14 กุมภาพันธ์ วันแห่งความรัก ที่ใครหลาย ๆ คนกำลังมองหาวิธีดูแลหัวใจคนอื่น เรามาลองดูแลหัวใจตัวเราเองด้วยดีไหมครับ ผมเอา 10 วิธีง่ายๆ ดูแล "หัวใจ" ตัวเอง ในเทศกาลวันวาเลนไทน์มาฝากครับ ....
หัวใจ เป็นอวัยวะที่ทำงานมาตั้งแต่เราเกิดมา ...ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย มันเต้นทุกวัน ทำงานทุกวัน จนบางครั้งเราลืมดูแลมัน ลองหันมาใส่ใจ
"หัวใจ" ตัวเองหน่อยดีกว่าครับ ด้วยวิธีการปฎิบัติตัวง่าย ๆ ดังต่อไปนี้เลย ..
1. ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 - 3 ครั้ง จะช่วยลดระดับความดันโลหิต ลดความเครียด และทำให้ร่างกายได้รับ โคเลสเตอรอสชนิดดี ( HDL ) ที่มีประโยชน์ ซึ่งจะทำให้หัวใจแข็งแรงอีกด้วย
2. หัวหอม มีสารประกอบที่เรียกว่า คิวเซทิน ที่ช่วยป้องกันโรคมากมาย และคุณสมบัติอย่างหนึ่งก็คือ ลดการอักเสบของผนังเส้นเลือดที่ทำให้เกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน ส่วนมะเขือเทศมีโพสแทสเซียมสูงมาก ซึ่งช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
3. กินกระเทียมบ่อย ๆ จากผลการวิจัยของประเทศเยอรมันนี พบว่า กระเทียมส่งผลดีต่อหัวใจด้วยการลดการเกาะตัวของคราบไขมันบริเวณผนังหลอดเลือดหัวใจได้
4. ดื่มน้ำส้มเป็นประจำ ผลวิจัยล่าสุดระบุว่า การดื่มน้ำส้มวันละ 2 แก้ว ช่วยลดความดันโลหิตและช่วยสร้างสมดุลของระบบการทำงานของหัวใจได้เป็นอย่างดี
5. หยุดสูบบุหรี่ตั้งแต่วันนี้ เพราะว่าการสูบบุหรี่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง และยังทำให้เลือดจับตัวกันเป็นลิ่ม ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และเส้นเลือดในสมองอุดตัน !!
6. ดื่มชาดำบ่อย ๆ เพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยบอสตัน กล่าวว่า การดื่มชาดำช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็น โรคหัวใจ เนื่องจากชาดำนั้นประกอบด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า ฟลาโวนอยด์ ซึ่งเจ้าสารนี้ช่วยป้องกันคอเลสตอรอล ไม่ให้ทำลายเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจ ..
7. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การใช้ชีวิตที่อดหลับอดนอนต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนมากระตุ้นการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดให้เพิ่มแรงสูบฉีดโลหิตไปทั่วร่างกายมากกว่าเดิม ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายมีความเสี่ยงที่จะเป็น โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจมากขึ้น
8. หลีกเลี่ยงการกินไขมันประเภทอิ่มตัวและไขมันทรานส์ ที่จะสะสมไขมันไม่ดีเข้าสู่ร่างกาย ไขมันอิ่มตัวจะพบใน น้ำมันปาล์ม กระทิ เนื้อแดง เนย ช็อคโกเลต ส่วนไขมันทรานส์นั้น เกิดจากแปรงสภาพไขมันด้วยการเติมไฮโดรเจนเข้าไปในโมเลกุลของคาร์บอน ทำให้มันมีสีข้นขึ้น เพื่อคุณสมบัติให้มันละลายปนกับน้ำได้ง่ายขึ้น และเก็บไว้ได้นานขึ้น อาหารที่มีพวกไขมันทรานส์มาก ๆอย่างเช่น ครีมเทียม เนยเทียม ขนมปังกรอบ ท๊อฟฟี่ คุ้กกี้ อาหาร Snack ทั้งหลายที่เราคุ้นเคยกันดี อาหารทอด ๆ ซึ่งไขมันพวกนี้จะไปจับตัวเป็นก้อนในเส้นเลือดและเป็นสาเหตุของความดันโลหิตสูง
9. เน้นการกินอาหารที่กากใย ไฟเบอร์เยอะ ๆ เข้าไว้ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮตวีท ถั่วและผักต่าง ๆ โดยเฉพาะผักตระกูล กระหล่ำ ได้แก่ กระหล่ำดาว บลอกโคลี่ กระหล่ำปลี เพราะมีสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ที่มีผลดีต่อหัวใจมากทีเดียวครับ ส่วนถั่วขอแนะนำ น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง ช่วยลดคอเลสตอรอลได้ หากินง่าย ราคาไม่แพง
10. สารอาหารโอเมก้า 3 ถือเป็นไขมันไม่อิ่มตัวที่มีประสิทธิภาพที่ดีในการลดไตรกลีเซอไรด์ และคอเลสตอรอล ซึ่งเราจะพบได้ใน อาหารทะเลน้ำลึกอย่างปลาต่าง ๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาแมคเคอแรล ปลาทูน่า ที่สำคัญคือ สารเหล่านี้ยังมีผลต่อการช่วยความหนืดของเลือด ลดการอักเสบ และรักษาสมดุลของเลือดให้อยู่ภาวะปรกติได้อีกด้วย หากจะนำปลามาปรุง ควรนำมาย่างหรือ นึ่ง ดีกว่าการทอดซึ่งจะทำให้คุณค่าเสียไป
ก็หวังว่าทั้ง 10 วิธีดูแลหัวใจตัวเองในช่วงเทศกาล Valentine ปีนี้ จะมีประโยชน์สำหรับหัวใจของทุก ๆ คน
Happy Valentine Day .... 2014
10 วิธีดูแลหัวใจตัวเองในวันวาเลนไทน์ 2014
หัวใจ เป็นอวัยวะที่ทำงานมาตั้งแต่เราเกิดมา ...ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่างกาย มันเต้นทุกวัน ทำงานทุกวัน จนบางครั้งเราลืมดูแลมัน ลองหันมาใส่ใจ "หัวใจ" ตัวเองหน่อยดีกว่าครับ ด้วยวิธีการปฎิบัติตัวง่าย ๆ ดังต่อไปนี้เลย ..
1. ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 - 3 ครั้ง จะช่วยลดระดับความดันโลหิต ลดความเครียด และทำให้ร่างกายได้รับ โคเลสเตอรอสชนิดดี ( HDL ) ที่มีประโยชน์ ซึ่งจะทำให้หัวใจแข็งแรงอีกด้วย
2. หัวหอม มีสารประกอบที่เรียกว่า คิวเซทิน ที่ช่วยป้องกันโรคมากมาย และคุณสมบัติอย่างหนึ่งก็คือ ลดการอักเสบของผนังเส้นเลือดที่ทำให้เกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน ส่วนมะเขือเทศมีโพสแทสเซียมสูงมาก ซึ่งช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
3. กินกระเทียมบ่อย ๆ จากผลการวิจัยของประเทศเยอรมันนี พบว่า กระเทียมส่งผลดีต่อหัวใจด้วยการลดการเกาะตัวของคราบไขมันบริเวณผนังหลอดเลือดหัวใจได้
4. ดื่มน้ำส้มเป็นประจำ ผลวิจัยล่าสุดระบุว่า การดื่มน้ำส้มวันละ 2 แก้ว ช่วยลดความดันโลหิตและช่วยสร้างสมดุลของระบบการทำงานของหัวใจได้เป็นอย่างดี
5. หยุดสูบบุหรี่ตั้งแต่วันนี้ เพราะว่าการสูบบุหรี่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง และยังทำให้เลือดจับตัวกันเป็นลิ่ม ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน และเส้นเลือดในสมองอุดตัน !!
6. ดื่มชาดำบ่อย ๆ เพราะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยบอสตัน กล่าวว่า การดื่มชาดำช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็น โรคหัวใจ เนื่องจากชาดำนั้นประกอบด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า ฟลาโวนอยด์ ซึ่งเจ้าสารนี้ช่วยป้องกันคอเลสตอรอล ไม่ให้ทำลายเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจ ..
7. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การใช้ชีวิตที่อดหลับอดนอนต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนมากระตุ้นการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดให้เพิ่มแรงสูบฉีดโลหิตไปทั่วร่างกายมากกว่าเดิม ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายมีความเสี่ยงที่จะเป็น โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจมากขึ้น
8. หลีกเลี่ยงการกินไขมันประเภทอิ่มตัวและไขมันทรานส์ ที่จะสะสมไขมันไม่ดีเข้าสู่ร่างกาย ไขมันอิ่มตัวจะพบใน น้ำมันปาล์ม กระทิ เนื้อแดง เนย ช็อคโกเลต ส่วนไขมันทรานส์นั้น เกิดจากแปรงสภาพไขมันด้วยการเติมไฮโดรเจนเข้าไปในโมเลกุลของคาร์บอน ทำให้มันมีสีข้นขึ้น เพื่อคุณสมบัติให้มันละลายปนกับน้ำได้ง่ายขึ้น และเก็บไว้ได้นานขึ้น อาหารที่มีพวกไขมันทรานส์มาก ๆอย่างเช่น ครีมเทียม เนยเทียม ขนมปังกรอบ ท๊อฟฟี่ คุ้กกี้ อาหาร Snack ทั้งหลายที่เราคุ้นเคยกันดี อาหารทอด ๆ ซึ่งไขมันพวกนี้จะไปจับตัวเป็นก้อนในเส้นเลือดและเป็นสาเหตุของความดันโลหิตสูง
9. เน้นการกินอาหารที่กากใย ไฟเบอร์เยอะ ๆ เข้าไว้ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮตวีท ถั่วและผักต่าง ๆ โดยเฉพาะผักตระกูล กระหล่ำ ได้แก่ กระหล่ำดาว บลอกโคลี่ กระหล่ำปลี เพราะมีสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ที่มีผลดีต่อหัวใจมากทีเดียวครับ ส่วนถั่วขอแนะนำ น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง ช่วยลดคอเลสตอรอลได้ หากินง่าย ราคาไม่แพง
10. สารอาหารโอเมก้า 3 ถือเป็นไขมันไม่อิ่มตัวที่มีประสิทธิภาพที่ดีในการลดไตรกลีเซอไรด์ และคอเลสตอรอล ซึ่งเราจะพบได้ใน อาหารทะเลน้ำลึกอย่างปลาต่าง ๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาแมคเคอแรล ปลาทูน่า ที่สำคัญคือ สารเหล่านี้ยังมีผลต่อการช่วยความหนืดของเลือด ลดการอักเสบ และรักษาสมดุลของเลือดให้อยู่ภาวะปรกติได้อีกด้วย หากจะนำปลามาปรุง ควรนำมาย่างหรือ นึ่ง ดีกว่าการทอดซึ่งจะทำให้คุณค่าเสียไป
ก็หวังว่าทั้ง 10 วิธีดูแลหัวใจตัวเองในช่วงเทศกาล Valentine ปีนี้ จะมีประโยชน์สำหรับหัวใจของทุก ๆ คน