ขอกำลังใจค่ะ

เรียนตามตรงว่าเครียดค่ะ เครียดเรื่องแม่ ตั้งแต่จำความได้ เราไม่เคยทำอะไรถูกใจแม่เลย
ปัจจุบันต้องแอบไปพบจิตแพทย์เอง เพราะด้วยโรคซึมเศร้า(อีกครั้ง) พูดตรงๆว่าอยู่ได้ด้วยยาค่ะ
เคยไปพบจิตแพทย์เมื่อ 4 ปีก่อน พอแม่รู้ แม่โทรมาด่า ย้ำเลยว่าด่าค่ะ เลยเลิกไปหา
พ่อรู้แค่เราปวดหัวบ่อย แนะนำให้เข้าวัดปฎิบัติธรรม แต่แม่ไม่อนุญาต เพราะเสียเวลาเรียน

สมัยประถมต้น เราสอบได้ที่2 4เทอมติด ได้รับประกาศณียบัติจากโรงเรียน พ่อดีใจค่ะ แต่แม่ไม่
แม่บอกว่า " ได้แค่ที่2 จะดีใจทำไม "
ประถมปลาย เราเป็นนักกีฬาตัวจริง พ่อสนับสนุนค่ะ เพราะเราเป็นหอบตั้งแต่เด็ก แต่แม่ไม่
แม่บอกว่า " เป็นทำไม เสียการเรียน " แต่เราได้ต่ำสุดคือที่5

ม.ต้น เราเข้าโรงเรียนประจำด้วยโค้วต้านักกีฬา เรียนตามตรงว่า โรงเรียนนี้เน้นวิทย์-คณิต ตั้งแต่ม.ต้น
เทอมแรกเราได้ที่23 ค่ะ พ่อรู้เข้าพ่อบอกว่า " ไม่เป็นไรเทอมแรกปรับตัว เทอมต่อไปดีกว่านี้น้ะ"
แต่แม่บอกให้เลิกเล่นกีฬาเด็ดขาดค่ะ ผลคือ เราเลิกเล่นกีฬา เทอมสองเราได้ที่20ค่ะ
ม.ปลาย เราขอพ่อลาออกจากที่นั่น เพราะ เราชอบภาษาอังกฤษมากกว่า พ่อก็ตามใจค่ะ
ขอพ่อไปเรียนโรงเรียนเอกชลที่เป็นสองภาษา พ่อสนับสนุนค่ะ แต่แม่ไม่เพราะค่าใช้จ่ายสูง
(ค่าใช้จ่ายของเราพ่อจ่ายคนเดียวนะคะ) แม่ให้สอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดแทน สุดท้ายเราสอบได้ค่ะ
ด้วยคะแนนสูงสุดอันดับ6 จากเด็กที่มาสอบทั้งหมด พ่อรู้เข้าพ่อพูดว่า " เก่งนี่หว่า นึกว่าพ่อต้องช่วยซะแล้ว"
แต่แม่บอกว่า " สอบได้อันดับสูงสุดแค่ที่6 จะดีใจไรนักหนากะแค่ที่6 "

มหาลัยปี1 แม่บังคับให้เข้าเศรษฐศาสตร์ ด้วยเหตุผลว่า หางานง่ายที่สุดและเงินดี เรียนเทอมแรก F ไป 5 จาก 8
โดนด่ายับค่ะ  แม่ด่าเราเหมือนเราไปฆ่าคนตายอะค่ะ คำพูดนึงที่แม่พูดกับเราคือ " มีปัญญาเรียนได้แค่นี้ จะทำงานอะไรได้อย่างแกอะ ดูแบบพี่เอซิ(พี่เอคือลูกพี่ลูกน้องค่ะ จบเอกญี่ปุ่น เงินเดือน 20,000-30,000฿)
วันนั้นเลยตัดสินใจไม่ติดต่อที่บ้าน หางานทำเองดู ก็อยู่ได้ค่ะ เดือนนึงได้8,000฿+ทิป อีก (เป็นเด็กเสริฟร้านเหล้า)
สุดท้ายแม่ก็มาตามหาค่ะ พูดดีทุกอย่างว่าจะไม่บังคับอะไรอีก

มาเริ่มต้นเรียนใหม่ เราเลือกรามค่ะ เพราะอยากทำงานไปด้วย ทะเลาะกับแม่บ้านแทบแตก  แต่สุดท้ายก็ยอม
ระหว่างที่เรียน แม่สั่งให้เราเรียนให้จบภายใน 3 ปี ช้าสุดคือ 3ปีครึ่ง แม่ให้เหตุผลว่า เราเลือกเรียนเอง ต้องเรียนได้
และบังคับเรียนภาษาที่3 คือ ญี่ปุ่น เพราะจะได้ทำงานในโรงงานแบบพี่เอได้ (เราเรียนประวัติศาสตร์การท่องเที่ยว)
เทอมแรกตกญี่ปุ่นค่ะ ได้เกรดรวมคือ พอใช้ พ่อพูดแค่ "ไม่ตกหมดก็พอแล้ว" แต่แม่พูดว่า " เรียนยังไงให้สอบตก"
เทอมสองเราเริ่มอยากขายของ ไม่อยากรบกวนที่บ้าน ก็เอาเงินที่เคยทำงานตอนนั้นมาลงทุนค่ะ
ขายได้ดีทีเดียว เงินที่ได้เดือนแรก 6,000฿ ให้พ่อกับแม่คนละครึ่ง พ่อก็ถามว่า"ขายของรึไงถึงมีเงิน"
แต่แม่พูดกับเราว่า " แกขายยาใช่มั้ยถึงมีเงิน แกบอกชั้นมาเดี๋ยวนี้น้ะ แกขายยาใช่มั้ย"
เราร้องไห้เลยค่ะ ทำไมแม่ต้องคิดกับเราแบบนั้น ถ้าเราขายยาจริง เรามีเงินเยอะกว่านี้แล้วค่ะ

สถานการณ์ระหว่างเรากับแม่เริ่มแย่ลง จนวันนึง เราทนไม่ไหว เราระเบิดลงค่ะ พูดทุกอย่างที่อยากพูดมาตลอด
พูดไปร้องไห้ไป แต่แม่พูดกับเราว่า "ชั้นเป็นแม่แกนะ ชั้นมีสิทธิที่จะสั่งที่จะว่าแกได้ทุกอย่าง"

ตอนนี้ปี4 เหลืออีก 2 ตัว เราคุยกับพ่อเรื่องทำงานก่อนจบ เพราะไม่อยากมาหางานตอนจบแล้ว
พ่อสนับสนุนค่ะ แต่แม่ไม่ พ่อเลยคุยกับเราว่า "งั้นก็แต่งงานซะ จะได้จบเรื่องไป แม่แกจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับแกอีก
คุยกับแฟนซะ ถ้าแม่ไม่ให้ ให้แฟนมาขอกับพ่อ พ่อยกให้ สินสอดพ่อไม่เรียก ส่วนแม่แกพ่อคุยเอง ไม่แต่งวันนี้
วันหน้าก็ต้องแต่งอยู่ดี " (พ่อกับแม่หย่ากันตอนเราจบม.3ค่ะ แต่อยู่บ้านเดียวกัน)
แต่แม่ไม่โอเคกับแฟน เพราะ รับราชการ เงินน้อย (แฟนเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ม.ต้น รับทราบเรื่องที่บ้านทุกอย่างนะคะ พ่อแม่รู้จักแฟนนานมากแล้วค่ะ และแฟนเป็นคนดีค่ะ)

เครียดค่ะ ไม่ได้ไปพบจิตแพทย์มา2เดือนแล้วค่ะ เราไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะ ทำยังไงก็ไม่ดีเท่าคนอื่น
ตอนนี้รู้สึกไร้ค่ากับแม่มาก ตายไปแม่คงสบายใจกว่านี้ แต่เราตายตอนนี้ไม่ได้ค่ะ
สุดท้ายก็ห่วง พ่อกับแม่อยู่ดีว่าท่านจะอยู่ยังไง

เราขอโทษที่พิมเยอะและพิมยาวนะคะ
เราอึดอัดจริงๆ แฟนก็เครียดๆเรื่องแม่เรา
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจบค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่