ค่ายรถ วอนพรรคการเมือง อย่างชงนโยบาย รถคันแรก อีก เหตุทำแผนผลิตรถผิดเพี้ยน ก่อนแจ้งขอยุติ ร่วมโครงการ “รถคันแรก” หลังคนแห่ทิ้งใบจองนับแสนคัน
MThai News ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒน์พงษ์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. กล่าวว่า
รถคันแรก, ข่าวรถคันแรก
ยอดตกที่ตกค้างราว 100,000 คัน ซึ่งค่ายรถยนต์แจ้งขอยุติการเข้าร่วมโครงการกับภาครัฐแล้ว รวมทั้งผู้ที่ถือใบจอง บางรายแจ้งยืนยันว่า ขอทิ้งใบจองและทิ้งเงินมัดจำ และบางรายแจ้งว่าได้ซื้อรถยนต์รุ่นอื่นและยี่ห้อใหม่แล้ว
เพราะมีแคมเปญตอบแทนผลประโยชน์มากกว่าโครงการรถคันแรก ทำให้ไม่มีปัญหาการฟ้องร้องของลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนขอวิงวอนว่า ไม่ว่ารัฐบาลใหม่จะเป็นพรรคการเมืองใด หรือในการหาเสียงเลือกตั้งในอนาคต
ทั้งนี้ขอให้พรรคการเมืองไม่นำโครงการนี้มาใช้หาเสียงอีก เพราะแม้กระทรวงการคลังจะสามารถจัดสรรงบประมาณมาจ่ายคืนภาษีรถยนต์ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการได้ แต่ในข้อเท็จจริง โครงการนี้ทำให้แผนการผลิตรถยนต์ของประเทศไทยผิดเพี้ยน ค่ายรถยนต์ต้องเปลี่ยนแผนเพื่อหันไปผลิตเพื่อการส่งออกเพิ่มขึ้น
http://news.mthai.com/hot-news/309398.html
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=203588:2013-10-19-14-40-26&catid=94:2009-02-08-11-26-28&Itemid=417
นโยบายนี้ ทิ้งปัญหาไว้เบื้องหลัง เพราะทำให้การซื้อขายรถผิดเพี้ยนไป ทำให้เร่งหนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีผลให้การใช้จ่ายเงินของประชาชนหมดไปกับรถ ไม่ไปใช้จ่ายส่วนอื่น ยกตัวอย่างเช่น จ่ายค่าน้ำมัน และค่าผ่อนรถ เดือนละหลายพันบาท จนไม่มีเงินไปจับจ่ายด้านอื่นๆ อีกอย่างน้อยสองถึงสีปี เป็นต้น ส่วนข้อดี กระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่นาน แต่ตลาดจะซบเซาอีกนาน เพราะแรงซื้อจะหายไปเป็นปี ครับ
นโยบายรถคันแรก ยังมีใครคิดว่าเป็นสุดยอดนโยบายอีกหรือไม่ครับ
MThai News ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒน์พงษ์ รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. กล่าวว่า
รถคันแรก, ข่าวรถคันแรก
ยอดตกที่ตกค้างราว 100,000 คัน ซึ่งค่ายรถยนต์แจ้งขอยุติการเข้าร่วมโครงการกับภาครัฐแล้ว รวมทั้งผู้ที่ถือใบจอง บางรายแจ้งยืนยันว่า ขอทิ้งใบจองและทิ้งเงินมัดจำ และบางรายแจ้งว่าได้ซื้อรถยนต์รุ่นอื่นและยี่ห้อใหม่แล้ว
เพราะมีแคมเปญตอบแทนผลประโยชน์มากกว่าโครงการรถคันแรก ทำให้ไม่มีปัญหาการฟ้องร้องของลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนขอวิงวอนว่า ไม่ว่ารัฐบาลใหม่จะเป็นพรรคการเมืองใด หรือในการหาเสียงเลือกตั้งในอนาคต
ทั้งนี้ขอให้พรรคการเมืองไม่นำโครงการนี้มาใช้หาเสียงอีก เพราะแม้กระทรวงการคลังจะสามารถจัดสรรงบประมาณมาจ่ายคืนภาษีรถยนต์ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการได้ แต่ในข้อเท็จจริง โครงการนี้ทำให้แผนการผลิตรถยนต์ของประเทศไทยผิดเพี้ยน ค่ายรถยนต์ต้องเปลี่ยนแผนเพื่อหันไปผลิตเพื่อการส่งออกเพิ่มขึ้น
http://news.mthai.com/hot-news/309398.html
http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=203588:2013-10-19-14-40-26&catid=94:2009-02-08-11-26-28&Itemid=417
นโยบายนี้ ทิ้งปัญหาไว้เบื้องหลัง เพราะทำให้การซื้อขายรถผิดเพี้ยนไป ทำให้เร่งหนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีผลให้การใช้จ่ายเงินของประชาชนหมดไปกับรถ ไม่ไปใช้จ่ายส่วนอื่น ยกตัวอย่างเช่น จ่ายค่าน้ำมัน และค่าผ่อนรถ เดือนละหลายพันบาท จนไม่มีเงินไปจับจ่ายด้านอื่นๆ อีกอย่างน้อยสองถึงสีปี เป็นต้น ส่วนข้อดี กระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่นาน แต่ตลาดจะซบเซาอีกนาน เพราะแรงซื้อจะหายไปเป็นปี ครับ