั้งแต่ปี1 จนถึงตอนนี้ก็ประมาณ 6ปี ค่ะ
เราสนิทกันมาก เรียนด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน มีความสุขมากๆๆเลยค่ะ
- แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้แต่นิดเดียวค่ะ เพราะมันเป็นข้อห้ามทางศาสนาและที่บ้านของทั้ง2 ก็ไม่มีทางยอมรับมันได้เลย ทางบ้านของเราและเค้ารู้แค่ว่า 'เราสนิทกันมากกก' ตอนเค้าผ่าตัด เราก้เป็นคนเฝ้าและคอยดูแล พอตอนที่เราไม่สบาย รักษาตัวอยู่ครึ่งปี เค้าก้จะคอยเฝ้าและดูแลเช่นกัน (ช่วงวันหยุดหรือปิดเทอม) ทางบ้านเราเลยรักเค้าเหมือนลูกสาวคนนึง ส่วนทางบ้านเค้าก้รักเราเหมือนลูกสาวคนนึงเช่นกัน
- เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้ เค้าเลยตัดใจจากเรา และไปมีแฟนใหม่ (ผช) ตอนนี้เค้ากำลังจะแต่งงานกัน เค้าเปลี่ยนไปแล้ว เค้าไม่ได้รักเราแบบนั้นแล้ว เค้ารักเราแบบเพื่อน เค้าบอกว่า " เค้าพร้อมและรอเราให้กลับไปเป็นเพื่อนกับเค้าเสมอ" (ตอนนี้เราและเค้าก้ยังคุยกันอยู่ตลอด แต่สำหรับเค้า คือ คุยกับเราในฐานะเพื่อนสนิท)
- คือเราต้องการจะตัดใจ ต้องการจะยอมรับความจริงที่มันเกิดขึ้น โดยที่ไม่เสียเค้าไป เราอยากเป็นเพื่อนกับเค้า (เพื่อนดีๆแบบนี้คงหาได้ยากมากในโลกใบนี้) แต่ถ้าเรายังทำใจและยังยอมรับความจริงไม่ได้ เราก้ไม่สามารถเป็นเพื่อนกับเค้าได้ คงทนเห็นเค้าอยู่กับคนอื่นไม่ได้แน่ๆ
- เราควรทำไงดีค่ะ ตอนนี้ เจ็บมาก มืดค่ะ หาทางออกไม่เจอเลยค่ะ ขอคำปรึกษา คำแนะนำหน่อยน่ะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ