Moto GP กลับมาเริ่มทดสอบรถกันแล้ว การทดสอบมีขึ้นที่สนามเซปัง ประเทศเพื่อนบ้านเราเหมือนเช่นทุกปี
เมื่อวาน (4/2/2014) เป็นการเทสต์วันแรก มีประเด็นหลายอย่างให้พูดถึงกัน เริ่มกันที่ผลการทดสอบ
ตารางเวลาการทดสอบวันแรก (4/2/2014)
เจ้ามะขวิดยังคงมาดีเหมือนเคย ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุด กลุ่มหน้ายังคงเป็นนักบิดจากสองทีมใหญ่อย่าง Repsol Honda กับ Yamaha Factory และรถของทั้งสองทีมนี้ก็ไม่เจอปัญหาอะไรในการทดสอบเลย ส่วนทีม Ducati ที่ยังคงสองจิตสองใจกับทิศทางการพัฒนารถในปีนี้ว่าจะแข่งแบบ Factory หรือ Open ดี ก็ยังเหมือนเดิมในภาพรวม แต่เหมือนรถจะดีขึ้นนิดๆ
นักขับทีม Satellite เองก็ไม่ค่อยเจอปัญหาในการทดสอบเช่นกัน ในส่วนของทีมในรุ่น Open มีเพียงทีม PBM ที่เจอปัญหาเรื่องเบรค(มั้ง) แล้วก็รถของเสือเฒ่าเอ็ดเวิร์ด ที่ได้วิ่งไม่มากนัก
ปีนี้ทุกทีมเปลี่ยนมาใช้ Standard ECU กันทั้งหมด ทีมโรงงานเองก็เหมือนจะทดสอบตัว ECU ตัวใหม่ด้วยซอร์ฟแวร์ของตัวเองกันตั้งแต่ที่วาเลนเซียปีที่แล้ว เอสพากาโร่ผู้พี่ ยังคงทำผลงานได้ดีเช่นเคย เป็นรถ Open class คันเดียว ที่แทรกเข้ามาอยู่ระหว่างรถโรงงาน เหมือนที่เค้าทำได้ตอนที่ขี่รถ CRT ปีที่แล้ว ทำให้ทุกคนจับตาไปที่รถ FTR-M1 กันทันที
ขณะที่รถ Production จากค่าย HRC กลับทำเวลาห่างจากรถโรงงานค่อนข้างเยอะ งานนี้เรียกกว่าฮอนด้ามีการบ้านให้ทำเยอะเพราะสมควร ถึงแม้ว่านี่จะเพิ่งเป็นการทดสอบแบบจริงจังครั้งแรก ทีมยังไม่คุ้นเคยกับการปรับแต่ง แต่ช่องว่างกับรถโรงงานที่ออกมา มันห่างจากที่ Honda เคยโ ฆษณาไว้เยอะเกินไป ต้องรอดูกันว่าการกั๊กสเปคของ Honda จะมีการปลดล็อคตรงนี้รึเปล่า? จะแก้ปัญหายังไง หรือจะโยนให้ทีมไปแก้ปัญหาที่ Software เอาเอง คิดว่าน่าจะมีขยับก่อนเปิดฤดูการซะด้วยซ้ำ
ย้อนไปดูรถ FTR-M1 ของทีม NGM Forward Racing กันอีกที ถ้าส่วนตัวเข้าใจไม่ผิด เหมือนปีนี้ตัว Chassis จะยังเป็นของ Yamaha นอกจากเครื่องยนและระบบเกียร์ที่เรารู้กันว่า Yamaha ให้เช่า ส่วน FTR ทำแค่ในส่วนของแฟร์ริ่งเท่านั้น ขณะที่ Chassis ของ FTR เองกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ทำให้เราบอกไม่ได้ชัดว่า FTR-M1 ตัวนี้ มันคือกี่ % ของเจ้า M1 ของพี่แยม บ้างก็ว่า 90% บ้างก็ว่า 70% แต่ที่แน่ๆ ณ ตอนนี้ถือว่ามาดีกว่ารถ Production ของ Honda แน่ๆ
ลองมาดูรายละเอียดของแต่ละทีมกัน
Yamaha Factory
ทีมเพิ่งได้ Title sponsor เป็นธนาคาร Eurasian Bank จากประเทศคาซักสถาน ปีนี้จะเป็นปีตัดสินอนาคตของเดอะ ดอกเตอร์ ที่ประกาศออกมาแล้วว่าถ้าผลงานยังออกมาไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ ก็จะอำลาวงการ ส่วนเจ้าอมยิ้มก็คงมีเป้าหมายเดียวกันกับเป้าหมาของทีมก็คือการแย่งแชมป์โลกกลับมาจากค่ายปีกนกให้ได้ ปีนี้ทีม Yamaha มาเปิดตัวรถใหม่ที่อินโดนี่เอง
อมยิ้ม
คุณหมอ

อีกรูป
Repsol Honda
เรียกว่าติดลมบนไปแล้วสำหรับมาร์ค มาเควส แน่นอนว่าเป้าหมายก็คือการป้องกันแชมป์ ขณะที่แดนนี่เอง ก็คงไม่ต่างจากรอสซี่ที่ปีนี้น่าจะเป็นปีสุดท้ายเช่นกัน ถ้าหากปลุกไฟในตัวขึ้นมาไม่ได้ เรียกได้ว่ายิ่งกดดันตัวเอง ก็น่าจะยิ่งส่งผลเสียมากกว่าผลดี ต้องดูว่าสุภาพบุรุษสองล้อคนนี้จะมาสไตล์ไหน ขี่แบบสบายใจหรือว่าบู๊ดุดันเหมือนช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว
มะขวิด
เพรโดซ่า

กับทีมช่าง
Ducati Team
เรียกได้ว่ายังคงมีงานชุกให้ทำอีกเยอะ สำหรับดูคาติ ถ้าหากจะทำให้รถกลับขึ้นไปมีลุ้นแชมป์เบียดกับสองทีมใหญ่ได้อีกครั้ง หลังจากได้บอสคนใหม่ ล่าสุดข่าวที่ออกมาค่อนข้างจะชัดเจนแล้วว่า ทีมสนใจที่จะแข่งในกฏ Open มากกว่า ซึ่งจะเสียเปรียบแค่ไม่สามารถพัฒนา Software เองได้ แต่จะได้เปรียบตรงที่จะพัฒนาเครื่องยนต์ได้ มีเครื่องยนต์ต่อฤดูกาลมากกว่า รวมถึงยางที่อ่อนกว่า
ที่สำคัญคือจะปรับตัวได้เร็วกว่าในอนาคต เมื่อการเมืองเรื่อง ECU จบลง ซึ่งไม่รู้ว่า Honda จะเสียงแข็งไปได้อีกนานแค่ไหน(แต่ยังไม่ค่อยได้ยินข่าวจากฝั่ง Yamaha ในประเด็นนี้) กับการที่ทุกทีมต้องใช้ Standard ECU ทั้งหมดในอีกปีสองปีที่จะมาถึง (ฮอนด้าขู่ว่าจะถอนตัวจาก GP ถ้าต้องเปลี่ยนไปใช้ std ECU ทั้งหมด) ทั้งนี้ความชัดเจนในว่าดูคาติจะส่งรถในกฏไหน น่าจะเดาได้มากขึ้นในการทดสอบครั้งหน้า
คาร์ล

ครัชต่ำอีกซะหน่อย ดูหน้ากันชัดๆ
โดวิ

โค้งซ้าย
Moto GP 2014 - Official Test - Sepang[1]
เมื่อวาน (4/2/2014) เป็นการเทสต์วันแรก มีประเด็นหลายอย่างให้พูดถึงกัน เริ่มกันที่ผลการทดสอบ
ตารางเวลาการทดสอบวันแรก (4/2/2014)
เจ้ามะขวิดยังคงมาดีเหมือนเคย ทำเวลาต่อรอบได้เร็วที่สุด กลุ่มหน้ายังคงเป็นนักบิดจากสองทีมใหญ่อย่าง Repsol Honda กับ Yamaha Factory และรถของทั้งสองทีมนี้ก็ไม่เจอปัญหาอะไรในการทดสอบเลย ส่วนทีม Ducati ที่ยังคงสองจิตสองใจกับทิศทางการพัฒนารถในปีนี้ว่าจะแข่งแบบ Factory หรือ Open ดี ก็ยังเหมือนเดิมในภาพรวม แต่เหมือนรถจะดีขึ้นนิดๆ
นักขับทีม Satellite เองก็ไม่ค่อยเจอปัญหาในการทดสอบเช่นกัน ในส่วนของทีมในรุ่น Open มีเพียงทีม PBM ที่เจอปัญหาเรื่องเบรค(มั้ง) แล้วก็รถของเสือเฒ่าเอ็ดเวิร์ด ที่ได้วิ่งไม่มากนัก
ปีนี้ทุกทีมเปลี่ยนมาใช้ Standard ECU กันทั้งหมด ทีมโรงงานเองก็เหมือนจะทดสอบตัว ECU ตัวใหม่ด้วยซอร์ฟแวร์ของตัวเองกันตั้งแต่ที่วาเลนเซียปีที่แล้ว เอสพากาโร่ผู้พี่ ยังคงทำผลงานได้ดีเช่นเคย เป็นรถ Open class คันเดียว ที่แทรกเข้ามาอยู่ระหว่างรถโรงงาน เหมือนที่เค้าทำได้ตอนที่ขี่รถ CRT ปีที่แล้ว ทำให้ทุกคนจับตาไปที่รถ FTR-M1 กันทันที
ขณะที่รถ Production จากค่าย HRC กลับทำเวลาห่างจากรถโรงงานค่อนข้างเยอะ งานนี้เรียกกว่าฮอนด้ามีการบ้านให้ทำเยอะเพราะสมควร ถึงแม้ว่านี่จะเพิ่งเป็นการทดสอบแบบจริงจังครั้งแรก ทีมยังไม่คุ้นเคยกับการปรับแต่ง แต่ช่องว่างกับรถโรงงานที่ออกมา มันห่างจากที่ Honda เคยโ ฆษณาไว้เยอะเกินไป ต้องรอดูกันว่าการกั๊กสเปคของ Honda จะมีการปลดล็อคตรงนี้รึเปล่า? จะแก้ปัญหายังไง หรือจะโยนให้ทีมไปแก้ปัญหาที่ Software เอาเอง คิดว่าน่าจะมีขยับก่อนเปิดฤดูการซะด้วยซ้ำ
ย้อนไปดูรถ FTR-M1 ของทีม NGM Forward Racing กันอีกที ถ้าส่วนตัวเข้าใจไม่ผิด เหมือนปีนี้ตัว Chassis จะยังเป็นของ Yamaha นอกจากเครื่องยนและระบบเกียร์ที่เรารู้กันว่า Yamaha ให้เช่า ส่วน FTR ทำแค่ในส่วนของแฟร์ริ่งเท่านั้น ขณะที่ Chassis ของ FTR เองกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา ทำให้เราบอกไม่ได้ชัดว่า FTR-M1 ตัวนี้ มันคือกี่ % ของเจ้า M1 ของพี่แยม บ้างก็ว่า 90% บ้างก็ว่า 70% แต่ที่แน่ๆ ณ ตอนนี้ถือว่ามาดีกว่ารถ Production ของ Honda แน่ๆ
ลองมาดูรายละเอียดของแต่ละทีมกัน
Yamaha Factory
ทีมเพิ่งได้ Title sponsor เป็นธนาคาร Eurasian Bank จากประเทศคาซักสถาน ปีนี้จะเป็นปีตัดสินอนาคตของเดอะ ดอกเตอร์ ที่ประกาศออกมาแล้วว่าถ้าผลงานยังออกมาไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ ก็จะอำลาวงการ ส่วนเจ้าอมยิ้มก็คงมีเป้าหมายเดียวกันกับเป้าหมาของทีมก็คือการแย่งแชมป์โลกกลับมาจากค่ายปีกนกให้ได้ ปีนี้ทีม Yamaha มาเปิดตัวรถใหม่ที่อินโดนี่เอง
อมยิ้ม
คุณหมอ
อีกรูป
Repsol Honda
เรียกว่าติดลมบนไปแล้วสำหรับมาร์ค มาเควส แน่นอนว่าเป้าหมายก็คือการป้องกันแชมป์ ขณะที่แดนนี่เอง ก็คงไม่ต่างจากรอสซี่ที่ปีนี้น่าจะเป็นปีสุดท้ายเช่นกัน ถ้าหากปลุกไฟในตัวขึ้นมาไม่ได้ เรียกได้ว่ายิ่งกดดันตัวเอง ก็น่าจะยิ่งส่งผลเสียมากกว่าผลดี ต้องดูว่าสุภาพบุรุษสองล้อคนนี้จะมาสไตล์ไหน ขี่แบบสบายใจหรือว่าบู๊ดุดันเหมือนช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว
มะขวิด
เพรโดซ่า
กับทีมช่าง
Ducati Team
เรียกได้ว่ายังคงมีงานชุกให้ทำอีกเยอะ สำหรับดูคาติ ถ้าหากจะทำให้รถกลับขึ้นไปมีลุ้นแชมป์เบียดกับสองทีมใหญ่ได้อีกครั้ง หลังจากได้บอสคนใหม่ ล่าสุดข่าวที่ออกมาค่อนข้างจะชัดเจนแล้วว่า ทีมสนใจที่จะแข่งในกฏ Open มากกว่า ซึ่งจะเสียเปรียบแค่ไม่สามารถพัฒนา Software เองได้ แต่จะได้เปรียบตรงที่จะพัฒนาเครื่องยนต์ได้ มีเครื่องยนต์ต่อฤดูกาลมากกว่า รวมถึงยางที่อ่อนกว่า
ที่สำคัญคือจะปรับตัวได้เร็วกว่าในอนาคต เมื่อการเมืองเรื่อง ECU จบลง ซึ่งไม่รู้ว่า Honda จะเสียงแข็งไปได้อีกนานแค่ไหน(แต่ยังไม่ค่อยได้ยินข่าวจากฝั่ง Yamaha ในประเด็นนี้) กับการที่ทุกทีมต้องใช้ Standard ECU ทั้งหมดในอีกปีสองปีที่จะมาถึง (ฮอนด้าขู่ว่าจะถอนตัวจาก GP ถ้าต้องเปลี่ยนไปใช้ std ECU ทั้งหมด) ทั้งนี้ความชัดเจนในว่าดูคาติจะส่งรถในกฏไหน น่าจะเดาได้มากขึ้นในการทดสอบครั้งหน้า
คาร์ล
ครัชต่ำอีกซะหน่อย ดูหน้ากันชัดๆ
โดวิ
โค้งซ้าย