1. ข้อความที่เน้นสีเหลืองช่วงแรกที่ว่า :
"ท่านเล่าว่า ได้เห็นพระสงฆ์เป็นจำนวนมากอยู่ที่ศาลาโรงฉัน ท่านก็ไปร่วมอยู่กับพระเหล่านั้น"
ตรงนี้ไม่จริง แต่เรื่องนี้ยังไม่ใช่ประเด็นในการเสวนากันในกระทู้นี้
ที่เน้นไว้ก็เพื่อเป็นหลักฐาน ว่ามหาโชดกเขียนไปเรื่อยอย่างไม่มีหลักการอะไร
ความรู้วิชาธรรมกายก็มีน้อยมาก ที่เขียนไปก็เพื่อโจมตีเท่านั้น
2. ต่อไปคือข้อความที่ต้องการจะเสวนากันคือ :
วันนี้ ท่านบอกว่า ธรรมกายที่ได้ไว้แล้วมาบ่อยๆ
ข้อความนี้
"ไม่จริง"
มหาโชดกไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิชาธรรมกาย โดยคิดว่า กายธรรมเป็นนิมิตอย่างหนึ่ง ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะเห็น คือ บางทีก็เห็น บางทีก็ไม่เห็น
กายธรรมไม่ได้เป็นอย่างนั้น
กายธรรมจำนวน 10 กาย คือ กายธรรมโคตรภู (หยาบ-ละเอียด) กายธรรมพระโสดา (หยาบ-ละเอียด) กายธรรมพระสกิทาคามี (หยาบ-ละเอียด) กายธรรมพระอนาคามี (หยาบ-ละเอียด) กายธรรมพระอรหัต (หยาบ-ละเอียด)
ต้องทำวิชา 18 กาย ถึงจะเห็น
กายธรรมเหล่านั้น เมื่อเห็นแล้วจะเห็นเป็นระบบ การเห็นระดับกายธรรมในวิชา 18 กายนั้น ไม่ใช่ "นิมิต" แล้ว
ผู้ที่เห็นกายธรรมนั้น ความนิ่งของจิตเกินอัปปนาสมาธิไปแล้ว
พูดง่ายๆ ก็คือ ในการเห็นกายธรรมนั้น ความนิ่งของจิตสูงกว่าเดินฌานสมาบัติ
ดังนั้น หลวงพ่อวัดปากน้ำ ไม่มีทางที่จะมากล่าวกับมหาโชดกว่า
"ธรรมกายที่ได้ไว้แล้วมาบ่อยๆ" อย่างเด็ดขาด
3. กายธรรมดับวูบในวิชาธรรมกายมีหรือไม่ ?
ในวิชาธรรมกาย ไม่มีกายธรรมดับวูบอย่างที่มหาโชดกเขียนมา
เมื่อเห็นกายธรรมใด ในหลักการของวิชาธรรมกายเราต้องเข้าไปหากายธรรมที่ละเอียดเข้าไปอีก
คำว่า
"กายธรรมที่ละเอียดเข้าไปอีกนี้ ไม่มีที่สิ้นสุด" คือ วันนี้ เราเห็นกายธรรมกายนี้ละเอียดสุด พรุ่งนี้เรามาเดินวิชาต่อเข้าไปอีก
กายธรรมที่ละเอียดสุดนี้ ก็หยาบกว่ากายธรรมที่เราเข้าต่อไป
ในวิชาธรรมกาย ไม่มีการพบกายธรรมที่ละเอียดที่สุด เราสามารถเข้ากายธรรมที่ละเอียดไปเรื่อย ไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อเห็นกายธรรมที่ละเอียดที่สุดในการทำวิชาของครั้งนั้นๆ แล้ว เราก็เอาใจของกายธรรมองค์ที่เราอยู่ ณ ปัจจุบันไปตามฐาน 1-2-3-7 ก็จะเห็นดวงธรรมของกายธรรมองค์ที่จะเข้าไปหา
เราก็ต้องหาจุดเล็กใสที่ปลายเข็มกลางดวงธรรม แล้วนึกให้จุดเล็กใสว่างออกไป ก็จะเห็นกายธรรมกายที่ละเอียดนั้น เราก็เข้าไปตามฐาน 1-2-3-7 อีก
ถ้าถามว่า ทำไปทำไม
อธิบายง่ายๆ ว่า อวิชาอยู่กับกายต่างๆ การผ่านกายที่หยาบไปหากายที่ละเอียดนั้น ทำให้อวิชาหลุดออกไปเรื่อย "วิชา" ก็เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ
มหาโชดกโกหกเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ - [7] "ธรรมกายดับวูบ"
1. ข้อความที่เน้นสีเหลืองช่วงแรกที่ว่า :
"ท่านเล่าว่า ได้เห็นพระสงฆ์เป็นจำนวนมากอยู่ที่ศาลาโรงฉัน ท่านก็ไปร่วมอยู่กับพระเหล่านั้น"
ตรงนี้ไม่จริง แต่เรื่องนี้ยังไม่ใช่ประเด็นในการเสวนากันในกระทู้นี้
ที่เน้นไว้ก็เพื่อเป็นหลักฐาน ว่ามหาโชดกเขียนไปเรื่อยอย่างไม่มีหลักการอะไร
ความรู้วิชาธรรมกายก็มีน้อยมาก ที่เขียนไปก็เพื่อโจมตีเท่านั้น
2. ต่อไปคือข้อความที่ต้องการจะเสวนากันคือ :
วันนี้ ท่านบอกว่า ธรรมกายที่ได้ไว้แล้วมาบ่อยๆ
ข้อความนี้ "ไม่จริง"
มหาโชดกไม่เข้าใจเกี่ยวกับวิชาธรรมกาย โดยคิดว่า กายธรรมเป็นนิมิตอย่างหนึ่ง ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะเห็น คือ บางทีก็เห็น บางทีก็ไม่เห็น
กายธรรมไม่ได้เป็นอย่างนั้น
กายธรรมจำนวน 10 กาย คือ กายธรรมโคตรภู (หยาบ-ละเอียด) กายธรรมพระโสดา (หยาบ-ละเอียด) กายธรรมพระสกิทาคามี (หยาบ-ละเอียด) กายธรรมพระอนาคามี (หยาบ-ละเอียด) กายธรรมพระอรหัต (หยาบ-ละเอียด) ต้องทำวิชา 18 กาย ถึงจะเห็น
กายธรรมเหล่านั้น เมื่อเห็นแล้วจะเห็นเป็นระบบ การเห็นระดับกายธรรมในวิชา 18 กายนั้น ไม่ใช่ "นิมิต" แล้ว
ผู้ที่เห็นกายธรรมนั้น ความนิ่งของจิตเกินอัปปนาสมาธิไปแล้ว
พูดง่ายๆ ก็คือ ในการเห็นกายธรรมนั้น ความนิ่งของจิตสูงกว่าเดินฌานสมาบัติ
ดังนั้น หลวงพ่อวัดปากน้ำ ไม่มีทางที่จะมากล่าวกับมหาโชดกว่า "ธรรมกายที่ได้ไว้แล้วมาบ่อยๆ" อย่างเด็ดขาด
3. กายธรรมดับวูบในวิชาธรรมกายมีหรือไม่ ?
ในวิชาธรรมกาย ไม่มีกายธรรมดับวูบอย่างที่มหาโชดกเขียนมา
เมื่อเห็นกายธรรมใด ในหลักการของวิชาธรรมกายเราต้องเข้าไปหากายธรรมที่ละเอียดเข้าไปอีก
คำว่า "กายธรรมที่ละเอียดเข้าไปอีกนี้ ไม่มีที่สิ้นสุด" คือ วันนี้ เราเห็นกายธรรมกายนี้ละเอียดสุด พรุ่งนี้เรามาเดินวิชาต่อเข้าไปอีก
กายธรรมที่ละเอียดสุดนี้ ก็หยาบกว่ากายธรรมที่เราเข้าต่อไป
ในวิชาธรรมกาย ไม่มีการพบกายธรรมที่ละเอียดที่สุด เราสามารถเข้ากายธรรมที่ละเอียดไปเรื่อย ไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อเห็นกายธรรมที่ละเอียดที่สุดในการทำวิชาของครั้งนั้นๆ แล้ว เราก็เอาใจของกายธรรมองค์ที่เราอยู่ ณ ปัจจุบันไปตามฐาน 1-2-3-7 ก็จะเห็นดวงธรรมของกายธรรมองค์ที่จะเข้าไปหา
เราก็ต้องหาจุดเล็กใสที่ปลายเข็มกลางดวงธรรม แล้วนึกให้จุดเล็กใสว่างออกไป ก็จะเห็นกายธรรมกายที่ละเอียดนั้น เราก็เข้าไปตามฐาน 1-2-3-7 อีก
ถ้าถามว่า ทำไปทำไม
อธิบายง่ายๆ ว่า อวิชาอยู่กับกายต่างๆ การผ่านกายที่หยาบไปหากายที่ละเอียดนั้น ทำให้อวิชาหลุดออกไปเรื่อย "วิชา" ก็เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ