วันนี้พอดีจะออกไปไปรษณีย์ส่งของให้ลูกค้า โบกแท็กซี่ให้ไปส่งแจ้งปลายทางที่จะไปแล้วพี่โชเฟอร์โอเคไปเราก็ขึ้นไปนั่งเลย ต่อไปนี้เป็นบทสนทนาบนรถ...
พี่โชเฟอร์ : น้องจะไปไปรษณีย์เหรอครับ ? (คงเห็นเราหอบซองจดหมายมาพะรุงพะรัง)
ผม : ใช่ครับ ตึกที่ผมจะไปใต้ตึกมันมีไปรษณีย์ครับ
พี่โชเฟอร์ : ส่งครั้งนึงประมาณเท่าไร? น้ำหนักประมาณนี้อ่ะ (พร้อมกับหันหลังไปหยิบซองอันนึงมาให้เราดู)
ผม : (ถือชั่งน้ำหนัก) น่าจะประมาณ 20 บาทนะครับ
พี่โชเฟอร์ : งั้นพี่ฝากน้องส่งหน่อยได้ไหม ข้างในเป็นกระเป๋าตังค์ มีคนทำหล่นทำหล่นไว้ พี่เก็บได้ อยากคืนให้เค้าเพราะบัตรเต็มกระเป่าเลย เบอร์โทรก็ไม่มี เลยเอาที่อยู่จากบัตรมาส่ง (พร้อมกับหยิบเงิน 20 บาทยื่นให้ผม)
ผม : (รับเงินมาอย่าง งง งง) ได้เลยครับ
พี่โชเฟอร์ : ถ้ามันเกินกว่า 20 บาท น้องช่วยออกให้หน่อยได้ไหม พี่ไปซื้อซองมา 5 บาท ค่าส่ง 20 บาท พี่ก็ไม่ค่อยมีตังค์ ช่วยๆกันเค้าให้ได้กระเป๋าตังค์คืนละกันนะ
หลังจากนั้นก็ผมถามรายละเอียดว่าไปเก็บได้ยังไง พี่โชเฟอร์เค้าก็เล่าให้ฟังนะว่าเก็บได้ที่ไหนยังไง ก่อนลงเค้ายังย้ำกับผมอีกนะ ว่าถ้าเกิน 20 บาท ช่วยออกให้เค้าหน่อย .....
เป็นครั้งแรกนะที่ไปยืนต่อคิวที่ไปรษณีย์ 10 กว่าคิวแล้วรู้สึกว่าไม่นานเลย ระหว่างรอเลยสังเกตุดูซองที่พี่เค้าส่งมาให้ .... พบว่า
ชื่อผู้รับ (คงได้มาจากบัตรประชาชนในกระเป๋า)

ชื่อผู้ส่ง (พี่แท็กซี่) ขออนุญาติ ปิดเบอร์โทรไว้นะครับ
เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกดีหลายๆอย่างนะ คนไทยที่มีน้ำใจยังคงมีอยู่ และผมรู้สึกอิจฉาที่พี่เค้ามีความสุขกับการทำแบบนี้ของเค้านะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
ปล1. ถ้าพี่ กิตติกรณ์ ได้รับแล้วอ่านกระทู้นี้ก็ขอให้ส่งค่าซื้อ จดหมาย / ซอง ให้พี่โชเฟอร์ด้วยนะ เพราะเท่าที่คุยเค้าก็ไม่ได้ร่ำรวยมากครับ
ปล2.ถ้าพี่โชเฟอร์มาอ่านมู้นี้ ผมขอบอกว่าผมส่งให้เรียบร้อยแล้ว และขอชื่นชมพี่จากใจเลย
ปล3.เงิน 20 บาทที่พี่ให้ผมมา ผมอยากบอกว่ามันพอดีค่าส่งนะครับ ไม่ต้องกังวลว่าผมต้องควักเนื้อจ่ายส่วนต่างให้
ปล4. โปรดอย่างดึงเข้าการเมืองนะ
ปล5. ตอนนี้ผมโคตรรักเมืองไทยเลย รู้ละว่าทำไมชาวต่างชาติชอบมาเทียว
ประสบการณ์ดีๆกับโชเฟอร์แท็กซี่คนนึง ที่ทำให้รู้สึกรักเมืองไทยมากขึ้น
พี่โชเฟอร์ : น้องจะไปไปรษณีย์เหรอครับ ? (คงเห็นเราหอบซองจดหมายมาพะรุงพะรัง)
ผม : ใช่ครับ ตึกที่ผมจะไปใต้ตึกมันมีไปรษณีย์ครับ
พี่โชเฟอร์ : ส่งครั้งนึงประมาณเท่าไร? น้ำหนักประมาณนี้อ่ะ (พร้อมกับหันหลังไปหยิบซองอันนึงมาให้เราดู)
ผม : (ถือชั่งน้ำหนัก) น่าจะประมาณ 20 บาทนะครับ
พี่โชเฟอร์ : งั้นพี่ฝากน้องส่งหน่อยได้ไหม ข้างในเป็นกระเป๋าตังค์ มีคนทำหล่นทำหล่นไว้ พี่เก็บได้ อยากคืนให้เค้าเพราะบัตรเต็มกระเป่าเลย เบอร์โทรก็ไม่มี เลยเอาที่อยู่จากบัตรมาส่ง (พร้อมกับหยิบเงิน 20 บาทยื่นให้ผม)
ผม : (รับเงินมาอย่าง งง งง) ได้เลยครับ
พี่โชเฟอร์ : ถ้ามันเกินกว่า 20 บาท น้องช่วยออกให้หน่อยได้ไหม พี่ไปซื้อซองมา 5 บาท ค่าส่ง 20 บาท พี่ก็ไม่ค่อยมีตังค์ ช่วยๆกันเค้าให้ได้กระเป๋าตังค์คืนละกันนะ
หลังจากนั้นก็ผมถามรายละเอียดว่าไปเก็บได้ยังไง พี่โชเฟอร์เค้าก็เล่าให้ฟังนะว่าเก็บได้ที่ไหนยังไง ก่อนลงเค้ายังย้ำกับผมอีกนะ ว่าถ้าเกิน 20 บาท ช่วยออกให้เค้าหน่อย .....
เป็นครั้งแรกนะที่ไปยืนต่อคิวที่ไปรษณีย์ 10 กว่าคิวแล้วรู้สึกว่าไม่นานเลย ระหว่างรอเลยสังเกตุดูซองที่พี่เค้าส่งมาให้ .... พบว่า
ชื่อผู้รับ (คงได้มาจากบัตรประชาชนในกระเป๋า)
ชื่อผู้ส่ง (พี่แท็กซี่) ขออนุญาติ ปิดเบอร์โทรไว้นะครับ
เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกดีหลายๆอย่างนะ คนไทยที่มีน้ำใจยังคงมีอยู่ และผมรู้สึกอิจฉาที่พี่เค้ามีความสุขกับการทำแบบนี้ของเค้านะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
ปล1. ถ้าพี่ กิตติกรณ์ ได้รับแล้วอ่านกระทู้นี้ก็ขอให้ส่งค่าซื้อ จดหมาย / ซอง ให้พี่โชเฟอร์ด้วยนะ เพราะเท่าที่คุยเค้าก็ไม่ได้ร่ำรวยมากครับ
ปล2.ถ้าพี่โชเฟอร์มาอ่านมู้นี้ ผมขอบอกว่าผมส่งให้เรียบร้อยแล้ว และขอชื่นชมพี่จากใจเลย
ปล3.เงิน 20 บาทที่พี่ให้ผมมา ผมอยากบอกว่ามันพอดีค่าส่งนะครับ ไม่ต้องกังวลว่าผมต้องควักเนื้อจ่ายส่วนต่างให้
ปล4. โปรดอย่างดึงเข้าการเมืองนะ
ปล5. ตอนนี้ผมโคตรรักเมืองไทยเลย รู้ละว่าทำไมชาวต่างชาติชอบมาเทียว