นอกจากฮือฮาภาพที่หลุดออกมาตามโลกโซเชียลแล้ว ฟันธงทันทีที่เห็นบทสัมภาษณ์เปิดใจ 2 ดวง ของนกฉัตรชัย และสินจัย เปล่งพานิช ในนิตยสารแพรว ฉบับที่กำลังจะวางแผงเร็วๆ นี้ว่าจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เนื่องจากเป็นการเปิดใจครั้งแรกในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะจุดยืนทางการเมือง และเรื่องละครเหนือเมฆ 2 ไทยรัฐออนไลน์ไม่เพียงเอารูปแฟชั่นสวยๆ มาให้ดูยังคัดบทสัมภาษณ์สุดฮือฮาบางส่วนมาให้อ่านกัน...
จุดยืนทางการเมือง..!
นกหญิง บอกว่า เมื่อนักการเมืองทำไม่ถูกต้อง เรามีสิทธิ์ไม่ใช่หรือ เราปล่อยให้เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นนานพอแล้ว รู้สึกว่าอยู่เฉยไม่ได้ เหมือนกับคนอื่นๆ แต่รัฐบาลมักพูดเสมอว่ามาจากการเลือกตั้ง เราจึงไม่ปล่อยให้บริหารบ้านเมืองต่อไป ทั้งที่เห็นตลอดว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ไม่ถูกไม่ควร เราสองคนตั้งใจไปกันตั้งแต่สามเสน แต่วันที่ออกจากบ้าน ปรากฏว่าแกนนำพามวลชนไปอยู่ที่ราชดำเนิน
ถึงวันนี้ก็ไม่ได้เสียใจที่ออกมาแสดงจุดยืน แน่นอนว่าเรายังต้องดูแลอาชีพ ถึงเวลาไปทำงาน พอว่างก็ไปชุมนุมเพื่อให้ทุกคนรู้ว่าเราพร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนที่มีความคิดเห็นเหมือนกัน
นกชายเล่าอีกว่า เรื่องออกไปชุมนุม ผมกับนกหญิงแทบไม่ได้คุยกันว่าเธอต้องไปนะ เป็นความรู้สึกตรงกันมากกว่า ต่างคนเป็นไปในรูปแบบนี้ และเป็นกันทั้งบ้านอย่างที่นกหญิงบอกจริงๆ คนแรกที่ออกไปก็คือน้องดอม (พีรดนย์) ลูกชายคนเล็ก ไปตั้งแต่ชุมนุมที่สวนลุมพินี ก่อนหน้าจะมีเวทีสามเสนอีก แล้วไปโดยไม่ได้บอกพ่อแม่ด้วย ผมมารู้ตอนมีข่าวในอินเทอร์เน็ตว่าลูกชายของฉัตรชัยกับสินจัยออกไปชุมนุม เราก็ตกใจว่า เฮ้ย! ไปตั้งแต่ตอนไหน
นกหญิงเสริมว่า ที่ดอมไปก่อนอาจจะเพราะเขาเรียนที่โรงเรียนจิตรลดาตั้งแต่เด็ก จากนั้นก็ย้ายไปวชิราวุธฯ ซึ่งเป็นโรงเรียนของพระเจ้าอยู่หัวทั้ง 2 แห่ง พอมีเหตุเกี่ยวข้องกับสถาบันหรือประเทศ เขาจึงรู้สึกว่าอยู่เฉยไม่ได้
นกหญิงพูดเสริมเรื่องบรรยากาศในการชุมนุมว่า คึกคักมาก เราสองคนถูกขอถ่ายรูปตลอดทาง จนช่วงหลังต้องบอกว่า ขอเดินไปด้วยถ่ายรูปไปด้วย เพราะถ้าหยุดเดินเมื่อไหร่ จะติดอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ นกไม่ได้หงุดหงิดนะ เพียงแต่เราไม่ได้อยากออกมาเพื่อเป็นจุดเด่น อยากมาฟังปราศรัยบนเวที และนั่งอยู่กับผู้ชุมนุมมากกว่า
นกฉัตรชัยพูดถึงการแสดงความคิดเห็นในอินสตาแกรมเรื่องการเมืองที่หนักหน่วงว่า เขียนตามความรู้สึก ด้านนกหญิงเสริมว่า ตอนแรกเหมือนนกออกตัวมากกว่า เริ่มคิดไปชุมนุมก่อนนกชายด้วยซ้ำ จนเขาบอกว่าเดี๋ยวไปเป็นเพื่อน ไม่อยากให้ไปคนเดียว แต่ไปๆ มาๆ รู้สึกพี่นกชายจะแรงกว่า ติดตามข่าวตลอดเวลา ถ้าไปชุมนุมไม่ได้จะเปิดโทรทัศน์ที่บ้าน โพกธงชาติผืนเล็กๆ รอบศีรษะ ดูโทรทัศน์แล้วเป่านกหวีดไปด้วย เรียกว่าไม่ห่างจากผู้ชุมนุมเลย จนนกต้องบอกว่า เว้นระยะหน่อย ใช้ชีวิตปกติบ้าง เพราะเวลาเครียดเกินไป ข้อความในอินสตาแกรมก็จะแรงไปด้วย
เหนือเมฆ 2 ถูกแบน...!
นกฉัตรชัยเผยความรู้สึกที่ละครเหนือเมฆ 2 ถูกแบนว่า ก็...มึน งง จริงๆ เราไม่รู้หรือว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไร มี 2 อย่าง คือ เสียใจ รู้สึกแย่ ทำไมทำแบบนี้ อีกอย่างคือ เสียดายแทนคนดูที่ไม่ได้ดูสิ่งที่เราอยากนำเสนอ
ขณะเดียวกันก็มีเสียงสะท้อนจากผู้ชม 2 แบบ คือ ละครไม่เห็นมีอะไรเลย ทำไมไม่ฉายต่อ ร้อนตัวหรือ และอีกฝั่งที่ให้กำลังใจว่าละครหายไปไหน ลูกผมร้องโวยวาย เด็กก็อยากดูเหมือนกัน แต่มันก็ผ่านไปแล้ว เอาเป็นว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
นกหญิงเสริม นกตกใจว่ามีแบบนี้ด้วยหรือ ละครใกล้จบอยู่แล้วแต่ก็ไม่ได้ออกอากาศ ทั้งที่ทุกอย่างดีมาตลอดละครฮิต คนดูชื่นชมสนุกสนาน ซึ่งสำหรับคนทำงานแค่นี้ก็ชื่นใจแล่วว่าสิ่งที่ทำไม่เสียเปล่า จะบอกว่าเราทำงานดีกว่าใครก็ไม่ใช่ แต่เราทำงานหนักกว่าคนอื่น บางคนอาจจะเลือกทำเรื่องง่ายๆ ใช้เวลาถ่ายไม่นาน ฉายแล้วฮิตแน่นอน แต่ละครของพี่นกชายแต่ละเรื่องใช้เวลาทำงาน 9-10 เดือน ฉายจริงแค่เดือนกว่า แต่พี่นกก็ทุ่มเททุกอย่างเต็มที่ นกรู้สึกว่าเขามีสิทธิ์อะไรมาก้าวก่ายงาน เหมือนเราทำงานศิลปะ และจู่ๆ มีคนเดินเข้ามาที่ออฟฟิศและบอกว่า เฮ้ยอย่างนี้ไม่ชอบ ไปๆ ทำไมถึงทำกับเราแบบนี้ ทุกคนตั้งใจทำงานมาก ทีมงานเบื้องหลังยิ่งรู้สึกมาก เพราะทำงานหนักจริง และเหลืออีกแค่ 3 ตอน ทำไมจึงออกไม่ได้...
นอกจากนี้ในบทสัมภาษณ์แห่งปีนี้ยังมีเรื่องราวชีวิต ความรัก และครอบครัวอีกมากมายในมุมที่หลายคนยังไม่เคยรู้อีกด้วย.
ขอบคุณภาพ และบทสัมภาษณ์บางส่วนจากนิตยสารแพรว ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ในธีมเทศกาลวาเลนไทน์
http://www.thairath.co.th/content/life/402648
ฮือฮา! ครั้งแรก 2 นก เปิดหมดใจ จุดยืนทางการเมือง เหนือเมฆ 2 ถูกแบน
นอกจากฮือฮาภาพที่หลุดออกมาตามโลกโซเชียลแล้ว ฟันธงทันทีที่เห็นบทสัมภาษณ์เปิดใจ 2 ดวง ของนกฉัตรชัย และสินจัย เปล่งพานิช ในนิตยสารแพรว ฉบับที่กำลังจะวางแผงเร็วๆ นี้ว่าจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เนื่องจากเป็นการเปิดใจครั้งแรกในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะจุดยืนทางการเมือง และเรื่องละครเหนือเมฆ 2 ไทยรัฐออนไลน์ไม่เพียงเอารูปแฟชั่นสวยๆ มาให้ดูยังคัดบทสัมภาษณ์สุดฮือฮาบางส่วนมาให้อ่านกัน...
จุดยืนทางการเมือง..!
นกหญิง บอกว่า เมื่อนักการเมืองทำไม่ถูกต้อง เรามีสิทธิ์ไม่ใช่หรือ เราปล่อยให้เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นนานพอแล้ว รู้สึกว่าอยู่เฉยไม่ได้ เหมือนกับคนอื่นๆ แต่รัฐบาลมักพูดเสมอว่ามาจากการเลือกตั้ง เราจึงไม่ปล่อยให้บริหารบ้านเมืองต่อไป ทั้งที่เห็นตลอดว่าสิ่งที่เขาทำอยู่ไม่ถูกไม่ควร เราสองคนตั้งใจไปกันตั้งแต่สามเสน แต่วันที่ออกจากบ้าน ปรากฏว่าแกนนำพามวลชนไปอยู่ที่ราชดำเนิน
ถึงวันนี้ก็ไม่ได้เสียใจที่ออกมาแสดงจุดยืน แน่นอนว่าเรายังต้องดูแลอาชีพ ถึงเวลาไปทำงาน พอว่างก็ไปชุมนุมเพื่อให้ทุกคนรู้ว่าเราพร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนที่มีความคิดเห็นเหมือนกัน
นกชายเล่าอีกว่า เรื่องออกไปชุมนุม ผมกับนกหญิงแทบไม่ได้คุยกันว่าเธอต้องไปนะ เป็นความรู้สึกตรงกันมากกว่า ต่างคนเป็นไปในรูปแบบนี้ และเป็นกันทั้งบ้านอย่างที่นกหญิงบอกจริงๆ คนแรกที่ออกไปก็คือน้องดอม (พีรดนย์) ลูกชายคนเล็ก ไปตั้งแต่ชุมนุมที่สวนลุมพินี ก่อนหน้าจะมีเวทีสามเสนอีก แล้วไปโดยไม่ได้บอกพ่อแม่ด้วย ผมมารู้ตอนมีข่าวในอินเทอร์เน็ตว่าลูกชายของฉัตรชัยกับสินจัยออกไปชุมนุม เราก็ตกใจว่า เฮ้ย! ไปตั้งแต่ตอนไหน
นกหญิงเสริมว่า ที่ดอมไปก่อนอาจจะเพราะเขาเรียนที่โรงเรียนจิตรลดาตั้งแต่เด็ก จากนั้นก็ย้ายไปวชิราวุธฯ ซึ่งเป็นโรงเรียนของพระเจ้าอยู่หัวทั้ง 2 แห่ง พอมีเหตุเกี่ยวข้องกับสถาบันหรือประเทศ เขาจึงรู้สึกว่าอยู่เฉยไม่ได้
นกหญิงพูดเสริมเรื่องบรรยากาศในการชุมนุมว่า คึกคักมาก เราสองคนถูกขอถ่ายรูปตลอดทาง จนช่วงหลังต้องบอกว่า ขอเดินไปด้วยถ่ายรูปไปด้วย เพราะถ้าหยุดเดินเมื่อไหร่ จะติดอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ นกไม่ได้หงุดหงิดนะ เพียงแต่เราไม่ได้อยากออกมาเพื่อเป็นจุดเด่น อยากมาฟังปราศรัยบนเวที และนั่งอยู่กับผู้ชุมนุมมากกว่า
นกฉัตรชัยพูดถึงการแสดงความคิดเห็นในอินสตาแกรมเรื่องการเมืองที่หนักหน่วงว่า เขียนตามความรู้สึก ด้านนกหญิงเสริมว่า ตอนแรกเหมือนนกออกตัวมากกว่า เริ่มคิดไปชุมนุมก่อนนกชายด้วยซ้ำ จนเขาบอกว่าเดี๋ยวไปเป็นเพื่อน ไม่อยากให้ไปคนเดียว แต่ไปๆ มาๆ รู้สึกพี่นกชายจะแรงกว่า ติดตามข่าวตลอดเวลา ถ้าไปชุมนุมไม่ได้จะเปิดโทรทัศน์ที่บ้าน โพกธงชาติผืนเล็กๆ รอบศีรษะ ดูโทรทัศน์แล้วเป่านกหวีดไปด้วย เรียกว่าไม่ห่างจากผู้ชุมนุมเลย จนนกต้องบอกว่า เว้นระยะหน่อย ใช้ชีวิตปกติบ้าง เพราะเวลาเครียดเกินไป ข้อความในอินสตาแกรมก็จะแรงไปด้วย
เหนือเมฆ 2 ถูกแบน...!
นกฉัตรชัยเผยความรู้สึกที่ละครเหนือเมฆ 2 ถูกแบนว่า ก็...มึน งง จริงๆ เราไม่รู้หรือว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าถามว่ารู้สึกอย่างไร มี 2 อย่าง คือ เสียใจ รู้สึกแย่ ทำไมทำแบบนี้ อีกอย่างคือ เสียดายแทนคนดูที่ไม่ได้ดูสิ่งที่เราอยากนำเสนอ
ขณะเดียวกันก็มีเสียงสะท้อนจากผู้ชม 2 แบบ คือ ละครไม่เห็นมีอะไรเลย ทำไมไม่ฉายต่อ ร้อนตัวหรือ และอีกฝั่งที่ให้กำลังใจว่าละครหายไปไหน ลูกผมร้องโวยวาย เด็กก็อยากดูเหมือนกัน แต่มันก็ผ่านไปแล้ว เอาเป็นว่าทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
นกหญิงเสริม นกตกใจว่ามีแบบนี้ด้วยหรือ ละครใกล้จบอยู่แล้วแต่ก็ไม่ได้ออกอากาศ ทั้งที่ทุกอย่างดีมาตลอดละครฮิต คนดูชื่นชมสนุกสนาน ซึ่งสำหรับคนทำงานแค่นี้ก็ชื่นใจแล่วว่าสิ่งที่ทำไม่เสียเปล่า จะบอกว่าเราทำงานดีกว่าใครก็ไม่ใช่ แต่เราทำงานหนักกว่าคนอื่น บางคนอาจจะเลือกทำเรื่องง่ายๆ ใช้เวลาถ่ายไม่นาน ฉายแล้วฮิตแน่นอน แต่ละครของพี่นกชายแต่ละเรื่องใช้เวลาทำงาน 9-10 เดือน ฉายจริงแค่เดือนกว่า แต่พี่นกก็ทุ่มเททุกอย่างเต็มที่ นกรู้สึกว่าเขามีสิทธิ์อะไรมาก้าวก่ายงาน เหมือนเราทำงานศิลปะ และจู่ๆ มีคนเดินเข้ามาที่ออฟฟิศและบอกว่า เฮ้ยอย่างนี้ไม่ชอบ ไปๆ ทำไมถึงทำกับเราแบบนี้ ทุกคนตั้งใจทำงานมาก ทีมงานเบื้องหลังยิ่งรู้สึกมาก เพราะทำงานหนักจริง และเหลืออีกแค่ 3 ตอน ทำไมจึงออกไม่ได้...
นอกจากนี้ในบทสัมภาษณ์แห่งปีนี้ยังมีเรื่องราวชีวิต ความรัก และครอบครัวอีกมากมายในมุมที่หลายคนยังไม่เคยรู้อีกด้วย.
ขอบคุณภาพ และบทสัมภาษณ์บางส่วนจากนิตยสารแพรว ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ในธีมเทศกาลวาเลนไทน์
http://www.thairath.co.th/content/life/402648