++ ไม่หมดใจที่จะสู้ แต่เจอ สคบ. ทำกันอย่างนี้ เลยหมดแรงครับ (ผู้เสียหายเกือบ 100 ล้านบาท)

เห็นหลายๆท่านจะแนะนำให้เพื่อนๆ ในพันทิป นี้ ที่โดนเอารัดเอาไปเปรียบให้ไปติดต่อ  สคบ. หรือ (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค)

วันนี้ผมจะเล่าเรื่องของผมกับ  สคบ. ให้ฟังครับ   และอยากจะถามว่า  "ผมควรทำอย่างไรต่อไปดีครับ"

เรื่องคือ ผมได้ไปซื้อ คอนโดที่พัทยา โครงการคอนโด The K... เริ่มจ่ายเงินตั้งแต่ กลางปี 2553  กำหนดเสร็จ สิ้นปี 2555 จ่ายเงินดาวน์ไป + ค่าทำสัญญาไปร่วมแสน   แต่แล้ว ก็ได้ค้นพบว่า โครงการไม่มีการก่อสร้างเลย  ผู้ซื้อจึงได้รวมตัวกันไปที่ สคบ. (มีผู้เสียหายเป็น 100 คน  มูลค่าเสียหายเกือบ  100 ล้านบาท)  

สคบ. รับเรื่องจาก ผู้ร้องช่วงประมาณ  กลางปี 2555  ซึ่งทาง  สคบ. ก็เรียก บริษัท มาไกล่เกลี่ย กับ ผู้ซื้อคอนโด รวมทั้งตัวผมด้วย  โดยมีการนัดกัน ถึง 3 ครั้ง   โดยสรุปได้ว่า

ครั้งที่ 1. บริษัท ไม่ชดใช้ อ้างว่ามีปัญหาเรื่องที่ดิน ให้รอ
ครั้งที่ 2. บริษัท ไม่ชดใช้ อ้างว่ามีปัญหาเรื่องที่ดิน ให้รอ
ครั้งที่ 3. บริษัท ไม่ชดใช้ อ้างว่ามีปัญหาเรื่องที่ดิน ให้รอ

ผู้ร้องบางคนมาจาก ชลบุรี   บ้านผมอยู่ อ่อนนุช   พวกเราต้องไปถึงที่  สคบ.  ที่แจ้งวัฒนะ ซึ่งพวกเราก็ยอมไป

สุดท้าย  สคบ. พูดให้พวกเราชื่นใจว่า ถ้าบริษัทไม่ยอมคืนเงิน  ก็ต้องฟ้อง แต่ต้องทำเรื่องฟ้อง หลังสิ้นปี 2555  เพราะกำหนดส่งมอบคอนโดคือ สิ้นปี 2555   ซึ่งทาง สคบ. ได้ส่งเรื่องขึ้นไปที่อนุกรรมการ และมีมติให้ฟ้อง    และช่วงนั้น พวกเราก็ยังต้องมีแวะเข้าไปที่ สคบ. เพื่อมอบเอกสารเพื่มเติม  โดย สคบ. ขอเวลา รวบรวมเอกสารในการฟ้อง

ณ วันนี้  28 มกราคม  2557  (ผ่านมากว่า 1 ปี 6 เดือน นับตั้งแต่แจ้ง สคบ.)     สคบ. "ยังไม่ได้ฟ้อง"   และ "ยังรวบรวมเอกสาร"

ผมไม่มีความรู้ว่า อายุความจะหมดเมื่อไหร่   แต่  สคบ.  "หยุด"  ทุกอย่างเกี่ยวกับของเรา    ย้ำอีกครั้งนะครับ  มูลค่าเกือบ  "100 ล้านบาทครับ"
ตอนนี้ หมดแรงครับ

ผมไม่รู้ว่าจะพึ่งใครแล้ว  รบกวนทุกท่าน  ช่วยโหวตให้หน่อยครับ     ขอบคุณครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
ฟ้องเองก็เป็นทางออกที่ดีครับ แต่สงสัยอย่างหนึ่งว่า แล้วเราจะมี สคบ. เอาไว้ทำไม สู้ยุบ สคบ. แล้วเอางบประมาณไปลงหน่วยงานอื่นไม่ดีกว่าเหรอ เพราะไหน ๆ ก็ไม่สามารช่วยเหลืออะไรแก่ผู้บริโภคได้อยู่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 18
สคบ. นี่น่าย่อมาจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองบริษัทมากกว่า
ความคิดเห็นที่ 1
ช่วยโหวตและเป็นกำลังใจให้ค่ะ


แต่อยากจะบอกความจริงไว้กับคุณอย่างหนึ่งคือ เราประสบปัญหาเดียวกับคุณ ซื้อบ้านไม่ได้บ้าน
และเรื่องของเราอยู่กับ สคบ. มา 7 ปีแล้ว ตามจนท้อ และเลิกตามแล้วค่ะ

หวังว่าคุณและคนอื่น ๆ คงโชคดีนะคะ
ความคิดเห็นที่ 21
การฟ้องคดีเอง โดยเฉพาะคือ ผบ.(คดีผู้บริโภค) มันรวดเร็วมาก ไม่ใช่มานับ 1 แต่อย่างใด
เพราะการฟ้องคดี ขั้นตอนมีคร่าวๆดังนี้
1 หลังจากยื่นฟ้องแล้ว ศาลจะนัดไกล่เกลี่ย 1 ครั้ง (นัดแรก)
2 ครั้งที่ 2 ศาลจะนำคดีของคุณเข้าศูนย์ไกล่เกลี่ยอีกครั้ง ในขั้นตอนนี้อาจมีการคุยกัน 1 - 3 ครั้ง และอาจจบได้ในขั้นตอนนี้
3 หากไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ ไม่ว่าจะครั้งแรก หรือครั้ง 2 ก็จะนำสำนวนเข้าสู่การพิจารณาต่อเนื่อง หมายถึงนัดวันสืบพยานทันที
4 เมื่อถึงวันสืบพยานก็จะใช้เวลาสืบพยานโจทก์ จำเลย ไม่น่าเกิน 3 วัน
5 พิพากษา

ทั้งหมดรวมระยะเวลาแล้ว น่าจะไม่เกิน 8 เดือน เร็วสุด 5 เดือน


แล้วคุณไปร้อง สคบ.ตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้กี่เดือนแล้วครับ
หาก สคบ.สรุปให้บริษัทนั้นจ่าย เค้าไม่จ่ายก็บังคับไม่ได้ เพราะ สคบ .ไม่มีสภาพบังคับนั่นเอง
แต่ถ้า สคบ.ฟ้องคดีให้ มันก็วนกลับมาเหมือนขั้นตอนฟ้องคดีเอง ทุกอย่าง


ดังนั้นเวลาที่คุณเสียไป คือ เวลาที่คุณไปคุยกัน ระหว่างที่อยู่ใน สคบ.นั่นเอง
ความคิดเห็นที่ 3
กรณีนี้เป็นเรื่องผิดสัญญา อายุความมิได้กำหนดไว้ จึงมีอายุความทั่วไป คือ 10 ปี ตาม ปพพ ม.193/30
จริงๆแล้วหากไปร้อง สคบ และไม่มีความคืบหน้าเลย
ผมแนะนำให้ลงทุนฟ้องเองดีกว่า เสียแค่ค่าจ้างทนายเท่านั้น ส่วนค่าธรรมเนียมไม่เสียเลย

จริงอยู่ สคบ สามารถฟ้องคดีให้ได้
แต่อัยการที่จะฟ้องให้ บางทีก็ไม่ว่าง เพราะงานเยอะก็เป็นได้
คุยกันไปคุยกันมา ตกลงกันไม่จบสักที
สุดท้ายก็หนี้ไม่ฟ้องต้องไปฟ้องคดีเอง

ดอกไม้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่