อารัมภบท
- แสดงธรรมแก่พระเจ้าปเสนทิโกศลที่ "โตรณวัตถุ"
พระนางเขมาเถรี จัดว่าท่านทรงมีไหวพริบในด้านการแสดงวาทปฏิภาณดี โดยมีบันทึกไว้
ในบาลีคัมภีร์สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค แห่งอัพยากตสังยุตว่า
ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่ีที่วัดพระเชตวันมหาวิหาร วัดที่ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวาย
อยู่เขตพระนครสาวัตถี
ครั้งนั้น พระนางเขมาเถรีได้เสด็จไปที่แว่นแคว้นโกศล เข้าพักอยู่ที่ โตรณวัตถุ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง
พระนครสาวัตถีกับเมืองสาเกตต่อกัน
ในสมัยนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จจากเมืองสาเกตไปสู่พระนครสาวัตถี ทรงพักแรม ๑ ราตรีที่
โตรณวัตถุนั้น และพระองค์ตรัสสั่งกับราชบุรุษคนหนึ่งว่า "ท่านจงไปเที่ยวสืบดูให้รู้ว่า มีสมณพราหมณ์
ผู้สมควรที่ข้าพเจ้าจะไปหามีอยู่ที่โตรณวัตถุนี้บ้างหรือไม่"
ราชบุรุษนั้นกราบบังคมทูลรับพระราชบัญชาแล้ว ได้เที่ยวไปสอบถามดูจนตลอดโตรณวัตถุ
ก็ไม่พบสมณะหรือพราหมณ์ผู้สมควรที่พระเจ้าปเสนทิโกศลจะเสด็จไปหาเลย
แต่ราชบุรุษนั้นได้เห็นพระเขมาเถรี ผู้เสด็จมาจำพรรษาอยู่ที่โตรณวัตถุ จึงกลับมากราบบังคมทูล
พระเจ้าปเสนทิโกศลว่า "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ไม่มีสมณพราหมณ์ที่
พระองค์ควรจะเสด็จไปหาเลย เห็นมีแต่พระนางเขมาเถรี ผู้เป็นสาวิกาของพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่ประทับ
อยู่ที่โตรณวัตถุนี้ พระพุทธเจ้าข้า" และกิตติศัพท์อันดีของพระนางเขมาเถรีนี้มีฟุ้งขจรไปว่า เป็นบัณฑิต
เป็นผู้เฉียบคม เป็นผู้มีปัญญามากเป็นพหูสูต ผู้ฟังหรือเล่าเรียนมาก เป็นผู้กล่าวถ้อยคำอันไพเราะ มีปฏิภาณ
( เชาว์ไวในการกล่าวแก้หรือโต้ตอบได้ฉับพลันทันทีและแยบคาย ) ดี ขอให้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จ
ไปหาพระเถรีนั้นเถิด พระพุทธเจ้าข้า"
พระเขมาเถรี วิสัชนาพระเจ้าปเสนทิโกศล "สัตว์ตายแล้วเกิดหรือ, ไม่เกิดอีกหรือ, เกิดอีกก็มีไม่เกิดอีกก็มีหรือ... ฯลฯ"
- แสดงธรรมแก่พระเจ้าปเสนทิโกศลที่ "โตรณวัตถุ"
พระนางเขมาเถรี จัดว่าท่านทรงมีไหวพริบในด้านการแสดงวาทปฏิภาณดี โดยมีบันทึกไว้
ในบาลีคัมภีร์สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค แห่งอัพยากตสังยุตว่า
ครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่ีที่วัดพระเชตวันมหาวิหาร วัดที่ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวาย
อยู่เขตพระนครสาวัตถี
ครั้งนั้น พระนางเขมาเถรีได้เสด็จไปที่แว่นแคว้นโกศล เข้าพักอยู่ที่ โตรณวัตถุ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่าง
พระนครสาวัตถีกับเมืองสาเกตต่อกัน
ในสมัยนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จจากเมืองสาเกตไปสู่พระนครสาวัตถี ทรงพักแรม ๑ ราตรีที่
โตรณวัตถุนั้น และพระองค์ตรัสสั่งกับราชบุรุษคนหนึ่งว่า "ท่านจงไปเที่ยวสืบดูให้รู้ว่า มีสมณพราหมณ์
ผู้สมควรที่ข้าพเจ้าจะไปหามีอยู่ที่โตรณวัตถุนี้บ้างหรือไม่"
ราชบุรุษนั้นกราบบังคมทูลรับพระราชบัญชาแล้ว ได้เที่ยวไปสอบถามดูจนตลอดโตรณวัตถุ
ก็ไม่พบสมณะหรือพราหมณ์ผู้สมควรที่พระเจ้าปเสนทิโกศลจะเสด็จไปหาเลย
แต่ราชบุรุษนั้นได้เห็นพระเขมาเถรี ผู้เสด็จมาจำพรรษาอยู่ที่โตรณวัตถุ จึงกลับมากราบบังคมทูล
พระเจ้าปเสนทิโกศลว่า "ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ไม่มีสมณพราหมณ์ที่
พระองค์ควรจะเสด็จไปหาเลย เห็นมีแต่พระนางเขมาเถรี ผู้เป็นสาวิกาของพระผู้มีพระภาคเจ้า ที่ประทับ
อยู่ที่โตรณวัตถุนี้ พระพุทธเจ้าข้า" และกิตติศัพท์อันดีของพระนางเขมาเถรีนี้มีฟุ้งขจรไปว่า เป็นบัณฑิต
เป็นผู้เฉียบคม เป็นผู้มีปัญญามากเป็นพหูสูต ผู้ฟังหรือเล่าเรียนมาก เป็นผู้กล่าวถ้อยคำอันไพเราะ มีปฏิภาณ
( เชาว์ไวในการกล่าวแก้หรือโต้ตอบได้ฉับพลันทันทีและแยบคาย ) ดี ขอให้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จ
ไปหาพระเถรีนั้นเถิด พระพุทธเจ้าข้า"