1 วันที่โรงเกลือ
“ตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า รีบๆออกไปหา ซื้อของขวัญให้เธอสักหน่อย” เพลงนี้ถ้าย้อนไปสักเกือบ 20ปี จะเป็นเพลงฮิตของวัยรุ่นสมัยนั้น ผมเองก็เคยร้อง แต่ร้องไม่เคยจบสักที จวบจนมาวันนี้ก็ยังร้องไม่จบครับ ฮ่าๆ ประโยคเพลงข้างต้น ถ้าใครจะนำมาเป็นแง่คิดก็ได้ครับ แล้วแต่มุมมอง เพราะถ้าใครคิดได้ ก็จะบอกตัวเองให้ออกหากินแต่เช้า ทำงานแต่เช้า เพื่อจะได้มีเวลามากกว่าคนอื่น เปรียบเสมือนนกที่ออกหากินตั้งแต่เช้ามืดเพราะจะได้เหยื่อก่อนนกตัวอื่นนั่นเอง
วันนี้เป็นวันเสาร์ ผมขับรถออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 อย่าเข้าใจผิดคิดว่าผมไปหากิ๊ก เปล่าเลย นั่นไม่ใช่ตัวผม เพราะผมขับรถออกจากบ้านกิ๊กต่างหาก ฮ่าฮ่า คือผมกำลังเดินทางไปที่โรงเกลือ จ. สระแก้ว ชายแดนของประเทศไทยเรานี่เอง บางท่านอาจจะยังไม่เคยไป บางท่านอาจจะสงสัยว่าไปทำไม แล้วทำไมเรียกว่าโรงเกลือ วันนี้ผมจะมาไขข้อข้องใจทั้งหมดครับ
สมัยก่อน โรงเกลือ เป็นสถานที่พักเกลือของชาวบ้าน เพื่อนำเกลือมาใช้ประโยชน์ในการหมักปลา แต่ด้วยความต้องการทางด้านการตลาดของเกลือและปลาเค็มลดน้อยลง จึงแปรสภาพมาเป็นเขตการค้าชายแดน มีเครื่องอุปโภค บริโภค เสื้อผ้าอาภรณ์ต่างๆ ที่ได้รับการบริจาคของประเทศโลกที่ 1(สงสัยอีกแล้ว คือโลกที่2 อยู่ไหน โลกที่3ที่4อยู่แห่งใด แต่เดี๋ยวมีคำตอบให้ครับ) ให้กับชาวกัมพูชาที่ยากไร้ ขาดแคลน และด้วยชนวนเหตุนี้เอง จึงเริ่มเป็นตลาดชายแดนที่มีชื่อเสียงถึง ณ เพลานี้
สำหรับคนที่ต้องการหารายได้เพิ่มเติม ผมแนะนำอีก 1 วิธี เผื่อว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าของเงินในเป๋า เราๆท่านๆกันครับ เพราะที่ผมทราบมามีคนทำอาชีพขายผ้ามือสองกันเป็นล่ำเป็นสันกันเลยทีเดียว ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบขายผ้า แต่จริงๆแล้วผมอยากจะขายตัวต่างหากครับ แต่ปัญหาคือ คงจะไม่มีใครซื้อแน่เลย ฮ่าๆ
เพื่อไม่ให้ยืดยาว เราถึงโรงเกลือกันเลยดีกว่า ผมเดินทางมากับเพื่อนชื่อขาว อย่าเข้าใจผิดว่าผิวจะขาวเหมือนชื่อ เปล่าเลย... มันไกลเกินมิติที่จะเรียกว่าขาวครับ ขาวเป็นเพื่อนสนิทที่ชักนำเข้าสู่วงการขายตัว เอ้ย! ไม่ใช่ มันคือวงการธุรกิจขายผ้ามือสองต่างหาก
พอถึงโรงเกลือและลงจากรถ และล็อคประตูเรียบร้อยแล้ว ทันใดนั้นก็เจอเจ้าถิ่นชาวเขมรแซวเลยทันทีทันใด เรื่องมีอยู่ว่า ฮะแฮ่ม.
เด็กชาวเขมร : ผี ไปติมอร์ไม๋
ผมและเพื่อนขาว : มองหน้ากัน หนึ่งแว้บราวกับงูแลบลิ้น ปนสงสัยว่าเจ้าถิ่นพูดอะไร ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ ปนสงสัย จึงปรึกษากันต่างๆนาๆ ว่า “พวกเราพึ่งจะมาถึงชายแดนเขมร แล้วจะชวนเราไปที่ติมอร์ทำไม หรือว่ามีทัวร์ไปลงที่ติมอร์ แต่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะติมอร์อยู่ไกลถึงอินโดนีเซีย” เอ๋??? หลังจากเดินมา กว่า 20 เมตร อ๋อๆๆๆๆๆๆ..............(เสียงอ๋อ ยาวราวกับรถไฟ เป็นเสียงที่สมองของเพื่อนขาวบงการมา ด้วยเหตุที่คุ้นเคยกับภาษาคนท้องถิ่นที่นี่) อ๋อๆ...หรือเขาชวนเราไปตีหม้อ ใช่แน่ๆเลย เขาต้องการจะบอกว่า”ไปตีหม้อไหมพี่” นี่เอง ผมก็เลยตอบตามความคิดที่เพื่อนขาวเสนอ เออ ใช่ๆ แต่เขาพูดไม่ชัด เลยออกเสียง ไปติมอร์ไม๋ (ถ้าแปลได้เร็วกว่านี้พวกผมสองคนคงต้องทำพาสปอร์ตเดินทางไปติมอร์กันแน่เลยครับ ฮ่าๆ)
ธุรกิจขายผ้า ถือว่าเป็นการซื้อขายปัจจัย 4 ที่จำเป็น การที่เราจะนำสินค้าอะไรมาขายนั้น ก็ต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น ความจำเป็น ความต้องการ คู่แข่ง แนวโน้มตลาด ทำเลสถานที่ ราคา ประเภทกลุ่มลูกค้า ต้นทุนที่ต่ำก็จำเป็น เพราะการที่เราจะได้กำไรมาก ก็ต้องมากจากต้นทุนที่ต่ำ ยกตัวอย่าง ถ้านาย ก.รับของมา 100 บาท ขาย 200 บาท กำไร 100 บาท ส่วนนาย ข.นำสินค้าประเภทเดียวกันมาขาย แต่ต้นทุนที่ต่ำกว่า เช่น รับสินค้ามา 70 บาท ขาย 200 บาท กำไร 130 บาท ถ้าใน 1 วัน ทั้งนาย ก และ นาย ข. ขายเสื้อได้วันละ 10 ตัวเท่ากัน ทั้งสองคนจะมีรายได้ห่างกันถึง 300 บาท ซึ่งห่างกันเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบายของรัฐบาลเลยทีเดียว เห็นไหมครับ ผมจึงอยากจะบอกว่า กำไรที่มากมาจากต้นทุนที่ต่ำนั่นเอง
มีคำพูดที่ว่า ความแตกต่าง คือ โอกาส การที่เราจะค้าขายสิ่งใดนั้นเราต้องมองให้ออกว่าสิ่งที่เรานำมาเสนอลูกค้านั้นเป็นสินค้าที่ยากต่อการเลียนแบบหรือไม่ เพราะถ้ามีคนขายเยอะก็จะเหมือนๆกัน โดยไม่แตกต่าง ลูกค้าหาซื้อได้ทั่วไป เพราะฉะนั้นจึงอยากจะฝากไว้ว่า ความแตกต่างคือโอกาส นั่นเองครับ
1 วันที่โรงเกลือวันนี้ ผมคงไม่ได้ชวนผู้อ่านไปติมอร์แน่นอน แต่อยากให้ผู้ที่ต้องการลงทุนขายผ้ามือสอง ให้ลองพิจารณาในด้านต้นทุนและความแตกต่างของสินค้า เพราะจะนำมาซึ่งความได้เปรียบในการค้ายุคปัจจุบัน ที่มีการแข่งขันที่เข้มข้น หวังว่าจะนำไปใช้เป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจเพิ่มมูลค่าเงินในกระเป๋าของเราๆท่านๆกันครับ
ผู้เขียน สำคัญไฉน
พึ่งจะหัดเขียนครับ วิจารณ์หน่อยครับ
“ตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า รีบๆออกไปหา ซื้อของขวัญให้เธอสักหน่อย” เพลงนี้ถ้าย้อนไปสักเกือบ 20ปี จะเป็นเพลงฮิตของวัยรุ่นสมัยนั้น ผมเองก็เคยร้อง แต่ร้องไม่เคยจบสักที จวบจนมาวันนี้ก็ยังร้องไม่จบครับ ฮ่าๆ ประโยคเพลงข้างต้น ถ้าใครจะนำมาเป็นแง่คิดก็ได้ครับ แล้วแต่มุมมอง เพราะถ้าใครคิดได้ ก็จะบอกตัวเองให้ออกหากินแต่เช้า ทำงานแต่เช้า เพื่อจะได้มีเวลามากกว่าคนอื่น เปรียบเสมือนนกที่ออกหากินตั้งแต่เช้ามืดเพราะจะได้เหยื่อก่อนนกตัวอื่นนั่นเอง
วันนี้เป็นวันเสาร์ ผมขับรถออกจากบ้านตั้งแต่ตี 5 อย่าเข้าใจผิดคิดว่าผมไปหากิ๊ก เปล่าเลย นั่นไม่ใช่ตัวผม เพราะผมขับรถออกจากบ้านกิ๊กต่างหาก ฮ่าฮ่า คือผมกำลังเดินทางไปที่โรงเกลือ จ. สระแก้ว ชายแดนของประเทศไทยเรานี่เอง บางท่านอาจจะยังไม่เคยไป บางท่านอาจจะสงสัยว่าไปทำไม แล้วทำไมเรียกว่าโรงเกลือ วันนี้ผมจะมาไขข้อข้องใจทั้งหมดครับ
สมัยก่อน โรงเกลือ เป็นสถานที่พักเกลือของชาวบ้าน เพื่อนำเกลือมาใช้ประโยชน์ในการหมักปลา แต่ด้วยความต้องการทางด้านการตลาดของเกลือและปลาเค็มลดน้อยลง จึงแปรสภาพมาเป็นเขตการค้าชายแดน มีเครื่องอุปโภค บริโภค เสื้อผ้าอาภรณ์ต่างๆ ที่ได้รับการบริจาคของประเทศโลกที่ 1(สงสัยอีกแล้ว คือโลกที่2 อยู่ไหน โลกที่3ที่4อยู่แห่งใด แต่เดี๋ยวมีคำตอบให้ครับ) ให้กับชาวกัมพูชาที่ยากไร้ ขาดแคลน และด้วยชนวนเหตุนี้เอง จึงเริ่มเป็นตลาดชายแดนที่มีชื่อเสียงถึง ณ เพลานี้
สำหรับคนที่ต้องการหารายได้เพิ่มเติม ผมแนะนำอีก 1 วิธี เผื่อว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าของเงินในเป๋า เราๆท่านๆกันครับ เพราะที่ผมทราบมามีคนทำอาชีพขายผ้ามือสองกันเป็นล่ำเป็นสันกันเลยทีเดียว ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบขายผ้า แต่จริงๆแล้วผมอยากจะขายตัวต่างหากครับ แต่ปัญหาคือ คงจะไม่มีใครซื้อแน่เลย ฮ่าๆ
เพื่อไม่ให้ยืดยาว เราถึงโรงเกลือกันเลยดีกว่า ผมเดินทางมากับเพื่อนชื่อขาว อย่าเข้าใจผิดว่าผิวจะขาวเหมือนชื่อ เปล่าเลย... มันไกลเกินมิติที่จะเรียกว่าขาวครับ ขาวเป็นเพื่อนสนิทที่ชักนำเข้าสู่วงการขายตัว เอ้ย! ไม่ใช่ มันคือวงการธุรกิจขายผ้ามือสองต่างหาก
พอถึงโรงเกลือและลงจากรถ และล็อคประตูเรียบร้อยแล้ว ทันใดนั้นก็เจอเจ้าถิ่นชาวเขมรแซวเลยทันทีทันใด เรื่องมีอยู่ว่า ฮะแฮ่ม.
เด็กชาวเขมร : ผี ไปติมอร์ไม๋
ผมและเพื่อนขาว : มองหน้ากัน หนึ่งแว้บราวกับงูแลบลิ้น ปนสงสัยว่าเจ้าถิ่นพูดอะไร ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ ปนสงสัย จึงปรึกษากันต่างๆนาๆ ว่า “พวกเราพึ่งจะมาถึงชายแดนเขมร แล้วจะชวนเราไปที่ติมอร์ทำไม หรือว่ามีทัวร์ไปลงที่ติมอร์ แต่ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะติมอร์อยู่ไกลถึงอินโดนีเซีย” เอ๋??? หลังจากเดินมา กว่า 20 เมตร อ๋อๆๆๆๆๆๆ..............(เสียงอ๋อ ยาวราวกับรถไฟ เป็นเสียงที่สมองของเพื่อนขาวบงการมา ด้วยเหตุที่คุ้นเคยกับภาษาคนท้องถิ่นที่นี่) อ๋อๆ...หรือเขาชวนเราไปตีหม้อ ใช่แน่ๆเลย เขาต้องการจะบอกว่า”ไปตีหม้อไหมพี่” นี่เอง ผมก็เลยตอบตามความคิดที่เพื่อนขาวเสนอ เออ ใช่ๆ แต่เขาพูดไม่ชัด เลยออกเสียง ไปติมอร์ไม๋ (ถ้าแปลได้เร็วกว่านี้พวกผมสองคนคงต้องทำพาสปอร์ตเดินทางไปติมอร์กันแน่เลยครับ ฮ่าๆ)
ธุรกิจขายผ้า ถือว่าเป็นการซื้อขายปัจจัย 4 ที่จำเป็น การที่เราจะนำสินค้าอะไรมาขายนั้น ก็ต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น ความจำเป็น ความต้องการ คู่แข่ง แนวโน้มตลาด ทำเลสถานที่ ราคา ประเภทกลุ่มลูกค้า ต้นทุนที่ต่ำก็จำเป็น เพราะการที่เราจะได้กำไรมาก ก็ต้องมากจากต้นทุนที่ต่ำ ยกตัวอย่าง ถ้านาย ก.รับของมา 100 บาท ขาย 200 บาท กำไร 100 บาท ส่วนนาย ข.นำสินค้าประเภทเดียวกันมาขาย แต่ต้นทุนที่ต่ำกว่า เช่น รับสินค้ามา 70 บาท ขาย 200 บาท กำไร 130 บาท ถ้าใน 1 วัน ทั้งนาย ก และ นาย ข. ขายเสื้อได้วันละ 10 ตัวเท่ากัน ทั้งสองคนจะมีรายได้ห่างกันถึง 300 บาท ซึ่งห่างกันเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบายของรัฐบาลเลยทีเดียว เห็นไหมครับ ผมจึงอยากจะบอกว่า กำไรที่มากมาจากต้นทุนที่ต่ำนั่นเอง
มีคำพูดที่ว่า ความแตกต่าง คือ โอกาส การที่เราจะค้าขายสิ่งใดนั้นเราต้องมองให้ออกว่าสิ่งที่เรานำมาเสนอลูกค้านั้นเป็นสินค้าที่ยากต่อการเลียนแบบหรือไม่ เพราะถ้ามีคนขายเยอะก็จะเหมือนๆกัน โดยไม่แตกต่าง ลูกค้าหาซื้อได้ทั่วไป เพราะฉะนั้นจึงอยากจะฝากไว้ว่า ความแตกต่างคือโอกาส นั่นเองครับ
1 วันที่โรงเกลือวันนี้ ผมคงไม่ได้ชวนผู้อ่านไปติมอร์แน่นอน แต่อยากให้ผู้ที่ต้องการลงทุนขายผ้ามือสอง ให้ลองพิจารณาในด้านต้นทุนและความแตกต่างของสินค้า เพราะจะนำมาซึ่งความได้เปรียบในการค้ายุคปัจจุบัน ที่มีการแข่งขันที่เข้มข้น หวังว่าจะนำไปใช้เป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจเพิ่มมูลค่าเงินในกระเป๋าของเราๆท่านๆกันครับ
ผู้เขียน สำคัญไฉน