เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับรุ่นพี่ของดิฉันเองค่ะ เค้าฝากให้ช่วยลงเพื่อเป็นอุธาหรณ์ให้กับคนที่ใช้ Internet Banking อยู่ เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นแล้ว และเป็นในลักษณะเดียวกันกับเคสของคุณ รังสรรค์ ที่เคยลงกระทู้ในพันทิป เป๊ะเลย แต่เคสนี้ทางธนาคารไทยพาณิชย์ไม่ได้ใส่ใจในการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ลูกค้าเลย ได้คำตอบกลับมาจากแบงค์ซึ่งไม่ตรงกับสิ่งที่ผู้เสียหายได้ร้องเรียนไป ลองอ่านกันนะคะ แล้วจะงงกับการทำงานของแบงค์เค้าจริงๆเลยค่ะ
เหตุเกิดช่วงเช้าของวันที่ 25 ธันวาคม 2556 ซึ่งในเวลาดังผมไม่ได้ทราบเลยว่าโทรศัพท์ของผมไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากวันนั้นผมนอนตื่นสาย และปกติเวลานอนผมก็จะไม่วางโทรศัพท์ไว้ในห้องนอนอยู่แล้ว ซึ่งกว่าผมจะรู้ว่าถูกโจรกรรมเงินในบัญชีไป ก็เป็นเวลา ประมาณ 15.00 น.พอดีเพื่อนโทรศัพท์เข้ามา แล้วบอกว่าโทรไปหาอีกเบอร์(089-866xxxx)แต่โทรไปติดที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผมก็งงกำลังจะโทรไปเช็คกับศูนย์ Aisพอหยิบโทรศัพท์อีกเบอร์ขึ้นมาก็เห็นข้อความจาก SCB ขึ้นหลายข้อความ ซึ่งการใช้ internet banking ของไทยพาณิชย์ ผมจะเชื่อมต่อกับเบอร์โทรศัพท์ของผมทั้งสองเบอร์เลย คือเบอร์ 089-866xxxx และ 081-864xxxx แต่ในวันนั้นอีกเบอร์081-864xxxxที่เชื่อมต่อผมได้ปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ แต่เบอร์ 089-866xxxxที่ไม่สามารถใช้ได้เนื่องจากถูกคนร้ายทำการเทคโอเวอร์ซิมการ์ดไปแล้ว พอเปิดข้อความก็พบว่ามีการทำการโอนเงินจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ของผมผ่านอินเตอร์เน็ตแบงค์ และมีข้อความแจ้งการเปลี่ยนพาสเวริดอีกด้วย แค่นั้นแหล่ะผมก็รู้เลยว่าผมโดนมิจฉาชีพขโมยเงินในบัญชีผมไปแล้ว ผมจึงได้รีบไปติดต่อ ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา นิมมานเหมินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสาขาใกล้บ้านของผม ให้ทำการเช็คยอดเงิน และอายัดบัญชี และได้ทราบว่าเงินได้หายไปจากบัญชีแล้ว เป็นจำนวน 400,000 บาท ซึ่งคนร้ายได้ทำการโอนไปยังธนาคาร ไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 1592139557 จำนวนเงิน 100,000 บาท จำนวน 3 ครั้ง และโอนไปยังธนาคาร กสิกรไทย เลขที่บัญชี 0972675342 เป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท 3ครั้ง 10,000 บาท อีก 1 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งหมด 400,000 บาท หลังจากนั้นผมก็ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สถานีตำรวจ ภูพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ และได้เข้าไปติดต่อที่ศูนย์ AIS สาขาเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ เพื่อสอบถามถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้ และสืบได้ว่า ได้มีบุคคลอ้างอิงว่าได้รับมอบอำนาจจากผม ไปทำการขอเปิดซิมการ์ดใหม่ โดยคนร้ายได้ก่อเหตุด้วยวิธี ปลอมแปลงเอกสารทางราชการ โดยใช้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ปลอม โดยได้ปลอมลายเซ็นของผม แล้วมอบอำนาจให้ นางสาวเพ็ญศรี ประกอบกิจ ไปแจ้งความจำนงขอทำซิมการ์ดเบอร์ 089-866xxxx ใหม่ ที่ศูนย์บริการ เทเลวิชสาขาในกรุงเทพ เนื่องจากซิมการ์ดสูญหาย โดยได้ไปแจ้งความเท็จลงบันทึกประจำวันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอใบแจ้งความเอกสารหาย เพื่อใช้แนบในการขอทำซิมการ์ดใหม่
-ใบขับขี่รูปล่าง เป็นใบขับขี่ปลอมที่ทำขึ้นเพื่อเซ็นมอบอำนาจให้ไปเปิดซิมการ์ดใหม่ สังเกตที่วันเดือนปีเกิด ไม่ตรงกับของผู้เสียหาย

จริงๆแล้วเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับผมเลย เพราะผมเป็นคนที่รอบคอบและระวังกับเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตแบงค์เป็นอย่างมาก และยิ่งก่อนหน้านี้ผมก็ได้ติดตามข่าวกระทู้ของ คุณ รังสรรค์ ที่ถูกโจรกรรมเงินจากบัญชีไปด้วยวิธีโอนผ่านอินเตอร์เน็ต ทำให้ผมป้องกันตัวเองเป็นอย่างมาก ผมยังสงสัยว่ามิจฉาชีพกลุ่มนี้รู้ได้ไงว่าผมใช้บริการธนาคารไทยพาณิชย์ และยังรู้ว่าผมใช้ internet banking ของธนาคารนี้ด้วย ทั้งๆที่บัญชีนี้ผมไม่มีแม้กระทั่งบัตรเอทีเอ็ม( ฉะนั้นที่เคยมีแก๊งค์โจรกรรมที่ตำรวจเคยจับไปในคดีของพี่รังสรรค์ ที่สารภาพว่าเลือกเหยื่อจาก สลิปATM จึงไม่น่าเป็นไปได้)) สมุดบัญชีก็อยู่กับผมตลอดไม่เคยฝากใครไปปรับสมุด ปกติผมจะทำธุรกรรมการเงินผ่านทางอินเตอร์เน็ตสำหรับโอนเงินชำระค่าสินค้าเป็นบางครั้งเท่านั้น และในการเข้าใช้งานทุกครั้งผมไม่เคยเปิดเผยให้ใครทราบ มีแต่ผมเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่รู้รหัส user nameและpass word ในการlog inเข้าใช้ และผมก็เปลี่ยน รหัส user nameและpass word อยู่บ่อยๆ หลังจากใช้งานเสร็จผมก็จะ Log outออกจากระบบทันที ผมไม่เคยใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์สาธารณะหรือโทรศัพท์มือถือ เพราะผมจะใช้กับเฉพาะเครื่อง Mac book air ของผมเท่านั้นเพราะผมคิดว่าปลอดภัยจากไวรัสมากกว่าใช้คอมพิวเตอร์PCและยังได้แจ้งที่ศูนย์AISด้วยว่า ถ้าจะมีการมาแจ้งทำธุรกรรมใดๆเกี่ยวกับเบอร์โทรศัพท์ของผม ต้องเป็นตัวผมมาทำด้วยตัวเองเท่านั้น และผมก็ได้ตั้งรหัสป้องกันก่อนที่จะเริ่มทำธุรกรรมทุกอย่างที่ศูนย์AISหรือผ่านทางCall Centerอีกด้วย
เป็นโชคดีของผมที่ได้ติดตามกระทู้และข่าวคราวในเวปพันทิพย์ เกี่ยวกับที่ถูกโจรกรรมเงินไปบัญชีไปด้วยวิธีโอนผ่าน internet bank ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนกรณีที่ผมเจอเป๊ะเลย และยังเป็นธนาคารไทยพาณิชย์และศูนย์เทเลวิชหมือนกันอีกด้วย จึงได้ขอคำปรึกษากับทาง คุณรังสรรค์ คอยให้คำปรึกษาและให้กำลังใจ พี่เค้าได้แนะนำให้ส่งจดหมายร้องเรียนไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย ผมเลยได้ส่งจดหมายร้องเรียนเข้าไปทางเวปไซต์ และได้เข้าไปพบเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของธนาคารแห่งประเทศไทย สาขา เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินเรื่องตามขั้นตอนให้ ตัวผมเองก็คิดว่ายังไงทางธนาคารไทยพาณิชย์ต้องรับผิดชอบแน่นอน เพราะผมเองก็ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหลักฐานที่ชัดเจน ผมส่งเรื่องให้กับทางแบงค์ชาติในวันที่ 2มกราคม 2557 และทางธนาคารไทยพานิชย์ได้ส่งจดหมายชี้แจงกลับมา ลงวันที่ 14 มกราคม 2557 แต่ผมเพิ่งได้รับจดหมายเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2557เนื่องจากผมไม่อยู่บ้านโดยทางธนาคารได้แจ้งว่า " เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2556 ธนาคารได้รับการติดต่อผ่านศูนย์บริการลูกค้าของธนาคารเพื่อสอบถามยอดเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝาก เลขที่ 159-2-13955-7 ซึ่งทางธนาคารได้ตรวจสอบตัวตนลูกค้าเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของบัญชีโดยการสอบถามข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของบัญชีนั้นเป็นไปตามขั้นตอนปกติของธนาคาร อีกทั้งยังได้จรวจสอบไฟล์บันทึกการสนทนาเพิ่มเติมแล้ว ไม่พบการขอ user name ใหม่ " ซึ่งเลขที่บัญชี 159-2-13955-7 เป็นเลขที่บัญชีที่มิชฉาชีพได้ทำการโอนเงินจากบัญชีของผมไปยังเลขที่บัญชีนี้ ไม่ใช่เลขที่บัญชีที่ได้รับความเสียหายของผม เลขที่บัญชีของผมคือ830-xxxxxx-2 สรุป คือแบงค์เค้าไม่ได้สนใจความเสียหายของลูกค้าเลย เค้าเข้าใจเรื่องที่ผมร้องทุกข์ผ่านแบงค์ชาติไปมั้ย หรือได้อ่านจดหมายร้องเรียนอย่างชัดเจนรึปล่าว ถึงได้ตอบไม่ตรงคำถาม ทั้งๆที่จดหมายก็อธิบายอย่างละเอียดชัดเจน หลักฐานก็ส่งให้ครบถ้วน เค้ารับเรื่องและดำเนินการตรวจสอบอย่างไร ถึงได้ไปตรวจสอบเลขที่บัญชีของมิจฉาชีพ แต่ไม่ตรวจสอบบัญชีของเจ้าทุกข์อย่างผม และวันที่ 28 มกราคม 2557 ผมได้เข้าไปติดต่อกับธนาคารไทยพาณิชย์สาขาที่ผมเปิดบัญชีไว้ ทางสาขายังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมเลย ทั้งๆที่ผมได้แจ้งให้กับทางธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2556 แค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ไม่ให้ความสำคัญกับความเสียหายของลูกค้าเลย เพิกเฉยต่อการดำเนินการ ทำให้ผมเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก เงินก้อนนี้สำคัญกับชีวิตผมมาก ผมไว้ใจที่ฝากเงินไว้กับธนาคาร สุดท้ายเงินกลับหายไปเพราะความหละหลวมในระบบของธนาคาร มันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ
- จดหมายที่ทางธนาคารตอบกลับมา แต่กลับไปตรวจสอบความผิดปกติบัญชีของมิจฉาชีพ แทนที่จะตรวจสอบบของผู้เสียหาย แสดงให้เห็นเลยว่าทางธนาคารไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เลย

-จดหมายร้องเรียนที่ผู้เสียหายได้ส่งไป ซึ่งอธิบายได้ชัดเจน พร้อมหลักฐานประกอบเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ

เพราะต้องเข้าใจประเด็นหลักก่อนว่า เงินหรือทรัพย์สินของเรา เมื่อเราทำการฝากไว้กับธนาคาร ธนาคารมีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินนั้น เมื่อมีการโจรกรรมทรัพย์สินในธนาคารออกไป ถึงแม้จะเป็นชื่อบัญชีของเรา แต่ผู้ที่ต้องรับผิดชอบคือธนาคาร มิใช่เจ้าของบัญชี
http://www.fpmconsultant.com/htm/advocate_dtl.php?id=227
เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เราในฐานะเจ้าของบัญชีต้องรีบนำเรื่องไปแจ้งความ และแสดงตัว พิสูจน์ตนให้ธนาคารเห็นว่าเรามิได้เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมนั้นๆที่เกิดขึ้น ส่วนอื่นต้องเป็นหน้าที่ของผู้เสียหายโดยตรง (ในกรณีนี้คือ ธนาคาร) ต้องเร่งดำเนินคดี ตามจับมิจฉาชีพให้เร็วที่สุด และในขณะเดียวกัน หากพิสูจน์ทราบได้แล้วว่า เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ธนาคารต้องรีบดำเนินการคืนเงินให้แก่เราโดยเร็วที่สุด แต่ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า เกิดกรณีนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก หมายความว่าอย่างไร และวันนี้ธนาคารได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินการสืบสวนสอบสวนกับกลุ่มมิจฉาชีพนี้แล้วหรือยัง เพราะหลายๆเหตุการณ์มีวิธีคล้ายกัน ซึ่งหลังจากที่โดนกับตัวเอง ก็พยายามหาข้อมูลหลายๆทาง ซึ่งเมื่อก่อนที่ยังไม่โดนกับตัวเองก็คิดว่า กลุ่มมิจฉาชีพคงทำตามที่เป็นในข่าว แต่พอเจอกับตัว จึงเกิดความเครือบแคลงสงสัยว่าโจรมันทำได้อย่างเห็นได้ชัดว่า งานนี้มีคนในเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน เพราะคนร้ายมีข้อมูลของเราทุกอย่างที่เราให้ไว้กับทางธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นเลขประจำตัวประชาชน, วันเดือนปีเกิด, หมายเลขโทรศัพท์ของเราที่ผูกไว้กับธนาคาร แต่อย่างอื่นๆที่เราไม่ได้ให้ไว้ โจรถึงไม่ทราบ ยกตัวอย่างกรณีของคุณรังสรรค์ ที่ถูกปลอมเป็นบัตรข้าราชการและสำเนาคัดลอกทะเบียนราษฎร ตามที่คุณรังสรรค์บอกไว้ว่า แปลกใจที่ชื่อบิดา,มารดา ไม่ถูกต้อง ก็เพราะเวลาเราไปเปิดบัญชีธนาคารเราต้องแจ้งชื่อพ่อ ชื่อแม่เราด้วยไม่ล่ะครับ ในการตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวเราเองทางโทรศัพท์เมื่อต้องติดต่อกับธนาคาร ระบบจะสอบถามเรื่องอะไรบ้าง 1. เลขประจำตัวประชาชน, 2.วันเดือนปีเกิด, 3.เบอร์โทรฯ เห็นไม่ครับว่า ถ้าเป็นคนใน ยังไงก็รู้ แค่เรียกAccount ของลูกค้าขึ้นมาจากหน้าคอมฯ คุณก็สามารถรู้ได้ รู้ได้ถึง user name ของลูกค้าในระบบ I-Banking ด้วยซ้ำไป แต่ระบบก็พยายามล๊อกป้องกันอีกชั้น โดยไม่ให้ เจ้าหน้าที่เห็น password ของเรา แก๊งค์มิจฉาชีพนี้จึงต้องทำการเทคโอเวอร์ซิมของเรา เพื่อจะได้เข้าไปแก้ไข password ได้ เพราะเมื่อมีการแก้ไข ระบบธนาคารจะส่ง OTP (one time password) กลับไปยังเบอร์โทรของเราที่ผูกไว้กับระบบ โจรกลุ่มนี้ใช้ช่องทางหลังบ้านของธนาคาร เพื่อเข้าไปโจรกรรมเงินของเราออกมาได้อย่างง่ายดาย
ผมจึงเขียนมาเพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับธนาคารไทยพานิชย์ ให้ช่วยคืนเงินให้ผมด้วย เพราะเป็นเงินที่หามาด้วยความสุจริตและใช้เพื่อทำธุรกิจ ขนาดผมโดนโจรกรรมเงินไปจากธนาคาร สินเชื่อที่ผมทำไว้กับธนาคาร ผมยังต้องชำระให้ตรงงวดเลย ธนาคารยังไม่ผ่อนผันให้ผม ผมก็ไม่ว่า แต่ขอให้คืนเงินส่วนนี้ของผมและเร่งตามจับโจรมาได้ก็พอ ฝากเพื่อนๆช่วยแชร์เรื่องนี้กันด้วยนะครับ เผื่อว่าทางธนาคารไทยพาณิชย์จะกระตือรือร้นรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับผมบ้าง และอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนเกี่ยวกับการใช้อินเตอร์เน็ตแบงค์ ขนาดผมเป็นคนรอบคอบมากขนาดนี้ยังโดนจนได้ และที่สำคัญผมคิดว่าผมคงไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้าย เพราะขบวนการมิจฉาชีพนี้ยังอยู่ โดยที่ทางธนาคารก็ยังไม่สามารถดำเนินการจับคุมขบวนการมิจฉาชีพกลุ่มนี้ได้
http://pantip.com/topic/30799070
http://hilight.kapook.com/view/89394
http://www.9tana.com/node/ebanking-clone/
เจออีกแล้ว โจรไฮเทค internet banking ปลอมตัวเป็นคุณ(Clone) ต่อให้ระวังแค่ไหนก็หนีมันไม่พ้นอยู่ดี
เหตุเกิดช่วงเช้าของวันที่ 25 ธันวาคม 2556 ซึ่งในเวลาดังผมไม่ได้ทราบเลยว่าโทรศัพท์ของผมไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากวันนั้นผมนอนตื่นสาย และปกติเวลานอนผมก็จะไม่วางโทรศัพท์ไว้ในห้องนอนอยู่แล้ว ซึ่งกว่าผมจะรู้ว่าถูกโจรกรรมเงินในบัญชีไป ก็เป็นเวลา ประมาณ 15.00 น.พอดีเพื่อนโทรศัพท์เข้ามา แล้วบอกว่าโทรไปหาอีกเบอร์(089-866xxxx)แต่โทรไปติดที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผมก็งงกำลังจะโทรไปเช็คกับศูนย์ Aisพอหยิบโทรศัพท์อีกเบอร์ขึ้นมาก็เห็นข้อความจาก SCB ขึ้นหลายข้อความ ซึ่งการใช้ internet banking ของไทยพาณิชย์ ผมจะเชื่อมต่อกับเบอร์โทรศัพท์ของผมทั้งสองเบอร์เลย คือเบอร์ 089-866xxxx และ 081-864xxxx แต่ในวันนั้นอีกเบอร์081-864xxxxที่เชื่อมต่อผมได้ปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ แต่เบอร์ 089-866xxxxที่ไม่สามารถใช้ได้เนื่องจากถูกคนร้ายทำการเทคโอเวอร์ซิมการ์ดไปแล้ว พอเปิดข้อความก็พบว่ามีการทำการโอนเงินจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ของผมผ่านอินเตอร์เน็ตแบงค์ และมีข้อความแจ้งการเปลี่ยนพาสเวริดอีกด้วย แค่นั้นแหล่ะผมก็รู้เลยว่าผมโดนมิจฉาชีพขโมยเงินในบัญชีผมไปแล้ว ผมจึงได้รีบไปติดต่อ ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขา นิมมานเหมินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นสาขาใกล้บ้านของผม ให้ทำการเช็คยอดเงิน และอายัดบัญชี และได้ทราบว่าเงินได้หายไปจากบัญชีแล้ว เป็นจำนวน 400,000 บาท ซึ่งคนร้ายได้ทำการโอนไปยังธนาคาร ไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 1592139557 จำนวนเงิน 100,000 บาท จำนวน 3 ครั้ง และโอนไปยังธนาคาร กสิกรไทย เลขที่บัญชี 0972675342 เป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท 3ครั้ง 10,000 บาท อีก 1 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งหมด 400,000 บาท หลังจากนั้นผมก็ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สถานีตำรวจ ภูพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่ และได้เข้าไปติดต่อที่ศูนย์ AIS สาขาเซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ เพื่อสอบถามถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้ และสืบได้ว่า ได้มีบุคคลอ้างอิงว่าได้รับมอบอำนาจจากผม ไปทำการขอเปิดซิมการ์ดใหม่ โดยคนร้ายได้ก่อเหตุด้วยวิธี ปลอมแปลงเอกสารทางราชการ โดยใช้ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ปลอม โดยได้ปลอมลายเซ็นของผม แล้วมอบอำนาจให้ นางสาวเพ็ญศรี ประกอบกิจ ไปแจ้งความจำนงขอทำซิมการ์ดเบอร์ 089-866xxxx ใหม่ ที่ศูนย์บริการ เทเลวิชสาขาในกรุงเทพ เนื่องจากซิมการ์ดสูญหาย โดยได้ไปแจ้งความเท็จลงบันทึกประจำวันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอใบแจ้งความเอกสารหาย เพื่อใช้แนบในการขอทำซิมการ์ดใหม่
-ใบขับขี่รูปล่าง เป็นใบขับขี่ปลอมที่ทำขึ้นเพื่อเซ็นมอบอำนาจให้ไปเปิดซิมการ์ดใหม่ สังเกตที่วันเดือนปีเกิด ไม่ตรงกับของผู้เสียหาย
จริงๆแล้วเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับผมเลย เพราะผมเป็นคนที่รอบคอบและระวังกับเรื่องการใช้อินเทอร์เน็ตแบงค์เป็นอย่างมาก และยิ่งก่อนหน้านี้ผมก็ได้ติดตามข่าวกระทู้ของ คุณ รังสรรค์ ที่ถูกโจรกรรมเงินจากบัญชีไปด้วยวิธีโอนผ่านอินเตอร์เน็ต ทำให้ผมป้องกันตัวเองเป็นอย่างมาก ผมยังสงสัยว่ามิจฉาชีพกลุ่มนี้รู้ได้ไงว่าผมใช้บริการธนาคารไทยพาณิชย์ และยังรู้ว่าผมใช้ internet banking ของธนาคารนี้ด้วย ทั้งๆที่บัญชีนี้ผมไม่มีแม้กระทั่งบัตรเอทีเอ็ม( ฉะนั้นที่เคยมีแก๊งค์โจรกรรมที่ตำรวจเคยจับไปในคดีของพี่รังสรรค์ ที่สารภาพว่าเลือกเหยื่อจาก สลิปATM จึงไม่น่าเป็นไปได้)) สมุดบัญชีก็อยู่กับผมตลอดไม่เคยฝากใครไปปรับสมุด ปกติผมจะทำธุรกรรมการเงินผ่านทางอินเตอร์เน็ตสำหรับโอนเงินชำระค่าสินค้าเป็นบางครั้งเท่านั้น และในการเข้าใช้งานทุกครั้งผมไม่เคยเปิดเผยให้ใครทราบ มีแต่ผมเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่รู้รหัส user nameและpass word ในการlog inเข้าใช้ และผมก็เปลี่ยน รหัส user nameและpass word อยู่บ่อยๆ หลังจากใช้งานเสร็จผมก็จะ Log outออกจากระบบทันที ผมไม่เคยใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์สาธารณะหรือโทรศัพท์มือถือ เพราะผมจะใช้กับเฉพาะเครื่อง Mac book air ของผมเท่านั้นเพราะผมคิดว่าปลอดภัยจากไวรัสมากกว่าใช้คอมพิวเตอร์PCและยังได้แจ้งที่ศูนย์AISด้วยว่า ถ้าจะมีการมาแจ้งทำธุรกรรมใดๆเกี่ยวกับเบอร์โทรศัพท์ของผม ต้องเป็นตัวผมมาทำด้วยตัวเองเท่านั้น และผมก็ได้ตั้งรหัสป้องกันก่อนที่จะเริ่มทำธุรกรรมทุกอย่างที่ศูนย์AISหรือผ่านทางCall Centerอีกด้วย
เป็นโชคดีของผมที่ได้ติดตามกระทู้และข่าวคราวในเวปพันทิพย์ เกี่ยวกับที่ถูกโจรกรรมเงินไปบัญชีไปด้วยวิธีโอนผ่าน internet bank ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนกรณีที่ผมเจอเป๊ะเลย และยังเป็นธนาคารไทยพาณิชย์และศูนย์เทเลวิชหมือนกันอีกด้วย จึงได้ขอคำปรึกษากับทาง คุณรังสรรค์ คอยให้คำปรึกษาและให้กำลังใจ พี่เค้าได้แนะนำให้ส่งจดหมายร้องเรียนไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย ผมเลยได้ส่งจดหมายร้องเรียนเข้าไปทางเวปไซต์ และได้เข้าไปพบเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบเรื่องร้องเรียนของธนาคารแห่งประเทศไทย สาขา เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินเรื่องตามขั้นตอนให้ ตัวผมเองก็คิดว่ายังไงทางธนาคารไทยพาณิชย์ต้องรับผิดชอบแน่นอน เพราะผมเองก็ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยหลักฐานที่ชัดเจน ผมส่งเรื่องให้กับทางแบงค์ชาติในวันที่ 2มกราคม 2557 และทางธนาคารไทยพานิชย์ได้ส่งจดหมายชี้แจงกลับมา ลงวันที่ 14 มกราคม 2557 แต่ผมเพิ่งได้รับจดหมายเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2557เนื่องจากผมไม่อยู่บ้านโดยทางธนาคารได้แจ้งว่า " เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2556 ธนาคารได้รับการติดต่อผ่านศูนย์บริการลูกค้าของธนาคารเพื่อสอบถามยอดเงินคงเหลือในบัญชีเงินฝาก เลขที่ 159-2-13955-7 ซึ่งทางธนาคารได้ตรวจสอบตัวตนลูกค้าเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของบัญชีโดยการสอบถามข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของบัญชีนั้นเป็นไปตามขั้นตอนปกติของธนาคาร อีกทั้งยังได้จรวจสอบไฟล์บันทึกการสนทนาเพิ่มเติมแล้ว ไม่พบการขอ user name ใหม่ " ซึ่งเลขที่บัญชี 159-2-13955-7 เป็นเลขที่บัญชีที่มิชฉาชีพได้ทำการโอนเงินจากบัญชีของผมไปยังเลขที่บัญชีนี้ ไม่ใช่เลขที่บัญชีที่ได้รับความเสียหายของผม เลขที่บัญชีของผมคือ830-xxxxxx-2 สรุป คือแบงค์เค้าไม่ได้สนใจความเสียหายของลูกค้าเลย เค้าเข้าใจเรื่องที่ผมร้องทุกข์ผ่านแบงค์ชาติไปมั้ย หรือได้อ่านจดหมายร้องเรียนอย่างชัดเจนรึปล่าว ถึงได้ตอบไม่ตรงคำถาม ทั้งๆที่จดหมายก็อธิบายอย่างละเอียดชัดเจน หลักฐานก็ส่งให้ครบถ้วน เค้ารับเรื่องและดำเนินการตรวจสอบอย่างไร ถึงได้ไปตรวจสอบเลขที่บัญชีของมิจฉาชีพ แต่ไม่ตรวจสอบบัญชีของเจ้าทุกข์อย่างผม และวันที่ 28 มกราคม 2557 ผมได้เข้าไปติดต่อกับธนาคารไทยพาณิชย์สาขาที่ผมเปิดบัญชีไว้ ทางสาขายังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมเลย ทั้งๆที่ผมได้แจ้งให้กับทางธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2556 แค่นี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ไม่ให้ความสำคัญกับความเสียหายของลูกค้าเลย เพิกเฉยต่อการดำเนินการ ทำให้ผมเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก เงินก้อนนี้สำคัญกับชีวิตผมมาก ผมไว้ใจที่ฝากเงินไว้กับธนาคาร สุดท้ายเงินกลับหายไปเพราะความหละหลวมในระบบของธนาคาร มันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ
- จดหมายที่ทางธนาคารตอบกลับมา แต่กลับไปตรวจสอบความผิดปกติบัญชีของมิจฉาชีพ แทนที่จะตรวจสอบบของผู้เสียหาย แสดงให้เห็นเลยว่าทางธนาคารไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เลย
-จดหมายร้องเรียนที่ผู้เสียหายได้ส่งไป ซึ่งอธิบายได้ชัดเจน พร้อมหลักฐานประกอบเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ
เพราะต้องเข้าใจประเด็นหลักก่อนว่า เงินหรือทรัพย์สินของเรา เมื่อเราทำการฝากไว้กับธนาคาร ธนาคารมีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินนั้น เมื่อมีการโจรกรรมทรัพย์สินในธนาคารออกไป ถึงแม้จะเป็นชื่อบัญชีของเรา แต่ผู้ที่ต้องรับผิดชอบคือธนาคาร มิใช่เจ้าของบัญชี http://www.fpmconsultant.com/htm/advocate_dtl.php?id=227
เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น เราในฐานะเจ้าของบัญชีต้องรีบนำเรื่องไปแจ้งความ และแสดงตัว พิสูจน์ตนให้ธนาคารเห็นว่าเรามิได้เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมนั้นๆที่เกิดขึ้น ส่วนอื่นต้องเป็นหน้าที่ของผู้เสียหายโดยตรง (ในกรณีนี้คือ ธนาคาร) ต้องเร่งดำเนินคดี ตามจับมิจฉาชีพให้เร็วที่สุด และในขณะเดียวกัน หากพิสูจน์ทราบได้แล้วว่า เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ธนาคารต้องรีบดำเนินการคืนเงินให้แก่เราโดยเร็วที่สุด แต่ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า เกิดกรณีนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก หมายความว่าอย่างไร และวันนี้ธนาคารได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินการสืบสวนสอบสวนกับกลุ่มมิจฉาชีพนี้แล้วหรือยัง เพราะหลายๆเหตุการณ์มีวิธีคล้ายกัน ซึ่งหลังจากที่โดนกับตัวเอง ก็พยายามหาข้อมูลหลายๆทาง ซึ่งเมื่อก่อนที่ยังไม่โดนกับตัวเองก็คิดว่า กลุ่มมิจฉาชีพคงทำตามที่เป็นในข่าว แต่พอเจอกับตัว จึงเกิดความเครือบแคลงสงสัยว่าโจรมันทำได้อย่างเห็นได้ชัดว่า งานนี้มีคนในเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน เพราะคนร้ายมีข้อมูลของเราทุกอย่างที่เราให้ไว้กับทางธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นเลขประจำตัวประชาชน, วันเดือนปีเกิด, หมายเลขโทรศัพท์ของเราที่ผูกไว้กับธนาคาร แต่อย่างอื่นๆที่เราไม่ได้ให้ไว้ โจรถึงไม่ทราบ ยกตัวอย่างกรณีของคุณรังสรรค์ ที่ถูกปลอมเป็นบัตรข้าราชการและสำเนาคัดลอกทะเบียนราษฎร ตามที่คุณรังสรรค์บอกไว้ว่า แปลกใจที่ชื่อบิดา,มารดา ไม่ถูกต้อง ก็เพราะเวลาเราไปเปิดบัญชีธนาคารเราต้องแจ้งชื่อพ่อ ชื่อแม่เราด้วยไม่ล่ะครับ ในการตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวเราเองทางโทรศัพท์เมื่อต้องติดต่อกับธนาคาร ระบบจะสอบถามเรื่องอะไรบ้าง 1. เลขประจำตัวประชาชน, 2.วันเดือนปีเกิด, 3.เบอร์โทรฯ เห็นไม่ครับว่า ถ้าเป็นคนใน ยังไงก็รู้ แค่เรียกAccount ของลูกค้าขึ้นมาจากหน้าคอมฯ คุณก็สามารถรู้ได้ รู้ได้ถึง user name ของลูกค้าในระบบ I-Banking ด้วยซ้ำไป แต่ระบบก็พยายามล๊อกป้องกันอีกชั้น โดยไม่ให้ เจ้าหน้าที่เห็น password ของเรา แก๊งค์มิจฉาชีพนี้จึงต้องทำการเทคโอเวอร์ซิมของเรา เพื่อจะได้เข้าไปแก้ไข password ได้ เพราะเมื่อมีการแก้ไข ระบบธนาคารจะส่ง OTP (one time password) กลับไปยังเบอร์โทรของเราที่ผูกไว้กับระบบ โจรกลุ่มนี้ใช้ช่องทางหลังบ้านของธนาคาร เพื่อเข้าไปโจรกรรมเงินของเราออกมาได้อย่างง่ายดาย
ผมจึงเขียนมาเพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับธนาคารไทยพานิชย์ ให้ช่วยคืนเงินให้ผมด้วย เพราะเป็นเงินที่หามาด้วยความสุจริตและใช้เพื่อทำธุรกิจ ขนาดผมโดนโจรกรรมเงินไปจากธนาคาร สินเชื่อที่ผมทำไว้กับธนาคาร ผมยังต้องชำระให้ตรงงวดเลย ธนาคารยังไม่ผ่อนผันให้ผม ผมก็ไม่ว่า แต่ขอให้คืนเงินส่วนนี้ของผมและเร่งตามจับโจรมาได้ก็พอ ฝากเพื่อนๆช่วยแชร์เรื่องนี้กันด้วยนะครับ เผื่อว่าทางธนาคารไทยพาณิชย์จะกระตือรือร้นรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับผมบ้าง และอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนเกี่ยวกับการใช้อินเตอร์เน็ตแบงค์ ขนาดผมเป็นคนรอบคอบมากขนาดนี้ยังโดนจนได้ และที่สำคัญผมคิดว่าผมคงไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้าย เพราะขบวนการมิจฉาชีพนี้ยังอยู่ โดยที่ทางธนาคารก็ยังไม่สามารถดำเนินการจับคุมขบวนการมิจฉาชีพกลุ่มนี้ได้
http://pantip.com/topic/30799070
http://hilight.kapook.com/view/89394
http://www.9tana.com/node/ebanking-clone/