สืบเนื่องจาก จขกท. ได้ร่วมปาร์ตี้งานนึง แล้วเพื่อนชาวออสเตรเลียก็ถาม จขกท ขึ้นว่า “ชั้นล่ะนึกไม่ออกเลยว่า เมื่อก่อนอาหารไทย อาหารเอเชีย ที่ไม่มีพริกจะเป็นยังไง พริกเพิ่งจะเข้ามาไทย เมื่อ 500 ปี ที่แล้วเองนะ มันมาจากอเมริกาใต้ เธอคิดว่าไงล่ะ” สิ้นเสียงนั้น เราก็รีบคิดว่าจะเป็นเครื่องเทศ ขิง ข่า ตะไคร้ รึอะไร แล้วก็บอกไปว่า “พริกไทยไงล่ะ” อีกคนนึงที่เป็นอเมริกาก็เสริม “ใช่ๆ คนไทยบางคนก็นิยมเหยาะ พริกไทย ลงบนอาหารอยู่นะ” มันก็ “อือ ๆ” แล้วก็สนทนาเรื่องอื่นต่อไป
นี่คือสาเหตุของกระทู้นี้คือ ตามหาการเข้ามาของพริกสู่ประเทศไทย
มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า พริกถูกใช้ประกอบอาหารของชาวอเมริกาตั้งแต่ 7500 ปี ก่อนคริสตกาล
หลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่า ชาวอินเดียนใน Mexico รู้จักบริโภคพริกเป็นอาหารมานานร่วม 9,000 ปีแล้ว เพราะอุจจาระที่เป็นก้อนแข็งที่พบที่เมือง Huaca Prieta มีซากเมล็ดพริกที่มีอายุประมาณ 9,000 ปี การศึกษาวิถีชีวิตของชนเผ่า Olmec, Toltec และ Aztec ต่างก็แสดงให้รู้ว่า ชาวอินเดียนเหล่านี้รู้จักปลูกและบริโภคพริกเช่นกัน นอกจากนี้นักประวัติศาสตร์ยังได้ขุดพบซากของต้นพริกที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ในเทวสถานของเปรูด้วย หรือแม้แต่ลายปักเสื้อผ้าของคนอินเดียนที่อาศัยอยู่ในเปรู เมื่อ 1,900 ปีก่อน ก็มีลวดลายปักเป็นต้นพริก
คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของพริกคือ มีรสเผ็ด และการมีคุณสมบัติที่ดุเดือดรุนแรงนี้เองที่ทำให้ชาวอินเดียนนิยมใช้พริกทรมานเชลยหรือศัตรู เช่น เผาพริกปริมาณมากให้ควันพริกขับไล่ทหารสเปน ส่วนชาว Maya ก็มีประเพณีว่า ผู้หญิง Maya คนใดเวลาถูกจับได้ว่าแอบดูผู้ชาย จะถูกพริกขยี้ที่ตา และบิดามารดาของผู้หญิง Maya คนใดถ้ารู้ว่า บุตรสาวของตนเสียพรหมจรรย์อย่างผิดประเพณี "บริเวณลับ" ของเธอจะถูกละเลงด้วยพริก (โหดร้าย) สำหรับชาวอินเดียนเผ่า Carib ใน Antilles นั้น ก็นิยมใช้พริกทาบาดแผลของเด็กผู้ชายเพื่อฝึกให้อดทน และเวลาจับเชลยได้ ชาวอินเดียนเผ่านี้ก็จะใช้ไฟจี้ตามตัวจนเป็นแผลพุพองแล้วเอาพริกทา และเมื่อเชลยเสียชีวิตลงเนื้อของเชลยก็จะถูกแล่เอาไปปรุงด้วยพริกเป็นอาหาร เป็นต้น
การศึกษาประวัติการเดินทางของพริกจากทวีปอเมริกาสู่โลกภายนอก ทำให้เรารู้ว่า Alvarez Chanca ชาวสเปนเป็นบุคคลแรกที่นำพริกสู่ประเทศตน ในปี พ.ศ. 2036 และคนสเปนเรียกพริกว่า Chili ซึ่งเป็นคำที่แปลงมาจากคำ Chile อันเป็นชื่อของประเทศที่ให้กำเนิดพริกในอเมริกาใต้ และอีก 55 ปีต่อมา ชาวอังกฤษก็เริ่มรู้จักพริก เมื่อถึงปี 2098 บรรดาประเทศต่างๆ ในยุโรปกลางก็เริ่มรู้จักปลูกพริกกันแล้ว และเมื่อถึงปี 2300 พ่อค้าชาวโปรตุเกสก็ได้นำพริกจากยุโรปไปปลูกในอินเดีย และเอเชียอาคเนย์
แต่ก็มีนักประวัติศาสตร์ชาวสเปนแย้งว่า พริกถูกนำมาจาก MEXICO ประเทศหนึ่งที่เป็นอานานิคม ของสเปน แล้วก็เดินทางมายังประเทศอานานิคมอื่นๆ อย่าง Philippines ตามมาด้วย อินเดีย จีน อินโดนีเซีย แล้วจึงเข้าสู่ญี่ปุ่น (คาดว่าน่าจะเข้าไทยเวลานี้)
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของ Philippines ชาวยุโรปคนแรกที่เข้ามา Philippines คือ Rieyen Clemente ชาวสเปนเชื้อสายโปรตุเกส ซึ่งได้มีการพบเกาะบางส่วนของ Philippines ปี พ.ศ. 2064
แต่พอตามไปอีกก็พบว่าคนที่มาถึง Philippines คืนแรกคือ Ferdinand Magellan arrived in the Philippines on March 17, 1521.
(ออกทะเลจากการตามหาพริกไปถึงฟิลิปปินส์แล้ว)
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์จึงขอสรุปว่า พริกได้เข้าสู่ประเทศไทยเมื่อ 500 ปีที่ผ่านมานี่เอง
อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://maejo.wordpress.com/2009/05/13/home/
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://en.wikipedia.org/wiki/Chili_pepper
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9480000161062
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://en.wikipedia.org/wiki/Philippines%E2%80%93Spain_relations
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://en.wikipedia.org/wiki/History_of_the_Philippines_(1521-1898)
และขอบคุณ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สุทัศน์ ยกส้าน ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สสวท
พริก พืชสวนครัวที่เพิ่งเข้ามาประเทศไทย แต่เหมือนรู้จักกันมานาน
นี่คือสาเหตุของกระทู้นี้คือ ตามหาการเข้ามาของพริกสู่ประเทศไทย
มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า พริกถูกใช้ประกอบอาหารของชาวอเมริกาตั้งแต่ 7500 ปี ก่อนคริสตกาล
หลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่า ชาวอินเดียนใน Mexico รู้จักบริโภคพริกเป็นอาหารมานานร่วม 9,000 ปีแล้ว เพราะอุจจาระที่เป็นก้อนแข็งที่พบที่เมือง Huaca Prieta มีซากเมล็ดพริกที่มีอายุประมาณ 9,000 ปี การศึกษาวิถีชีวิตของชนเผ่า Olmec, Toltec และ Aztec ต่างก็แสดงให้รู้ว่า ชาวอินเดียนเหล่านี้รู้จักปลูกและบริโภคพริกเช่นกัน นอกจากนี้นักประวัติศาสตร์ยังได้ขุดพบซากของต้นพริกที่มีอายุกว่า 2,000 ปี ในเทวสถานของเปรูด้วย หรือแม้แต่ลายปักเสื้อผ้าของคนอินเดียนที่อาศัยอยู่ในเปรู เมื่อ 1,900 ปีก่อน ก็มีลวดลายปักเป็นต้นพริก
คุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของพริกคือ มีรสเผ็ด และการมีคุณสมบัติที่ดุเดือดรุนแรงนี้เองที่ทำให้ชาวอินเดียนนิยมใช้พริกทรมานเชลยหรือศัตรู เช่น เผาพริกปริมาณมากให้ควันพริกขับไล่ทหารสเปน ส่วนชาว Maya ก็มีประเพณีว่า ผู้หญิง Maya คนใดเวลาถูกจับได้ว่าแอบดูผู้ชาย จะถูกพริกขยี้ที่ตา และบิดามารดาของผู้หญิง Maya คนใดถ้ารู้ว่า บุตรสาวของตนเสียพรหมจรรย์อย่างผิดประเพณี "บริเวณลับ" ของเธอจะถูกละเลงด้วยพริก (โหดร้าย) สำหรับชาวอินเดียนเผ่า Carib ใน Antilles นั้น ก็นิยมใช้พริกทาบาดแผลของเด็กผู้ชายเพื่อฝึกให้อดทน และเวลาจับเชลยได้ ชาวอินเดียนเผ่านี้ก็จะใช้ไฟจี้ตามตัวจนเป็นแผลพุพองแล้วเอาพริกทา และเมื่อเชลยเสียชีวิตลงเนื้อของเชลยก็จะถูกแล่เอาไปปรุงด้วยพริกเป็นอาหาร เป็นต้น
การศึกษาประวัติการเดินทางของพริกจากทวีปอเมริกาสู่โลกภายนอก ทำให้เรารู้ว่า Alvarez Chanca ชาวสเปนเป็นบุคคลแรกที่นำพริกสู่ประเทศตน ในปี พ.ศ. 2036 และคนสเปนเรียกพริกว่า Chili ซึ่งเป็นคำที่แปลงมาจากคำ Chile อันเป็นชื่อของประเทศที่ให้กำเนิดพริกในอเมริกาใต้ และอีก 55 ปีต่อมา ชาวอังกฤษก็เริ่มรู้จักพริก เมื่อถึงปี 2098 บรรดาประเทศต่างๆ ในยุโรปกลางก็เริ่มรู้จักปลูกพริกกันแล้ว และเมื่อถึงปี 2300 พ่อค้าชาวโปรตุเกสก็ได้นำพริกจากยุโรปไปปลูกในอินเดีย และเอเชียอาคเนย์
แต่ก็มีนักประวัติศาสตร์ชาวสเปนแย้งว่า พริกถูกนำมาจาก MEXICO ประเทศหนึ่งที่เป็นอานานิคม ของสเปน แล้วก็เดินทางมายังประเทศอานานิคมอื่นๆ อย่าง Philippines ตามมาด้วย อินเดีย จีน อินโดนีเซีย แล้วจึงเข้าสู่ญี่ปุ่น (คาดว่าน่าจะเข้าไทยเวลานี้)
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของ Philippines ชาวยุโรปคนแรกที่เข้ามา Philippines คือ Rieyen Clemente ชาวสเปนเชื้อสายโปรตุเกส ซึ่งได้มีการพบเกาะบางส่วนของ Philippines ปี พ.ศ. 2064
แต่พอตามไปอีกก็พบว่าคนที่มาถึง Philippines คืนแรกคือ Ferdinand Magellan arrived in the Philippines on March 17, 1521.
(ออกทะเลจากการตามหาพริกไปถึงฟิลิปปินส์แล้ว)
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์จึงขอสรุปว่า พริกได้เข้าสู่ประเทศไทยเมื่อ 500 ปีที่ผ่านมานี่เอง
อ้างอิง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และขอบคุณ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้