ดอกมะลิดอกเล็กค่อย ๆ ถูกร้อยเรียงเป็นพวงมาลัย ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่าพวงมาลัยสวย ๆ นี้ถูกร้อยขึ้นมาโดยเขา ปกป้อง ผู้ชายร่างสูง ผู้เป็นเจ้าของร้านดอกไม้ ‘วันรัก’ แห่งนี้ นิ้วมือใหญ่หยิบดอกมะลิขึ้นมาร้อยอย่างเบามือไม่ให้ได้บอบช้ำด้วยความชำนาญ รอยยิ้มอบอุ่นของเขาแย้มขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อนึกถึงใบหน้าหวาน ผู้ที่เขาตั้งใจร้อยมาลัยพวงนี้ไปให้เธอเพื่อขอแต่งงาน
“ ฮึฮึ...” เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างไม่มีเหตุผล ก็คนกำลังมีความสุขนี่นะ อายุอานามของเขาเองก็ใช่ว่าจะน้อยเสียเมื่อไหร่ สี่สิบ...สี่สิบขวบปีแล้วนะครับท่านผู้อ่าน
“ อะแฮ่ม!!!” จู่ ๆ เสียงกระแอมแสนจะกวนโอ๊ยก็ดังขึ้น...ชายหนุ่มเหลือบตามองแม่สาวน้อยในชุดนักศึกษา ก่อนจะยิ้มส่ายหน้า แล้วทำทีเป็นไม่สนใจ อีกฝ่ายจึงต้องร้องเพลงกวนอีก
“ มีเมียเด็ก ต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกาย ไม่ต้องนึกอาย เป็นลูกผู้ชายต้อง...โอ๊ยยยย” ไม่ต้องร้องเพลงให้จบประโยค ปกป้องก็จัดมะเหงกงาม ๆ ให้เด็กสาวคนนั้นทันที
“ ไปทำความสะอาดร้านต่อเลยไปเจ้าเปา” เขาแสร้งสั่งอีกฝ่ายเสียงเข้มเพราะกลบเกลื่อนความเขิน
“ โธ่... แค่นี้ก็ต้องทำร้ายร่างกายกันด้วย นี่ขนาดยังไม่แต่งงาน เปายังแตะไม่ได้เลย แล้วนี่จะไปขอเขาแต่งงาน หรือว่าเล่นมาลัยเสี่ยงทายล่ะนั่น”
“ ทั้งสองอย่างล่ะมั้ง เพราะยังไงคนที่ได้ไปก็ต้องมาเป็นเมียของอาอยู่ดี”
“ จ้า...” เป็นหนึ่ง หลานสาวของเขาส่งเสียงแซว ปกป้องยิ้มส่ายหน้า
“ เรียบร้อย...” ชายหนุ่มร้อยพวงมาลัยเสร็จ พร้อมกับยิ้มภูมิใจในผลงานของตน แต่ยังไม่วายเหลือบตาไปมองแม่สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มที่จับจ้องมองเขาอยู่
“ นี่...ถึงอาจะแต่งงานไป แต่ยังไงอาก็รักหลานคนนี้ที่สุด รู้ใช่ไหม???” เขาเอ่ยออกมาก่อนจะยิ้มให้ พร้อมกับมือใหญ่ที่ลูบศีรษะอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู...
“ ก็ไม่ได้จะว่าอะไร แค่ทำตามที่พูดให้ได้ก็แล้วกัน” คำตอบของเด็กสาว ทำให้เขานิ่งไป ก่อนจะยิ้มเจื่อน ๆ
“ เดี๋ยวซื้อขนมมาฝาก ไปก่อนนะ” เขาเอ่ยขึ้น พร้อมกับเดินออกไปอย่างมีความหวัง...หวังว่าเขาจะกลับมาพร้อมกับข่าวดียังไงล่ะ
ภายในโรงแรมหรู ในมุมหนึ่งของงาน ทุกคนต่างวุ่นวายกับงานเดินแบบที่กำลังจะมาถึง โดยความแปลกในการเดินแบบครั้งนี้คือใช้บันไดเลื่อนเป็นแคตวอล์ค ภายในงานเลยต้องใช้สถานที่ที่มันช่างกำกึ่งระหว่างชั้นหนึ่งกับชั้นสอง
“ ดีใจจัง ที่คุณมะลิอุตส่าห์มาเป็นเกียรติให้กับทางเรา” เจ้าของงานเอ่ยขึ้นมาอย่างปลิ้มปีติ เพราะดาราสาวอย่างมัลลิกานั้นแทบจะไม่ค่อยรับงานอีเวนต์และเดินแบบสักเท่าไหร่ ด้วยเหตุผลว่าเธอเป็นนักแสดง ไม่ใช่นางแบบ เพราะมันคงไม่เหมาะกับเธอสักเท่าไหร่ ก็มันไม่มีที่ให้เธอแสดงศักยภาพเลยนี่นา
“ ถ้าพี่วุฒิไม่ขอไว้ มะลิก็ไม่รับหรอกค่ะ อีกอย่าง งานนี้เป็นงานการกุศลด้วย แถมเป็นคอนเซปต์แบบไทย ๆ งานดี ๆ แบบนี้มะลิช่วยเหลือเต็มที่อยู่แล้วค่ะ” เธอเอ่ยออกมาอย่างความรู้สึกที่มันขัดเขิน
“ ดีจังเลย นาน ๆ ทีจะเห็นนักแสดงที่ซื่อสัตย์กับอาชีพของตัวเองแบบนี้ พี่น่ะ โทรติดต่อบรรดาเจ้าแม่อีเวนต์ทั้งหลาย พอรู้ว่าเป็นงานการกุศล แทบจะไม่มีใครมาเลย” คุณวุฒิภัทรบ่นไปตามประสา มัลลิกายิ้มเบา ๆ
ส่วนอีกทางด้านหนึ่งของโรงแรม ร่างสูงดูรีบร้อนและประหม่าเมื่อมาถึง เขาเดินมานั่งยังโต๊ะที่เขาได้จองเอาไว้ ซึ่งเขาให้ทางโรงแรมจัดไว้ให้อย่างโรแมนติคและเป็นส่วนตัว หวังว่ามันจะทำให้หญิงสาวที่เขาหมายปองประทับใจและตอบรับการแต่งงานของเขาในที่สุด
“ พี่ป้อง...รอนานไหมคะ???” หญิงสาวในชุดแซ็กสีดำเข้ารูป เข้ามานั่งโต๊ะเดียวกับเขาอย่างเร่งรีบ
“ ไม่นานค่ะ...น้ำหวานอยากทานอะไร สั่งได้เลยนะคะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้นบวกกับความตื่นเต้นที่อยู่ในใจ
“ หวานไม่หิวค่ะ พี่ป้องบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับหวาน???”
“ เอาไว้เราทานอาหารกันก่อน”
“ แต่หวานว่าพี่ป้องมีอะไรก็รีบคุยมาเถอะค่ะ หวานมีธุระต่อ”
“ หวาน...เอ่อ..” เขาไม่คิดว่าจะต้องมาพูดเอาตอนนี้...ชายหนุ่มออกอาการประหม่าขึ้นทุกที...มือของเขาค่อย ๆ หยิบพวงมาลัยที่อุตส่าห์ร้อยกับมือขึ้นมา นั่นทำให้หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ
“ หวานไม่ใช่แม่นะคะ ที่พี่ป้องต้องมาเคารพนพไหว้” จู่ ๆ เธอรู้สึกว่าจะไม่ค่อยชอบใจรสนิยมของเขาขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ น้ำหวาน...พี่ตั้งใจ...เอ่อ...พี่อยากจะบอกว่า...”
“ เราเลิกกันเถอะค่ะ” หญิงสาวที่เป็นดั่งดวงใจของเขาพูดออกมาแบบนี้ ทำเอาคนฟังแทบช็อค เขานิ่งไปนาน กว่าจะหาปากของตัวเองเจอ ก็เมื่อเธอทำท่าจะลุกออกไป
“ ดะ...เดี๋ยว...นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ...ทำไมน้ำหวานบอกเลิกพี่”
“ พี่จะให้หวานยอมรับพ่อหม้ายลูกโตอย่างพี่อย่างนั้นเหรอคะ??? พี่ป้องมีลูกหวานก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ทำไมต้องปิดบังกันด้วย แถมลูกสาวพี่ป้องก็ทำท่าเหมือนจะเป็นศัตรู หวานไม่อยากต่อสู้กับยัยเด็กนั่น แค่คิดก็เหนื่อย...หวังว่านี่คงพอนะคะ สำหรับเหตุผล” พูดจบหญิงสาวก็เดินออกไปอย่างไม่แยแสเลยสักนิด
“ น้ำหวาน...” ไม่เลยสักนิด หญิงสาวที่เขารักไม่แม้แต่จะเหลียวมามอง ชายหนุ่มทรุดนั่งลงกับเก้าอี้อย่างหมดอาลัยตายอยาก พร้อมกับสั่งให้เด็กเอาแชมเปญมาเสิร์ฟให้เขา
“ ฮึ...” เขาหัวเราะอย่างขมขื่นในลำคอ แชมเปญชั้นดี ที่เขาอุตส่าห์สรรหา เพื่อจะดื่มฉลองกับหญิงสาวที่เขารัก หลังจากที่ขอเธอแต่งงานแล้วเรียบร้อย ตอนนี้เขาจะต้องมาดื่มมันเพื่อย้อมใจล่ะสินะ ปกป้องเอ๋ย...
“ ขอเชิญทุกท่าน พบกับแฟชั่นโชว์เครื่องเพชร ในคอนเซปต์ งามอย่างไทยค่ะ” สิ้นสุดเสียงประกาศ การเดินแบบก็เริ่มต้นขึ้น มัลลิกายืนมือเย็นด้วยความตื่นเต้นจากชั้นบน ทำไงดีนะ ทำไงดี...
“ พี่มะลิ!!! ถึงคิวแล้วค่ะ...” ทีมงานเรียกเธอ มัลลิกาที่ปลีกตัวออกมายืนทำใจจึงรีบเดินเข้าไปเพื่อเตรียมตัวเดินแบบ แต่เพราะรีบไปหน่อย ทำให้เธอเดินชนกับร่างสูงเข้า
“ อุ๊ย!!!หลีกหน่อยค่ะ ฉันรีบ!!!” เพราะรีบจริง ๆ พอตั้งตัวได้ เธอก็ผละร่างออกมาจากอ้อมแขนอบอุ่น แล้วรีบเดินออกไปทันที
“ คุณ ๆ เดี๋ยวสิ...มาชนแล้วหนีเหรอ...คุ๊ณ!!!” ปกป้องรู้สึกฉุนขึ้นมาอย่างง่ายดายเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ เขาไม่ได้เมาอะไรมากมายหรอก แค่มึน ๆ และนั่นไม่สามารถทำให้เขาควบคุมอารมณ์ของตนอยู่
เสียงรัวชัตเตอร์จากบรรดานักข่าวดังลั่นไปทั่วทั้งงาน เมื่อมัลลิกา ปรากฏตัวลงมาจากบันไดเลื่อนชั้นสองด้วยชุดไทยอย่างสง่างาม ในขณะเดียวกัน ปกป้องที่เดินตามเธอมา ก็ได้แต่ยืนถือพวงมาลัยมองเธออยู่จากข้างบน แปลก...ที่ทุกอย่างที่เป็นเธอนั้นมันช่างสะกดใจให้เขาไม่สามารถละสายตาได้เลย ทุกการเคลื่อนไหว ทุกการย่างก้าว น่ามองไปเสียหมด
“ ก็เป็นดารานี่นะ...ฮึ” ปกป้องเอ่ยออกมาเบา ๆ ระหว่างที่กำลังมองเธอเดินเฉิดฉายให้บรรดานักข่าวถ่ายรูปอยู่ข้างล่างอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีทีมงานเดินมาชนเขา ราวกับตื่นจากภวังค์ ปกป้องตกใจทำพวงมาลัยพวงสวยตกลงไปข้างล่าง
“ ว้าย!!! ขอโทษค่ะ!!!” ทีมงานคนนั้นตกใจเสียงดัง ทำให้บรรดานักข่าวที่อยู่ข้างล่างมองขึ้นไปตามเสียง และพวกเขาเห็นว่าพวงมาลัยกำลังจะตกลงมาในบริเวณที่มัลลิกายืนอยู่พอดี
“ คุณมะลิ!!! ระวัง!!!” มัลลิกามองตามนักข่าวขึ้นไป เห็นว่าเป็นพวงมาลัยเธอจึงยื่นมือไปรับเอาไว้ อย่างสวยงาม หญิงสาวถอนหายใจ ยังไงก็ดีกว่าวิ่งหนีเตลิดจากตรงนี้ล่ะน่า เธอคิดในใจ ก่อนจะมองย้อนขึ้นไปยังที่พวงมาลัยหล่นลงมา มัลลิกาจึงได้สบตากับเขา ร่างสูงที่ยืนอยู่ชั้นบน
เพียงแรกเจอฉันก็ตะลึง ให้คิดถึงอยู่ทุกวัน
จิตใจฉันมัดแน่นผูกพัน ดั่งสวรรค์สรรสร้างเธอมา
เธอเป็นใครมาจากไหนกัน เป็นความฝันหรือความจริง
เธอสุดสวยสมเป็นยอดหญิงฉันยิ่งหลงละเมอ
[สุข สันต์ วัน รัก] Chapter 1 สุขสันต์วันเกิด
ดอกมะลิดอกเล็กค่อย ๆ ถูกร้อยเรียงเป็นพวงมาลัย ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อว่าพวงมาลัยสวย ๆ นี้ถูกร้อยขึ้นมาโดยเขา ปกป้อง ผู้ชายร่างสูง ผู้เป็นเจ้าของร้านดอกไม้ ‘วันรัก’ แห่งนี้ นิ้วมือใหญ่หยิบดอกมะลิขึ้นมาร้อยอย่างเบามือไม่ให้ได้บอบช้ำด้วยความชำนาญ รอยยิ้มอบอุ่นของเขาแย้มขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อนึกถึงใบหน้าหวาน ผู้ที่เขาตั้งใจร้อยมาลัยพวงนี้ไปให้เธอเพื่อขอแต่งงาน
“ ฮึฮึ...” เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างไม่มีเหตุผล ก็คนกำลังมีความสุขนี่นะ อายุอานามของเขาเองก็ใช่ว่าจะน้อยเสียเมื่อไหร่ สี่สิบ...สี่สิบขวบปีแล้วนะครับท่านผู้อ่าน
“ อะแฮ่ม!!!” จู่ ๆ เสียงกระแอมแสนจะกวนโอ๊ยก็ดังขึ้น...ชายหนุ่มเหลือบตามองแม่สาวน้อยในชุดนักศึกษา ก่อนจะยิ้มส่ายหน้า แล้วทำทีเป็นไม่สนใจ อีกฝ่ายจึงต้องร้องเพลงกวนอีก
“ มีเมียเด็ก ต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกาย ไม่ต้องนึกอาย เป็นลูกผู้ชายต้อง...โอ๊ยยยย” ไม่ต้องร้องเพลงให้จบประโยค ปกป้องก็จัดมะเหงกงาม ๆ ให้เด็กสาวคนนั้นทันที
“ ไปทำความสะอาดร้านต่อเลยไปเจ้าเปา” เขาแสร้งสั่งอีกฝ่ายเสียงเข้มเพราะกลบเกลื่อนความเขิน
“ โธ่... แค่นี้ก็ต้องทำร้ายร่างกายกันด้วย นี่ขนาดยังไม่แต่งงาน เปายังแตะไม่ได้เลย แล้วนี่จะไปขอเขาแต่งงาน หรือว่าเล่นมาลัยเสี่ยงทายล่ะนั่น”
“ ทั้งสองอย่างล่ะมั้ง เพราะยังไงคนที่ได้ไปก็ต้องมาเป็นเมียของอาอยู่ดี”
“ จ้า...” เป็นหนึ่ง หลานสาวของเขาส่งเสียงแซว ปกป้องยิ้มส่ายหน้า
“ เรียบร้อย...” ชายหนุ่มร้อยพวงมาลัยเสร็จ พร้อมกับยิ้มภูมิใจในผลงานของตน แต่ยังไม่วายเหลือบตาไปมองแม่สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มที่จับจ้องมองเขาอยู่
“ นี่...ถึงอาจะแต่งงานไป แต่ยังไงอาก็รักหลานคนนี้ที่สุด รู้ใช่ไหม???” เขาเอ่ยออกมาก่อนจะยิ้มให้ พร้อมกับมือใหญ่ที่ลูบศีรษะอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู...
“ ก็ไม่ได้จะว่าอะไร แค่ทำตามที่พูดให้ได้ก็แล้วกัน” คำตอบของเด็กสาว ทำให้เขานิ่งไป ก่อนจะยิ้มเจื่อน ๆ
“ เดี๋ยวซื้อขนมมาฝาก ไปก่อนนะ” เขาเอ่ยขึ้น พร้อมกับเดินออกไปอย่างมีความหวัง...หวังว่าเขาจะกลับมาพร้อมกับข่าวดียังไงล่ะ
ภายในโรงแรมหรู ในมุมหนึ่งของงาน ทุกคนต่างวุ่นวายกับงานเดินแบบที่กำลังจะมาถึง โดยความแปลกในการเดินแบบครั้งนี้คือใช้บันไดเลื่อนเป็นแคตวอล์ค ภายในงานเลยต้องใช้สถานที่ที่มันช่างกำกึ่งระหว่างชั้นหนึ่งกับชั้นสอง
“ ดีใจจัง ที่คุณมะลิอุตส่าห์มาเป็นเกียรติให้กับทางเรา” เจ้าของงานเอ่ยขึ้นมาอย่างปลิ้มปีติ เพราะดาราสาวอย่างมัลลิกานั้นแทบจะไม่ค่อยรับงานอีเวนต์และเดินแบบสักเท่าไหร่ ด้วยเหตุผลว่าเธอเป็นนักแสดง ไม่ใช่นางแบบ เพราะมันคงไม่เหมาะกับเธอสักเท่าไหร่ ก็มันไม่มีที่ให้เธอแสดงศักยภาพเลยนี่นา
“ ถ้าพี่วุฒิไม่ขอไว้ มะลิก็ไม่รับหรอกค่ะ อีกอย่าง งานนี้เป็นงานการกุศลด้วย แถมเป็นคอนเซปต์แบบไทย ๆ งานดี ๆ แบบนี้มะลิช่วยเหลือเต็มที่อยู่แล้วค่ะ” เธอเอ่ยออกมาอย่างความรู้สึกที่มันขัดเขิน
“ ดีจังเลย นาน ๆ ทีจะเห็นนักแสดงที่ซื่อสัตย์กับอาชีพของตัวเองแบบนี้ พี่น่ะ โทรติดต่อบรรดาเจ้าแม่อีเวนต์ทั้งหลาย พอรู้ว่าเป็นงานการกุศล แทบจะไม่มีใครมาเลย” คุณวุฒิภัทรบ่นไปตามประสา มัลลิกายิ้มเบา ๆ
ส่วนอีกทางด้านหนึ่งของโรงแรม ร่างสูงดูรีบร้อนและประหม่าเมื่อมาถึง เขาเดินมานั่งยังโต๊ะที่เขาได้จองเอาไว้ ซึ่งเขาให้ทางโรงแรมจัดไว้ให้อย่างโรแมนติคและเป็นส่วนตัว หวังว่ามันจะทำให้หญิงสาวที่เขาหมายปองประทับใจและตอบรับการแต่งงานของเขาในที่สุด
“ พี่ป้อง...รอนานไหมคะ???” หญิงสาวในชุดแซ็กสีดำเข้ารูป เข้ามานั่งโต๊ะเดียวกับเขาอย่างเร่งรีบ
“ ไม่นานค่ะ...น้ำหวานอยากทานอะไร สั่งได้เลยนะคะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้นบวกกับความตื่นเต้นที่อยู่ในใจ
“ หวานไม่หิวค่ะ พี่ป้องบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับหวาน???”
“ เอาไว้เราทานอาหารกันก่อน”
“ แต่หวานว่าพี่ป้องมีอะไรก็รีบคุยมาเถอะค่ะ หวานมีธุระต่อ”
“ หวาน...เอ่อ..” เขาไม่คิดว่าจะต้องมาพูดเอาตอนนี้...ชายหนุ่มออกอาการประหม่าขึ้นทุกที...มือของเขาค่อย ๆ หยิบพวงมาลัยที่อุตส่าห์ร้อยกับมือขึ้นมา นั่นทำให้หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ
“ หวานไม่ใช่แม่นะคะ ที่พี่ป้องต้องมาเคารพนพไหว้” จู่ ๆ เธอรู้สึกว่าจะไม่ค่อยชอบใจรสนิยมของเขาขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“ น้ำหวาน...พี่ตั้งใจ...เอ่อ...พี่อยากจะบอกว่า...”
“ เราเลิกกันเถอะค่ะ” หญิงสาวที่เป็นดั่งดวงใจของเขาพูดออกมาแบบนี้ ทำเอาคนฟังแทบช็อค เขานิ่งไปนาน กว่าจะหาปากของตัวเองเจอ ก็เมื่อเธอทำท่าจะลุกออกไป
“ ดะ...เดี๋ยว...นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ...ทำไมน้ำหวานบอกเลิกพี่”
“ พี่จะให้หวานยอมรับพ่อหม้ายลูกโตอย่างพี่อย่างนั้นเหรอคะ??? พี่ป้องมีลูกหวานก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ทำไมต้องปิดบังกันด้วย แถมลูกสาวพี่ป้องก็ทำท่าเหมือนจะเป็นศัตรู หวานไม่อยากต่อสู้กับยัยเด็กนั่น แค่คิดก็เหนื่อย...หวังว่านี่คงพอนะคะ สำหรับเหตุผล” พูดจบหญิงสาวก็เดินออกไปอย่างไม่แยแสเลยสักนิด
“ น้ำหวาน...” ไม่เลยสักนิด หญิงสาวที่เขารักไม่แม้แต่จะเหลียวมามอง ชายหนุ่มทรุดนั่งลงกับเก้าอี้อย่างหมดอาลัยตายอยาก พร้อมกับสั่งให้เด็กเอาแชมเปญมาเสิร์ฟให้เขา
“ ฮึ...” เขาหัวเราะอย่างขมขื่นในลำคอ แชมเปญชั้นดี ที่เขาอุตส่าห์สรรหา เพื่อจะดื่มฉลองกับหญิงสาวที่เขารัก หลังจากที่ขอเธอแต่งงานแล้วเรียบร้อย ตอนนี้เขาจะต้องมาดื่มมันเพื่อย้อมใจล่ะสินะ ปกป้องเอ๋ย...
“ ขอเชิญทุกท่าน พบกับแฟชั่นโชว์เครื่องเพชร ในคอนเซปต์ งามอย่างไทยค่ะ” สิ้นสุดเสียงประกาศ การเดินแบบก็เริ่มต้นขึ้น มัลลิกายืนมือเย็นด้วยความตื่นเต้นจากชั้นบน ทำไงดีนะ ทำไงดี...
“ พี่มะลิ!!! ถึงคิวแล้วค่ะ...” ทีมงานเรียกเธอ มัลลิกาที่ปลีกตัวออกมายืนทำใจจึงรีบเดินเข้าไปเพื่อเตรียมตัวเดินแบบ แต่เพราะรีบไปหน่อย ทำให้เธอเดินชนกับร่างสูงเข้า
“ อุ๊ย!!!หลีกหน่อยค่ะ ฉันรีบ!!!” เพราะรีบจริง ๆ พอตั้งตัวได้ เธอก็ผละร่างออกมาจากอ้อมแขนอบอุ่น แล้วรีบเดินออกไปทันที
“ คุณ ๆ เดี๋ยวสิ...มาชนแล้วหนีเหรอ...คุ๊ณ!!!” ปกป้องรู้สึกฉุนขึ้นมาอย่างง่ายดายเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ เขาไม่ได้เมาอะไรมากมายหรอก แค่มึน ๆ และนั่นไม่สามารถทำให้เขาควบคุมอารมณ์ของตนอยู่
เสียงรัวชัตเตอร์จากบรรดานักข่าวดังลั่นไปทั่วทั้งงาน เมื่อมัลลิกา ปรากฏตัวลงมาจากบันไดเลื่อนชั้นสองด้วยชุดไทยอย่างสง่างาม ในขณะเดียวกัน ปกป้องที่เดินตามเธอมา ก็ได้แต่ยืนถือพวงมาลัยมองเธออยู่จากข้างบน แปลก...ที่ทุกอย่างที่เป็นเธอนั้นมันช่างสะกดใจให้เขาไม่สามารถละสายตาได้เลย ทุกการเคลื่อนไหว ทุกการย่างก้าว น่ามองไปเสียหมด
“ ก็เป็นดารานี่นะ...ฮึ” ปกป้องเอ่ยออกมาเบา ๆ ระหว่างที่กำลังมองเธอเดินเฉิดฉายให้บรรดานักข่าวถ่ายรูปอยู่ข้างล่างอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีทีมงานเดินมาชนเขา ราวกับตื่นจากภวังค์ ปกป้องตกใจทำพวงมาลัยพวงสวยตกลงไปข้างล่าง
“ ว้าย!!! ขอโทษค่ะ!!!” ทีมงานคนนั้นตกใจเสียงดัง ทำให้บรรดานักข่าวที่อยู่ข้างล่างมองขึ้นไปตามเสียง และพวกเขาเห็นว่าพวงมาลัยกำลังจะตกลงมาในบริเวณที่มัลลิกายืนอยู่พอดี
“ คุณมะลิ!!! ระวัง!!!” มัลลิกามองตามนักข่าวขึ้นไป เห็นว่าเป็นพวงมาลัยเธอจึงยื่นมือไปรับเอาไว้ อย่างสวยงาม หญิงสาวถอนหายใจ ยังไงก็ดีกว่าวิ่งหนีเตลิดจากตรงนี้ล่ะน่า เธอคิดในใจ ก่อนจะมองย้อนขึ้นไปยังที่พวงมาลัยหล่นลงมา มัลลิกาจึงได้สบตากับเขา ร่างสูงที่ยืนอยู่ชั้นบน
จิตใจฉันมัดแน่นผูกพัน ดั่งสวรรค์สรรสร้างเธอมา
เธอเป็นใครมาจากไหนกัน เป็นความฝันหรือความจริง
เธอสุดสวยสมเป็นยอดหญิงฉันยิ่งหลงละเมอ