คือผมเพิ่งตั้งกระทู้นี้ขึ้นเป็นกระทู้แรกนะครับ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
เข้าเรื่องกันเลยนะกันครับ คือผมคิดถึงหนังเรื่องหนึ่งในช่วงวัยเด็กที่ผมเคยดูมา จำได่เป็นฉากๆเลย แต่ตอนนั้นเด็กอยู่ก็เลยไม่รู้จักชื่อเรื่อง ในตอนนี้ก็คงเป็นหนังเก่าไปแล้วแหละครับ บางทีผมอาจจะเล่าฉากคั่นกันไปคั่นกันมาก็ขอโทษด้วย แต่จะพยายามเล่าให้รู้เรื่องมากที่สุดนะครับ เอาเป็นว่าผมเล่าเท่าที่ผมจำได้เลยล่ะกันนะครับ.
มีพระเอกนางเอกคู่หนึ่งผมจำไม่ได้ว่าเค้ารู้จักกันได้ไงที่ไหน แต่และแล้วเค้าก็ต้องมาจากกันไป ซึ่งก่อนจะจากกันผมรู้สึกว่าเค้าทั้งคู่น่าจะแลกเบอร์กันอยู่แต่รู้สึกนางเอกจะเอาเบอร์ใส่ไว้ในกระเป๋านักเรียนแล้วเธอก็ขึ้นรถไฟกลับบ้าน แล้วเผลอหลับไปหรือยังไงจนเธอมาตกใจตื่นแล้วก็รีบวิ่งลง พอเธอได้สติก็นึกได้ว่าลืมกระัเป๋าบนรถแต่ก็สายไปแล้วรถไฟขบวนนั้นออกไปแล้ว เธอวิ่งตามไม่ทันแน่นอน แล้วฝ่ายพระเอกล่ะ ผมจำไม่ได้เหมือนกันว่าทำเบอร์นางเอกหายหรือว่าตัวเลขของเบอร์บางตัวจางไปจนไม่รู้หมายเลขกันแน่ เขาและเธอจึงไม่ได้ติดต่อกันเลยตลอด จนไม่รู้กี่ปีพระเอกนางเอกโตกันแล้ว แล้วก็ได้มาอยู่บ้านติดกันคือติดแบบติดกันเลยนะครับติดแบบว่าผนังห้องติดกันเลยน่ะครับ ไม่ใช่ห่างกันหลัง2หลัง แต่คือแบบว่าต่างคนต่างไม่รู้เลยว่าอยู่บ้านใกล้กันแค่นี้ เวลาออกไปทำงานก็เดินแยกกันไปเลยคนล่ะฝั่งนางเอกไปซ้ายพระเอกไปขวา เวลากลับน่าจะเคยเจอกันบ้างสินะ แต่ก็ไม่เลยต่างเข้าบ้านไป ไม่มีเหตุการณ์บังเอิญให้เจอะเจอกันเลยหรอเนี้ย แล้วรู้สึกเขาทั้งคู่ก็ต่างมีคนคุยด้วยหรือแฟนของแต่ละฝ่ายแล้วเหมือนกัน แต่ลึกๆแล้วพระเอกและนางเอกก็ยังคงคิดถึงกันอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่ร็้ว่าจะไปตามหากันยังไง จนตอนสุดท้ายรู้สึกต่างฝ่ายต่างพยายามจะติดต่อกันแล้วเหมือนจะเอาเบอร์มาได้จากแฟนของตัวเองอีกน่ะครับ(แล้วสุดท้ายแฟนของพระเอกกับนางเอกก็มาเป็นแฟนกันเอง 555) จนมาถึงตอนจะจบมันคือจุดพีคของเรื่องที่สรุปทุกอย่างได้ลงตัวเลย พระเอกพยามยามติดต่อหานางเอก นางเอกก็ำพยามติดต่อหาพระเอกเช่นกัน จนช่วงนั้นเกิดแผ่นดินไหวตึกถล่มออกมาจนฝาผนังห้องของทั้งคู่พัง เขาและเธอจึงได้เจอกัน ใช่ครับเขาและเธอมาเจอกันตอนตึกถล่มแล้วก็ได้รู้ว่าความจริงแล้วอยู่ใกล้กันมาตลอดเป็นปีๆ ฉากนี้บอกได้เลยบ่อน้ำตาพระเอกนางเอกแตกเป็นเขื่อนพังเลยครับ หลังจากนั้นผมก็จำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ตึกถล่มพระเอกนางเอกเจอกันร้องไห้ดีใจวิ่งเข้าไปกอดแล้วก็ลืมเลย ไม่รู้ว่ารอดตายรึเปล่า แต่ผมว่ามันอัอั้นนะมาเจอกันตอนวินาทีสุดท้ายยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเลยนจะมาจากกันอีกแล้ว บอกได้เลยหนังเรื่องนี้อยู่หมวดรัก-ดราม่าแน่นอนครับ
**คือหนังเรื่องนี้ในตอนเด็กมันคือหนังที่สุดยอดมากสำหรับผมนะครับ ผมว่ามันคือหนังดราม่าแห่งปีเลยแหละ ทุลักทุเลมากที่นางเอกและพระเอกจะได้เจอกัน แล้วก็มาเจอกันในตอนที่เกิดตึกถล่มด้วย มันรู้สึกอึดอัดมากๆเลยครับ
***คือผมก็ไม่รู้ทำไมว่าพล็อตหนังมันถึงดูลำบากและอะไรมันจะไม่เคยเจอกันขนาดนั้น แต่ผมก็ชอบนะดูลุ้นน่าติดตามดี คือตอนนั้นเด็กๆเลยครับน่าจะ9-10ขวบเนี้ยแหละ ตอนนี้ผมก็จะ17แล้ว ก็เกิดคิดถึงหนังดราม่าในตำนานขึ้นมาบ้าง แบบว่าอารมณ์อยากดูอีกน่ะครับ มันน่าจะเป็นหนังเก่าแล้วน่ะครับ ที่ผมจำได้รู้สึกจะเป็นหนังของเอเชียแหละครับ ไม่ญี่ปุ่นก็เกาหลีไม่ก็จีน ประมาณนี้อ่ะครับ ประเทศไหนที่เค้าผลิตหนังพล็อแนวนี้มาก็น่าจะหนังของประเทศนั้นแหละครับ ใครที่พอเคยดูหรือจำได้อยู่ก็มาบอกผมทีนะัครับ ผมอยากดูมันอีกจริงๆจากใจเลย
****ถ้าหากเล่าไม่รู้เรื่องหรือยังไงก็บอกได้นะครับ แต่นี่ก็คือผมพยายามที่จะเล่าให้ละเอียดและรู้เรื่องมากที่สุดแล้ว ตอนนั้นผมก็แค่เด็ก 9 - 1 0 ขวบ สมองจำอะไรที่เห็นมาก็เล่าเท่าที่จำความได้แหละครับ รบกวนด้วยนะครับ
ใครพอทราบชื่อหนังหรือซีรีย์เรื่องนี้บ้างครับ มันเป็นหนังที่ตรึงตาตรึงใจในวัยเด็กของผมมากเลย
เข้าเรื่องกันเลยนะกันครับ คือผมคิดถึงหนังเรื่องหนึ่งในช่วงวัยเด็กที่ผมเคยดูมา จำได่เป็นฉากๆเลย แต่ตอนนั้นเด็กอยู่ก็เลยไม่รู้จักชื่อเรื่อง ในตอนนี้ก็คงเป็นหนังเก่าไปแล้วแหละครับ บางทีผมอาจจะเล่าฉากคั่นกันไปคั่นกันมาก็ขอโทษด้วย แต่จะพยายามเล่าให้รู้เรื่องมากที่สุดนะครับ เอาเป็นว่าผมเล่าเท่าที่ผมจำได้เลยล่ะกันนะครับ.
มีพระเอกนางเอกคู่หนึ่งผมจำไม่ได้ว่าเค้ารู้จักกันได้ไงที่ไหน แต่และแล้วเค้าก็ต้องมาจากกันไป ซึ่งก่อนจะจากกันผมรู้สึกว่าเค้าทั้งคู่น่าจะแลกเบอร์กันอยู่แต่รู้สึกนางเอกจะเอาเบอร์ใส่ไว้ในกระเป๋านักเรียนแล้วเธอก็ขึ้นรถไฟกลับบ้าน แล้วเผลอหลับไปหรือยังไงจนเธอมาตกใจตื่นแล้วก็รีบวิ่งลง พอเธอได้สติก็นึกได้ว่าลืมกระัเป๋าบนรถแต่ก็สายไปแล้วรถไฟขบวนนั้นออกไปแล้ว เธอวิ่งตามไม่ทันแน่นอน แล้วฝ่ายพระเอกล่ะ ผมจำไม่ได้เหมือนกันว่าทำเบอร์นางเอกหายหรือว่าตัวเลขของเบอร์บางตัวจางไปจนไม่รู้หมายเลขกันแน่ เขาและเธอจึงไม่ได้ติดต่อกันเลยตลอด จนไม่รู้กี่ปีพระเอกนางเอกโตกันแล้ว แล้วก็ได้มาอยู่บ้านติดกันคือติดแบบติดกันเลยนะครับติดแบบว่าผนังห้องติดกันเลยน่ะครับ ไม่ใช่ห่างกันหลัง2หลัง แต่คือแบบว่าต่างคนต่างไม่รู้เลยว่าอยู่บ้านใกล้กันแค่นี้ เวลาออกไปทำงานก็เดินแยกกันไปเลยคนล่ะฝั่งนางเอกไปซ้ายพระเอกไปขวา เวลากลับน่าจะเคยเจอกันบ้างสินะ แต่ก็ไม่เลยต่างเข้าบ้านไป ไม่มีเหตุการณ์บังเอิญให้เจอะเจอกันเลยหรอเนี้ย แล้วรู้สึกเขาทั้งคู่ก็ต่างมีคนคุยด้วยหรือแฟนของแต่ละฝ่ายแล้วเหมือนกัน แต่ลึกๆแล้วพระเอกและนางเอกก็ยังคงคิดถึงกันอยู่ตลอดเวลาแต่ไม่ร็้ว่าจะไปตามหากันยังไง จนตอนสุดท้ายรู้สึกต่างฝ่ายต่างพยายามจะติดต่อกันแล้วเหมือนจะเอาเบอร์มาได้จากแฟนของตัวเองอีกน่ะครับ(แล้วสุดท้ายแฟนของพระเอกกับนางเอกก็มาเป็นแฟนกันเอง 555) จนมาถึงตอนจะจบมันคือจุดพีคของเรื่องที่สรุปทุกอย่างได้ลงตัวเลย พระเอกพยามยามติดต่อหานางเอก นางเอกก็ำพยามติดต่อหาพระเอกเช่นกัน จนช่วงนั้นเกิดแผ่นดินไหวตึกถล่มออกมาจนฝาผนังห้องของทั้งคู่พัง เขาและเธอจึงได้เจอกัน ใช่ครับเขาและเธอมาเจอกันตอนตึกถล่มแล้วก็ได้รู้ว่าความจริงแล้วอยู่ใกล้กันมาตลอดเป็นปีๆ ฉากนี้บอกได้เลยบ่อน้ำตาพระเอกนางเอกแตกเป็นเขื่อนพังเลยครับ หลังจากนั้นผมก็จำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ตึกถล่มพระเอกนางเอกเจอกันร้องไห้ดีใจวิ่งเข้าไปกอดแล้วก็ลืมเลย ไม่รู้ว่ารอดตายรึเปล่า แต่ผมว่ามันอัอั้นนะมาเจอกันตอนวินาทีสุดท้ายยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเลยนจะมาจากกันอีกแล้ว บอกได้เลยหนังเรื่องนี้อยู่หมวดรัก-ดราม่าแน่นอนครับ
**คือหนังเรื่องนี้ในตอนเด็กมันคือหนังที่สุดยอดมากสำหรับผมนะครับ ผมว่ามันคือหนังดราม่าแห่งปีเลยแหละ ทุลักทุเลมากที่นางเอกและพระเอกจะได้เจอกัน แล้วก็มาเจอกันในตอนที่เกิดตึกถล่มด้วย มันรู้สึกอึดอัดมากๆเลยครับ
***คือผมก็ไม่รู้ทำไมว่าพล็อตหนังมันถึงดูลำบากและอะไรมันจะไม่เคยเจอกันขนาดนั้น แต่ผมก็ชอบนะดูลุ้นน่าติดตามดี คือตอนนั้นเด็กๆเลยครับน่าจะ9-10ขวบเนี้ยแหละ ตอนนี้ผมก็จะ17แล้ว ก็เกิดคิดถึงหนังดราม่าในตำนานขึ้นมาบ้าง แบบว่าอารมณ์อยากดูอีกน่ะครับ มันน่าจะเป็นหนังเก่าแล้วน่ะครับ ที่ผมจำได้รู้สึกจะเป็นหนังของเอเชียแหละครับ ไม่ญี่ปุ่นก็เกาหลีไม่ก็จีน ประมาณนี้อ่ะครับ ประเทศไหนที่เค้าผลิตหนังพล็อแนวนี้มาก็น่าจะหนังของประเทศนั้นแหละครับ ใครที่พอเคยดูหรือจำได้อยู่ก็มาบอกผมทีนะัครับ ผมอยากดูมันอีกจริงๆจากใจเลย
****ถ้าหากเล่าไม่รู้เรื่องหรือยังไงก็บอกได้นะครับ แต่นี่ก็คือผมพยายามที่จะเล่าให้ละเอียดและรู้เรื่องมากที่สุดแล้ว ตอนนั้นผมก็แค่เด็ก 9 - 1 0 ขวบ สมองจำอะไรที่เห็นมาก็เล่าเท่าที่จำความได้แหละครับ รบกวนด้วยนะครับ