คุณหมอพรทิพย์ครับ กรุณาเถิดครับ เวลาจะแสดงความคิดเห็นทางการเมือง

กระทู้สนทนา
อยากให้คุณหมอแสดงในฐานะของพลเมืองคนหนึ่งได้ไหมครับ อย่าใช้ฐานะความเป็นนักวิทยาศาสตร์มาใช้ประกอบความคิดเห็นได้ไหมครับ เพราะบางความเห็นของคุณหมอ อาจทำให้วิทยาศาสตร์กลายเป็นศาสตร์ที่ขาดมนต์ขลัง แล้วจะกลายคล้ายสื่อขาดจรรยาบรรณที่คนเสพต้องคอยสืบค้นหาความจริงกันเองเลยนะครับ

ก็ดูความคิดเห็นของคุณหมอเกี่ยวกับการเลือกตั้งครั้งนี้สิครับ คุณหมอมองการเลือกตั้งเป็นแค่ขนมเค๊กที่ขาดส่วนประกอบมากมาย จนทำให้ขนมเค๊กก้อนนี้ไม่อร่อย ถ้าเป็นมุมมองในฐานะนักวิทยาศาสตร์ มันก็เป็นมุมมองที่คับแคบ เป็นมุมมองที่ใช้อารมณ์มากกว่าตรรกะความเป็นจริง

คุณหมอครับ การเลือกตั้ง ถ้าจะเปรียบแบบวิทยาศาสตร์ คุณหมอควรจะเปรียบการเลือกตั้งเป็นเหมือนเครื่องมือในการรักษาโรคต่างหากครับ เมื่อคนไข้ถึงมือหมอ จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน แต่ขาดเครื่องมือหลายตัว เพราะถูกปล้นจากพวกโจรร้าย ดังนั้นการรักษาจึงติดขัด คนไข้จึงยังไม่รับการเยียวยา

ประเด็นคือ คุณหมอต้องการรักษาและป้องกันเครื่องมือเหล่านี้เอาไว้ หรือว่า หมอจะละทิ้งหนทางช่วยเหลือคนไข้ เพราะคิดแค่ว่า มีเครื่องมืออีกก็จะถูกปล้นอีก จริงไหมครับคุณหมอ

แล้วคุณหมออ้างถึงการออกมาต่อต้านรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่เคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ขาดความชอบธรรม แต่คุณหมอกลับไม่พูดถึงวิธีการที่ต่อต้าน นี่คือความคิดเห็นที่ยังไม่สมบูรณ์นะครับ ถึงหลักการจะถูกต้อง แต่ถ้าแนวทางไม่ถูกต้อง มันจะกลายเป็นการสร้างปัญหาซ้อนปัญหาเสียมากกว่า เรื่องนี้คุณหมอเคยคำนึงถึงหรือไม่

และมันยังย้อนแย้งกับที่คุณหมอพูดในช่วงท้าย ที่ว่าข้าราชการรับใช้รัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา แต่คุณหมอกลับไม่เห็นข้าราชการบางส่วนที่ทำหน้าที่รับใช้ฝ่ายเผด็จการบ้างเลยหรือ แล้วนี่เป็นสาเหตุหรือไม่ที่ทำให้รัฐบาลไม่ยอมรับคำวินิจฉัย

เหมือนอย่างคุณหมอคนหนึ่งที่มีฐานะถึงผู้อำนวยการนิติวิทยาศาสตร์ไปรับรองเครื่องจีที 200 ว่าใช้งานตรวจระเบิดได้ ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำงานอย่างไร แค่รู้สึกเองว่าทำงานได้ผล แบบนี้ถ้าจะมีคนไม่เชื่อในคำวินิจฉัยนี้ คนๆนั้นผิดด้วยอย่างนั้นหรือครับ เป็นคนด้อยคุณภาพที่สมควรมีสิทธิน้อยกว่าคุณหมอคนนั้นอย่างนั้นหรือครับ

คุณหมอยังพูดถึงความขัดแย้งระหว่าง กปปส.กับรัฐบาล มีความเป็นอัตตาสูง ต่างไม่ยอมถอยให้แก่กัน ซึ่งฟังเผินๆ เหมือนแสดงความเป็นกลางอย่างเต็มที่ ถ้าไม่บังเอิญไปเห็นภาพที่คุณหมออยู่ท่ามกลางชุมนุม ที่คอสวมนกหวีด ทำให้ผมเข้าใจดีว่า นั่นคงเป็นเพราะคุณหมอถูกลัทธิโฆษณาชวนเชื่อเข้าให้แล้ว

คุณหมอครับ รัฐบาลภายใต้การนำของคุณยิ่งลักษณ์ ถอยมาตลอด ถอยทุกครั้งที่กฎหมายเอื้อให้ จนถึงสุดซอยในเวลานี้ ถ้าถอยมากกว่านี้ มันหมิ่นเหม่ต่อการทำผิดกฎหมายแล้วนะครับคุณหมอ และยังเสี่ยงต่อการถอยหลังของประชาธิปไตยอีกด้วย

แล้วลองหันมาดู กปปส.ของคุณหมอสิครับ ตั้งแต่วันแรกที่ชุมนุมจนถึงวันนี้ เคยถอยให้สักก้าวไหม นอกจากไม่ถอยแล้ว ยังพยายามที่จะยกระดับการชุมนุมให้เข้มข้นขึ้น ซึ่งหมายความว่า ความเดือดร้อนของประชาชนจะเพิ่มขึ้นมาตามระดับความเข้มข้นของการยกระดับ อย่างนี้แล้วคุณหมอยังคิดว่า ใครถืออัตตามากกว่ากันครับ

แล้วคุณหมอก็มาพูดถึงรัฐธรรมนูญไทยที่ไม่เหมือนใคร เขียนกฎหมายละเอียดยิบ จนบางทีคนใช้กฎหมายเป็น ก็จะได้เปรียบกับคนไม่รู้กฎหมาย และด้วยรัฐธรรมนูญแบบนี้ ทำให้คนจนในประเทศจึงมีมากมาย ความหมายของคุณหมอ ซึ่งไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่าว่า ประชาธิปไตยไม่ได้ทำให้คนหายจน

แต่คุณหมอครับ คุณหมอไม่ทราบหรือครับว่า เรามีการทำรัฐประหารถึง 18 ครั้งด้วยกัน ดังนั้นรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่จึงร่างโดยพวกเผด็จการ ประชาธิปไตยในประเทศไทยจึงเป็นการบริหารภายใต้รัฐธรรมนูญของเผด็จการเป็นส่วนใหญ่ อย่างนี้แล้วเราควรจะโทษประชาธิปไตยดีหรือเผด็จการดีครับคุณหมอ

ข้อสังเกตนะครับคุณหมอ ทุกครั้งที่เรามีนายกฯที่เก่ง มีรัฐบาลที่เข้มแข็ง เมื่อนั้นก็จะถูกยึดอำนาจด้วยการทำรัฐประหาร แล้วก็มีพรรคการเมืองหนึ่งได้ขึ้นมาเป็นรัฐบาล วนเวียนอยู่อย่างนี้ร่ำไป คุณหญิงไม่ลองใช้ความเป็นนักวิทยาศาสตร์หาสาเหตุบ้างเลยหรือครับ จะคอยฟังแต่แกนนำบนเวทีราชประสงค์พูดอย่างเดียวไม่ได้นะครับ

สุดท้ายที่คุณหมอพูดถึงเราใช้กฎหมายเถรตรงเกินไป ควรจะมีศีลธรรมควบคู่กันไป สำหรับประเด็นนี้ผมมีทั้งเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยครับคุณหมอ

ที่ผมไม่เห็นด้วยนั่นคือการใช้กฎหมายเถรตรงเกินไป มันไม่จริงเสมอไปนะครับ

มันมีการยึดหยุ่นจนเป็นยางยึดก็มีนะครับ อย่างการใช้พจนานุกรมมาเพิกถอนนายกฯ หรืออย่างยื่นเรื่องผ่านทางศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านอัยการสูงสุด อะไรเหล่านี้เป็นต้น

ส่วนเรื่องควรใช้ศีลธรรมนั้นผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ไม่อย่างนั้นเราก็จะเห็นมีการยุบพรรคอย่างเร่งด่วน กับ ไม่ยุบพรรคเพราะขาดอายุความ นี่คือการขาดความเป็นธรรม หรือการไปใส่ร้ายป้ายสีบนเวทีด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่มีหลักฐาน นี่คือการขาดศีลอย่างชัดเจน และนี่จึงเป็นต้นตอของปัญหาของประเทศในเวลานี้ครับ

คุณหมอครับ คงต้องขออภัยด้วยนะครับ ถ้าข้อเขียนในวันนี้อาจขาดตกบกพร่องไปบ้าง อาจไม่ตรงกับคำพูดของคุณหมอเสียทั้งหมด เพราะเป็นการจับประเด็นคำพูดมาเพื่อขยายเท่านั้นเองนะครับ

สุดท้ายอยากเห็นต่างกับอาจารย์เจษฎาเพียงข้อเดียวครับ

ได้ยินอาจารย์พูดถึงรัฐบาลยึดถือนิติรัฐอย่างเคร่งครัด และ กปปส.ยึดถือแต่นิติธรรมนั้น

ผมก็มีมุมมองของผมครับท่านอาจารย์เจษฎา ผมเห็นว่า มันเป็นความจำเป็นของรัฐบาลครับต้องยึดถือนิติรัฐอย่างเคร่งครัดและต้องระมัดระวังอย่างยิ่งด้วยครับ เพราะมีโอกาสจะถูกฟ้อง มีโอกาสจะถูกพิพากษาความผิดได้ทุกเมื่อ ในสังคมที่เลือกข้าง โดยเฉพาะเหล่าผู้พิพากษาได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าอยู่ฝั่งไหน ดังนั้นจึงเป็นเพียงหนทางเดียวที่รัฐบาลจะต้องยึดหลักกฎหมายไว้เป็นเกราะป้องกันตัวครับ

สำหรับ กปปส.นั้น พวกเขาเล่นกันทั้งนิติรัฐนิติธรรมไปพร้อมๆกันเลยนะครับ แต่เป็นการยึดทั้งสองหลักสำหรับฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น ส่วนการกระทำของฝ่ายเดียวกัน มันยึดอยู่อย่างเดียว รัฐบาลไม่ชอบธรรม ดังนั้นจะใช้วิธีการอย่างไรก็ได้ ขอให้ล้มล้างระบอบทักษิณได้ก็พอ ต่อให้ประเทศต้องเสียสละมากกว่านี้ พวกนี้ก็ยอมครับท่านอาจารย์เจษฎา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่