สังคมไทยวิกฤติ แก๊งค์แว๊นส์บีบมวยผมเหิมเกริมหนัก ลั่น "ไม่ต้องเห็นหัวพวกมันทั้ง ๒๐ ล้านคน"

นิทานสอนใจผู้ปกครองในอดีตเรื่อง "พ่อแม่รังแกฉัน" คงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว

เมื่อ เด็กชายบีบมวยผม ที่ได้รับการเลี้ยงดู อุ้มชู ให้ท้าย สปอย ทุกอย่าง จนเสียเด็ก เสียผู้เสียคน ไม่รู้จักโต ได้เติบโตขึ้นเป็นเด็กมีปัญหาในสังคม

ไม่รู้จะโทษใครเพราะพวกเขา ได้รับการเอาใจ ไม่ได้รับการสั่งสอน ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี มาโดยตลอด ยิ่งระยะหลัง ๆ  ไม่ว่าพ่อ ตลก. แม่ ปปช. อา กกต. หรือแม่นมผู้โด่งดัง จาก กสม. เฝ้าแต่ประเคน เอาอกเอาใจ กระเตงอีกฝ่ายและไล่ทำร้ายอีกฝ่าย มาโดยตลอดในช่วง ๗-๘ ปีที่ผ่านมา  

ในที่สุด ความเลวร้ายก็ทะลุ ปรอท กร้าวหนัก ถึงขนาดจะเหยียบศรีษะ คน ๒๐ กว่าล้านคนว่า ไม่ต้องสนใจพวกมัน

โมฆะ โมฆะ และต้องโมฆะ สถานเดียว

สังคมไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่สภาวะการเผชิญหน้า...จากการแย่งชิงอำนาจ ด้วยเล่ห์กลและเทคติค  มาสู่ สงครามชนชั้นเต็มรูปแบบ เพียงแค่เหตุจากเด็กแว้นส์ บีบมวยผม งอแง

ยิ่งฟังพวกมันเถียงแบบ "ข้าง ๆ คู ๆ "แล้วยิ่งสมเพช พ่อแม่ พี่ป้าน้าอา (ที่เอาพวกนี้กระเตงเข้าเอวมา) ของพวกมัน

ตัวเองไปหาเรื่อง ไปชกต่อย ไปก่อความวุ่นวาย ไปเป็นนักเลงอันธพาล ในงานของเขา จนงานเขาจัดกันไม่ราบรื่น ติดขัด ไม่สามารถจะทำให้ คนอื่น ๆ บรรลุวัตถุประสงค์การจัดงานได้

แล้วก็วิ่งมาฟ้องว่า เห็นไหม เห็นไหม.....งานที่จะจัดใหม่นี้ ผิด เพราะ มันไม่สามารถจะจัดให้ราบรื่นในครั้งแรกได้ ฉะนั้น อย่าให้มันจัดใหม่ งานต้องล้มเลิก งานต้องล้มเลิก .......เพราะพวกกรูไม่ถูกกับคนจัดงาน

แล้วคนอื่นที่ไปงานเนี่ย มันไม่เกี่ยวอะไรด้วย ?  

มันไม่รู้เรื่องอะไรด้วย มันก็อยู่ของมันดี ๆ มีจิตใจที่ดี อยากจะให้สังคมมันผ่านไปอย่างสงบสุข

กลับไม่มอง ไม่สนใจ แถมมองกลับมาด้วยหางตาว่า ทำไมต้องสนใจพวกเมิงงงงง

งานนี้ ต่อให้พ่อแม่ ญาติพี่น้องเข้าข้างกันสุดตัวอย่างไร ก็ต้องมอง ต้องเห็น และควรเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า มันไม่ได้ใช่คนจำนวนน้อย ๆ เลย

เพราะกิจกรรมของงาน  คนจัดเขาไม่ได้ไปยัดให้ถึงเตียงนอน  ไปได้ไปเสริฟกันถึงประตูรถ แต่คนมางานจำนวนมาก ต้องลงทุน ลงแรง เสี่ยงตายกันเข้าไปในงาน เพื่อไม่ให้ เด็กแว้นส์ มันตีกบาล ตรงประตูเข้างาน

ความจริง เขาแค่อาจจะรู้สึก รำคาญ สมเพช หรือที่หนักหน่อยก็แค่อยากถีบนิด ๆ  กับเด็กแว้นส์หน้าประตูเหล่านั้น

แต่เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นแล้วเขาก็พากันเดินกลับบ้าน..แบบไม่อยากจะมีเรื่องกับนักเลงโต ประจำสังคมไทย

แต่ถ้าจะให้ พ่อ แม่ พี่ ป้า น้า อา  ของเด็กแว้นส์ ดังกล่าวจะออกตัวมายืนชี้หน้าด่ากันตรงหน้าบ้าน ของประชาชนว่า

พวกเอ็งผิด พวกเอ็งชั่ว พวกเอ็ง ไปงานทำไม ลูกหลานของฉันบอกว่า ไม่ดี ๆ ๆ ๆ ๆ ไม่ให้ไป ไม่ให้ไป ก็ยังไม่เชื่อกันอีก

ฉะนั้น ชั้นจึงจะขอตัดสิทธิ และยกเลิกกิจกรรม ของพวกแก..โทษฐานที่ทำให้ลูกหลานฉันโกรธหละก็

งานนี้ ไม่ใช่เฉพาะไอ้แว้นส์กวนเมืองค่ายบีบมวยผม อย่างเดียวที่จะพัง

ชาวบ้านจะรุมประชาทัณฑ์ โคตรของมันด้วยเอาง่าย ๆ

คนทุกคน มันจะมีความอดทน อดกลั้น เป็นพื้นฐาน...

แต่ความอดทนนั้น ...มันมีขีดจำกัดของมันเสมอ

สังคมไทยไม่ใช่โรงงานปลากระป๋อง ของเตี่ยใคร ของโกคนไหน คนใดคนหนึ่ง

สังคมไทยประกอบกันเป็นสามส่วน จึงจะเป็นสังคมไทย หรือเป็นรัฐ เป็นประเทศได้ อันมี ดินแดน ประชาชน และสุดท้าย อำนาจอธิปไตย

สามอย่างนี้ มันจึงจะเป็นประเทศได้ หากไม่เห็นหัว ประชาชน ๒๐ กว่าล้านคน

ก็คงจะอยู่กันรวมกันเป็นรัฐลำบาก

คิดเป็นมั้ย คิดสิ คิด แก่จนจะเข้าโลงกันอยู่รอมร่อแล้ว ...หัดคิดอะไรที่มันเป็นคุณกับประเทศบ้างเหอะ..

เตือนกันดี ๆ แล้วนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่