เราแต่งงานกับสามีมา 4 ปีแล้ว ไม่ได้จดทะเบียนสมรส หลังจากแต่งงาน ก็มาซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน โดยบ้านที่อยู่นั้น ใช้เงินกู้สวัสดิการพนักงานกู้ซื้อ ซึ่งเป็นชื่อเราเป็นผู้กู้เพียงคนเดียว สามีไม่ได้เป็นผู้กู้ร่วมแต่อย่างใด วิธีจ่ายเงินกู้โดยการหักบัญชีเงินเดือนพนักงานของเราทุกเดือน
แต่สามีจะช่วยเราจ่าย โดยจ่ายเป็นเงินสดให้ทุกเดือน มากกว่าเราเดือนละ 3,000 บาท แต่เราจะเป็นคนจ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในบ้านเอง
เมื่อเดือน มิ.ย.56 เราจับได้ว่า สามีเราแอบมีผู้หญิงอีกคน เป็นคนที่ทำงานเดียวกัน แต่ปัจจุบัน ผู้หญิงคนนั้นย้ายที่ทำงานใหม่แล้ว แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่ และมารู้ทีหลังว่าทั้งสองคนมีอะไรกันแล้วด้วย แต่สามีเราเลิกไม่ได้ เพราะผู้หญิงคนนั้นขู่จะฆ่าตัวตาย ถ้าไม่ย้ายไปอยู่กับเค้า สามีเราให้เหตุผลว่า เป็นเพราะเรายังไม่มีลูกซักที ประกอบกับผู้หญิงคนนั้นก็น่าสงสาร มาจากครอบครัวที่ขาดความอบอุ่น พ่อก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แม่ก็จับกดน้ำตั้งแต่เด็ก ทำผิดก็ให้ยืนตากแดด พอโตมาก็จะบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองไม่ชอบ ก็เลยต้องย้ายออกจากบ้านมาเช่าอพาร์ทเมนท์อยู่คนเดียว
เราอยู่บ้าน เราก็ต้องทนเห็นเค้าสองคนทั้ง line ทั้งโทรหากันตลอด บางคืนสามีเราก็ออกไปหาผู้หญิงคนนั้น กว่าจะกลับก็หลังเที่ยงคืน แต่เรารักสามีเรามาก เราเลยยอมทน เพราะสามีเราก็ยังไม่ทิ้งเราไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น
จนเดือน ส.ค.56 เราเพิ่งรู้ว่าเราตั้งท้อง สามีเราก็เลยตัดปัญหาโดยการขอเลิกกับผู้หญิงคนนั้น แต่ก็ทำได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็ยังติดต่อกันเหมือนเดิม จนมาถึงต้นเดือน ธ.ค.56 สามีเราตัดสินใจจะย้ายไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น โดยจะเก็บแต่เสื้อผ้าไป และยกบ้านที่เราอยู่ให้เป็นมรดกลูก แล้วก็บอกกับเราว่าจะกลับมาดูแลเราบ้างหลังจากเลิกงาน แล้วค่อยกลับไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น เราก็ขอร้องให้สามีอยู่กับเราจนถึงวันคลอดก่อนได้ไหม เพราะเราท้องแก่ จะช่วยเหลือตัวเองก็ลำบาก แต่สามีเราบอกว่า ถ้าเค้าไม่รีบย้ายออกไป ผู้หญิงคนนั้นจะไมรอเค้าและจะฆ่าตัวตายซะก่อน
แต่เรารู้ว่าเราท้องอยู่ เครียดก็เครียดมาตลอดเวลาที่ตั้งท้อง จะอยู่บ้านคนเดียวได้ยังไงถ้าเค้าย้ายออกไป และสามีเราไม่ยอมให้คนในครอบครัวเราเข้ามาที่บ้านเรา กลัวว่าถ้าเค้าย้ายออกไปแล้วถ้ามีคนมาอยู่กับเรา สามีเราจะกลับมาบ้านลำบาก เพราะสู้หน้าพ่อแม่เราไม่ได้ อีกทั้ง สามีเรากลัวว่าถ้าไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นไม่รอด ก็จะย้ายกลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิม (เห็นแก่ตัวไปมั๊ย ทิ้งคนท้องให้อยู่คนเดียว ไปอยู่กับอีกคนไม่รอด แล้วค่อยกลับมา เห็นเราเป็นของตายหรือไง)
สามีเราเลยบังคับให้เราขายบ้าน ทั้งๆ ที่บ้านหลังนี้ก็เป็นชื่อเรา ซึ่งเราเป็นผู้กู้เพียงคนเดียว ไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วย แล้วชื่อในทะเบียนบ้าน เราเป็นเจ้าบ้าน ส่วนสามีเป็นผู้อาศัย บ้านซื้อมาราคา 3 ล้าน แต่ให้เราขายให้เค้าในราคา 1 ล้าน สามีเราอ้างว่า แต่ละเดือนเค้าช่วยผ่อนบ้านหลังนี้มากกว่าเราเดือนละ 3,000 บาท เพราะฉะนั้น เค้าคือเจ้าของบ้านหลังนี้ และมีสิทธิ์ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ในบ้านออกไปเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าเค้าต้องการ แล้วเค้าจะให้เรากับลูกอาศัยอยู่ในบ้านของเค้าต่อไป
เรารู้ว่าสิทธิ์ตามกฎหมาย เราคือเจ้าของบ้าน เพราะเราเป็นผู้เซ็นลงนามนิติกรรมสัญญาเองเพียงคนเดียว แต่สามีเราขู่ว่า ถ้าเราไม่ขาย เค้าก็จะฟ้องเรา โดยให้เหตุผลว่าเค้าจ่ายเงินค่าผ่อนบ้านมากกว่าเรา ทั้งๆ ที่ใบเสร็จเงินกู้ก็เป็นชื่อเราคนเดียว เค้าเพียงแค่จ่ายเงินสดให้กับเรา แต่ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน เราก็เป็นคนออกเหมือนกัน
เราคิดว่าเราจะเลิกกับสามีเราแล้วค่ะ เหลืออีก 3 เดือน ลูกเราจะคลอดแล้ว เรายังต้องมาทนเครียดเรื่องสามี เรื่องบ้าน เรื่องผู้หญิงคนนั้นอีก เพื่อนๆ คิดว่าเราตัดสินใจถูกไหมคะ ใจนึงเราก็เป็นห่วงลูก กลัวลูกขาดพ่อ แต่อีกใจ เราคิดว่าควรตัดใจดีกว่า เพราะตอนนี้สามีเราก็ไม่ได้สนใจทั้งเราและลูกแล้ว เค้ากลัวแต่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะฆ่าตัวตาย ถ้าสามีเราไม่ไปอยู่ด้วย
ขอคำปรึกษาค่ะ เรากำลังท้อง 6 เดือน แต่สามีเรากำลังจะทิ้งเราไป และบังคับเราให้ขายบ้านที่เราอยู่ด้วยค่ะ
แต่สามีจะช่วยเราจ่าย โดยจ่ายเป็นเงินสดให้ทุกเดือน มากกว่าเราเดือนละ 3,000 บาท แต่เราจะเป็นคนจ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในบ้านเอง
เมื่อเดือน มิ.ย.56 เราจับได้ว่า สามีเราแอบมีผู้หญิงอีกคน เป็นคนที่ทำงานเดียวกัน แต่ปัจจุบัน ผู้หญิงคนนั้นย้ายที่ทำงานใหม่แล้ว แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่ และมารู้ทีหลังว่าทั้งสองคนมีอะไรกันแล้วด้วย แต่สามีเราเลิกไม่ได้ เพราะผู้หญิงคนนั้นขู่จะฆ่าตัวตาย ถ้าไม่ย้ายไปอยู่กับเค้า สามีเราให้เหตุผลว่า เป็นเพราะเรายังไม่มีลูกซักที ประกอบกับผู้หญิงคนนั้นก็น่าสงสาร มาจากครอบครัวที่ขาดความอบอุ่น พ่อก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร แม่ก็จับกดน้ำตั้งแต่เด็ก ทำผิดก็ให้ยืนตากแดด พอโตมาก็จะบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายที่ตัวเองไม่ชอบ ก็เลยต้องย้ายออกจากบ้านมาเช่าอพาร์ทเมนท์อยู่คนเดียว
เราอยู่บ้าน เราก็ต้องทนเห็นเค้าสองคนทั้ง line ทั้งโทรหากันตลอด บางคืนสามีเราก็ออกไปหาผู้หญิงคนนั้น กว่าจะกลับก็หลังเที่ยงคืน แต่เรารักสามีเรามาก เราเลยยอมทน เพราะสามีเราก็ยังไม่ทิ้งเราไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น
จนเดือน ส.ค.56 เราเพิ่งรู้ว่าเราตั้งท้อง สามีเราก็เลยตัดปัญหาโดยการขอเลิกกับผู้หญิงคนนั้น แต่ก็ทำได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็ยังติดต่อกันเหมือนเดิม จนมาถึงต้นเดือน ธ.ค.56 สามีเราตัดสินใจจะย้ายไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น โดยจะเก็บแต่เสื้อผ้าไป และยกบ้านที่เราอยู่ให้เป็นมรดกลูก แล้วก็บอกกับเราว่าจะกลับมาดูแลเราบ้างหลังจากเลิกงาน แล้วค่อยกลับไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น เราก็ขอร้องให้สามีอยู่กับเราจนถึงวันคลอดก่อนได้ไหม เพราะเราท้องแก่ จะช่วยเหลือตัวเองก็ลำบาก แต่สามีเราบอกว่า ถ้าเค้าไม่รีบย้ายออกไป ผู้หญิงคนนั้นจะไมรอเค้าและจะฆ่าตัวตายซะก่อน
แต่เรารู้ว่าเราท้องอยู่ เครียดก็เครียดมาตลอดเวลาที่ตั้งท้อง จะอยู่บ้านคนเดียวได้ยังไงถ้าเค้าย้ายออกไป และสามีเราไม่ยอมให้คนในครอบครัวเราเข้ามาที่บ้านเรา กลัวว่าถ้าเค้าย้ายออกไปแล้วถ้ามีคนมาอยู่กับเรา สามีเราจะกลับมาบ้านลำบาก เพราะสู้หน้าพ่อแม่เราไม่ได้ อีกทั้ง สามีเรากลัวว่าถ้าไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นไม่รอด ก็จะย้ายกลับมาอยู่กับเราเหมือนเดิม (เห็นแก่ตัวไปมั๊ย ทิ้งคนท้องให้อยู่คนเดียว ไปอยู่กับอีกคนไม่รอด แล้วค่อยกลับมา เห็นเราเป็นของตายหรือไง)
สามีเราเลยบังคับให้เราขายบ้าน ทั้งๆ ที่บ้านหลังนี้ก็เป็นชื่อเรา ซึ่งเราเป็นผู้กู้เพียงคนเดียว ไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วย แล้วชื่อในทะเบียนบ้าน เราเป็นเจ้าบ้าน ส่วนสามีเป็นผู้อาศัย บ้านซื้อมาราคา 3 ล้าน แต่ให้เราขายให้เค้าในราคา 1 ล้าน สามีเราอ้างว่า แต่ละเดือนเค้าช่วยผ่อนบ้านหลังนี้มากกว่าเราเดือนละ 3,000 บาท เพราะฉะนั้น เค้าคือเจ้าของบ้านหลังนี้ และมีสิทธิ์ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ในบ้านออกไปเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าเค้าต้องการ แล้วเค้าจะให้เรากับลูกอาศัยอยู่ในบ้านของเค้าต่อไป
เรารู้ว่าสิทธิ์ตามกฎหมาย เราคือเจ้าของบ้าน เพราะเราเป็นผู้เซ็นลงนามนิติกรรมสัญญาเองเพียงคนเดียว แต่สามีเราขู่ว่า ถ้าเราไม่ขาย เค้าก็จะฟ้องเรา โดยให้เหตุผลว่าเค้าจ่ายเงินค่าผ่อนบ้านมากกว่าเรา ทั้งๆ ที่ใบเสร็จเงินกู้ก็เป็นชื่อเราคนเดียว เค้าเพียงแค่จ่ายเงินสดให้กับเรา แต่ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน เราก็เป็นคนออกเหมือนกัน
เราคิดว่าเราจะเลิกกับสามีเราแล้วค่ะ เหลืออีก 3 เดือน ลูกเราจะคลอดแล้ว เรายังต้องมาทนเครียดเรื่องสามี เรื่องบ้าน เรื่องผู้หญิงคนนั้นอีก เพื่อนๆ คิดว่าเราตัดสินใจถูกไหมคะ ใจนึงเราก็เป็นห่วงลูก กลัวลูกขาดพ่อ แต่อีกใจ เราคิดว่าควรตัดใจดีกว่า เพราะตอนนี้สามีเราก็ไม่ได้สนใจทั้งเราและลูกแล้ว เค้ากลัวแต่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะฆ่าตัวตาย ถ้าสามีเราไม่ไปอยู่ด้วย